“ซิซซา กรุ๊ป” เปิดแผนลงทุนภูเก็ต 4 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 8 พันล้านบาท ชูจุดขาย “เมดิคอล เวลเนส รีสอร์ต” สอดรับมาตรการภาครัฐ หนุนภูเก็ต เป็น “Medical Hub” ภูมิภาคอาเซียน ดึงบุคลากรการแพทย์ไทย-ต่างชาติ เสริมทีมแกร่ง
ซิซซา กรุ๊ป วอนหลังจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ เร่งจัดแคมเปญกระตุ้นท่องเที่ยวภูเก็ตกลับคืน ช่วยดันภาคอสังหาฯโต เผยกลุ่มลูกค้าหลักยังเป็นชาวรัสเซียหนีภัยสงครามหาซื้อพูลวิลล่า ราคา 6 – 100 ล้านบาท เป็นบ้านหลังที่สองสูงถึง 80% ระบุผู้ประกอบการรายใหญ่–ท้องถิ่น แข่งเดือดผุดพูลวิลล่า ทำเลบางเทา ลายัน ราไวย์ และในหาน มาแรง ด้านราคาที่ดินหลังโควิด-19 ปรับเพิ่มขึ้น 20% ป่าตองยังแพงสุด 200 ล้านบาท/ไร่ เดินหน้าแผนปี 66 เตรียมเปิด 4 โครงการใหม่ รวมมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท มั่นใจธุรกิจเมดิคอลแข็งแกร่ง เป็นรายแรกที่บุกตลาดเข้าลงทุน “เมดิคอล เวลเนส รีสอร์ต” สอดรับมาตรการภาครัฐหนุนภูเก็ตเป็น “เมดิคอล ฮับ” ภูมิภาคอาเซียน ชูจุดขายบุคลากรทางการแพทย์ทั้งใน–ต่างประเทศ เครื่องมือทันสมัย ด้าน “วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต” เปิดให้บริการแล้ว
นายอรรถนพ พันธุกำเหนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนรูปแบบ “Investment Property” (IP) ชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดท่องเที่ยวในจ.ภูเก็ต ว่าที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักท่องเที่ยว ซึ่งส่งผลดีต่อภาคธุรกิจอสังหาฯด้วย เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่แล้ว ก็อยากให้มีการส่งเสริมแคมเปญดึงนักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทยและภูเก็ตมากขึ้น อีกทั้งควรดูแลเรื่องระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานในจ.ภูเก็ต ด้วยการเข้าไปลงทุนให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเมื่อการท่องเที่ยวดีก็จะส่งผลดีต่อภาคอสังหาฯอย่างต่อเนื่อง
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯในจ.ภูเก็ตตั้งแต่ปลายปี 2565 ถึงต้นปี 2566 มองว่านักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา ส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรม และที่อยู่อาศัย ทำให้เกิดการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น โดยกลุ่มผู้ซื้อหลักยังเป็นชาวรัสเซียถึง 80% เนื่องจากหนีภัยสงครามมาหาซื้อบ้านหลังที่สองในจ.ภูเก็ต โดยเฉพาะตลาดพูลวิลล่า ระดับราคา 6-100 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้าส่วนช่วงไตรมาส 3/2566 ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ตลาดภูเก็ตจะค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบกับช่วงไฮซีซั่น จากเดิมที่คาดหวังว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมามากขึ้น แต่กลับไม่เป็นไปตามคาดการณ์ ซึ่งต้องรอดูช่วงไฮซีซั่นในปลายปีนี้อีกครั้งหนึ่ง
ส่วนการลงทุนของผู้ประกอบการในปี 2566 นี้ พบว่า มีการพัฒนาโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะพูลวิลล่ามากขึ้น ทั้งจากผู้ประกอบการในท้องถิ่นและจากกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เป็นตลาดแมส ระดับราคา 7-30 ล้านบาท โดยกระจายพัฒนารอบเกาะภูเก็ต ในส่วนของดีมานด์นั้น พบว่ามีความต้องการมากขึ้น เพราะซัพพลายพูลวิลล่าในช่วงที่ผ่านมาไม่เพียงพอกับดีมานด์ ทำให้หลังวิกฤติโควิด-19 คลี่คลาย ตลาดพูลวิลล่ามียอดขายที่ดีมาก โดยทำเลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือโซนลากูน่า แถวหาดบางเทา หาดลายัน โซนถัดมาคือ ราไวย์ และในหาน ส่วนตลาดคอนโดฯมีการพัฒนาน้อยกว่าเดิม เนื่องจากในช่วงวิกฤติโควิด-19 ดีมานด์หันมาซื้อที่อยู่อาศัยประเภทบ้านและวิลล่ามากขึ้น
“ช่วงโควิด-19 ราคาที่ดินไม่พุ่งมากนัก โดยปัจจุบันปรับเพิ่มขึ้นมาประมาณ 20% ซึ่งราคาที่ดินที่สูงสุดปัจจุบันยังอยู่ที่ป่าตองในบางทำเล ราคาสูงถึงประมาณ 200 ล้านบาท/ไร่ ซึ่งภูเก็ตยังมีพื้นที่ให้พัฒนาพอสมควร แต่ด้วยดีมานด์ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ ผู้ประกอบการจะไม่แข่งขันสูงเหมือนเช่นในกรุงเทพฯ” นายอรรถนพ กล่าว