“เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้” เปิดวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนเต็มรูปแบบ ในงาน Sustainability Expo 2022 พร้อมชู “วัน แบงค็อก” โครงการต้นแบบสีเขียวระดับโลก
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนของ “วัน แบงค็อก” โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจร พร้อมมาตรฐานคุณภาพสูงสุด และใหญ่ที่สุดใจกลางเมืองกรุงเทพฯ และ “เดอะ ปาร์ค” โครงการมิกซ์ยูสระดับพรีเมี่ยม อย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก ในงาน Sustainability Expo 2022 (SX 2022) มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน ด้วยการจัดนิทรรศการมัลติมีเดีย ในโซน Better Community ชั้น G พร้อมเสวนาในหัวข้อ “ปรับอนาคตเมือง เปลี่ยนอนาคตเรา” และ “A Place for All – One Bangkok’s Sustainable Public Realm” ระหว่างวันที่ 26 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม 2565 เวลา 10.00 – 20.00 น.
วรวรรต ศรีสอ้าน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการ วัน แบงค็อก กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักของงาน Sustainability Expo 2022 เนื่องด้วยเรามีวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและสังคมเป็นหลัก ตลอดจนการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่ดีขึ้น โดยนำเสนอผ่านนิทรรศการ และเสวนาของ วัน แบงค็อก ที่เจาะลึกด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโครงการฯ รวมถึงการพัฒนาพื้นที่สาธารณะ ด้วยเป้าหมายที่จะเติบโตไปพร้อมกับกรุงเทพฯ ด้วยมาตรฐานของการพัฒนาเมืองระดับโลก”
วัน แบงค็อก เปิดโลกแห่งการเรียนรู้ 3 แกนหลักด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโครงการฯ อันประกอบด้วย
– ความยั่งยืนด้านสังคม โดยโครงการฯ ได้ถูกออกแบบให้มีพื้นที่สาธารณะสีเขียว ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่งกว่า 80,000 ตารางเมตร คิดเป็น 50% ของพื้นที่ทั้งโครงการ เพื่อเชื่อมต่อคน เมือง และธรรมชาติ และกำหนดให้มีทางเดินเท้ากว้างถึง 3 เมตร ทางเดินรวมทั้งโครงการยาวกว่า 5 กม. ปกคลุมด้วยร่มไม้ พร้อมทั้งมีงานศิลปะสาธารณะที่สอดแทรกอยู่ในเส้นทางเดิน ทั้งหมดนี้เป็นไปเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนได้ใช้ชีวิตนอกอาคาร พบปะกับผู้อื่น ออกกำลังกาย สูดอากาศบริสุทธิ์ เพื่อสุขภาพกายใจที่ดี
– ความยั่งยืนด้านเศรษฐกิจ โดยการรังสรรค์โครงการที่ใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและคุ้มค่า รวมถึงการเสริมประสิทธิภาพของการบริหารจัดการโดยการนำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้เพื่อลดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ การออกแบบอาคารและพื้นที่สาธารณะที่ดี จะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตและการทำงานที่ดีขึ้นของผู้คน ส่งผลต่อความก้าวหน้าทั้งในระดับปัจเจกบุคคล ชุมชน และเศรษฐกิจไทยโดยรวม
– ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ อาทิ ออกแบบสถาปัตยกรรมของอาคารและผนังอาคารที่มีฉนวนและกระจกอินซูเลท ช่วยกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้มากถึง 75% และเปิดรับแสงธรรมชาติ, ระบบเปิด-ปิดไฟอัจฉริยะ ควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่น, การรีไซเคิลน้ำเสียและกักเก็บน้ำฝนเพื่อนำมาใช้ โดยสามารถลดการใช้น้ำได้มากกว่า 7 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และ การรองรับน้ำท่วมระดับ 500 ปี ด้วยการออกแบบพื้นที่รับน้ำและระบบกักเก็บน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมในโครงการฯ และลดปัญหาน้ำท่วมชุมชนโดยรอบ เป็นต้น