SHR ชูรายได้ไตรมาส 1 ปี 2565 โตกว่า 3 เท่าตัว มั่นใจธุรกิจฟื้นตัวโดดเด่น พร้อมวางเป้ารายได้ทั้งปีทะลุ 8,500 ล้านบาท
SHR เผยผลการดำเนินงานฟื้นตัวต่อโดดเด่น รายงานรายได้ในไตรมาสที่ 1 ที่ 1.69 พันล้านบาท และคาดว่าธุรกิจจะฟื้นตัวต่อเนื่องในทุกไตรมาส ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการเปิดเมืองของหลายประเทศทั่วโลก ดันให้รายได้ทั้งปี 2565 พุ่งแตะ 8.50 พันล้านบาท เติบโตเกือบเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา
บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘SHR’ บริษัทในเครือสิงห์ เอสเตท โชว์รายได้จากการขายและให้บริการในไตรมาส 1 ปี 2565 ที่ 1,690 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 3 เท่าตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมรายงานกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ จากการดำเนินงานปกติ (Adjusted EBITDA) ที่ 261 ล้านบาท นับเป็นการรายงาน Adjusted EBITDA ที่เป็นผลกำไรสามไตรมาสติดต่อกัน สะท้อนภาพการฟื้นตัวของภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฯ ได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากการขายและให้บริการของพอร์ตโรงแรมในสหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 คิดเป็นร้อยละ 78 ของรายได้รวมทั้งหมด โดยมาตรการผ่อนคลายการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผนวกกับปริมาณความต้องการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ และสาธารณรัฐมอริเชียส ส่งผลให้รายได้จากการขายและให้บริการในไตรมาสดังกล่าวของพอร์ตโรงแรมในประเทศไทย และพอร์ตโรงแรม Outrigger เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งสัญญาณบวกต่อรายได้ในอนาคตที่จะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด เมื่อหลายประเทศยกเลิกข้อจำกัดในการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ และการให้บริการเส้นทางบินต่างๆ สามารถดำเนินการได้อย่างเป็นปกติ
จากทิศทางการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของภาครัฐในหลายประเทศ ซึ่งจะทำให้ภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2565 เป็นต้นไป บริษัทฯ เริ่มเห็นสัญญาณบวกดังกล่าวจากสถิติการดำเนินงานในเดือนเมษายน ที่อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของทั้งพอร์ตโฟลิโอปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ร้อยละ 60 และคาดว่าจะมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2565 สอดคล้องกับการทยอยเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ ด้วยปัจจัยหนุนดังกล่าว ประกอบกับนโยบายด้านการบริหารจัดการและการลงทุนโรงแรมแบบกระจายความเสี่ยง ตลอดจนการยกระดับการบริการเพื่อสอดคล้องต่อความต้องการสูงสุดของนักท่องเที่ยว การเพิ่มช่องทางการจองที่พักโรงแรมโดยตรง (Direct Booking) จะทำให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายรายได้ของปี 2565 ที่วางไว้ราว 8,500 ล้านบาท และก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย