ภาครัฐไทยควรทำอะไรเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาไทยมากกว่านี้

ต่อทอง ทองหล่อ 09 September, 2025 at 10.20 am

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


เท่าที่คุยกับคนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างโรงแรม ที่พักต่างๆ พบว่าพวกเขาต่างทุ่มเทแรงกายแรงใจมานานหลายปี ลงทุนสร้างห้องพักจำนวนมาก ดูแลมาตรฐานคุณภาพอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นความสะอาด การบริการ หรือประสบการณ์ที่ดีให้แก่นักท่องเที่ยว ทุกอย่างพร้อมและพยายามทำอย่างดีที่สุด แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกเสียดายคือ หากโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวโดยรอบยังไม่พัฒนาไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบขนส่ง การควบคุมราคาที่เหมาะสม หรือระบบการชำระเงินที่สะดวกและปลอดภัย โอกาสในการสร้างมูลค่าที่แท้จริงให้กับอุตสาหกรรมนี้ก็ยังไม่ถูกใช้เต็มศักยภาพ คนในวงการอสังหาฯ ไม่ได้เรียกร้องเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่เพื่อทั้งวงการท่องเที่ยวไทย ที่สามารถเติบโตไปได้ไกลกว่านี้ หากภาครัฐหันมาเสริมในจุดที่ยังขาดอยู่

 

1. ภาพรวมสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยที่กำลังกลับมาดีขึ้นเหมือนก่อน

การท่องเที่ยวคือเสาหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 2019 ก่อนการระบาดของ Covid-19 ประเทศไทยเคยสร้างสถิติสูงสุดด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติใกล้ 40 ล้านคน แต่เมื่อโรคระบาดผ่านพ้นไป แม้ภาคการท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัว แต่ก็ยังไม่กลับมาเต็มศักยภาพเหมือนเดิม

จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนในแต่ละปีเป็น (หน่วย: ล้านคน)
ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Tourism_in_Thailand

 

ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและสื่อเศรษฐกิจระบุว่า ปี 2024 ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 35.54 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 26% จากปี 2023 แต่ก็ยังไม่ถึงระดับสูงสุดก่อนโควิด ขณะที่ในปี 2025 ตัวเลขตั้งแต่เดือนมกราคมถึงสิงหาคมอยู่ที่ราว 21.9 ล้านคน ถือว่าลดลง 7.16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แนวโน้มทั้งปีคาดว่าจะอยู่ในช่วง 33–37.5 ล้านคน ซึ่งแม้จะสูง แต่ก็ยังต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ต้องการแตะ 40 ล้านคนอีกครั้ง

สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่าแม้นักท่องเที่ยวกลับมา แต่การแข่งขันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลับรุนแรงขึ้น เวียดนาม และอินโดนีเซียกำลังดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นจากความคุ้มค่าและความสะดวกสบายที่พวกเขามอบให้ จึงเป็นหน้าที่ของภาครัฐไทยที่จะต้อง “เร่งปรับนโยบาย” ให้ทันต่อการแข่งขันก่อนที่จะเสียความสามารถในการแข่งขันไป

 

2. แก้ปัญหาค่าใช้จ่ายและต้นทุนการท่องเที่ยว

หนึ่งในเสียงสะท้อนที่ได้ยินบ่อยคือ “ประเทศไทยแพงขึ้น” ค่าใช้จ่ายในเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต สมุย หรือเชียงใหม่ สูงขึ้นทั้งด้านที่พัก อาหาร และการเดินทาง แม้ยังถูกกว่าประเทศตะวันตก แต่เมื่อเปรียบกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ค่าใช้จ่ายพักในไทยก็อาจถือว่าน่าดึงดูดใจน้อยลงกว่าเดิม

ดังนั้นรัฐควรเข้ามามีบทบาทในการ ควบคุมราคาสินค้าและบริการที่จำเป็น เพื่อสร้างมาตรฐานการให้บริการที่เหมาะสม เช่น ดูแลค่าไฟฟ้าซึ่งมีผลต่อต้นทุนค่าให้บริการของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งหมด ดูแลค่าโดยสารแท็กซี่ ดูแลค่าแพลตฟอร์มการเดินทางต่างๆ หรือค่าเข้าชมสถานที่สำคัญ อีกทั้งควร ส่งเสริมเมืองรอง เมืองใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ เช่น น่าน ระยอง หรือเมืองที่อยู่รอบๆ magnet destination ยกตัวอย่างรอบกรุงเทพฯ เช่น นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม, รอบภูเก็ต สมุย เช่น พังงา นครศรีธรรมราช , รอบเชียงใหม่ เช่น ลำปาง ลำพูน และสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมฝั่งภาคอีสานบ้าง เช่น ขอนแก่น นครราชสีมา เป็นต้น เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์แท้จริงในราคาที่เข้าถึงได้ และส่งเสริมให้ธุรกิจท้องถิ่นเติบโตมากขึ้น เป็นการกระจายความเจริญ

 

3. แก้ปัญหาการเอาเปรียบและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

ชื่อเสียงของการท่องเที่ยวไทยจะเสียหายทันที หากนักท่องเที่ยวถูกโกงหรือเอาเปรียบ ปัญหาการคิดราคาสูงเกินจริงจากแท็กซี่หรือร้านค้า รวมถึงการขาดมาตรการด้านความปลอดภัยในบางพื้นที่ เป็นประเด็นที่ควรเร่งแก้ไข

ภาครัฐจึงควร บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด กับผู้ประกอบการที่โกงราคา พร้อมทั้งสร้าง ช่องทางร้องเรียนที่เข้าถึงง่ายสำหรับนักท่องเที่ยว และที่สำคัญต้องมีการตอบสนองต่อปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเมืองไทยคือจุดหมายที่ “ปลอดภัยและยุติธรรม” เพื่อสร้างระบบที่ทำให้นักท่องเที่ยวอุ่นใจ และไม่ลังเลที่จะมาเที่ยวไทย

 

4. ควรปรับปรุงระบบบริการและความสะดวกสบาย

โลกการท่องเที่ยวในยุคปัจจุบันไม่ได้วัดกันเพียงความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยว แต่ยังวัดกันที่ “ความสะดวก” ที่นักเดินทางได้รับอีกด้วย ประเทศไทยจึงควรเร่งดำเนินการในหลายมิติ

 

ด้านแรกคือ ระบบวีซ่าและด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่ควรมีขั้นตอนง่ายและรวดเร็วขึ้น ขยาย e-Visa เพิ่มช่องทางตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ และลดความยุ่งยากให้นักท่องเที่ยวไม่เสียเวลาเสียอารมณ์

 

ด้านต่อมาคือ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ ทั้งระบบข้อมูลท่องเที่ยวหลายภาษา การสนับสนุนการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด และแอปพลิเคชันเรียกรถหรือจองบริการที่โปร่งใสและเงินเข้าผู้ประกอบการไทยที่รัฐเก็บภาษีได้อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวมั่นใจและรู้สึกว่าประเทศไทยไม่ด้อยกว่าประเทศคู่แข่งประเทศอื่นๆ ที่มีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ดีกว่า

 

5. บทบาทของสาธารณูปโภคที่ “Affordable” ต่อการพักระยะยาว

อีกหนึ่งแนวทางที่ยังไม่ถูกหยิบยกอย่างจริงจังคือ การออกแบบต้นทุนชีวิตที่จับต้องได้ (Affordable) เพื่อดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวระยะยาว เช่น Digital Nomad หรือผู้ที่มาใช้ชีวิตหลังเกษียณ

ต้นทุนพื้นฐานอย่างค่าไฟฟ้า น้ำประปา และค่าอินเทอร์เน็ต หากอยู่ในระดับเหมาะสม จะทำให้ผู้ประกอบการที่พักเสนอราคา Long-stay ได้อย่างยั่งยืน และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวใช้ชีวิตใกล้ชิดกับสังคมไทยมากขึ้น ซึ่งรายได้ระยะยาวที่เกิดจากการอยู่อาศัยแบบนี้มีมูลค่ามากกว่าการท่องเที่ยวระยะสั้นที่จบลงภายในไม่กี่วัน

6. QR Code Payment: ทางออกเร่งด่วนของการเงินการท่องเที่ยว

ระบบการชำระเงินคืออีกหนึ่งจุดที่รัฐบาลควรเร่งพัฒนา ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการใช้ QR Payment อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร รถเข็น หรือร้านค้าในชุมชน แต่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่สามารถใช้ระบบเดียวกันนี้ได้สะดวก

หากรัฐบาลเร่งผลักดันโครงการให้ นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถชำระเงินผ่าน QR Code แบบเดียวกับที่คนไทยใช้งานได้ จะเกิดประโยชน์สองทางทันที ประการแรกคือความสะดวกที่ทำให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายได้มากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการพกเงินสด ประการที่สองคือรัฐจะได้ ข้อมูลการใช้จ่ายที่แม่นยำ เพื่อนำไปวิเคราะห์พฤติกรรมท่องเที่ยวและออกแบบนโยบายใหม่ ๆ ได้ตรงจุดมากขึ้น

 

7. พัฒนาระบบไกด์นำเที่ยว
ไกด์นำเที่ยวหรือมัคคุเทศก์คือหนึ่งในฟันเฟืองธุรกิจท่องเที่ยวที่ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่นักท่องเที่ยว ไกด์เปรียบเสมือน Public Relations ของประเทศ แต่พวกเขามักพบปัญหาซ้ำ ๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพการท่องเที่ยวไทย เช่น การขาดการควบคุมราคาค่าจ้างที่เป็นธรรม ทำให้บางครั้งถูกกดค่าจ้างหรือถูกบังคับให้ทำงานเกินเวลา รวมถึงการขาดความคุ้มครองทางกฎหมายและสวัสดิการพื้นฐาน  เช่น การประกันสังคมและสิทธิแรงงาน และอาชีพนี้ยังไม่เป็นวิชาชีพที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเพราะยังก่อตั้งสภาวิชาชีพไม่สำเร็จ ทำให้เหล่าคนตัวเล็กต้องเผชิญความท้าทายเช่น ความไม่มั่นคงทางการเงิน การเติบโตในอาชีพ และความเสี่ยงในชีวิตประจำวัน เสียงสะท้อนเหล่านี้สะท้อนความจำเป็นที่ภาครัฐต้องเข้ามากำกับดูแลทั้งเรื่องค่าจ้าง การจ้างงานอย่างเป็นธรรม และสร้างระบบคุ้มครองสวัสดิการ เพื่อให้ไกด์ทำงานได้เต็มที่ นักท่องเที่ยวได้รับบริการคุณภาพ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

 

8. การสร้างความประทับใจและคุ้มค่า

ในท้ายที่สุด นักท่องเที่ยวไม่ได้มาเพียงเพื่อชมวิวหรือพักผ่อน แต่พวกเขาต้องการ “ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร” ประเทศไทยจึงควรนำเสนอทั้งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เทศกาลประเพณี การแสดงคอนเสิร์ต มิวสิคเฟสติวัล ความบันเทิงทุกรูปแบบ กิจกรรมเชิงประสบการณ์ การเรียนทำอาหารไทย กิจกรรมเพื่อสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ วัฒนธรรมการใช้กัญชาอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนทั้งคนที่เสพและไม่เสพ รวมไปถึงการหยิบเอาธุรกิจและอาชีพที่มีดีมานด์จากนักท่องเที่ยวแต่อาจไม่เคยถูกยอมรับในสังคมขึ้นมาเพื่อส่งเสริมให้เป็นธุรกิจที่มีโปร่งใสและพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมมืออาชีพได้ เช่น ธุรกิจเพื่อความเพลิดเพลิน

 

รัฐบาลควรพิจารณาใช้นโยบายส่งเสริมการลงทุนโดยมอบสิทธิพิเศษแก่ผู้ประกอบการที่พัฒนาการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ เนื่องจากเป็นการยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวของประเทศไปสู่จุดหมายปลายทางที่ไม่ใช่แค่การพักผ่อน แต่เป็นการสร้าง คุณค่าที่ลึกซึ้งและยั่งยืน การให้สิทธิประโยชน์ เช่น การลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล การยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทันสมัย และการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ จะช่วยจูงใจให้ผู้ประกอบการกล้าลงทุนในนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น การสร้างกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงผจญภัยที่ได้มาตรฐานสากล การจัดเวิร์กช็อปด้านศิลปะและวัฒนธรรมไทย หรือการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อสร้างประสบการณ์เสมือนจริง สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะเพิ่มมูลค่าทางการตลาด แต่ยังเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท้องถิ่น และสร้างความแตกต่างให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยในตลาดโลกที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ

 

การใช้แนวคิดเหล่านี้จะช่วยปรับภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้เป็น “จุดหมายปลายทางแห่งประสบการณ์ (Experiential Destination)” ที่นักท่องเที่ยวเต็มใจที่จะจ่ายมากขึ้นเพื่อแลกกับความทรงจำและความประทับใจที่ไม่สามารถประเมินเป็นตัวเงินได้ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายในใจของนักเดินทางจากทั่วโลกอย่างยั่งยืน

 

9. ควรทำการตลาดกับ Influencer ต่างชาติ

รัฐบาลควรพิจารณาจ้างเอเจนซี่การตลาดมืออาชีพเพื่อดำเนินกลยุทธ์การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์อย่างเป็นระบบ เนื่องจากเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพสูงในการเข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมายโดยตรงและสร้างความน่าเชื่อถือได้มากกว่าการโฆษณาทั่วไป เอเจนซี่จะทำหน้าที่คัดเลือกบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวและอินฟลูเอนเซอร์ชาวต่างชาติที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลต่อกลุ่มผู้ติดตามซึ่งมองหาการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ จากนั้นวางแผนให้พวกเขาได้สัมผัส “ประสบการณ์สุดพิเศษในไทย” ที่ไม่เหมือนใคร

ยกตัวอย่างเช่น สร้างเทรนด์ #ThailandChallenge ชาเลนจ์สนุกๆ ใน TikTok หรือ Instagram ที่เกี่ยวกับไทย, โปรโมทสถานที่ “Unseen” ที่ถ่ายรูปสวยไม่ซ้ำใคร, จัดแคมเปญ “Work from Thailand” สำหรับคนรุ่นใหม่ต่างชาติ โปรโมทภาพชีวิตที่สมดุลระหว่างการเรียน/ทำงานและการท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ

 

เมื่ออินฟลูเอนเซอร์ได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่จริงใจและน่าประทับใจผ่านช่องทางของตนเอง ก็จะสามารถกระตุ้นความสนใจและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ติดตามวางแผนเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์เหล่านั้นด้วยตนเองได้ในที่สุด ซึ่งนับเป็นแนวทางที่ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดและคุ้มค่าสำหรับนักเดินทางทั่วโลก

 

10. สร้าง Tourism Academy ที่เข้าถึงง่าย

เพื่อให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโตอย่างยั่งยืน รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนในทุกระดับ ไม่ใช่แค่ผู้ประกอบการรายใหญ่เท่านั้น แนวทางหนึ่งที่น่าสนใจคือการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาเพื่อจัดทำ “Tourism Academy” ที่มีเนื้อหาเข้าถึงง่ายและนำไปใช้ได้จริง โครงการนี้ควรออกแบบมาให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย เช่น สำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจการทำธุรกิจท่องเที่ยว อาจนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการตลาดดิจิทัล การสร้างแบรนด์บนโซเชียลมีเดีย หรือการสร้างสรรค์ประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ๆ ส่วนสำหรับผู้สูงอายุหรือคนในชุมชน ก็อาจมุ่งเน้นความรู้เกี่ยวกับการบริการแบบไทยๆ การเล่าเรื่องราวของท้องถิ่น หรือการบริหารจัดการโฮมสเตย์อย่างง่ายๆ

 

การสร้าง Tourism Academy ไม่เพียงแต่จะให้ความรู้ทางทฤษฎี แต่ยังควรมีเนื้อหาที่สร้างแรงบันดาลใจและปลุกความคิดสร้างสรรค์ เช่น การสัมภาษณ์ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในท้องถิ่น การจัดเวิร์กช็อปภาคปฏิบัติ และการสร้างชุมชนออนไลน์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ร่วมกัน ซึ่งจะทำให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการพัฒนาธุรกิจของตนเองได้ ช่วยยกระดับศักยภาพของบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยรวม และทำให้ประเทศไทยมี “คลังสมอง” (Think Tank) จากคนทุกภาคส่วนที่พร้อมจะสร้างสรรค์นวัตกรรมการท่องเที่ยวใหม่ๆ ได้ในอนาคต

 

บทสรุป

ประเทศไทยกำลังยืนอยู่บนทางแยกของการฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่กลับไปถึงระดับก่อนโควิด การแข่งขันในประเทศอื่นๆ ภูมิภาครอบข้างก็เข้มข้นขึ้น หากภาครัฐต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น จำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางสะดวก อยู่สบาย จ่ายเงินไหว อุ่นใจ และได้รับประสบการณ์ที่ดีกลับไปและพร้อม return กลับมาเที่ยวหลายๆ ครั้งหรือพักอยู่ระยะยาวมากขึ้น และต้องทำให้ประชาชนไทยได้ประโยชน์และเติบโตไปด้วยกัน นั่นคือหัวใจของความยั่งยืนในเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยที่ทุกคนต่างรอผลงานของการใช้งบประมาณที่ถูกต้องของภาครัฐบาลอยู่.

ต่อทอง ทองหล่อ

ต่อทอง ทองหล่อ

บรรณาธิการสื่อเกี่ยวกับการศึกษา และ Blogger ผู้มีผลงานการวิเคราะห์ด้านอสังหาฯ มามากกว่าร้อยบทความ ยังเป็นผู้สนใจลงทุนคอนโดมิเนียม ชอบใช้ชีวิตแบบ Digital Nomad รักการเดินเท้าและเลือกใช้ขนส่งมวลชนสำรวจความเปลี่ยนแปลงของทำเลสถานที่ผ่านมุมมองการเข้าใจมนุษย์ นอกจากนี้ยังเป็น Active Citizen ช่วยขับเคลื่อนพัฒนาเมืองผ่านงานเขียนและเครื่องมือสื่อสารที่เชื่อมรัฐกับประชาชน เป้าหมายระยะยาวต้องการเห็นคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยที่ดีขึ้นของทุกคนในสังคม ติดตามผลงานได้ที่ https://matttortong.weebly.com

เว็บไซต์

นิว เรน แจ้งวัฒนะ

ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน - วงเวี...

โค้บบ์ ลาดพร้าว-สุทธิสาร

เอสซี แอสเสท ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงและนวั...

22 September, 2025

ศุภาลัย เอลีท สุขุมวิท 39

"คอนโด High Rise ใหม่แบบ 2 ห้องนอนในย่านพร้อมพงษ์ ยั...

7 August, 2025

แอสปาย สุขุมวิท – พระราม 4

ASPIRE สุขุมวิท-พระราม 4 คือ คอนโดไฮบริดพร้อมอยู่ที่...

21 July, 2025

บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์

มาพร้อมงานดีไซน์แบบใหม่ “Modern Simplicity ความเรียบ...

11 July, 2025

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง