ที่สหรัฐอเมริกาในปี 2560 เงินลงทุนในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอสังหาฯ มีมูลค่าทะยานไปถึง 12.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเทคโนโลยี Blockchain ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆ ในการซื้อ-ขายบ้านอีกต่อไป อีกทั้งการที่พบว่ามีกลุ่มชาวมิลเลนเนียลกว่า 70% เคยผ่านประสบการณ์การรู้สึกผิดหลังจากตัดสินใจซื้อหรือลงทุนอะไรไป (Buyer’s remorse) ยิ่งทำให้มีพื้นที่ที่เทคโนโลยี Blockchain สามารถเข้ามาช่วยเติมเต็มช่องว่างและสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าหน้าใหม่ที่ถูกเชิญชวนให้ลงทุนในอสังหาฯ ได้ การเข้ามาของเทคโนโลยี Blockchain จะช่วยให้ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่มีในปัจจุบันลดน้อยลง ผู้คนสามารถทราบถึงแหล่งที่มาที่ไปของทรัพย์สินได้อย่างโปร่งใสมากขึ้น ความเป็นไปได้ในการฉ้อโกงน้อยลง ภาพรวมของการซื้อ-ขายบ้านจะเป็นไปอย่างจริงใจภายใต้กลไกแบบ peer-to-peer

ความท้าทายที่คนในอุตสาหกรรมอสังหาฯ ในสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญ คือ การมีตัวเลือกบ้านที่ยังน้อย ขาดแคลนการลงทุนจากคนกลุ่มมิลเลนเนียล ราคาบ้านก็ตั้งหน้าตั้งหน้าเพิ่มสูงขึ้นทุกปี และขาดความโปร่งใสในตลาด ถึงแม้ว่าอัตราการขายบ้านในภาพรวมจะเร็วขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปี 2559 แต่ทุกๆ วงการก็ควรเตรียมรับมือกับช่วงขาลงของธุรกิจ การรู้จักนำเทคโนโลยี Blockchain มาประยุกต์ใช้คือหนึ่งในวิธีการป้องกันตนเองจากความตกต่ำนี้ รวมถึงผู้เล่นรายเล็กๆ ที่กำลังมองหาช่องทางการลงทุนให้เงินของตนเองได้งอกเงยแต่ติดปัญหาไม่มีเงินก้อนใหญ่หรือไม่พร้อมรับความเสี่ยงที่มากนัก ยังมีอยู่ 2-3 วิธีที่เทคโนโลยี Blockchain พอจะช่วยคุณได้

Crowdfunded Investing

การระดมทุนสาธารณะในธุรกิจอสังหาฯ เป็นหนึ่งในภาคส่วนที่เติบโตเร็วที่สุดของการระดมทุน (Crowdfunding) ในปี 2559 ได้รับการประเมินมูลค่าไว้ที่ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเทียบแล้วถือว่าเพิ่มขึ้นถึง 156% จากปี 2557 และยังได้รับการคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องด้วยสัดส่วนของชาวมิลเลนเนียลที่มีความสนใจในการลงทุนในอสังหาฯ 55%

โดยการระดมทุนแบบสาธารณะเป็นตัวแทนของการลงทุนที่จับต้องได้ในรูปแบบของการเป็นเจ้าของร่วมกัน มีการนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาช่วยปรับปรุงการจัดเก็บข้อมูล อำนวยความสะดวกในการให้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจของคนหมู่มาก และคุณสมบัติอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการลงทุนอสังหาฯ แบบกลุ่ม ซึ่งในไทยเองก็มีเว็บไซต์ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการระดมทุนให้แก่ธุรกิจต่างๆ อย่าง https://www.live-mkt.com และยังคงเดินหน้าพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

Tokenized Ownership

การแปลงมูลค่าอสังหาฯ ให้กลายเป็นเหรียญ Token หรือ Tokenized Ownership มีลักษณะการทำงานที่ผู้ขายนำอสังหาฯ ที่ต้องการขายของตนแปลงให้เป็น Token หลายๆ เหรียญแล้วปล่อยให้ผู้สนใจลงทุนเข้ามาซื้อในระบบ คล้ายๆ กับการแบ่งขายหุ้น แต่มีจุดแตกต่างตรงที่ค่าเงินที่นำมาใช้กันบนแพลตฟอร์มจะเป็นสกุลเงินดิจิตอลซึ่งได้เปรียบในเรื่องของความรวดเร็วในการแลกเปลี่ยนและสามารถนำไปเก็งกำไรต่อได้ จึงเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนรายย่อยจะเข้ามาเลือกซื้อเหรียญ Token ได้ตามความเหมาะสมของงบประมาณและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของแต่ละคน อีกทั้งระบบเหรียญ Token นี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในแง่ของค่าธรรมเนียมการซื้อ-ขายอสังหาฯ ได้อีกด้วย

Decentralizing Airbnb

ปัจจุบัน Airbnb มีอยู่ใน 191 ประเทศ จาก 65,000 เมืองทั่วโลก มูลค่าทางธุรกิจ 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 9 แสนล้านบาท ซึ่งเทียบเท่ากับยอดขอส่งเสริมการลงทุน BOI ของประเทศไทยทั้งประเทศในปี 2561 อย่างไรก็ตามการเกิดขึ้นของเทคโนโลยี Blockchain อาจเข้ามาเป็นตัวพลิกเกมธุรกิจอันยิ่งใหญ่ของ Airbnb นี้ให้เปลี่ยนไป ด้วยแนวคิดหลักของ Blockchain ที่เน้นการกระจายอำนาจหรือ Decentralizing ที่จะเข้ามาลดบทบาทการทำตัวเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อเจ้าของบ้านและผู้หาห้องเช่าของ Airbnb โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Airbnb มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการให้บริการที่สูงลิ่วจากทั้งฝั่งเจ้าของที่พักและผู้เข้าพัก การมาถึงของเทคโนโลยี Blockchain จึงเป็นอีกหนึ่งกลไกที่จะเข้ามาร่วมแข่งในสนามธุรกิจนี้เพื่อให้เกิดการปรับลดราคาให้อยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล และรู้จักพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการให้มีคุณค่าสมราคาต่อไป

โดยปัจจุบันมีบริษัทที่กำลังพัฒนาโมเดลการแบ่งเช่าที่พักผ่านแพลตฟอร์ม Blockchain คือ Bee Token ที่คอนเซ็ปต์ในภาพรวมมีความคล้ายคลึงกับ Airbnb แต่จะมีจุดแข็งทางด้านความปลอดภัยและโปร่งใสตามสไตล์แพลตฟอร์มที่มีพื้นฐานมาจาก Blockchain และมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในอัตราที่ต่ำกว่า Airbnb ซึ่งนักลงทุนสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมกับธุรกิจนี้จากการที่ Bee Token เปิดระดมทุน ICO (Initial Coin Offering) ออกเหรียญดิจิตอลมาให้ซื้อและเก็งกำไรกัน

จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี Blockchain มีศักยภาพสามารถเข้ามาช่วยทำให้ตอบโจทย์ความต้องการและจินตนาการหลายๆ อย่างของคนเราเป็นจริงได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าคนเราจะยอมรับเอาเทคโนโลยีนั้นมาใช้กันจริงๆ มากน้อยในระดับใดแค่ไหนเท่านั้นเอง

แหล่งข้อมูลและภาพ

https://www.disruptordaily.com/blockchain-use-cases-real-estate/

https://www.posttoday.com/economy/news/576471 

https://www.coindesk.com/decentralized-airbnb-starts-charging-fees-as-ico-model-falters

https://www.flaticon.com