พาชมเวิลด์คลาสเรสซิเดนซ์ THE RESIDENCES 38 หนึ่งเดียวบนทองหล่อ ที่มอบประสบการณ์พิเศษเหนือใครบนคอนเซปต์ “French Art de Vivre”
โดยทั่วไปแล้วการเลือกซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์ในระดับ Ultra Luxury เป็นการตัดสินใจที่ซับซ้อนและต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งในเชิง Functional และ Emotional Benefits เพราะไม่ใช่แค่การซื้อที่อยู่อาศัยธรรมดา แต่เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณค่าสูง สะท้อนรสนิยม บ่งบอกสถานะทางสังคม และไลฟ์สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้าของอย่างแท้จริง โดยที่ยังสามารถส่งต่อเป็นมรดกตกทอดได้ บนมูลค่าที่พร้อมทวีมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านพ้นไป
สำหรับผู้มีกำลังซื้อสูงทั่วโลกที่งบประมาณไม่ได้เป็นข้อจำกัด ราคาอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อ เพราะการที่ได้ครอบครองโครงการ Ultra Luxury Residences คือการซื้อ “ประสบการณ์ชีวิต” อันแตกต่างเปี่ยมเอกลักษณ์หาที่เปรียบไม่ได้ ดังนั้นดัชนีที่จะชี้วัดมูลค่าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ในระดับ Ultra Luxury ขึ้นไป จึงไม่ได้อยู่ที่ราคาเพียงอย่างเดียว แต่มักจะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลักหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้ง วิว ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ความมีชื่อเสียงของแบรนด์ สถาปัตยกรรมและการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงสุดจากทั่วโลก สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนตัวเฉพาะบุคคล ที่มาพร้อมกับบริการในแบบมาตรฐาน 5 Stars Hotel รวมถึงบริการหลังการขายในแบบ Worldclass Standard ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ได้ถูกนำมาขยายความต่อยอดพัฒนาโครงการ Ultra Luxury Residences ในกรุงเทพฯ หลายโครงการ เพื่อประกอบเหตุผลในเชิงตรรกะด้าน Functional Benefits ของการซื้อสินค้าในหมู่กลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง ที่ส่วนใหญ่มักประกอบด้วย คุณภาพในการพัฒนาโครงการอย่างประณีต คุณค่าของแบรนด์ รวมถึงความคุ้มค่าในสิ่งที่ได้รับแบบจับต้องได้ เช่นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ Overscale ที่สามารถใช้ชีวิตได้จริง การคัดสรรวัสดุและอุปกรณ์จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้รับประสบการณ์การอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบที่สุด
แต่เหนือสิ่งอื่นใด Emotional Needs อื่นๆ อาทิ ความเป็นเอกลักษณ์ของงานดีไซน์ที่สามารถสะท้อนตัวตน ของผู้เป็นเจ้าของได้มากที่สุด รวมไปถึงการออกแบบจากสุดยอดนักออกแบบระดับโลกที่มีประสบการณ์ที่สามารถ Customized Space ให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันไปของแต่ละสมาชิกในครอบครัวได้ ก็เป็น Motivation สำคัญในหมู่ผู้ซื้อในระดับสากล การพิจารณาองค์ประกอบเหล่านี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน จะช่วยให้การตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ระดับ Ultra Luxury เป็นไปอย่างคุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการสูงสุดของผู้ซื้อ
ซึ่งโครงการ Ultra Luxury Residences พร้อมอยู่ที่ดูจะโดดเด่นที่สุดในวงการอสังหาริมทรัพย์ในช่วงเวลานี้ ก็คงจะหนีไม่พ้นโครงการเดอะ เรสซิเดนเซส 38 (THE RESIDENCES 38) โครงการระดับ World Class ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดของประเทศไทย ใจกลางกรุงเทพฯ ย่านทองหล่อ ซอยสุขุมวิท 38 ติดรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีทองหล่อ พัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยในรูปแบบ Ultra luxury Residences จำนวน 36 ชั้น และชั้นลอย 1 ชั้น โดยชั้น 12 – 23 พัฒนาเป็นเซอร์วิสเรสซิเดนซ์แบบลักชัวรี่ 115 ยูนิต ภายใต้แบรนด์ La Clef Bangkok by The Crest Collection บริหารโดย ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด ในขณะที่ชั้นบนตั้งแต่ชั้น 24 – 36 เป็นคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยจำนวน 56 ยูนิต รูปแบบห้องพักคอนโดมิเนียมมีตั้งแต่ 1 Bedroom ไปจนถึง เพนท์เฮ้าส์ (Penthouse) ซึ่งจะเป็นที่สุดของความร่วมมือสำหรับการพัฒนาที่อยู่อาศัยในแบบ Residence ของประเทศไทย
เป็นที่รู้กันดีว่าคอนโดส่วนใหญ่เกือบ 100% บนย่านทองหล่อเต็มไปด้วยคอนโดระดับ Ultra Luxury ที่มีราคาขายต่อตารางเมตรเกินกว่าสามแสนบาท จนหลายๆ คนอาจมองภาพคอนโดในย่านทองหล่อว่าเป็น Massification of Luxury ที่มีรูปแบบและอัตลักษณ์คล้ายคลึงกันไปหมด ดังนั้นโครงการ Ultra Luxury แต่ละโครงการจึงต้องมีการพิถีพิถันในการออกแบบพัฒนาโครงการให้ตรงจริตกลุ่มเป้าหมายที่ตัวเองวางไว้ ให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างความแตกต่าง และความเด่นเฉพาะตัวของแต่ละโครงการ บางโครงการเน้นห้องเล็ก เพื่อจับกลุ่มตลาด Luxury Affordable แต่ทำเลอาจจะอยู่ในทำเลรองของทองหล่อ ในซอยย่อยที่ห่างไกลออกไปจากสถานีรถไฟฟ้า บางโครงการมีการ Co-Branding กับดีไซน์เนอร์ชั้นนำระดับโลก หลายโครงการมีการใช้งานดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยวมีแฟชั่น บางโครงการก็เน้นที่ทำเลติดบันไดรถไฟฟ้า ในขณะที่เกือบทุกโครงการทำเสนอรูปแบบห้องที่มีขนาดใหญ่ อัดแน่นไปด้วยวัสดุแบรนด์เนม และฟังก์ชันการใช้งานสุดไฮเทคทั้งในตัวห้องพักอาศัย และพื้นที่ส่วนกลาง
แต่มีเพียง 1 โครงการเท่านั้น ที่นอกจากจะครองจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้งอยู่บน High End Residential ของทองหล่อ ที่ปากซอยสุขุมวิท 38 ใกล้รถไฟฟ้าสถานีทองหล่อแล้ว ยังมีจุดเด่นที่สำคัญมากก็คือเป็น Ultra Luxury Residences ที่มีการบริหารจัดการภายใต้มาตรฐานระดับโลกของ The Ascott Limited (ทีม The Works เป็นผู้ดำเนินงานบริหารจัดการ ภายใต้การควบคุมมาตรฐานคุณภาพโดย The Ascott Limited) ซึ่งลูกบ้านก็จะได้รับบริการพิเศษในแบบ On Demand Services จาก La Clef Bangkok by The Crest Collection เช่นกัน โดยตัวอาคารนอกจากจะเป็นที่พักอาศัยส่วนตัวแล้ว ยังมีเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ ภายใต้แบรนด์ La Clef Bangkok by The Crest Collection ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ชื่อ La Clef ภายใต้แบรนด์ The Crest Collection ขยายออกมานอกประเทศฝรั่งเศส โดยบริหารจัดการโดย The Ascott Limited บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการให้บริการเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์และโรงแรมหรู ดังนั้นการมาของ La Clef Bangkok ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความหรูหราของฝรั่งเศสกับความร่วมสมัยของไทย ทำให้ผู้พักอาศัยได้รับบริการที่ครบครัน ทั้งในด้านความสะดวกสบายและการบริการระดับพรีเมียม
ทั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่ทำเล CBD อย่างอโศก หลังสวน วิทยุ เพลินจิต ชิดลม สยาม หรือริมแม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้นที่มีศักยภาพพอที่จะพัฒนาโครงการคอนโดในระดับราคาที่เกินกว่าตารางเมตรละสี่แสนบาทให้ขายได้ แต่ย่านไลฟ์สไตล์ที่ได้รับยอมรับนับถือจากคนทั่วโลกทุกครั้งที่มาเยือนกรุงเทพฯก็คือย่านทองหล่อ ทำเลที่มีทุกอย่างครบครันในย่านเดียว เป็นหนึ่งในสองทำเลที่อยู่นอก CBD ที่มีอัตราการพัฒนาคอนโดระดับ Ultra Luxury ที่สูงมาก เคียงคู่กับย่านพร้อมพงษ์ โดยในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่แทบทุกรายมีการทุ่มงบประมาณในการซื้อที่ดินบริเวณทองหล่อ ทั้งในสุขุมวิท 55 เอง และซอยใกล้เคียง รวมถึงฝั่งตรงข้ามอย่าง ซอย 57, 36, 38 เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดระดับ Luxury – Ultra Luxury มากกว่า 10 โครงการ แต่ถึงอย่างไรก็ตามทองหล่อก็ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นในยามค่ำคืน จากคอมมูนิตี้มอลล์ใหม่ๆที่รวมเอา ร้านค้า ร้านอาหารนานาชาติ ร้านสะดวกซื้อ ผับ บาร์ ไว้ในที่เดียวกัน หรือแม้กระทั่งก็เริ่มมีการพัฒนาโครงการโรงแรมภายใต้แบรนด์ดังให้เห็นอยู่อย่างต่อเนื่อง อาทิ Intercontinental Sukhumvit, Pan Pacific Serviced Suites Bangkok, และ The Okura Prestige Sukhumvit Bangkok Hotel and Spa บริเวณปากซอยสุขุมวิท 38 ตรงข้ามโครงการ THE RESIDENCES 38
นอกจากนี้มิติการใช้ชีวิตของคนในย่านทองหล่อในปัจจุบันนั้นไม่ได้มีแต่ชีวิตหลังเลิกงานเพียงอย่างเดียว เพราะไม่ไกลจากโครงการยังมีอาคาร T-One ซึ่งเป็นอาคารสำนักงาน Grade A ขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่ Retail อยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้นำมาซึ่ง Traffic ของคนที่อยากใช้ชีวิตแบบ Live – Work – Play – Eat จบครบในที่เดียวมาได้มากกว่าเดิม ทั้งนี้ไม่เพียงแต่ในพื้นที่ตามซอยทองหล่อ หรือสุขุมวิท 55 เท่านั้นที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่พื้นที่อื่นๆ ที่อยู่ในซอยย่อยต่างๆ โดยเฉพาะซอยสุขุมวิท 38 ที่แยกออกจากซอยทองหล่อก็มีสิ่งต่างๆ เหล่านี้เช่นกัน โดยซอยแยกเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้การเดินทางภายในซอยทองหล่อกับพื้นที่อื่นๆ มีความสะดวกมากขึ้นเท่านั้น แต่ซอยย่อยต่างๆ เหล่านี้ยังคงช่วยให้ซอยทองหล่อมีเสน่ห์และมีความหลากหลายเพราะว่าพื้นที่ริมซอยทองหล่ออาจจะดูวุ่นวาย แต่พอแยกไปในซอยย่อยต่างๆ แล้วกลับมีความสงบ เป็นส่วนตัวขึ้นมาทันที
โดยโครงการ The Residences 38 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 38 ที่รายล้อมไปด้วยที่พักอาศัยในระดับ Ultra Luxury Residences สมัยใหม่ และเป็น High End Residential Area แห่งแรกๆบนทำเลทองหล่อ เหมาะกับการใช้ชีวิตอย่างเหนือระดับในย่านที่มีความเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน มอบความสมบูรณ์แบบในการใช้ชีวิตมากที่สุด ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ ทำให้การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองและพื้นที่สำคัญอื่นๆ เป็นไปได้อย่างง่ายดาย สามารถเชื่อมต่อกับการใช้ชีวิตได้ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์กลางห้างสรรพสินค้าสุดหรูอย่าง The Em District และยังอยู่ใกล้กับซอยทองหล่อ ศูนย์กลางความบันเทิงชั้นนำ หนึ่งในย่านที่อยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกรุงเทพฯ รายล้อมไปด้วย ร้านอาหารระดับไฮเอนด์และร้านอาหารหลากหลายประเภท แหล่งรวมสถานบันเทิงยามค่ำคืน ใกล้กับโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำ และซูเปอร์มาร์เก็ต โรงเรียนนานาชาติ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ด้วยจุดเด่นของทำเลนี้ทำให้ The Residences 38 เป็นที่อยู่ที่มีศักยภาพสูง ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ทั้งในด้านการอยู่อาศัยและการลงทุน
The Residences 38 โครงการคอนโดระดับ Ultra Luxury บนคอนเซปท์ “French Art de Vivre”
The Residences 38 พัฒนาโดย Prime Area 38 (a subsidiary of RBH and BTS) ผู้มีชื่อเสียงด้านการลงทุนและพัฒนาโครงการที่พักอาศัยคุณภาพสูงใกล้ระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ สำหรับการบริหารจัดการโครงการตั้งแต่การก่อสร้าง การตลาด การขาย และบริการหลังการขาย ได้มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เชี่ยวชาญโครงการคุณภาพสูงในทำเลที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง ใกล้รถไฟฟ้า นอกจากจะเป็นที่พักอาศัยระดับลักซ์ชูรีแล้ว The Residences 38 ยังเป็นที่ตั้งของเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ภายใต้แบรนด์ La Clef Bangkok by The Crest Collection อีกด้วย โดยโครงการ La Clef Bangkok ผสมผสานความหรูหราของฝรั่งเศสเข้ากับวัฒนธรรมไทยอย่างลงตัว ด้วยแรงบันดาลใจจากโรงแรมบูติกในปารีส ภายใต้สถาปัตยกรรมสไตล์ Haussmann ของปารีส ผสมผสานกับลวดลายไทยร่วมสมัย ทำให้เกิดบรรยากาศที่สง่างามแต่ยังคงความอบอุ่นและเป็นกันเอง
The Residences 38 ถือเป็นโครงการที่พักอาศัยที่มีการบริหารจัดการภายใต้มาตรฐานระดับโลกของ The Ascott Limited (ทีม The Works เป็นผู้ดำเนินงานบริหารจัดการ ภายใต้การควบคุมมาตรฐานคุณภาพโดย The Ascott Limited) ซึ่งลูกบ้านก็จะได้รับบริการพิเศษในแบบ On Demand Services จาก La Clef Bangkok by The Crest Collection เช่นกัน ซึ่ง The Crest Collection เป็นแบรนด์ที่รู้จักในเรื่องของความหรูหรา เรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์ และการบริการที่ประณีต โครงการนี้เป็นรูปแบบ mixed-use โดยชั้น 12-23 เป็น La Clef Bangkok by The Crest Collection ซึ่งเป็นเซอร์วิสเรสซิเดนซ์หรู 115 ยูนิต ส่วนชั้น 24-36 เป็น The Residences 38 ที่เป็นคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยส่วนตัวจำนวน 56 ยูนิต ทำให้ผู้อยู่อาศัยในส่วนของ The Residences 38 ได้รับบริการระดับโรงแรมจากแบรนด์ La Clef ด้วยเช่นกัน ในการออกแบบภายในยังนำ concept “L’Art de Vivre” (French The Art of living) ซึ่งหมายถึงศิลปะแห่งการใช้ชีวิตแบบฝรั่งเศสมาปรับใช้ในทุกแง่มุม ตั้งแต่การออกแบบภายใน พื้นที่ส่วนกลาง ไปจนถึงสวน โดยเน้นการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น หินอ่อน เพื่อเพิ่มความอบอุ่นและความหรูหราในทุกพื้นที่ ผลงานศิลปะที่นำมาตกแต่งสะท้อนถึงวัฒนธรรมทั้งฝรั่งเศสและไทยอย่างลงตัว และมีเรื่องราวที่น่าจดจำ
องค์ประกอบที่โดดเด่นของ The Residence 38 โครงการ Ultra Luxury Residence ที่มอบประสบการณ์พิเศษเหนือใครบนคอนเซปต์ “French Art de Vivre”
1.การร่วมมือกันในการพัฒนาโดยทีมดีไซน์เนอร์ระดับโลก ภายใต้แรงบันดาลใจการออกแบบรูปทรงตึกมาจากผลงานประติมากรรมระดับโลกจาก ผลงานสร้างสรรค์ศิลปะของ Antony Gormley
โครงการ The Residences 38 ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบรูปทรงอาคารกระจกที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นจากผลงานประติมากรรมของศิลปินระดับโลกชาวอังกฤษ Antony Gormley ซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงานประติมากรรมที่เน้นรูปทรงมนุษย์และสัมพันธ์กับพื้นที่และสภาพแวดล้อม การนำแรงบันดาลใจจากศิลปินท่านนี้มาใช้สะท้อนถึงแนวคิดที่ต้องการสร้างสรรค์อาคารให้เป็นมากกว่าแค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นงานศิลปะที่กลมกลืนกับบริบทโดยรอบ พร้อมทั้งมีผลงานโดดเด่นมากมายในด้านการออกแบบโรงแรมหรู ที่พักอาศัย และอาคารเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับแบรนด์ระดับโลก เช่น B&B Italia, Hermès, Kartell, และ Vitra ในการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ และยังมีบทบาทสำคัญในโครงการสถาปัตยกรรมชื่อดังหลายแห่ง
นอกจากนี้โครงการยังได้ร่วมมือกับบริษัทสถาปนิกระดับโลกอย่าง ACPV ARCHITECTS Antonio Citterio Patricia Viel ซึ่งมีชื่อเสียงจากการสร้างสรรค์อาคารสถาปัตยกรรมสุดหรูที่มีเอกลักษณ์และผลงานโด่งดังมากมายทั่วโลก รวมถึงโรงแรมของ Bulgari ในหลายประเทศ เน้นการผสมผสานระหว่างความเรียบง่ายและความหรูหรา โดยใช้เส้นสายเรขาคณิตเพื่อสร้างความงดงามที่สอดคล้องกับบรรยากาศของเมืองกรุงเทพฯ ตัวอาคารออกแบบให้สะท้อนถึงความทันสมัยและการใช้ชีวิตที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ ร่วมด้วยบริษัทด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบชั้นนำของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น Quintrix Architects, PIA Interior และฉมา (Shma) โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการผสมผสานวัฒนธรรมไทยเข้ากับมรดกทางวัฒนธรรมของฝรั่งเศส
การรวมตัวกันของทีมดีไซเนอร์ระดับโลกเหล่านี้ ทำให้ The Residences 38 เป็นโครงการที่โดดเด่นทั้งในด้านสถาปัตยกรรมภายนอกที่ร้อยเรียงด้วยกระจกทั้งหมดอย่างงดงาม และการออกแบบภายในที่สะท้อนถึงแนวคิด “French Art de Vivre” หรือ “ศิลปะแห่งการใช้ชีวิต” อย่างแท้จริง
2. การเลือกใช้วัสดุชั้นเลิศจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เนื่องจากโครงการ The Residences 38 เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Ultra Luxury ที่โดดเด่นด้วยการคัดสรรวัสดุและอุปกรณ์ชั้นเลิศจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เพื่อมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับและสะท้อนถึงปรัชญา “The Art of Living” ที่ผสมผสานความหรูหราแบบฝรั่งเศสเข้ากับสุนทรียภาพแบบไทยได้อย่างลงตัว ด้วยความพิถีพิถันในการเลือกสรรวัสดุเหล่านี้ จึงมั่นใจได้ว่า The Residences 38 จะสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้อยู่อาศัยได้ทุกครั้งที่ใช้งาน อาทิเช่น
พื้นไม้ Engineering Floor Walnut Oak ลาย Herringbone วัสดุจากอิตาลี, ครัวและห้องน้ำ เลือกใช้ หินอ่อน Belgia Veneto จากอิตาลี, กระจกฉนวน จากสหรัฐอเมริกา จะช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ, เครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพสูงจากแบรนด์ Miele ประเทศเยอรมนี เป็นผู้นำเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก และผู้ผลิตเครื่องซักผ้าเข้าแรกของโลก, อ่างล้างจานและก๊อกน้ำในครัวจากแบรนด์ BLANCO จากเยอรมนี, ห้องน้ำเลือกใช้ก๊อกและ Shower ยี่ห้อ Gessi จากอิตาลี ร่วมกับชุด Shower ของ Axor จากเยอรมนี
โดย The Residences 38 มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่หรูหราและเป็นส่วนตัว ด้วยการลงทุนในวัสดุคุณภาพสูง การออกแบบที่คำนึงถึงทุกรายละเอียด และการร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มองหาความเป็นเลิศในทุกมิติของการใช้ชีวิต
3. มีเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์แบรนด์ La Clef Bangkok by The Crest Collection อยู่บนอาคารเดียวกัน
The Crest Collection เป็นกลุ่มแบรนด์พอร์ตโฟลิโอของเซอร์วิสเรสซิเดนซ์หรูระดับสูงสุดของกลุ่มแอสคอทท์ ซึ่งมี Brand Idea คือ “A Story Behind Every Door – หลังประตูทุกบานมีเรื่องราว” โดยเป็นโครงการที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดและกระตุ้นผู้ที่แสวงหาประสบการณ์การเดินทางที่ดื่มด่ำกับเรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นสมัยใหม่หรือย้อนยุค แต่ละแห่งล้วนได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบและประสบการณ์ที่มีเรื่องราวซึ่งจะนำแขกย้อนเวลากลับไปในช่วงเวลานั้นๆ ในปัจจุบันแบรนด์ภายใต้ The Crest Collection มีทั้งโรงแรม และเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ เริ่มเปิดตัวครั้งแรกในปี 2559 ที่ฝรั่งเศส กับโครงการไฮไลท์ได้แก่ โรงแรม La Clef Champs-Élysées Paris, Château Belmont Tours, La Clef Louvre Paris และ La Clef Tour Eiffel [กำลังมีอีกโครงการที่ Saint-Germain-des-Prés, Paris] นอกจากนี้ยังมีที่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดไปอย่าง The Robertson House ที่สิงค์โปร์, Yuexiu Hotel Guangzhou ที่จีน และ The Crest Collection in Tay Ho, Hanoi เวียดนาม
โดยการมาของ La Clef Bangkok by The Crest Collection นับเป็นครั้งแรกที่แบรนด์ La Clef (ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับสูงสุดของ The Crest Collection) ขยายตัวนอกประเทศฝรั่งเศส และเป็นแห่งเดียวที่มีการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความหรูหราแบบฝรั่งเศสและความร่วมสมัยแบบไทย เพื่อมอบความสะดวกสบายและบริการระดับพรีเมียมที่ครบครันแก่ผู้พักอาศัย โดย La Clef แปลว่า “กุญแจ” ในภาษาฝรั่งเศส ซึ่งหมายถึงการเปิดประตูสู่ประสบการณ์ที่หรูหราและพิเศษ การออกแบบเน้นความหรูหราและเอกลักษณ์ โดยผสมผสานศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้าด้วยกัน
4. พบกับร้านอาหารที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมจาก 2 ซีกโลกในรูปแบบ fine cuisine จาก Chef Man และ Chef Takashi ที่ชั้น 11
บนชั้น 11 ของโครงการ คุณจะได้พบกับประสบการณ์สุดพิเศษในการทานอาหาร ที่เกิดจาก Passion ส่วนตัวของคุณกวิน กาญจนพาสน์ ซึ่งชื่นชอบในเรื่องของอาหารการกินเป็นอย่างมาก เมื่อบวกกับความเชี่ยวชาญของ BTS Group ในเรื่องของ Food & Retailing และ Fine Dining Business จึงถูกถ่ายทอดมาเป็นคอนเซปท์ร้านอาหารสุดพิเศษที่เป็นจุดดึงดูดหลักของโครงการนี้ และด้วย lifestyle ของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบันที่มีพฤติกรรมในการรับประทานอาหารใแบบที่เรียกเชฟมาทำอาหารให้ทานมากกว่าไปที่ร้าน จึงทำให้เกิดวัฒนธรรมในการทานอาหารรูปแบบใหม่ที่หาได้จากที่นี่ที่เดียว กับร้านอาหารสไตล์ Fine Dining ที่ร่วมมือกับ Chef Man Group of Restaurants โดยมีชื่อร้านว่า Chef Man Private Kitchen ที่จะเปิดให้บริการในปี 2025 พื้นที่นี้ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถานทูตฝรั่งเศสเก่าแก่ ผสมผสานความหรูหราแบบฝรั่งเศสเข้ากับวัฒนธรรมไทยอย่างลงตัว และอีกฟากหนึ่งของชั้นร้านอาหาร คุณจะได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์แห่งญี่ปุ่นที่แท้จริงที่ Kappo by Chef Takashi ร้านอาหารญี่ปุ่นที่นำเสนอประสบการณ์ Kappo Dining อันลึกซึ้ง โดยเชฟ Takashi Sasaki ผู้ที่เติบโตจากครอบครัวเชฟในเรียวกังดั้งเดิม
สองร้านอาหารนี้ไม่เพียงแค่เป็นที่รับประทานอาหาร แต่ยังเป็นพื้นที่ที่รวบรวมเรื่องราวและวัฒนธรรมจากสองซีกโลก ด้วยการตกแต่งภายในที่แฝงความหรูหราทันสมัย ผสานกลิ่นอายแบบเอเชียและยุโรป พร้อมวิวเมืองกรุงเทพฯ ที่งดงาม สำหรับผู้อยู่อาศัยที่มองหาประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เต็มไปด้วยความหรูหราและรสชาติอันเลิศล้ำ The Residences 38 ชั้น F&B คือพื้นที่ที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการด้วยการบริการที่ดีที่สุดและอาหารที่คัดสรรมาเป็นพิเศษจากเชฟระดับโลก นอกจากนี้ยังสามารถแจ้งความประสงค์เพื่อจัดสรรนัดหมายให้เชฟมิชลินที่คุณชื่นชอบมาทำอาหารให้รับประทานได้ถึงที่ เสมือนมีเชฟระดับมิชลินอยู่ที่บ้านให้คุณได้เพลิดเพลินกับอาหารหลากหลายสัญชาติโดยฝีมือเชฟมิชลินสตาร์ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
5. ส่วนกลางที่มอบ Aesthetic Experience ตามแบบฉบับ “French Art de Vivre” โครงการ The Residences 38 นำเสนอปรัชญาการใช้ชีวิตที่เรียกว่า “The Art of Living” ซึ่งสะท้อนความงดงามในทุกมิติของชีวิต ที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราของฝรั่งเศสและเสน่ห์แห่งสถาปัตยกรรมไทยดั้งเดิม โครงการนี้นำความเป็นเอกลักษณ์ของไทยและฝรั่งเศสมาประยุกต์ใช้อย่างลงตัว เกิดเป็นความงามที่ผสมผสานเสน่ห์ของการใช้ชีวิตแบบสากล พร้อมมอบพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ
Lobby บริเวณชั้น 1 มีการออกแบบล็อบบี้ได้รับแรงบันดาลใจจากความสง่างามของสถาปัตยกรรมไทยและฝรั่งเศส โดยนำเสนอความเป็นเลิศทั้งในด้านวัสดุและงานออกแบบ มีทางเดินโถงขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนและแสงไฟที่อบอุ่น ให้ความรู้สึกหรูหราและสงบ โถงต้อนรับออกแบบให้สะท้อนถึงความทันสมัยและความเป็นส่วนตัว โดยมีพื้นที่ Colonnaded Corridor ที่แสดงถึงเส้นสายของสถาปัตยกรรมโบราณที่ถูกนำมาผสมผสานในสไตล์ร่วมสมัย
พื้นที่อำนวยความสะดวกเต็มรูปแบบ ชั้น 10 บนชั้นนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายรูปแบบที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของการพักผ่อนและการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น The Residences Lounge: เลานจ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ในบรรยากาศส่วนตัว พร้อมวิวเมืองที่งดงาม
Co-Party Space: พื้นที่สำหรับจัดเลี้ยงและปาร์ตี้ส่วนตัว ด้วยการตกแต่งที่หรูหราและมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
Fitness: ห้องออกกำลังกายที่มีอุปกรณ์ครบครัน และพื้นที่สำหรับโยคะโดยเฉพาะ
ห้องประชุม (Meeting Room): สำหรับผู้ที่ต้องการใช้พื้นที่สำหรับการทำงานหรือการประชุมในบรรยากาศเงียบสงบ
Private Onsen: ออนเซ็นส่วนตัว แยกห้องชาย – หญิงในสไตล์ญี่ปุ่น ให้คุณได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ในบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว
สระว่ายน้ำสไตล์ Saint-Tropez ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบีชคลับชื่อดังในเมือง Saint-Tropez ฝรั่งเศส ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อน แต่ยังเป็นจุดชมวิวที่ให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศสุดหรูหราใจกลางเมือง ความหรูหราที่ผสมผสานความทันสมัยและเอกลักษณ์ไทย
โดยโครงการมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร โดยการนำเสนอความงดงามของศิลปะไทยผสมผสานเข้ากับสไตล์การออกแบบฝรั่งเศส เกิดเป็นความสมบูรณ์แบบที่ยากจะหาได้ในที่อื่น ทุกมุมของ The Residences 38 ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิตที่หรูหราและเป็นส่วนตัว พร้อมทั้งตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่มองหาความเป็นเอกสิทธิ์ในทุกการพักอาศัย
6. Pet Allowed Residences
The Residences 38 เข้าใจดีว่าสัตว์เลี้ยงของคุณเป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัว โครงการจึงถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้คุณและสัตว์เลี้ยงแสนรักได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและสะดวกสบายในทุกๆ วัน โดยโครงการมีการอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์: ไม่ว่าคุณจะมีห้องชุดขนาด 50 ตร.ม. (เลี้ยงสัตว์ได้ 1 ตัว) หรือขนาด 100 ตร.ม. ขึ้นไป (เลี้ยงสัตว์ได้สูงสุด 2 ตัว) คุณก็สามารถนำสัตว์เลี้ยงตัวโปรดเข้ามาอยู่ด้วยได้ (สัตว์เลี้ยงต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 15 กก.) หมดห่วงเรื่องการแยกจากเพื่อนซี้สี่ขาของคุณไปได้เลย และพื้นที่ที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง: โครงการมีพื้นที่ที่จัดสรรและออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนและเดินเล่นของสัตว์เลี้ยงของคุณโดยเฉพาะ ทำให้สัตว์เลี้ยงได้สนุกและปลอดภัย นอกจากนี้ ยังมีข้อกำหนดที่ชัดเจนสำหรับการพาสัตว์เลี้ยงออกจากห้อง เช่น การใช้สายจูงหรือกระเป๋าหิ้ว เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนในโครงการ รวมถึงสัตว์เลี้ยงของคุณ จะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสบายใจ
7. การบริการเหนือระดับที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตในแบบ Ultra – Luxury อย่างแท้จริง
โดยโครงการ The Residences 38 มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือระดับ ด้วยบริการระดับพรีเมียม ที่ดูแลโดยทีมงาน The Works ภายใต้การควบคุมมาตรฐานคุณภาพโดย The Ascott Limited ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการจัดการที่พักอาศัย การร่วมมือนี้ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมั่นใจได้ว่าจะได้รับความสะดวกสบายสูงสุดในทุกแง่มุมของการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการดูแลรักษาพื้นที่ส่วนกลาง การอำนวยความสะดวกต่างๆ หรือบริการพิเศษอื่นๆ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล ทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างไร้กังวลและเพลิดเพลินกับความหรูหราได้อย่างเต็มที่ รวมถึงบริการทำความสะอาด บริการซักรีด และบริการเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกที่ได้รับการอบรมตามมาตรฐานระดับ World Class