ชาญอิสสระ รุก 3 โปรเจ็กต์ระดับอัลตร้าลักชัวรี่ ทั้งกรุงเทพกรีฑา–ภูเก็ต มูลค่ากว่า 12,000 ลบ.ยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัยมิติใหม่เพื่อสุขภาพครบวงจร
ชาญอิสสระ เดินหน้าเปิด 3 โครงการหรู มูลค่ารวมกว่า 12,000 ล้านบาท ลุยเซกเมนต์อัลตร้าลักชัวรี่ ครอบคลุม 2 ทำเลศักยภาพกรุงเทพกรีฑา – ภูเก็ต มั่นใจตลาดยังมีเรียลดีมานด์ ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มคนไทย ต่างชาติ และนักลงทุน พร้อมผนึกพันธมิตรด้านสุขภาพระดับเวิลด์คลาส BDMS Wellness Clinic เสริมวิสัยทัศน์ Issara Living Vision ชูด้าน Quality, Wellness และ Sustainability ผ่าน 6 มิติหลัก ตอบรับเทรนด์การใช้ชีวิตแบบยั่งยืน พร้อมจัดงาน FIRST LAUNCH VVIP DAY – THE LEGACY OF ISSARA LIVING 1 พ.ย. 10.00 – 17.00 ณ Issara Lounge ชั้น 10 อาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 2 ถ. เพชรบุรีตัดใหม่
นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับอัลตร้าลักชัวรี่ว่ายังคงมีแนวโน้มดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน 2 ทำเลศักยภาพหลักอย่างกรุงเทพกรีฑา และ ภูเก็ต ซึ่งสะท้อนความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาที่อยู่อาศัยคุณภาพสูงในทำเลที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตและการลงทุน โดยกรุงเทพกรีฑา ปัจจุบันได้รับการยกระดับให้เป็นหนึ่งในย่านที่อยู่อาศัยชั้นนำของกรุงเทพฯ ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ทั้งทางด่วนมอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้าสาย สีเหลือง และโครงการเชื่อมต่อเมืองฝั่งตะวันออก ทำให้พื้นที่นี้กลายเป็น Luxury Residential Hub หลักของกรุงเทพมหานคร
ขณะที่ภูเก็ตยังคงเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกของนักลงทุนและผู้ซื้อระดับบน โดยเฉพาะคนไทย กลุ่มต่างชาติจากรัสเซีย จีน ยุโรป มิดเดิลอีสต์ และสิงคโปร์ ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และจากข้อมูลระบุว่าความต้องการครอบครองบ้านพูลวิลล่าในภูเก็ตเพิ่มขึ้นกว่า 30% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในทำเลทองอย่าง บางเทา – ลากูน่า – เชิงทะเล เพราะเป็นพื้นที่ที่มีชายหาดสวยงาม มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่ตั้งของโครงการระดับหรูมากมาย เช่น วิลล่าหรู แบรนด์เรสซิเดนซ์ โรงแรมหรู สนามกอล์ฟ และคอมเพล็กซ์มิกซ์ยูส นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมไลฟ์สไตล์หลากหลาย ทั้งกีฬาทางน้ำ ร้านอาหารชั้นเลิศ และบีชคลับที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้พำนักระยะยาว
“ชาญอิสสระมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่มาอย่างยาวนาน เรามีผลงานที่ประสบความสำเร็จหลายโครงการทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม ในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดโดยเฉพาะในภูเก็ต ศรีพันวา เป็นแลนด์มาร์กระดับไอคอนิกของประเทศไทย ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึงความเข้าใจในดีมานด์ของตลาดระดับบนและเมื่อมองเห็นศักยภาพของทำเล บางเทา–เชิงทะเล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สมบูรณ์แบบทั้งด้านโลเคชั่น มีลากูน วิวทิวเขาที่สวยงาม และไลฟ์สไตล์ระดับโลก เราจึงพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างแท้จริง” นายสงกรานต์ กล่าว
จากภาพรวมของอสังหาฯ ทั้งโซนกรุงเทพกรีฑาและภูเก็ต ที่มีแนวโน้มที่ดีและกำลังซื้อต่อเนื่องในกลุ่มลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ ชาญอิสสระจึงเตรียมเปิด 3 บิ๊กโปรเจ็กต์ใหม่ พร้อมเดินหน้าจับกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ประกอบด้วย ทำเลกรุงเทพกรีฑา ได้เตรียมเปิด 2 โครงการใหญ่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 4,800 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการ อิสสระเรสซิเดนซ์ พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา (Issara Residence Rama9 – Krungthep Kreetha) A New Legacy Of Wellness Living มรดกแห่งการอยู่อาศัยท่ามกลางธรรมชาติเพื่อสุขภาวะที่ยั่งยืน – เรสซิเดนซ์ส่วนตัวระดับอัลตราลักชัวรี่บนทำเลศักยภาพกรุงเทพกรีฑา ที่ดิน 19 ไร่ จำนวนเพียง 23 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 806 -1,229 ตร.ม.ขนาดที่ดิน 142 – 271 ตร.ว.จำนวน 5 – 6 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 85 ล้านบาท โครงการบ้านอิสสระ พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา (Baan Issara Rama9 – Krungthep Kreetha) A Luxury Beyond Extraordinary Living ชีวิตเหนือระดับที่ให้คุณมากกว่าความเป็นบ้านด้วย The Freedom Clubhouse สุดพิเศษ ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเติมเต็มความสุขและคุณภาพชีวิตในทุกวัน เป็นบ้านเดี่ยวระดับ Luxury บนที่ดิน 21 ไร่ จำนวน 68 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 283 – 466 ตร.ม.ขนาดที่ดิน 62 – 155 ตร.ว. จำนวน 3 – 4 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการนี้ได้รับการออกแบบโดย บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49)
ขณะที่ในส่วนของโซนภูเก็ต พร้อมเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ในทำเลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของภูเก็ตตอนนี้อย่างบางเทา – เชิงทะเล โครงการศรีพันวา ลากูน (Sri panwa Lagoon) The New Legacy Begins เป็นโครงการ Mixed – use บนที่ดิน 62 ไร่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 7,300 ล้านบาท พัฒนาโดยบริษัท อิสสระนพร จำกัด (ISN) โดยเฟสแรกจะดำเนินการก่อสร้างในส่วนของ Sri panwa Lagoon Residence ประกอบด้วย Sri Panwa Lagoon Waterfront Pool Villa ลักซ์ชัวรี่พูลวิลล่า สุด Exclusive จำนวน 20 หลัง ติดริมลากูน วิลล่า 3 – 6 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 268.24 – 964.22 ตร.ม. พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว โดยแนวความคิดต้องการให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ รอบลากูนและ ลำธารที่เชื่อมต่อกับลากูน เสริมบรรยากาศให้อยู่สบายยิ่งขึ้น ราคาเริ่มต้นที่ 43.8 – 182 ล้านบาท และ Sri Panwa Lagoon Multi – flex House จำนวน 14 หลัง ออกแบบเป็น Multi-function สามารถใช้เป็นที่พักอาศัย ร้านค้า หรือปรับให้เป็นสำนักงานของบริษัท รูปแบบเป็นอาคาร 3 ชั้น ติดถนนใหญ่ที่กว้างถึง 20 เมตร ยังซึมซับธรรมชาติของวิวลากูนและวิวทิวภูเขา ราคาเริ่มต้น 39.8 – 72.8 ล้านบาท Sri panwa Lagoon ออกแบบงานสถาปัตยกรรม โดยบริษัท แฮบบิต้า จำกัด (Habita Architects) ผู้ออกแบบโครงการศรีพันวา ภูเก็ต