ชี้เป้าทำเลลงทุน : เพราะอะไรแจ้งวัฒนะ+เมืองทองถึงน่าลงทุน
เป้าทำเลลงทุน : เพราะอะไรแจ้งวัฒนะ+เมืองทองถึงน่าลงทุน
สำหรับคนที่คุ้นเคยกับย่านแจ้งวัฒนะในจังหวัดนนทบุรีอยู่แล้วก็จะพบกับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมาของย่านนี้และมีความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของแจ้งวัฒนะ แต่สำหรับคนนอกพื้นที่ที่ยังไม่ค่อยถนัดทำเลนี้ก็อาจจะยังมีความไม่มั่นใจอยู่บ้าง บทความนี้หวังว่าจะเป็นข้อมูลอีกชุดที่จะทำให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าทำเลนี้มีอนาคตดีแน่นอนครับ ขณะที่เขียนบทความนี้อยู่ในช่วงเดือนมีนาคม 2021 ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าช้อนลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในย่านแจ้งวัฒนะและเมืองทองธานี เพราะเหตุใดถึงกล่าวเช่นนี้ เรามาเริ่มกันเลย
ถนนแจ้งวัฒนะเส้นยาว ตรงไหนคือจุดที่ควรลงทุน
ถนนแจ้งวัฒนะและถนนแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ดนั้นเริ่มตั้งแต่บริเวณสถานีวัดพระศรีมหาธาตุมาสิ้นสุดที่แยกปากเกร็ดเป็นถนนเส้นยาวรวมกันประมาณ 11 กิโลเมตร แต่ละโซนมีความแตกต่างและศักยภาพในการพัฒนาแตกต่างกันตามการผังเมือง โซนแจ้งวัฒนะรอบศูนย์ราชการฯ จะไม่สามารถสร้างตึกสูงได้เพราะใกล้สนามบินดอนเมือง แต่โซนที่ไกลสนามบินออกมาเช่นโซนย่านธุรกิจแจ้งวัฒนะบริเวณรอบเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะและโซนเมืองทองธานีจะสามารถสร้างตึกสูงได้ ดังนั้นย่านที่ทาง www.Propholic.com จะมาชี้เป้าทำเลในวันนี้คือโซนแจ้งวัฒนะ+เมืองทองธานีตามกรอบสี่เหลี่ยมที่แสดงไว้ในรูปด้านล่างครับ เนื่องจากเป็นทำเลที่สามารถสร้างโครงการขนาดใหญ่และมีศักยภาพพัฒนาสูงกว่า
1. แจ้งวัฒนะ+เมืองทองเป็นแหล่งงานใหม่ มีตึกเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง
บริเวณที่มีแหล่งงานคึกคักมากที่สุดก็ต้องยกให้เป็นบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด รอบๆห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะเพราะมีหลายอาคารสูงเป็นแลนด์มาร์กให้กับทำเล เริ่มตั้งแต่ประมาณช่วงปี 1998 มีตึกสูงผุดขึ้นมาเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่คือ Jasmine International Tower สูง 31 ชั้น ซึ่งเต็มไปด้วยบริษัทเกี่ยวกับสื่อสาร เทคโนโลยีและการศึกษา อินเทอร์เน็ตแบรนด์ 3BB ก็อยู่ในตึกนี้ด้วย ตามมาด้วยปี 2000 ผุดโครงการ Software Park (อาคารชุดเขตอุตสาหกรรมซอฟแวร์) สูง 36 ชั้น ส่งผลให้ย่านแจ้งวัฒนะมีภาพลักษณ์เป็นถนนเทคโนโลยีชัดเจนมากขึ้น , ปี 2008 ห้าง Central Plaza แจ้งวัฒนะ เปิดให้บริการเพื่อรองรับกับดีมานด์การจับจ่ายของผู้คนในย่านนี้ ถัดมาแค่หนึ่งปี 2009 มีอาคารสำนักงานเซ็นทรัลพลาซาแจ้งวัฒนะเป็นอาคารสูง 15 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่เดียวกับห้าง หลังจากนั้นช่วงปี 2013 โรงพยาบาล World Medical ของเครือเกษมราษฎร์มาเปิดให้บริการ, ปีถัดมา 2014 เกิดโครงการอาคารสูง CP All Academy ในบริเวณสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) และหลังจากนั้นก็มีโรงเรียนสาธิต PIM โครงการนี้ช่วยให้แจ้งวัฒนะพัฒนากลายเป็นย่านการศึกษามีนักเรียนนักศึกษาเพิ่มมากขึ้น และในปี 2021 นี้เริ่มเปิดใช้อาคาร The Tara หรืออาคาร CP ALL แจ้งวัฒนะ เป็นอาคารสำนักงานสูง 22 ชั้น ศูนย์รวมของเหล่าชาวซีพีออลล์หลายพันคนที่ย้ายออฟฟิศจากย่านสีลมมาสู่แจ้งวัฒนะ
ภาพโครงการอาคารสำนักงานและการศึกษาโดยบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
สูง 22 ชั้น ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น ที่จอดรถ 378 คัน พื้นที่อาคารรวม 45,399 ตารางเมตร
นอกจากนี้ยังมีโครงการโรงแรมตึกสูง BEST WESTERN PLUS Wanda Grand และโรงแรมแบบ Low-rise ชื่อ HOP Inn แจ้งวัฒนะ เพื่อรองรับการพักชั่วคราวของคนในย่านธุรกิจแจ้งวัฒนะ นอกจากนี้ก็มีสำนักงานของบริษัทต่างๆ เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ (อาคารแจ้งวัฒนะ), สแปนชั่นไทยแลนด์ ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ , นารายาสำนักงานใหญ่ ทำธุรกิจค้าปลีกกระเป๋า, อาคารโมเดิร์นกรุ๊ปและอาคาร SQI Group มีบริษัทเล็กๆ รวมกัน, อาคารสมาคมธนาคารไทย เป็นที่ตั้งของบริษัท ITMX ที่รับผิดชอบพัฒนาบริการ Promptpay ที่ทุกคนคุ้นเคย ย่านถนนติวานนท์ที่อยุ่ใกล้เคียงกับแจ้งวัฒนะก็มีโรงพยาบาลกรุงไทย
ภาพจาก https://www.bwpluswandagrand.com
ต่อไปเรามาดูแหล่งงานโซนเมืองทองกันบ้างก็พบแหล่งงานที่เป็นอาคารสูงหลายตึกทั้งโครงการของเอกชน เช่น อาคาร KBTG กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีของ Kbank, ธนาคารกสิกรไทย สำนักแจ้งวัฒนะ เมืองทองธานี, Cosmo Office Park อาคารสำนักงานให้เช่า, NARITA Tower , คอนโดมิเนียมอุตสาหกรรม อาคารไคตัค , อาคารออร์ลี และมีสำนักงานของธุรกิจ SMEs มากมายในคอนโดอุตสาหกรรมบนถนนบอนด์สตรีท ส่วนอาคารสูงของหน่วยงานรัฐก็มีเช่น กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.), ตม.เมืองทอง, สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (แจ้งวัฒนะ) เป็นต้น และจุด Landmark สำคัญที่สุดของเมืองทองที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้คือ ศูนย์ประชุมและจัดแสดงงานต่างๆ อันได้แก่ IMPACT Exhibition Center, IMPACT Arena, Impact Forum, IMPACT Challenger และที่ขาดไม่ได้คือโรงแรม Novotel Bangkok Impact และ Ibis Bangkok IMPACT ที่มารองรับดีมานด์การพักชั่วคราวของแขกที่มาร่วมงานในศูนย์ต่างๆ ของเครือ IMPACT และอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ย่านเมืองทองน่าสนใจในระยะยาวเพราะเป็นย่านรวมสถาบันการศึกษาทุกระดับชั้น ได้แก่ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.), มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตซิตี้แคมปัส เมืองทองธานี, โรงเรียนเซนต์ฟรังซิสเซเวีย สอนถึงระดับมัธยมปลาย และโรงเรียน BFS สอนถึงระดับประถม
ภาพโครงการอาคารห้องสมุดและศูนย์การเรียนรู้ (Library and Learning Center) ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ที่กำลังก่อสร้างและคาดว่าจะเสร็จปลายปี 2021
ย่านแจ้งวัฒนะ-เมืองทองอุดมไปด้วยแหล่งงาน แหล่งเรียนมากมายหลากหลาย เป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้คนเข้ามาเพิ่มขึ้นทุกปี.
2. แจ้งวัฒนะ+เมืองทองเป็นย่านที่มีรถไฟฟ้าเพิ่งสร้างใหม่ อนาคตจะเป็นเหมือนรัชดา
โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่พาดผ่านย่านแจ้งวัฒนะและโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเข้าไปสู่ย่านเมืองทองธานี ทั้งสอง Mega Project นี้จะช่วยเปลี่ยนพื้นฐานของย่านไปตลอดกาล
ขณะนี้ปี 2021 รถไฟฟ้าสายสีชมพูกำลังก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง
โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี จะเปิดให้บริการช่วงมีนบุรี-ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติก่อน หลังจากนั้นจะเปิดอีกเฟสจากศูนย์ราชการถึงแครายในลำดับต่อมา
ดูวิดีโอที่นี่ https://youtu.be/WLtLOWUwQiQ
โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช – เมืองทองธานี คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2024
คลิกดูวิดีโอที่นี่ https://youtu.be/dDoygpJvN5Y
การเกิดขึ้นมาของโครงการรถไฟฟ้าไม่ว่าจะทำเลไหนก็ตามย่อมส่งผลให้ย่านนั้นมีการพัฒนาเติบโตเพราะเหตุผลเรื่องการเดินทางที่สะดวกสบายมากขึ้น คนไม่ต้องทนทุกข์กับรถติด เป็นระบบการเดินทางที่ควบคุมเวลาได้อย่างดีเยี่ยม และรถไฟฟ้าเป็นการคมนาคมอีกทางเลือกหนึ่งที่มีความเป็นสากลและเป็นวิธีการเดินทางที่คนต่างชาติเข้าใจง่ายที่สุดอีกด้วย ในอนาคตเราอาจจะเห็นย่านแจ้งวัฒนะ+เมืองทองมีชาวต่างชาติย้ายเข้ามาอยู่กันมากขึ้นแล้วจะทำให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นอีก
ย่านที่มีรถไฟฟ้ามักจะใช้เวลาประมาณ 10 ปีในการพัฒนาจึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แต่สำหรับย่านแจ้งวัฒนะ+เมืองทองนั้นมีพื้นฐานการพัฒนาที่ดีอยู่แล้ว มีโครงการอสังหามากมายหลายจุดประสงค์ เพราะฉะนั้นการมาของรถไฟฟ้าจะยิ่งช่วยเหยียบคันเร่งการเติบโตของย่านให้รวดเร็วขึ้นอีก เราอาจจะลองนึกภาพนี้ดูก็ได้ครับว่าย่านแจ้งวัฒนะในปัจจุบันนั้นมีคาแรกเตอร์คล้ายกับย่านรัชดาในอดีตก่อนที่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะเปิดให้บริการ หลังจากย่านรัชดามีรถไฟฟ้าสร้างเสร็จแล้วก็ทำให้เกิดโครงการมากมายทั้งคอนโดมิเนียม โรงแรม ห้าง ออฟฟิศ จนปัจจุบันรัชดากลายเป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนาในขั้นสูงจนแน่นไปหมดแล้ว ภาพของแจ้งวัฒนะในอนาคตจะคล้ายกับสตอรี่ของย่านรัชดาครับ ประเด็นนี้ต้องรอดูกันต่อไป.
3. แจ้งวัฒนะ+เมืองทองมีทางด่วนเป็นโครงสร้างพื้นฐานไว้นานแล้ว
ย่านเกิดใหม่ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วหรือ Emerging Area นั้นจะต้องมีการเดินทางที่สะดวกและเชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมืองและโซนอื่นๆ ของเมืองได้โดยง่าย ในโลกปัจจุบันการเดินทางในเขตเมืองด้วย Urban Air Mobility หรือ UAM นั้นเป็นการเดินทางที่ไวมากที่สุดแต่ว่าวิธีนี้ยังไม่แพร่หลายเพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ยังต้องรอการพัฒนาก่อน ส่วนโครงข่ายการเดินทางที่ลัดและรวดเร็วที่สุดที่ประเทศไทยทำได้อยู่ในปัจจุบัน คือการใช้ทางพิเศษหรือทางด่วนนั่นเอง โครงสร้างพื้นฐานทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) นี้มีอยู่ในย่านแจ้งวัฒนะมานานแล้วตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 1993 ผ่านมา 28 ปีมาแล้ว เหตุผลนี้ทำให้คนที่อยู่ในย่านแจ้งวัฒนะและเมืองทองนั้นสามารถเดินทางไปรอบเมืองทั่วทิศได้อย่างสะดวกสบาย ช่วยให้การทำธุรกิจ ทำงาน พักอาศัยในย่านแจ้งวัฒนะนั้นสามารถเชื่อมต่อกับทำเลอื่นๆ รอบกรุงเทพได้เหมือนเครือข่ายใยแมงมุม เป็นข้อได้เปรียบมากกว่าทำเลอื่นที่ไม่มีทางด่วนเป็นของตัวเอง
ภาพทางขึ้นลงทางด่วนแจ้งวัฒนะ
ทางขึ้นลงทางด่วนแจ้งวัฒนะนี้เป็นจุดที่สามารถขับรถจากแจ้งวัฒนะมุ่งสู่ใจกลางเมืองกรุงเทพ, วิ่งจากแจ้งวัฒนะออกไปนอกเมืองสู่ทิศเหนือ ออกต่างจังหวัดไปอยุธยาได้ , เป็นจุดที่ใช้กลับรถภายในถนนแจ้งวัฒนะเองก็ได้, ส่วนรถที่วิ่งมาจากบนทางด่วนก็สามารถลงไปฝั่งปากเกร็ดหรือฝั่งหลักสี่ก็ได้ ถือว่าเป็นแยกมหัศจรรย์ที่ไปได้ทุกทิศทาง ผู้เขียนจึงขอเรียกว่า “แยก Chaengwattana Magic Circle” แยกนี้ Magic ยังไงลองคลิกดูวิดีโอสาธิตการกลับรถที่ Link นี้ครับ https://youtu.be/kdy5umWWER0