ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ฉลองครบรอบ 40 ปี ตอกย้ำผู้นำการพัฒนาบ้านสไตล์ French Colonial รายแรกในไทย พร้อมสานต่อกลยุทธ์มุ่งสู่ “National Property Company” แบรนด์อสังหาฯ ในใจผู้บริโภค
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ก้าวสู่ปีที่ 40 อย่างสมภาคภูมิในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ พร้อมทั้งสร้างความแตกต่างด้วยการเป็นเจ้าแรกในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยที่นำเสนอบ้านสไตล์ French Colonial Style ซึ่งผสานเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสเข้ากับความทันสมัยและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยจากปัจจุบันสู่อนาคต
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจ ที่ดี’ เปิดเผยถึงการเดินทาง 40 ปีที่ผ่านมาว่า ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ไม่เพียงแต่เป็นผู้พัฒนาโครงการบ้าน แต่เรายังมุ่งพัฒนา ‘ความเชื่อมั่น’ และ ‘ความสุข’ เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าทุกหลัง โดยเน้นคุณภาพในทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกสรรทำเลคุณภาพ การออกแบบ งานด้านวิศวกรรม การก่อสร้าง จนถึงบริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดและมั่นใจในแบรนด์ของเรา โดยหนึ่งในความภูมิใจสูงสุดคือการเป็นผู้นำในการนำเสนอแบบบ้านสไตล์ French Colonial Style เป็นแบรนด์แรกในตลาดไทย ที่โดดเด่นด้วยเสน่ห์แบบคลาสสิกผสานกับความอบอุ่นและฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เหมาะกับครอบครัวไทยยุคใหม่ที่ต้องการบ้านที่ไม่เพียงแต่มอบความงดงาม แต่ยังให้ความสำคัญด้านความปลอดภัย และสร้างชุมชนสังคมที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน”
โดยหนึ่งในเอกลักษณ์ของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ คือการเป็นผู้บุกเบิกการออกแบบบ้านสไตล์ French Colonial Style ในประเทศไทย ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่มีรากฐานมาจากประเทศฝรั่งเศส โดยผสมผสานความคลาสสิกของเส้นสายและรายละเอียดประณีตกับบรรยากาศที่อบอุ่นและเปิดโล่ง เหมาะสำหรับสภาพอากาศเขตร้อนของไทย ด้วยดีไซน์ที่เน้นความโปร่งสบาย การระบายอากาศที่ดี และการใช้พื้นที่สีเขียวเป็นองค์ประกอบหลัก การออกแบบนี้ไม่เพียงแต่สร้างความโดดเด่นให้กับโครงการ แต่ยังช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัยด้วย เพราะบ้านแต่ละหลังถูกคิดมาอย่างละเอียดถึงความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและความต้องการของครอบครัวในยุคปัจจุบัน “ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพและนวัตกรรม การอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ยุคสมัยใหม่ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าสู่การเป็น 1 ใน 3 แบรนด์แรกในใจผู้บริโภคที่เลือกซื้อบ้านหลังแรก ด้วยการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพในทำเลศักยภาพทั่วประเทศ ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล ตลอดจนจังหวัดเศรษฐกิจสำคัญ และพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ เช่น EEC รวมถึงการขยายสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดท่องเที่ยวและตลาดใหม่ ๆ โดยชูจุดขายหลักที่การออกแบบบ้านเพื่อรองรับการอยู่อาศัยหลายเจนเนอเรชัน (Multi-Generation Living) เพื่อให้ครอบครัวไทยสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ พื้นไร้ระดับที่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุและเด็ก EV Charger รองรับพลังงานสะอาด รวมถึงการเลือกใช้วัสดุปลอดสาร VOC ที่ดีต่อสุขภาพผู้อยู่อาศัย” นายชูรัชฏ์กล่าวเสริม