อนันดาฯ โชว์ Backlog แกร่ง 11,371 ล้านบาท มั่นใจคอนโดเมืองไปต่อ!! หลังวิกฤตคลี่คลาย ชี้มาตรการแพ็กคู่กระตุ้นอสังหาฯ ช่วยหนุนตลาดฟื้นตัว เรียกความเชื่อมั่นกลับคืน มั่นใจมาตรฐานก่อสร้างคอนโดไทยผ่านบททดสอบแผ่นดินไหว
บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ครองตำแหน่งผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า โชว์ตัวเลข Backlog แข็งแกร่งกว่า 11,371 ล้านบาท หนุนการเติบโตระยะยาว มั่นใจ “ตลาดคอนโด” กระทบระยะสั้น แม้จะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว แต่มองว่ายังมีปัจจัยบวกที่มาช่วยหนุนให้ตลาดฟื้นตัว อาทิ อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มจะปรับลดลงในปีนี้ รวมถึงมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ออกมาทั้ง 2 มาตรการ คือ การปลดล็อค LTV และการลดค่าโอน-ค่าจดจำนอง เหลือ 0.01% ถือว่าเป็นแนวทางที่ดีต่อภาพรวมตลาดอสังหาฯ เชื่อว่าตลาดยังคงเดินหน้าต่อได้แม้ชะลอตัว ส่งผลดีต่อบริษัทฯ เพราะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อพร้อมผลักดัน Backlog และถือเป็นโอกาสทองของผู้บริโภคที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้ง่ายๆ หวังสร้างความเชื่อมั่นลูกค้ากลับมาโดยเร็ว ย้ำคอนโดติดรถไฟฟ้ายังเป็นที่ต้องการของคนเมือง ชี้หลังผ่านวิกฤต!! ดีมานด์คอนโดติดรถไฟฟ้า และวิถีชีวิตเมืองกลับมาอย่างแน่นอน
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจและภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่อจากนี้คาดว่าจะมีความท้าทาย และความไม่แน่นอนเกิดขึ้นตลอดเวลา ทุกองค์กรต้องปรับตัว ปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้สามารถก้าวผ่านวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปให้ได้ เช่นเดียวกับ อนันดาฯ ได้มีการวางแผนเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความเสี่ยง และความไม่แน่นอนต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมรองรับ ปรับเปลี่ยน ยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยมองว่ามาตรการต่างๆ ที่ทางภาครัฐออกมาช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์จะสามารถเป็นตัวช่วยให้ความมั่นใจกลับมาดีขึ้น เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงทุกอย่างก็จะกลับสู่ภาวะปกติ และเชื่อมั่นว่า “เมืองยังคงไปต่อ” เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการอาศัยในเมือง อยู่ใกล้แหล่งงาน แหล่งช้อปปิ้ง มีความสะดวกสบายในการเดินทาง จึงจำเป็นต้องเลือกอาศัยในคอนโดมิเนียมที่มีราคาจับต้องได้ เพราะเมือง คือ ศูนย์รวมแห่งการพัฒนาด้านการศึกษาแหล่งความรู้ แหล่งงาน และองค์กรชั้นนำ
อย่างไรก็ตาม อนันดาฯ ยังคงเน้นย้ำและให้ความสำคัญกับการรักษาวินัยทางการเงินไว้อย่างเข้มงวด โดยรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุน ณ สิ้นปี 2567 ไว้ที่ 1.22 เท่า และยึดมั่นในการชำระคืนหุ้นกู้ทุกงวดตามกำหนด โดยที่ผ่านมาได้ชำระคืนหุ้นกู้เต็มจำนวนตามกำหนด 100% ในปี 2566 – ไตรมาส 1/68 มูลค่ารวม 15,652 ล้านบาท และเตรียมชำระคืนหุ้นกู้ตามกำหนด ในวันที่ 9 มิถุนายน 2568 มูลค่า 2,276 ล้านบาท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัททุกราย ซึ่งการระดมเงินทุนในการเสนอขายหุ้นกู้ทุกครั้งได้นำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตแก่บริษัทฯ ด้วยการดำเนินงานภายใต้จุดยืน URBAN LIVING SOLUTIONS เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งช่วยในการแก้ปัญหาของชีวิตคนเมือง ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองให้ดีขึ้น โดยสามารถบรรลุเป้าหมายตามแผนงานที่วางไว้ ส่งผลให้ผลประกอบการในปีที่ผ่านมากลับมามีกำไรในรอบ 5 ปี และอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯ หลังจากนี้ ยังเป็นปีแห่งการประคับประคองธุรกิจ แม้จะมีปัจจัยหนุนจากแรงกระตุ้นของมาตรการภาครัฐที่ผลักดันการปลดล็อคมาตรการ LTV ให้ชั่วคราว รวมถึงมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจำนอง 0.01% ถือว่าเป็นมาตรการที่ออกมาในจังหวะที่ดีหลังตลาดอสังหาฯ เจอวิกฤตจากแผ่นดินไหวและการประกาศขึ้นภาษีของทรัมป์ ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ส่งผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ทั้งยอดขายและยอดโอน โดยภาพรวมมองว่าตลาดอสังหาฯ ยังมีปัจจัยบวกที่มาช่วยสนับสนุนทำให้ตลาดกลับมาฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ชะลอตัวจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ จากมาตรการดังกล่าว อนันดาฯ จะได้รับอานิสงส์อย่างเต็มที่ในด้านการโอนโครงการต่างๆ ด้วยจุดแข็งในฐานะผู้นำอสังหาริมทรัพย์ติดรถไฟฟ้าที่มีสินค้าที่ดีและมีคุณภาพพร้อมอยู่พร้อมโอนบนทำเลที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ มีโครงการระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท สูงกว่า 40% ของ Backlog ที่โอนภายในปีนี้ ซึ่งเข้าเกณฑ์ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ โดยในปี 2568 นี้อนันดาฯ มียอด Strong Backlog แล้วกว่า 11,371 ล้านบาท หรือคิดเป็น 79% จากเป้าหมายยอดโอน 14,500 ล้านบาท อนันดาฯ มีแผนที่จะโอนโครงการใหม่ คือ โครงการพร้อมเข้าอยู่ใหม่ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการไอดีโอ รามคำแหง-ลำสาลี สเตชั่น พร้อมโอนในไตรมาส 2 ส่วนโครงการคัลเจอร์ ทองหล่อ และโครงการคัลเจอร์ จุฬา พร้อมโอนในไตรมาส 3 มูลค่ารวมทั้ง 3 โครงการกว่า 12,078 ล้านบาท ทำให้บริษัทมั่นใจว่ายอดโอนปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน และคาดว่าจะช่วยหนุนยอดโอนและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯปีนี้
โดยในไตรมาสแรกของปี 2568 นี้ สามารถสร้างยอดขายกว่า 3,677 ล้านบาท ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือคิดเป็น Achieved 114 % และมีสัดส่วนยอดขายลูกค้าต่างประเทศกว่า 53% ของยอดขายรวมในไตรมาส 1 ปี 2568 เป็นการส่งสัญญาณดีขึ้น จึงให้ความเชื่อมั่นว่าการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการเงินที่ได้นำเงินมาใช้ในการขยายธุรกิจตามวัตถุประสงค์ รองรับการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศตามแผนงานที่วางไว้