“นรกเงียบเศรษฐกิจ” เสียงเตือนจากวงใน ปี 2026 จุดหักเหไทยสู่ภาวะเงียบงันทุกระดับชนชั้น
https://unsplash.com/photos/burning-banknotes-hfrDZAXwb5c
จุดประสงค์ของบทความนี้ต้องการให้ทุกคนเตรียมพร้อมรับมือปัญหาให้ดีที่สุดทั้งเงิน งาน ความคิด กาย ใจ ทุกปัญหามีทางแก้ไขเสมอ
Red Alert! นี่คือสัญญาณเตือน “วิกฤติคลังไทย 2026–2027”
ขอสรุปภาพรวมจากวงในหน่วยงานรัฐด้านการเงินที่ถือข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจ
1. รายได้รัฐ “เริ่มไม่พอใช้”
สามกรมจัดเก็บรายได้รัฐหลัก สรรพากร, ศุลกากร, สรรพสามิต กำลังถูกกดดันอย่างหนักให้หาเงินเข้าแผ่นดินให้ถึงเป้า แต่ด้วยเศรษฐกิจที่ซบเซาและฐานภาษีที่หดตัว การเก็บภาษีได้ตามเป้ากลายเป็นเรื่อง “แทบเป็นไปไม่ได้” ภาครัฐพยายามขยับทั้ง “เก็บเพิ่ม” และ “ขยายฐานภาษี” แต่ก็เสี่ยงจะกระทบการบริโภคในประเทศอีกต่อหนึ่ง
2. ฝั่งรายจ่าย “รัดจนแทบขาดใจ”
สำนักงบประมาณถูกสั่งให้รัดเข็มขัดต่อเนื่อง แต่ก็ถึงจุดที่ “ไม่มีอะไรให้ตัดได้อีกแล้ว” เพราะงบรายจ่ายประจำ (เงินเดือน, ค่ารักษา, ค่าชดเชยสวัสดิการ) กินสัดส่วนเกือบทั้งหมดของงบประมาณจะขยับเพิ่มงบพัฒนาเศรษฐกิจหรือโครงการลงทุนใหม่ ก็แทบไม่มีพื้นที่เหลือ
3. สปสช. และระบบสวัสดิการ อาจมีความเป็นไปได้ที่จะ “ล้มได้จริง” …หรือไม่?
จะล้มจริงหรือไม่ ไม่ทราบได้ แต่งบกองทุนสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่ใช้ดูแลสิทธิ์หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ไม่พอจริง ที่ผ่านมา โรงพยาบาลหลายแห่งเอางบจาก สิทธิ์ข้าราชการมาช่วยพยุงระบบโดยรวม แต่ปีนี้ โดยกรมบัญชีกลางเองก็เตรียมปรับลดงบรักษาข้าราชการ เพราะคลังตึงหมายความว่า ระบบสาธารณสุขอาจเริ่ม “พังเป็นลูกโซ่” หรือไม่… ต้องรอดูตั้งแต่ปีหน้า 2026 เป็นต้นไป
4. GDP โตต่ำ ความน่าเชื่อถือประเทศเริ่มสั่นคลอน
สองในสามสถาบันจัดอันดับเครดิตระดับโลกเริ่มปรับ “แนวโน้ม (outlook)” ของไทยจาก stable มาเป็น negative สะท้อนว่าตลาดเริ่มมองว่า ไทยกำลังเข้าสู่ช่วงเสี่ยง ถ้าไม่มีนโยบายฟื้นเศรษฐกิจชัดเจน หรือปฏิรูปเชิงโครงสร้างของรัฐในเวลาอันสั้น เรามีโอกาสถูก “ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ” หมายความว่าอะไร
ตอบ… ส่งผลให้รัฐบาลกู้เงินแพงขึ้น และภาคเอกชนโดยเฉพาะเอกชนขนาดใหญ่ก็โดนลูกหลง ต้นทุนทางการเงินพุ่งตามไปด้วย และนั่นอาจส่งผลต่อราคาสินค้าที่ประชาชนทั่วไปได้ด้วย
5. สถานการณ์คล้ายปี พ.ศ. 2540 แต่มี “จุดเสี่ยงคนละแบบ”
เปรียบเทียบว่า ตอนนี้สัญญาณเริ่มคล้ายก่อนวิกฤตต้มยำกุ้ง แต่ต่างกันที่รอบนี้ไม่ได้เกิดจากหนี้เอกชนหรือตลาดเงิน แต่เกิดจากพื้นฐาน “หนี้ภาครัฐและการคลังที่เปราะบาง” หากไม่เร่งฟื้นเศรษฐกิจจริงจังและลดภาระทางการเงินของรัฐไม่ทันแล้วละก็…คำว่า “นรกเงียบเศรษฐกิจจะมีจริง” อาจไม่ใช่แค่คำพูดเตือน แต่กลายเป็นภาพจริงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า




