เอสบี ดีไซน์สแควร์ โชว์ศักยภาพผู้นำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ของไทย ล่าสุดจับมือแบรนด์ ‘คาซา รอคคา’ ผู้นำวัสดุพื้นผนังชั้นนำ เปิดตัว SBDS X CASA ROCCA SHOWCASE
เอสบี ดีไซน์สแควร์ ผนึกพลัง คาซา รอคคา (CASA ROCCA) ผู้นำแห่งวงการวัสดุปูพื้นและผนังดีไซน์สวยที่ใส่ใจในการเลือกใช้วัสดุเพื่อความยั่งยืน ร่วมเขย่าตลาดเฟอร์นิเจอร์ส่งท้ายปี เดินหน้านำเสนอนวัตกรรมวัสดุพื้นและผนังที่มีคุณภาพสูง ตอบโจทย์ทั้งด้านการออกแบบ ความทนทาน ความยั่งยืน และการใช้นวัตกรรม
พิเดช ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทเอสบีเฟอร์นิเจอร์ เปิดเผยว่า ความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้ ถือเป็นมิติใหม่ของวงการเฟอร์นิเจอร์เมืองไทย เสนอทางเลือกที่หลากหลายและเปิดอิสรภาพแห่งการดีไซน์ให้ลูกค้าสามารถคัดสรรวัสดุพื้นและผนังในแบบที่ต้องการ CASA ROCCA ถือเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านวัสดุก่อสร้างคุณภาพสูง โดยเฉพาะกระเบื้องและวัสดุสำหรับงานตกแต่งภายในและภายนอก ทั้งยังมีดีไซน์ที่หลากหลายทันสมัย มีคอลเลกชันของกระเบื้องและวัสดุหลายประเภท อาทิ ลายหินอ่อน ลายไม้ จนถึงดีไซน์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งตอบโจทย์เทรนด์การออกแบบบ้านและพื้นที่ใช้สอยที่ทันสมัย และยังให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้วัสดุที่ทนทานและมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งตรงกับวิสัยทัศน์ของ เอสบี ดีไซน์สแควร์ ที่ต้องการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน สามารถนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้าได้มากขึ้น ตอบโจทย์ทั้งในด้านคุณภาพและความต้องการของตลาดได้กว้างยิ่งขึ้น
“CASA ROCCA มีความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของตนเองซึ่งช่วยสร้างสีสันให้กับตลาดวัสดุก่อสร้างและตกแต่งภายในอย่างมาก ทั้งการออกแบบและดีไซน์วัสดุปูพื้นและผนังที่หลากหลาย สามารถปรับใช้กับการตกแต่งในหลายสไตล์ได้ ทั้งการออกแบบภายในแบบโมเดิร์น คลาสสิก หรือสไตล์ธรรมชาติ ด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ก็ได้รับการยอมรับในเรื่องความคงทนและการใช้งานในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องพอร์ซเลนที่มีความทนทานต่อการใช้งานหนัก หรือวัสดุไม้สังเคราะห์ที่ทนต่อสภาพอากาศ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ CASA ROCCA มีคุณภาพสามารถแข่งขันกับแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ ได้ ทั้งยังนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้พัฒนาวัสดุปูพื้นและผนัง เช่น กระเบื้องยางที่มีคุณสมบัติพิเศษในการป้องกันการลื่นและการเกิดรอย ซึ่งแบรนด์ทั่วไปอาจไม่ได้เน้นการพัฒนาด้านนี้อย่างชัดเจนเท่ากับ CASA ROCCA รวมถึงการให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองต่อแนวคิดความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์การก่อสร้างและตกแต่งในยุคปัจจุบันที่เน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย” นายพิเดช กล่าว
พรชัย รัตนเมธานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาซา รอคคา จำกัด กล่าวว่า “จากความสำเร็จกว่า 30 ปีของ CASA ROCCA วันนี้เราพร้อมและยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ SB Design Square เพื่อยกระดับประสบการณ์การเลือกวัสดุปูพื้นและผนังให้กับกลุ่มลูกค้า โดยมุ่งเน้นให้ลูกค้าได้เข้าถึงความสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้า และสำคัญคือการได้ร่วมมือกับ SB ซึ่งเป็นผู้นำและมีความเชี่ยวชาญด้านเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มความหลากหลายในการเลือกให้ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น วัสดุปูพื้นและผนังเป็นเหมือนองค์ประกอบหลักสำคัญของบ้าน รวมถึงสินค้าวัสดุปิดผิวที่ CASA ROCCA เองสามารถเสริมให้กับ SB ได้นั้น เมื่อมาอยู่กับเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวอย่างสินค้าที่มีคุณภาพของ SB อีกทั้งสินค้าของ CASA ROCCA ที่ต้องการเน้นย้ำความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม การที่ CASA ROCCA ได้จับมือกับ SB Design Square ในครั้งนี้ คือการได้ส่งเสริมบ้านที่สมบูรณ์แบบให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น ถือเป็นการเข้ามาร่วมสร้างความแข็งแกร่งให้กันและกันเพื่อให้ลูกค้าได้เกิดความเชื่อมั่น ทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมและเพื่อขยายตลาดสู่ฐานลูกค้าใหม่ในอนาคต”
โดยความร่วมมือของ เอสบี ดีไซน์สแควร์ และ CASA ROCCA ในครั้งนี้ จะเข้ามาเติมเต็มความต้องการของลูกค้าในกลุ่มที่เน้นการตกแต่งบ้านด้วยวัสดุที่สวยงามและมีดีไซน์เฉพาะตัว กลุ่มลูกค้าที่มองหาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและทนทาน กลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ กลุ่มลูกค้าที่ต้องการนวัตกรรมในการตกแต่งบ้าน และเพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสชมผลิตภัณฑ์คุณภาพที่หลากหลาย เอสบี ดีไซน์สแควร์ จึงได้เปิดตัว SBDS X CASA ROCCA SHOWCASE ขึ้น ที่ผสานความหรูหรา ทันสมัย และความยั่งยืนเข้าไว้อย่างลงตัว เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เหนือระดับในการตกแต่งและเลือกใช้วัสดุสำหรับบ้าน โดยวางคอนเซ็ปต์สโตร์แห่งนี้ตามแนวคิดแบบแกลอรี่ เน้นการโชว์ลวดลายและพื้นผิวให้ลูกค้าได้มองเห็น สัมผัสและเข้าถึงสินค้าได้ง่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสินค้ากระเบื้องพอร์ซเลน กระเบื้องยางแบบม้วน กระเบื้องยางแบบแผ่น (Dry Back, Click Lock) และไม้เทียมสังเคราะห์หรือ WPC ความน่าสนใจภายใน Store แห่งนี้คือสินค้าที่ CASA ROCCA ตั้งใจนำมาตกแต่งสโตร์โดยใช้พื้นกระเบื้องยางแบบแผ่น (LVT) มาปูพื้น หรืองานตกแต่งฝ้าและผนังบางส่วนที่นำไม้เทียมมาปิดผิวและสุดท้ายคือกระเบื้องพอร์ซเลนที่นำมาใช้เป็นท็อปโต๊ะภายในสโตร์