ปีนี้ขายดี! “NOBLE” ท็อปฟอร์ม คาดสิ้นปีนี้ยอดขาย Pre-Sale แตะ 18,000 ลบ.ชัวร์ พร้อมส่งสัญญาณบวกดีมานด์ซื้อกลุ่มต่างชาติคึกคัก
บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ หรือ “NOBLE” ประกาศตอกย้ำความมั่นใจปีนี้ยอดขาย (Pre-Sale) ท็อปฟอร์ม คาดการณ์สิ้นปีแตะ 18,000 ล้านบาท เติบโต 21% (YoY) พร้อมส่งสัญญาณบวกดีมานด์ซื้อกลุ่มลูกค้าต่างชาติกลับมาคึกคัก มั่นใจยอดโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้มาตามแผน 11,000 ล้านบาท เติบโต 67% (YoY) จากการส่งมอบ 4 คอนโดมิเนียมใหม่ ระบุมูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่ปีนี้พุ่ง 18,400 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ สะท้อนศักยภาพและลูกค้าที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะลูกค้าต่างชาติที่มียอดขายเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 146% จากปีก่อน หนุน Backlog เป็น Highest Record ใหม่ พุ่งอยู่ที่ระดับ 27,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้ยาวถึงปี 25714
“…หากเรามองย้อนหลังไปก็จะพบว่าประเทศไทยค่อนข้างโชคดีในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่ไม่สูงมากเกินไป โดยเราหลุดพ้นจากโควิดมาด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว เมื่อรวมกับการลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ก็น่าจะส่งผลบวกต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคได้บ้าง เช่นเดียวผลการดำเนินงานของเรา ทั้งนี้ในปีนี้เรามีผลประกอบการที่ดีขึ้น โดยเฉพาะยอดพรีเซล ยอดโอน และเปิดโครงการใหม่ เช่นเดียวกับกำลังซื้อต่างชาติที่โตถึง 146% และเป็นลักษณะพิเศษที่ช่วย Drive ยอดขายของเราในแบบที่แตกต่างจากรายอื่น โดย NUE Epic Asok-Rama 9 มูลค่ากว่า 12,500 ล้านบาท ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความสำเร็จจากผลตอบรับล้นหลามทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งสร้างยอดขายไปแล้วมากกว่า 50% ของทั้งโครงการ นับเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในปีนี้ …” นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE
ทั้งนี้ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา (มกราคม-ตุลาคม 2567) บริษัทฯ มียอดขายรวม (Pre-Sale) สะสมทุกโครงการแล้วกว่า 14,300 ล้านบาท เติบโตขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งถือว่าเป็นระดับใกล้เคียงกับช่วง 10 เดือนแรกของปี 2563 ที่ NOBLE เคยทำสถิติยอดขายสูงสุด โดยตลาดต่างชาติเป็นอีก Key Success หลักที่เป็นแรงขับเคลื่อนในการผลักดันยอดขายเติบโตจนประสบความสำเร็จ และคาดว่าโครงการ นิว เอปิค อโศก-พระราม 9 จะได้รับผลตอบรับทางด้านยอดขายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทมีคาดการณ์ยอดขาย (Pre-Sale) จนถึงสิ้นปีแตะ 18,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 21% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า (YoY)”