ในโลกที่ภัยพิบัติต่างๆ ทั้งพายุและไฟป่ามีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นบ่อยกว่าเดิม การคิดค้นและออกแบบบ้านรูปแบบใหม่ไว้รับมือกับภัยทางธรรมชาติที่กำลังใกล้เข้ามาถือเป็นเรื่องที่ดี บ้านรูปแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้นนี้จึงไม่ได้สร้างจากไม้หรือวัสดุก่อสร้างตามปกติทั่วไป แต่ใช้สิ่งที่เรียกว่า ไบโอ-เซรามิค (Bioceramic) ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อความเสียหายและมีต้นทุนที่ถูกกว่าวัสดุก่อสร้างโดยทั่วไป

บ้านที่ว่านี้ได้รับการออกแบบจากบริษัทสตาร์ทอัพ Geoship สร้างบ้านออกมาในรูปแบบของโดมและมีแผนจะสร้างเป็นคอมมูนิตี้อย่างเต็มรูปแบบ โครงการนี้ได้รับความสนใจจาก Zappos เว็บไซต์ขายรองเท้าออนไลน์ต้นกำเนิดของบริษัทแห่งความสุข จนในที่สุดก็ได้ร่วมมือกันเพื่อที่จะสร้างหมู่บ้านโดมเล็กๆ ในลาสเวกัสใกล้กับสำนักงานใหญ่ของ Zappos โดยวางแผนที่จะให้บ้านโดมเหล่านี้เป็นที่พักแก่คนไร้บ้านในเมือง

บ้าน Geoship ออกแบบด้วยแนวคิดทำให้บ้านเป็นมิตรต่อโลก (Earth-Friendly Homes) วัสดุที่ใช้ในการสร้างบ้านโดมมีข้อดีมากมาย โดยเฉพาะในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศและเกิดภัยทางธรรมชาติบ่อยครั้งอย่างทุกวันนี้ เซรามิคสามารถทนอุณหภูมิได้สูงถึง 2,700  องศาฟาเรนไฮต์ หรือประมาณ 1,480 องศาเซลเซียส (ในขณะที่จุดหลอมเหลวของทองอยู่ที่ราวๆ 1,943 องศาฟาเรนไฮต์) บ้านจึงสามารถทนไฟได้และยังสามารถสะท้อนความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้มากกว่า 80% ช่วยให้รักษาความเย็นภายในบ้านท่ามกลางคลื่นความร้อนได้ ความแข็งแรงของวัสดุบวกกับรูปทรงโดมของตัวบ้านช่วยให้ทนทานต่อพายุเฮอริเคน อีกทั้งยังต้านแมลงและเชื้อรา มีความสามารถในการดูดซับน้ำเล็กน้อยในภาวะน้ำท่วม และในสถานการณ์แผ่นดินไหวบ้านจะยังคงสามารถตั้งอยู่ได้เนื่องจากรูปทรงโดมของมันและมีพันธะเคมีภายในวัสดุที่เชื่อมตัวกันเป็นอย่างดี

Geoship คาดการณ์ว่าบ้านของพวกเขาจะมีอายุได้ถึง 500 ปี หากผู้อาศัยต้องการลงหลักปักฐานบ้านในพื้นที่ที่เฉพาะเจาะจงอย่างพื้นที่เหนือระดับน้ำทะเล ตัวบ้านก็สามารถแยกส่วนและนำไปประกอบขึ้นใหม่ได้ รวมถึงในอนาคตข้างหน้าหากต้องการซ่อมแซมบ้าน เจ้าบ้านสามารถเลือกใช้วัสดุชนิดเดียวกันได้ดังเดิมเพราะไบโอ-เซรามิคมีคุณสมบัติคล้ายกาวที่สามารถเชื่อมต่อตัวภายในตัวของมันเอง

ทางบริษัทอ้างว่าทั้งหมดนี้สามารถลดต้นทุนไปได้ถึง 40% จากการสร้างบ้านแบบปกติ โดยเซรามิคสามารถถูกสร้างขึ้นจากฟอสเฟตซึ่งสามารถรีไซเคิลได้จากน้ำเสีย แผ่นกรุผนังต่างๆ ถูกสร้างจากโรงงานและสามารถขนส่งไปประกอบที่หน้างานในวันจริงได้ ซึ่งช่วยให้ประหยัดต้นทุนค่าแรงงาน

ตัวบ้านถูกออกแบบให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้าถึงภายใน อากาศบริสุทธิ์จากช่องลมทางด้านบนและล่างของโดมช่วยให้บ้านเย็นอย่างเป็นธรรมชาติ การติดตั้งบ้านจากวัสดุเซรามิคที่เติมอากาศเข้าไปภายในช่วยให้บ้านมีความเป็นกลาง สามารถให้ทั้งความอบอุ่นและความเย็นสบายได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานจากภายนอก อีกทั้งวัสดุยังไม่ก่อให้เกิดมลพิษภายในบ้าน

กว่าจะมาเป็น Geoship

โครงสร้างบ้านแบบทรงกลมคล้ายลูกฟุตบอลถูกพยายามทำให้เป็นที่นิยมจากสถาปนิกยุคศตวรรษที่ 20 Buckminster Fuller ผู้ซึ่งออกแบบไว้ให้เป็นทางเลือกของบ้านในยุคหลังสครามโลกครั้งที่สองแต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร Bierschenk ผู้ก่อตั้ง Geoship มองว่าการมีวัสดุชนิดใหม่จะเข้ามาช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ให้กับการออกแบบทางสถาปัตยกรรมในปัจจุบันได้มากยิ่งขึ้น

เส้นทางสู่การเป็นผู้ประกอบการของ Bierschenk นั้นไม่ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนัก เขาเคยทำงานเป็นวิศวกรอยู่ที่ Intel ในช่วงยี่สิบต้นๆ ก่อนที่จะลาออกไปท่องโลกกว้าง หลังจากนั้นก็กลับมาด้วยความหวังว่าจะสร้างบ้านเล็กๆ ให้ตัวเองสักหลังแต่ก็ต้องพบว่าเขาเองไม่มีปัญญาที่จะซื้อที่ดินมาเป็นของตัวเอง เขาจึงนำเรือเก่าๆ ออกมาฟื้นฟูสภาพก่อนที่จะออกไปท่องโลกอีกครั้ง ในปี 2011 เขาได้ย้ายไปที่ไอซ์แลนด์และทำงานกับ Wikileaks ไม่กี่ปีหลังจากนั้นเขากลับไปที่บ้านเพื่อช่วยพี่ชายสร้างบ้านจากวัสดุเก่าเหลือใช้ ระหว่างนั้นเองเขาฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าทำไมพวกเรายังคงตอกตะปูลงไปในไม้เวลาสร้างบ้านเหมือนอย่างที่คนทำกันเมื่อ 100 ปีที่ผ่านมา และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของ Geoship

พวกเขานึกถึงข้อดีของที่อยู่อาศัยรูปทรงโดมที่ทั้งแข็งแรงและมีประสิทธิภาพ ในระหว่างการค้นคว้าหาข้อมูลเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับส่วนประกอบของเซรามิคที่ได้รับการพัฒนามาก่อนแล้วจาก Argonne National Labs สำหรับใช้ในการห่อหุ้มของเสียจากนิวเคลียร์ พวกเขาจึงระลึกได้ว่าวัสดุแบบนี้น่าจะสามารถนำมาขึ้นรูปชิ้นส่วนสามเหลี่ยมแล้วนำไปใช้ในการสร้างบ้านโดมได้ด้วย

เพื่อให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงินในอนาคต Geoship วางแผนช่วยสร้างชุมชนแห่งความไว้เนื้อเชื่อใจให้เกิดขึ้น พวกเขาพยายามคิดถึงวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาการเข้าถึงราคาบ้านของผู้คนและเจ้าของที่ดินอย่างแท้จริง บริษัทได้สร้างแพลตฟอร์มให้กลุ่มคนเข้าไปร่วมกันออกแบบหมู่บ้านและนำผู้คนไปสู่กระบวนสร้างชุมชนแห่งความไว้เนื้อเชื่อใจ นอกจากนี้ยังวางแผนที่จะสร้างโมเดลการเป็นเจ้าของร่วมและลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของบริษัทได้ในสัดส่วน 30 – 70% ระบบพื้นฐานนี้จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างของอุตสาหกรรมการสร้างบ้านและระบบทุนนิยมในตัวมันเอง ‘ความสำเร็วของพวกเราคือความสำเร็จของพวกคุณ’ ฝ่ายการตลาดของ Geoship กล่าว

ทางด้าน Zappos เองก็ต้องการที่จะช่วยแก้ปัญหาคนไร้บ้านในย่านใจกลางเมืองเวกัส สำนักงานใหญ่ของบริษัท และเล็งเห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีในการสร้างบ้านที่มีความแข็งแรง คงทนและอยู่ในราคาที่เอื้อมถึงได้ Zappos จึงช่วยสนับสนุนเงินทุนในกระบวนการสร้างต้นแบบ ซึ่งจะกินเวลาประมาณ 2 ปี กว่าที่ Geoship จะสามารถเริ่มกระบวนการผลิตจริงได้ บริษัทกำลังอยู่ในช่วงระดมทุนสำหรับการสร้างฐานการผลิตครั้งแรก หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนก็จะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ทางบริษัทประมาณการว่าจะใช้พลังงานในการผลิตชิ้นส่วนสำหรับสร้างบ้านน้อยกว่าการใช้วัสดุแบบธรรมดาถึง 20 เท่า

สนใจศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบ้าน Geoship คลิกที่นี่ https://geoship.is/

แหล่งข้อมูลและภาพ

https://www.fastcompany.com/90385924/are-these-fireproof-hurricane-proof-geodesic-domes-the-post-climate-change-house-of-the-future

https://geoship.is/

https://www.facebook.com/GeoshipHomes/

https://www.fastcompany.com/90385924/are-these-fireproof-hurricane-proof-geodesic-domes-the-post-climate-change-house-of-the-future