ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ชี้หากไทยฟื้น ‘ส่งออก-ท่องเที่ยว’ ได้ จะสร้างเม็ดเงินคืนสู่ระบบเศรษฐกิจ ย้ำแผนการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ต้าน COVID-19 คือปัจจัยเสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักท่องเที่ยว
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐที่ตั้งเป้าสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้ภายในปี 2564 ด้วยการกระจายการฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดสนั้น และเปิดประเทศใน 120 วัน หากดำเนินตามแผนดังกล่าวได้ก็จะเป็นผลดีอย่างมากต่อภาพรวมเศรษฐกิจของไทย ดังที่ทราบกันดีว่ารายได้หลักของระบบเศรษฐกิจไทยมาจากภาคส่งออกและท่องเที่ยว หากไทยเดินหน้าฉีดวัคซีนได้มากพอก็จะสร้างความเชื่อมั่นให้ต่างชาติมั่นใจที่จะเดินทางเข้ามา ทั้งมาท่องเที่ยวหรือทำธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลทำให้เศรษฐกิจโดยรวมสามารถขับเคลื่อนไปได้ คาดว่าแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยจะขยับอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามลำดับ
“เมื่อกิจกรรมทางสังคมและกิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถเริ่มดำเนินการได้ กลไกโดยรวมก็จะเริ่มกลับสู่สภาวะปกติ ภาครัฐพยายามวางแผนนโยบายเพื่อเริ่มทำให้กลไกดังกล่าวเดินหน้า ดังจะเห็นได้จากแผนภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ที่เริ่มเปิดการท่องเที่ยวซึ่งถือเป็น New Model ก่อนที่จะเปิดประเทศ โดยจำกัดพื้นที่เฉพาะในแบบโครงการนำร่องพร้อมกำหนดมาตรการการดูแลด้านการระบาดของเชื้อ COVID-19 ตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข ซึ่งคงต้องรอดูผลลัพธ์ของโครงการดังกล่าว และคงต้องเรียนรู้ในการปรับแผนไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ การที่ล่าสุดรัฐได้ตั้งเป้าเปิดประเทศให้ได้ภายใน 120 วันนั้น นับเป็นอีกหนึ่งความพยายามที่จะฟื้นคืนเศรษฐกิจในองค์รวมเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องพิจารณาควบคู่ไปกับภาพรวมการฉีดวัคซีนและภาพรวมจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศด้วย” นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กล่าวแสดงมุมมองต่อแผนการเปิดประเทศเพื่อขับเคลื่อนกลไกทางเศรษฐกิจของรัฐ