‘โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้’ ชวนสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับ จัดบิ๊กเซอร์ไพรซ์ “Ocean Emerald Super Yacht Ultimate Experience” ซื้อคอนโดแถมทริปล่องเรือซูเปอร์ยอช์ทสุดพิเศษ
“โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้” อัดบิ๊กเซอร์ไพรซ์สู้โควิด ดึงกำลังซื้อตลาดคอนโดมิเนียมหรูพร้อมอยู่ในเมืองพัทยา
กับโครงการ “โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา” คอนโดมิเนียมตากอากาศแต่งครบพร้อมอยู่ริมหาดจอมเทียน มอบข้อเสนอสุดพิเศษกับแพ็กเกจซูเปอร์ยอช์ททริป 2 วัน 1 คืน มูลค่า 800,000 บาท* สัมผัสไลฟ์สไตล์เหนือระดับบนเรือซูเปอร์ยอช์ท “Ocean Emerald” ที่สุดยูนีคของโลก ชี้เวลานี้เป็นจังหวะของผู้ซื้อเพื่อ“อยู่เอง–ลงทุน” อย่างแท้จริง ขณะที่ภาพรวมตลาดพัทยามียูนิตลักชัวรี่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ปริมาณจำกัด ซัพพลายใหม่ชะลอโครงการยาวไปอีก 3 ปี
นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพครบวงจร เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์พัทยาในช่วงปัจจุบันที่ยังเกิดการระบาดโควิด-19 และรอให้สถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้นภายหลังการรับวัคซีนป้องกัน ด้วยศักยภาพของตลาดพัทยาที่แม้วันนี้ยังต้องรอให้สถานการณ์ต่างๆ กลับมาฟื้นตัว แต่ด้วยภาพรวมที่คอนโดมิเนียมพื้นที่ขนาดใหญ่พร้อมเข้าอยู่ อีกทั้งสามารถรองรับการพักผ่อนของสมาชิกในครอบครัวได้
มีจำนวนยูนิตที่ไม่มากนักในตลาด ทำให้ที่ผ่านมายังคงมีความต้องการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากผู้ที่กำลังมองหาบ้านตากอากาศหลังที่สอง หรือ การซื้อไว้เพื่อลงทุน ถือเป็นการเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงในการลงทุนด้านอื่นๆ ในช่วงเวลานี้
จากข้อมูลจากฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุว่าตัวเลขของสต็อกที่ก่อสร้างเสร็จแล้วพร้อมเข้าอยู่ เหลือขายอยู่เพียงแค่ประมาณ 1,350 ยูนิตเท่านั้นหรือเพียงแค่ 6.7% ของอุปทานที่เหลือขายอยู่ทั้งหมดในตลาดที่มีอยู่2 หมื่นยูนิต และพบว่าอุปทานในจำนวนที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและเหลือขาย 1,350 ยูนิต มีเพียงแค่ประมาณ 15 % เท่านั้นที่เป็นคอนโดมิเนียมระดับ Luxury Class และที่เป็นยูนิตขนาดใหญ่ โดยที่สินค้าในกลุ่มนี้มีโครงการของโอเชี่ยนฯ คือ “โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่จอมเทียน – พัทยา” เป็นหนึ่งในเซ็กเม้นท์นี้ ซึ่งมีจุดเด่นที่ห้องขนาดใหญ่พิเศษแบบ Over-Space Unit พร้อมอยู่
“บริษัทฯ มองว่าเป็นจังหวะและโอกาสของผู้ซื้อที่กำลังมองหาคอนโดตากอากาศพร้อมอยู่ในยูนิตขนาดใหญ่ และราคาเหมาะสมอาจต้องเร่งการตัดสินใจด้วยจำนวนยูนิตที่มีในตลาด และซัพพลายใหม่แบบพร้อมอยู่ทันทีเช่นนี้ที่จะเข้ามาเติมในตลาดคงต้องใช้เวลารวมก่อสร้างเสร็จอีกอย่างน้อย 3-5 ปี” นายณพงศ์ กล่าว