SCG ผนึกกำลัง THORR’s เปิดตัว “Soulcraft Collection” ยกระดับวัสดุซับเสียงสู่การออกแบบที่ยั่งยืนและมีอัตลักษณ์ More than Silence, It’s Sustainability
บริษัท สยามไฟเบอร์กลาส จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุอะคูสติกและการแก้ไขปัญหาเรื่องเสียง หนึ่งในกำลังสำคัญของธุรกิจ SCG Housing product business เดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน พร้อมตอบโจทย์ความยั่งยืน ผนึกความร่วมมือกับแบรนด์ THORR’s ผู้สร้างสรรค์งานหัตถกรรมร่วมสมัยที่มีรากฐานจากวัฒนธรรมท้องถิ่น เปิดตัวคอลเลกชันวัสดุซับเสียงใหม่ “Soulcraft Collection” ที่หลอมรวมระหว่างเทคโนโลยีอะคูสติกชั้นนำ และ ความงามทางศิลป์ของงานทอมือ สู่ทางเลือกใหม่ในการตกแต่งผนังเพื่อควบคุมเสียงอย่างมีสไตล์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนชุมชนไทย
“Soulcraft Collection” (โซลคราฟท์) เป็นคอลเลกชันใหม่ล่าสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ฉนวนซับเสียง SCG Cylence Zandera ที่โดดเด่นด้วยการดูดซับเสียงได้สูงถึง 75% (ค่า NRC 0.75) ผลิตจากวัสดุแก้วรีไซเคิล 100% โดยใช้ผ้าหุ้มที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ และการย้อมสีด้วยเปลือกมังคุด ออกแบบร่วมกับช่างฝีมือท้องถิ่น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับคุณภาพวัสดุซับเสียงให้ไม่เพียงแต่ใช้งานได้ดี แต่ยังส่งเสริมสุขภาพจิตใจ ความงามในพื้นที่ และการมีส่วนร่วมทางสังคม
คุณศิรินทร์ อัศวพัฒนานนท์ Portfolio Marketing Manager กล่าวว่า “SCG มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมวัสดุก่อสร้างที่ไม่เพียงตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งาน แต่ยังคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม การร่วมมือกับ THORR’s ครั้งนี้ เป็นการหลอมรวมจุดแข็งของเราในด้าน Acoustic Performance และ Green Product กับความสามารถด้านงานคราฟต์ของท้องถิ่นไทย เพื่อสร้างนวัตกรรมที่ ‘มากกว่าแค่ความเงียบ’ แต่คือความยั่งยืนในทุกมิติ”
ทางด้าน THORR’s ซึ่งมีวิสัยทัศน์ด้านการสร้างงานฝีมือร่วมสมัยจากภูมิปัญญาท้องถิ่น และส่งเสริมบทบาทของผู้หญิงและผู้สูงอายุในชุมชน ก็ได้เติมเต็มคอลเลกชันใหม่นี้ด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ใยกก พลาสติกรีไซเคิล และลวดลายจากเทคนิคมัดย้อมธรรมชาติ คุณธัญญ์นภัส ไชยจันทร์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ THORR’s และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทอร์ โกลบอล จำกัด กล่าวเสริมว่า “การร่วมงานกับ SCG ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายขีดความสามารถของงานหัตถกรรมไทย ด้วยการเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีวัสดุก่อสร้างขั้นสูง เราเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะสร้างแรงกระเพื่อมในวงการออกแบบ ที่สามารถตอบโจทย์ตลาด B2B เช่น โรงแรม โรงพยาบาล โรงภาพยนตร์ หรืออาคารราชการ ที่มองหาโซลูชันที่ทั้งสวยงาม มีประสิทธิภาพ และรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม”