หนู ตัวอันตรายในบ้าน

สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ที่เรียกว่า “หนู” เป็นได้ทั้งฮีโร่และตัวร้ายในภาพยนตร์ ด้วยทักษะการเอาตัวรอดอย่างเหลือเชื่อและความเฉลียวฉลาดของมัน ทำให้หนูสามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก รวมทั้งรอดพ้นเงื้อมมือผู้ที่พยายามกำจัดมันอย่างมนุษย์เราด้วย

หนูที่น่ารักและเชื่องสามารถนำมาเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยงได้แบบไม่ลำบาก แต่อีกส่วนของหนูสกปรกที่พบได้ตามท้องถนนของเมืองมักเป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ หากคุณถูกมันกัด บังเอิญไปสัมผัสฉี่หรือน้ำลายของพวกมันก็สามารถนำไปสู่การติดเชื้อต่างๆ ได้ ทั้งเชื้อซัลโมเนลโลซิส ไวรัสฮันตา (Hantavirus) โรคฉี่หนู โรคทูลารีเมีย ไข้เลือดออกลาสซา กาฬโรค หรือแม้แต่การถูกหมัด เห็บ ไร ที่ไปดูดเลือดของหนูมากัดคุณอีกทอดก็สามารถทำให้เป็นไข้เห็บกัดโคโลราโด โรคไลม์ โรคไข้สมองอักเสบ โรคไข้รากสาดใหญ่ และอื่นๆ อีกมากมาย

ฟันของหนูสามารถงอกยาวขึ้นได้เรื่อยๆ มากสุดถึง 12.7 เซนติเมตรต่อปี สามารถตกจากที่สูงในระยะ 15 เมตรได้โดยไม่เป็นอันตราย ว่ายน้ำได้ทั้งวันโดยไม่จม อีกทั้งภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นยังส่งผลให้หนูมีฤดูผสมพันธุ์ที่ยาวนานขึ้น และให้กำเนิดลูกๆ ได้เยอะกว่าเดิม

จากรายงานของ Mike Deutsch นักกีฎวิทยาและผู้อำนวยการด้านเทคนิคแห่งบริษัทกำจัดหนูและแมลง Arrow Exterminating บอกไว้ว่าคราบอุจจาระ ฉี่และรอยกัดของหนูบนสิ่งของยังคงมีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่เนื่องจากหนูมีขนมันและทิ้งคราบน้ำมันไว้บนพื้นผิวของสิ่งต่างๆ บ้านที่มีสัตว์เลี้ยงอาจสังเกตเห็นพฤติกรรมของสัตว์ที่เปลี่ยนไป สุนัขและแมวอาจจ้องไปที่กำแพงหรือแสดงอาการบางอย่างเมื่อพวกมันจับสัญญาณได้ถึงร่องรอยของหนูที่มนุษย์เราไม่สามารถทำได้

เคล็ดลับกำจัดหนู

การกำจัดหนูไม่มีวิธีที่ตายตัว แต่ต้องอาศัยการผสมผสานหลายอย่างเข้าด้วยกัน เริ่มจาก

1. ขจัดเศษอาหารในบริเวณบ้าน

โดยปกติแล้วหนูมักจะอยู่ห่างจากแหล่งอาหารไม่เกิน 122 เมตร ควรใช้ถังขยะใส่เศษอาหารที่หนูไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ หากมีอาหารสัตว์อื่นๆ ที่ต้องวางภายในบ้าน ก็ควรมีฝาปิดให้ปลอดภัยจากหนูเช่นกัน กำจัดกองไม้และขยะอื่นๆ ในบริเวณบ้านเพื่อไม่ให้หนูฉวยโอกาสใช้มันเป็นรังของตัวเองได้

2. ป้องกันไม่ให้หนูเข้าบ้าน

อุดทุกรู ปิดทุกช่องว่างของตัวบ้านไม่ให้หนูสามารถเล็ดรอดเข้าไปในบ้านของคุณ อาจใช้ตาข่ายทองแดงคลุมทับส่วนที่หนูอาจแทะได้ ดูแลไม่ให้กิ้งไม้รอบบ้านเชื่อมโยงมาถึงตัวบ้านจนกลายเป็นสะพานให้พวกหนูเดินทางกันเข้าไป

3. ใช้ที่ดักหนู

กรงดักหนูอาจได้ผลแต่คุณก็ต้องเผชิญกับการนำหนูไปปล่อยในบริเวณอื่นที่ไม่ใช่ตัวบ้านซึ่งอาจเป็นการส่งต่อปัญหาไปยังบ้านคนอื่นแทน สารกำจัดหนูก็อาจได้ผลแต่วิธีนี้จำเป็นต้องใช้เวลานานนับสัปดาห์และอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน ที่ดักหนูจึงอาจเป็นคำตอบสุดท้ายที่ดูเหมาะสมที่สุด หากพื้นที่เจ้าปัญหาคือบริเวณห้องครัว ให้วางกับดักไว้ใต้อ่างล้างจานหรือใกล้กับกำแพง พยายามวางเรียงกันเป็นรูปตัว T เนื่องจากหนูชอบที่จะลัดเลาะไปตามแนวขอบกำแพงมากกว่าวิ่งไปในพื้นที่โล่งกว้าง อาจต้องใช้เวลา 2-3 วันในการจับหนู และหากวิธีที่แนะนำมาทั้งหมดนี้ยังไม่ได้ผลอีกล่ะก็ อย่ารีรอที่จะโทรหามืออาชีพให้มาช่วยจัดการปัญหาให้กับคุณให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด

แหล่งข้อมูลและภาพประกอบ

https://home.howstuffworks.com/how-to-get-rid-of-rats.htm

https://unsplash.com/photos/k9NVUS7PS4A

https://unsplash.com/photos/ZagqCjErXaA

https://unsplash.com/photos/8Yk4T-tDSYY

https://www.bestconsumerreviews.com/rat-trap-reviews/