ยอดขายสินค้าแฟชั่นสัตว์เลี้ยงในจีนเฟื่องฟูขึ้นมาก และเหล่าแบรนด์หรูจำเป็นที่จะต้องมีความพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากเทรนด์ดังกล่าวนี้อย่างเต็มที่

รูปภาพ: Courtesy of Tiffany & Co.

ประเด็นสำคัญ: 

– มีการคาดการณ์ว่าบุคคลอายุระหว่าง 18 – 25 ปี ในจีนจะมีการใช้จ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น 5.89% ในปีนี้ – เป็นตัวเลขที่สูงกว่ากลุ่มคนที่เกิดหลังจากปี 1985 (3.79 %) และตัวเลขเฉลี่ยในประเทศ (3.73 %)

– ตัวเลขของจำนวนสุนัขและแมวในพื้นที่เขตเมืองของจีนเพิ่มขึ้น 1.7 % ระหว่าง 2019 และ 2020 ซึ่งทะลุ 100 ล้านตัวเป็นครั้งแรก

– แบรนด์แฟชั่นต่างๆมีการร่วมมือกับเหล่าผู้มีอิทธิพลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในการสร้างหัวข้อต่างๆ พูดคุยกับกลุ่มผู้ใช้เป้าหมาย และส่งเสริมให้ผู้ชมซื้อผลิตภัณฑ์หลักๆที่เกี่ยวข้อง

ช่วงเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงและแตกต่างออกไปสำหรับหลายๆคนในประเทศจีน จากการที่ทางรัฐบาลได้มีการประกาศไม่ให้ผู้คนกลับบ้านในช่วงเทศกาลใบไม้ผลิ พลเมืองจำนวนมากจึงมีการใช้เวลาช่วงเทศกาลปีใหม่จีนแยกออกมาจากครอบครัวและห่างไกลจากบ้านเกิดของพวกเขา เหล่าสัตว์เลี้ยง ซึ่งปัจจุบันถือเป็นสมาชิกใหม่สำหรับหลายๆครอบครัว โดยที่สำหรับหลายๆครอบครัวกลายเป็นผู้สนับสนุนทางอารมณ์และเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์เลี้ยงและเจ้าของให้ใกล้ชิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ ยกตัวอย่างเช่น การแต่งตัวให้สัตว์เลี้ยงด้วยเสื้อผ้าที่สวยงามและพาพวกเขาออกไปเดินข้างนอกเพื่อให้พวกเขามีสุขภาพที่ดีและอวดสัตว์เลี้ยงของพวกเขาถือเป็นความต้องการเหล่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงส่วนมากทำกัน

อ้างอิงจากข้อมูลจาก JD.com ยอดขายกล่องของขวัญสำหรับสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นเป็น 9 เท่าในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา สินค้าสัตว์เลี้ยงพิเศษสำหรับช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิอย่างเช่นขนมสัตว์เลี้ยงและไอเทมนำโชคสีแดงสำหรับสัตว์เลี้ยงก็ได้รับความนิยมเช่นกัน อ้างอิงจาก ท๊อป 10 ของรายการซื้อในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิในปี 2021 นี้ Post-90 กลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคอันดับต้นๆสำหรับการซื้อของในช่วงเทศกาลใบไม้ผลิเป็นครั้งแรก และสินค้าประเภทเสื้อผ้าสัตว์เลี้ยงก็คือเป้าหมายของพวกเขา จัดเป็นอันดับที่สองรองจากการซื้ออาหารสำหรับเตรียมงานเลี้ยงวันส่งท้ายปีในช่วงที่เศรษฐกิจสำหรับสัตว์เลี้ยงกำลังเฟื่องฟูมากในจีน

ใครเป็นผู้ซื้อไอเทมสำหรับสัตว์เลี้ยง?

อ้างอิงจากรายงานการบริโภคสำหรับเยาวชนในจีนปี 2019 – 2020 จากฝ่ายการเงินและเศรษฐกิจของ CCTV’s กล่าวว่ามีการคาดการณ์ว่าบุคคลอายุระหว่าง 18 – 25 ปี ในจีนจะมีการใช้จ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น 5.89% ในปีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่ากลุ่มคนที่เกิดหลังจากปี 1985 (3.79 %) และตัวเลขเฉลี่ยในประเทศ (3.73 %)

เอกสารรายงานประจำปี 2020 ของ PetHadoop ซึ่งทำงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงของจีนได้บอกเราไว้ว่าจำนวนตัวเลขของสุนัขและแมวในเขตเมืองของประเทศจีนมีการเพิ่มจำนวนขึ้น 1.7 เปอร์เซ็นระหว่างปี 2019 และ 2020, ทะลุ 100 ตัวเป็นครั้งแรก ในขณะเดียวกัน ตลาดสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงมีรายได้แตะ 31.5 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (206.5 พันล้านหยวน) เพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นจากปี 2019

ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงเบื้องหลังของการมีสัตว์เลี้ยงคือการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิทยาและการได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมและธุรกิจต่างๆ ในพื้นที่เขตเมือง ที่ที่ความกดดันทางการทำงานค่อนข้างสูง ผู้คนมีความผูกพันภายในครอบครัวน้อยลงและคบเพื่อนในระยะยาวน้อยลง คนหนุ่มสาวจำนวนมากจึงรู้สึกว่าพวกเขาขาดความไว้วางใจและรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงจะสามารถช่วยรักษาและเป็นเพื่อนหรือที่พึ่งทางใจได้

นอกจากนี้พวกเขายังมีความหลงไหลในการดูแลสัตว์เลี้ยงและแตงตัวให้กับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาเพื่อแสดงถึงสไตล์และบุคลิกภาพของสัตว์เลี้ยงของพวกเขา หลายคนมีการแสวงหาสินค้าที่มีคุณภาพสูง มีการดีไซน์ที่ดีเพื่อที่สัตว์เลี้ยงของพวกเขาจะสามารถมีชีวิตที่ดีและแสดงให้เห็นว่าพวกเขานั้นแคร์สัตว์เลี้ยงของพวกเขามากแค่ไหน การที่สัตว์เลี้ยงได้รับการยกระดับและกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและเพื่อนฝูง ความสำคัญของการได้เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงสักตัวนั้นจึงเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งมาก

เหล่าแบรนด์หรูให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงอย่างไร?

ตัวอย่างของแบรนด์หรูที่มีการเปิดตัวเสื้อผ้าและเครื่องประดับต่างๆสำหรับสัตว์เลี้ยงได้แก่ เสื้อแจ็คเก็ตขนเป็ดของ Prada, ปลอกคอสัตว์เลี้ยงของ Louis Vuitton , สายจูงสัตว์เลี้ยงของ Hermès และจานข้าวสำหรับสัตว์เลี้ยงของ Tiffany ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งมีราคาอยู่ที่ระหว่าง 610 ถึง 4,580 เหรียญสหรัฐ (4,000 ถึง 30,000 หยวนจีน) เป็นราคาที่แพงแต่ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากเหล่าเจ้าของสัตว์เลี้ยง

บางครั้งสัตว์เลี้ยงยังได้รับความสนใจที่ดีในการทำแคมเปญส่งเสริมการตลาดต่างๆเช่นกัน ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทาง Louis Vuitton ได้มีการปล่อยวิดีโอของหนึ่งในนักสตรีมเมอร์ชั้นนำของจีน Austin Li (Li Jiaqi) พร้อมๆกับเหล่าพุดเดิ้ลที่แทบจะแต่งตัวเหมือนกับเขา หนึ่งในนั้น, ที่ชื่อ Never, ได้ทำการโปรโมทการให้บริการสำหรับสัตว์เลี้ยงของ Louis Vuitton Never ยังเคยได้ไปปรากฏอยู่บนหน้าตลับอายแชโดว์ของ Perfect Diary ซึ่งนั่นก็เป็นการร่วมมือในการทำงานร่วมกับ Li เองเช่นกัน เมื่อทางแบรนด์ได้เปิดตัวและทำการพรีเซลล์ในช่วงต้นปี 2020 พวกเขาก็สามารถทำยอดขายได้ถึง 150 000 ชุดภายในเวลาไม่ถึง 10 วินาที

น้อง Never ของ Li Jiaqi บนหน้าปกตลับอายแชโดว์ของ Perfect Diary รูปภาพ : Li Jiaqi’s Weibo

ในช่วงคริสมาสและปีใหม่ เหล่าสัตว์เลี้ยงได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบและการทำการตลาดสำหรับสินค้าระดับหรู ยกตัวอย่างเช่น Prada เปิดตัวสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงถึง 3 รายการสำหรับคอลเลคชั่นคริสมาสปี 2020 แต่ละชิ้นก็มีการตัวเลือกที่แตกต่างกันออกไปสำหรับโอกาสการใช้งานที่แตกต่างกัน ช่วงเทศกาลปีใหม่จีนโดยส่วนใหญ่แล้วจะกลายเป็นช่วงที่มีการเชื่อมต่อกับสัตว์มากที่สุดเพราะการนับสัตว์ 12 ตัวในการดูราศีของจีน อย่างเช่น มีหลายๆแบรนด์ที่ใช้องค์ประกอบต่างๆของวัวในการออกแบบสินค้าเพื่อฉลองปีฉลูและมุ่งหวังที่จะดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคในช่วงที่มีการแข่งขันที่ดุเดือดของตลาดหยวน

แบรนด์แฟชั่นต่างๆมีการร่วมมือกับเหล่าผู้มีอิทธิพลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในการสร้างหัวข้อต่างๆ พูดคุยกับกลุ่มผู้ใช้เป้าหมาย และส่งเสริมให้ผู้ชมซื้อผลิตภัณฑ์หลักๆที่เกี่ยวข้อง แต่นอกเหนือจากนั้น การที่จะเรียกความสนใจจากผู้ชมได้อย่างรวดเร็วและสามารถที่จะรักษามันไว้นั้น เหล่าเจ้าของแบรนด์ต่างมีการคาดหวังว่าจะสามารถนำตัวสารโดปามีนที่ออกมาจากสัตว์เลี้ยงที่แสนน่ารักมาใช้ทำงานให้ได้ผลประโยชน์ที่ดีที่สุด

มูลค่าของแบรนด์ที่ถูกสื่อสารผ่านผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง

ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา แบรนด์ต่างๆที่ใช้สัตว์เลี้ยงในการเล่าเรื่องราวดีๆจะสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยงและเอาชนะใจผู้บริโภคชาวจีนได้ เสื้อยืด “I Love Pets” ของ Balenciaga ช่วยส่งเสริมแนวคิดของการรับเลี้ยงสัตว์แทนการซื้อ กระเป๋า Rockstud Pet ของ Valentino สามารถปรับแต่งด้วยการนำรูปสัตว์เลี้ยงและชื่อย่อของลูกค้ามาใส่ซึ่งเป็นการสร้างสัมพันธ์ทางอารณ์ที่ดีระหว่างเจ้าของสัตว์เลี้ยง, ตัวสัตว์เลี้ยง รวมถึงแบรนด์สินค้าเอง

กระเป๋าโท้ท Rockstud ของ Valentino ที่มีการพิมพ์ภาพสัตว์เลี้ยงของเจ้าของกระเป๋าด้วยมือโดยนักวาดภาพประกอบอย่าง Riccardo Cusimano รูปภาพ : Courtesy of Valentino

ที่น่าสนใจคือ สัตว์เลี้ยงแต่ละสายพันธุ์นั้นมีระดับความนิยมที่แตกต่างกันระหว่างประเทศจีนกับประเทศทางฝั่งตะวันตก และยังมีความหมายที่แตกต่างกันอีกด้วย จำนวนเจ้าของน้องแมวในประเทศจีนมีการเพิ่มขึ้นในปี 2020 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2019 และน้องแมวก็กลายเป็นสัตว์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน เพราะเหตุผลดังกล่าวนี้ โฆษณาสำหรับวันวาเลนไทน์ของ Burberry ในประเทศจีน ทางแบรนด์จึงได้มีการถ่ายโฆษณาโดยมีแมวพันธุ์สก๊อตตชโฟลด์ในนั้น (เป็นที่รู้จักสำหรับการมีหูที่น่ารักของพวกมัน) แต่สำหรับการทำโฆษณาของซีรีย์ B ยอดนิยม ทาง Burberry ในประเทศฝั่งตะวันตกได้ใช้หมาบูลด็อก – พันธุ์ที่ไม่ค่อยเลี้ยงกันในจีน – ในโฆษณาด้วย ทางแบรนด์นั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องใช้ประโยนช์จากความชอบและสัญลักษณ์ที่แตกต่างกันของสัตว์เลี้ยงบนโซเชียลมีเดียของจีนและประเทศฝั่งตะวันตกเพื่อที่จะสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ถูกต้อง

เหล่าแบรนด์หรูจะทำอย่างไรในอนาคต?

ความสวยงามของแฟชั่นสัตว์เลี้ยงนั้นขึ้นอยู่กับรสนิยมของเจ้าของและทางตัวแบรนดืเอง ทางแบรนด์สามารถที่จะออกแบบสินค้าเพิ่มเติมอย่างเช่น ประเป๋าสัตว์เลี้ยง ที่นอน และเสื้อผ้าเพื่อที่จะสอดคล้องกับองค์ประกอบของไลน์เสื้อผ้าหลักๆที่มีอยู่ ซึ่งจะช่วยให้ยอดการซื้อของลูกค้าและความรู้สึกใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น แต่พวกเขาก็ต้องคำนึงถึงความสะดวกสะบาย การใช้งานต่างๆ และความปลอดภัยของเหล่าสัตว์เลี้ยงด้วยเช่นกัน นั่นคือทางเดียวที่จะสามารถถ่ายทอดคุณค่าที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงอย่างแท้จริงและได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของสัตว์เลี้ยงอีกด้วย

เหล่าแบรนด์ต่างๆยังมีแนวโน้มที่จะมอบทางเลือกที่มากขึ้นให้แก่เจ้าของสัตว์เลี้ยงเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของพวกเขา นอกเหนือจากเสื้อผ้า อุปกรณ์สายจูง ปลอกคอ และจานอาหารแล้ว ก็ยังมีช่องว่างสำหรับสินค้าอีกหลายกลุ่มเหลืออยู่ในตลาด เพื่อความยั่งยืนต่อไป การใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและผลิตภัณฑ์อัฉริยะสำหรับสัตว์เลี้ยงก็ความค่าแก่การพิจารณาให้เป็นตัวเลือกต่อไปเช่นกัน

แต่ทางแบรนด์หรูก็ยังจำเป็นที่จะต้องมองหามาสคอตและโมเดลสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสมผ่านความนิยมและสายพันธุ์ที่มีความสำคัญในประเทศจีน แบรนด์เครื่องประดับของฝรั่งเศสอย่าง Boucheron ได้ทำผลงานในเรื่องนี้ไว้ค่อนข้างดี โดยการเน้นไปที่มาสคอตของแบรนด์ นั่นคือแมวสีดำ Wladimir ที่มีความสำคัญบนช่องทางดิจิทัลของประเทศฝั่งตะวันตก แมวดำเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีในประเทศจีน และทาง Boucheron ก็ได้เพิ่มแนวคิดของเรื่องเสรีภาพและประเพณีให้กับของขวัญชิ้นนี้ การลงรายละเอียดในระดับพื้นที่แบบนี้คือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในตลาดประเทศจีนนั่นเอง

งานวิจัยเพิ่มเติมโดย Stella Zhan

ที่มา : https://jingdaily.com/pets-fashion-china-luxury-louis-vuitton-valentino/