การลงทุนจากต่างชาติหนุนโอกาสธุรกิจโรงงานอุตสาหกรรมและคลังสินค้า 3 อุตสาหกรรม S-CURVE ใหม่ขยายตัว 30%-172% ในปี 2562 – 2564 โดยมีเม็ดเงินลงทุนรวมกว่า 9.8 หมื่นล้านบาท
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเกือบทุกภาคส่วนต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวรวมถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
และภาวะสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนในปัจจุบันล้วนเป็นตัวเร่งดิสรัปชั่นให้เศรษฐกิจโดยรวมเกิดปัญหา การพลิกฟื้นของธุรกิจโดยรวมในปัจจุบันยังเกิดขึ้นได้อย่างช้าๆ เป็นที่ทราบกันดีว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลักของประเทศที่เกิดขึ้นได้นั้นมาจากภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นโอกาสในการลงทุนในช่วงวิกฤต ภาคอุตสาหกรรมมีการปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากการนำเข้า-ส่งออก เริ่มมี
อุปสงค์มากขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าต่างๆ ด้านเม็ดเงินการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมในไทย มีการเพิ่มขึ้นหลายภาคส่วน โดยเฉพาะในกลุ่มปิโตรเคมี อาหาร และการแพทย์ ส่วนด้านกิจกรรมการขนส่งภายในประเทศยังคงมีความต้องการต่อเนื่องจากการค้าออนไลน์ และนโยบาย Work from home ทำให้ประชาชนมีการสั่งสินค้าออนไลน์มากขึ้น นอกจากนี้กลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่มีความน่าสนใจ เนื่องจากมีการลงทุนจากต่างชาติเพื่อจัดตั้งโรงงาน และผลิตในไทย เชื่อว่าจะเป็นการเพิ่มความต้องการในอสังหาฯ ประเภทคลังสินค้าให้เช่าในอนาคต
ในปี 2564 ที่ผ่านมาเราพบว่าสถิติการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนของต่างชาติมีเม็ดเงินลงทุนรวมกว่า 642,680 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2562 ช่วงก่อนวิกฤติโควิด-19 ที่มีจำนวนเงินลงทุนรวมทั้งหมด 691,386 ล้านบาท นอกจากนี้สัดส่วน FDI หรือการลงทุนจากต่างประเทศ ในปี 2564 นั้นมีสัดส่วนสูงถึง 76.73% สูงกว่าปี 2562 ช่วงก่อนวิกฤติโควิด-19 ที่มีสัดส่วน 66.95% ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีก 1-2 ปีข้างหน้า เมื่อโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการขอรับการส่งเสริมเริ่มทยอยได้รับการอนุมัติ