รองศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่าโครงการ AI กับข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป็นการต่อยอดการพัฒนานวัตกรรมในโครงการความร่วมมือ Chula – HOME dot TECH ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับ ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ซึ่งครั้งนี้มีองค์กรภาครัฐ คือ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) เข้ามาร่วมโครงการด้วย นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญของภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย
โครงการ Chula – HOME dot TECH มุ่งเน้นอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคเป็นหลัก โดยนำความรู้ Data Science และ Machine Learning มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เริ่มจากข้อมูลจาก www.home.co.th และสร้างเครื่องมือใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภคได้ “ค้นหา” และ “เลือกซื้อ” ที่อยู่อาศัยให้ตรงกับความต้องการ เหมาะสม ในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม จึงลดความเสี่ยงในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคได้
คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเพิ่มเติมว่าโครงการสร้าง AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลอสังหาฯ ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อมหภาคเป็นหลัก เช่น ภาครัฐที่เป็นผู้กำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจ สถาบันการเงิน ผู้ประกอบการ รวมถึงประชาชนทั่วไปก็ได้ประโยชน์เช่นกัน โดยข้อมูลที่จะนำมาวิเคราะห์จะมีทั้งข้อมูลแบบมีโครงสร้าง (Structured Data) ข้อมูลแบบไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Data) ข้อมูลเชิงสถิติและข้อมูลจากการสำรวจของ REIC รวมถึงข้อมูลพฤติกรรมของผู้ซื้อตลอดจนผู้สนใจซื้อที่อยู่อาศัยจากอินเทอร์เน็ตที่ดำเนินการโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ HOME dot TECH
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) กล่าวว่า REIC ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการใช้เทคโนโลยียุคใหม่ ทั้ง Data Science, Machine Learning และ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล ทำให้งานสนับสนุนด้านข้อมูลอสังหาริมทรัพย์แก่หน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งเป็นภารกิจหลักของ REIC ก้าวหน้าไปอีกขั้นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“เรามีแผนจะทำหลายอย่าง เช่น สร้างแบบจำลองพยากรณ์สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากผลกระทบหรือปัจจัยด้านต่างๆ พัฒนาดัชนีชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาฯ โดยเฉพาะการวิเคราะห์ Demand หรืออุปสงค์ความต้องการของตลาดอสังหาฯ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เราจะได้ข้อมูลความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่แท้จริงในแต่ละช่วงเวลาหรือแต่ละปี รวมถึงระบบ
เตือนภัยภาวะฟองสบู่อสังหาฯ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญมากต่อผู้ประกอบการในการวางแผนลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และคนซื้อบ้านเองก็สามารถใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจซื้อได้อย่างแม่นยำ”
ด้านนายบริสุทธิ์ กาสินพิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร HOME dot TECH กล่าวว่า HOME dot TECH เป็นบริษัทในเครือ “โฮมบายเออร์ กรุ๊ป” (Home Buyers Group) เป็นเสมือนหน่วยวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคได้ซื้อที่อยู่อาศัยตรงความต้องการและมีความสะดวก ช่วยให้ผู้ประกอบการได้พบและสื่อสารตรงกับลูกค้าในอนาคต (Lead) โดยอาศัยเทคโนโลยี Data Science และ Machine Learning มาค้นหา fact จากข้อมูลขนาดมหาศาล เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้บางอย่างที่เดิมไม่สามารถตรวจสอบได้
ภายใต้โครงการ Chula – HOME dot TECH ที่ร่วมมือกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบัน HOME dot TECH ได้พัฒนา “Home Hop” แอปพลิเคชันค้นหาที่อยู่อาศัยจากการเดินทางและไลฟ์สไตล์ เป็นแอปฯ ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่เหนือความคาดหมายในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย (Beyond Personal Experience) เนื่องจากมีการใช้ AI เข้ามาวิเคราะห์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดให้ทดลองใช้ รวมถึง “Home Event App” เครื่องมือในการ Matching ผู้ซื้อและผู้ขายที่จะไปร่วมงานแสดงสินค้าที่อยู่อาศัย ซึ่งได้อัพเกรดเวอร์ชั่นให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและโครงการมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมี “รายงานภาวะตลาดที่อยู่อาศัย ด้าน Demand Side และรายงานพฤติกรรมผู้บริโภค จาก Big Data” ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ธุรกิจอสังหาฯ จะได้ผลวิเคราะห์ใหม่ ๆ จากฝั่งผู้บริโภคโดยตรงและมีความแม่นยำ วิเคราะห์จากฐานข้อมูลบนเว็บไซต์ www.home.co.th ที่มีปริมาณมาก เนื่องจากในแต่ละวันมีทราฟฟิคหรือ User ที่เข้ามาใช้บริการบนเว็บไซต์ถึงเดือนละกว่า 1,000,000 Session หรือปีละกว่า 12 ล้าน Session รวมถึงฐานข้อมูลโครงการที่อยู่อาศัยที่มากกว่า 4,000 โครงการ
นายบริสุทธ์ ยังกล่าวถึงความร่วมมือทั้ง 3 ฝ่าย ในการร่วมสร้าง AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลอสังหาฯ ว่าจะช่วยให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์พัฒนาอย่างมีเสถียรภาพ และเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายโดยเฉพาะในระดับมหภาค ผู้ประกอบการและผู้บริโภค