ช่วงปี 2019 ที่ผ่านมา ใครๆก็รู้ครับว่าคอนโดส่วนใหญ่ในตลาดล้วนแต่ประสบปัญหาในเชิงยอดขายที่ไม่ค่อยจะถึงเป้าเท่าไหร่นัก จากปัจจัยลบสารพัดประการที่เกิดขึ้นจนมีผลต่อกำลังซื้อของคนส่วนใหญ่ที่นิยมชมชอบการซื้อคอนโด ประกอบกับการที่มีคอนโดหลายโครงการเปิดติดๆกันมากจนเกินไป ทำให้ผู้สนใจซื้อส่วนหนึ่งตัดสินใจที่จะทำการบ้านในการเซอร์เวย์รอบโครงการให้ละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม และจึงค่อยตัดสินใจที่จะแวะเข้าไปเยี่ยมชมโครงการที่ตัวเองสนใจมากที่สุด ดังนั้นหากเราใช้ Pain Point ของผู้ซื้อในเรื่องของการที่จะต้องมานั่งเสียเวลาทำเซอร์เวย์หลายๆที่ หรือแม้กระทั่งศึกษาเส้นทางการเข้าถึงโครงการ รวมทั้งบริบทโดยรอบจากเวปรีวิวต่างๆ ควบคู่ไปกับการเปิดดู Google Map มาต่อยอดพัฒนาเครื่องมือปิดการขายที่ช่วยเน้นย้ำ Competitive Advantage ของโครงการเราให้เห็นชัดเจน แตกต่างจากโครงการอื่นรอบข้าง ทั้งในแง่ของบริบทโดยรอบโครงการ และในแง่ของการเปรียบเทียบแปลนในตัวโครงการเอง ในแบบครบ จบ ในที่เดียวก็คงจะดีไม่น้อยใช่ไหมครับ? … ในสองตอนที่ผ่านมาผมได้เน้นย้ำให้คุณผู้อ่านเห็นถึงความสำคัญของการสร้าง Brand Touch Point ที่สมบูรณ์แบบ เพื่อให้เกิดความทรงจำ ตลอดจน First Impression ที่ดีให้กับ Sale Gallery ของโครงการอสังหาฯต่าง ผ่านนวัตกรรมแบบล้ำๆตามสไตล์ DEC Media อย่าง Interactive Mapping View และ Object Touch ไปแล้ว โดยในตอนนี้ก็ถึงคราวของ Solution ล่าสุดที่เพิ่งจะถูกประเดิมใช้งานไปหมาดๆเมื่อปลายปีที่แล้วอย่าง BANGKOK 3D SIMULATOR ครับ

ถ้าจะ List อันดับคอนโดที่มียอดขายพรีเซลที่ค่อนข้างดีในช่วงรอบปีที่ผ่านมา ก็เห็นจะเป็น 2 โครงการใหม่จากอนันดาฯอย่าง Ideo Charan 70 – Riverview และ Ideo Chula – Samyan ครับ โดย 2 คอนโดดังกล่าว มี Competitive Advantage ที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ แตกต่างกัน จนสามารถชนะใจกลุ่มผู้ซื้อได้ไม่ยาก Ideo Charan 70 – Riverview สร้างเซอร์ไพร์สด้วยราคาขายเฉลี่ยทั้งโครงการที่ต่ำกว่าตลาดคอนโดในย่านนั้นทั้งหมด อีกทั้งยังเป็นคอนโดสูงโครงการแรกของอนันดาฯที่มองเห็นทั้งแม่น้ำ และใกล้รถไฟฟ้า ในขณะที่ Ideo Chula – Samyan เป็นโครงการที่ชนะเลิศในด้านทำเลที่ตั้ง ซึ่งเป็นย่านที่มีดีมานท์ใหม่วนเวียนเข้ามาอย่างตลอดเวลาอย่างสามย่าน – พระรามสี่…แต่เหนือสิ่งอื่นใด ความสำเร็จในด้านเสียงตอบรับของทั้งสองโครงการนั้นไม่ได้มาจากในเรื่องของทำเล และราคาเพียงอย่างเดียว แต่ BANGKOK 3D SIMULATOR ที่ทั้งสองโครงการได้เลือกที่จะนำมาติดตั้งไว้ใน Sale Gallery ก็ทำหน้าที่ในการปิดการขายได้ดีไม่แพ้กันเลยครับ โดยในปี 2020 ทุก Project ใหม่ของอนันดาฯ ได้หันมาใช้ Platform BANGKOK 3D SIMULATOR เกือบทั้งหมดแล้ว รวมถึงอีกหลายๆ Project ที่กำลังจะได้ใช้ Platform ตัวนี้กัน

ตัวผมเองนั้นได้มีโอกาสไปที่งานพรีเซลของโครงการ Ideo Chula – Samyan มาครับ ก็ต้องบอกว่าบรรยากาศการจองซื้อในวันนั้นนี่ ทุกคนแย่งซื้อห้องกันสนุกมากครับ โดยเฉพาะห้องที่ได้รับการตอบรับที่ดีๆอย่างสตูดิโอ หรือ 2 ห้องนอนก็มักจะถูกจับจองเป็นเจ้าของไปก่อน ซึ่งกรณีแบบนี้ถ้าเป็นโครงการอื่นๆ ห้องที่เหลืออยู่ก็จะเสียโอกาสในการขายไป เพราะกระแสมันเทไปทางห้อง 2 Types นั้นหมด จนทำให้คิวหลังๆลังเลที่จะตัดสินใจซื้อ…แต่สถานการณ์แบบนี้ไม่เกิดขึ้นที่ Ideo Chula – Samyan ครับ เนื่องจากห้องหลายๆ Type ที่มีอยู่ในโครงการนี้ เป็นห้องที่เราไม่ได้มีโอกาสเห็นจากโบรชัวร์ หรือรู้ว่ามีแต่ก็ไม่รู้ว่าแปลนเป็นยังไง หันหน้าไปทางทิศทางไหน เจอวิวอะไรบ้าง ซึ่ง BANGKOK 3D SIMULATOR ได้ทำหน้าที่ในการแก้ปัญหา และช่วยเซลล์ในการปิดการขายห้องเหล่านั้นได้เป็นอย่างดีเลยล่ะครับ

หน้าตาของชุดอุปกรณ์ BANGKOK 3D SIMULATOR จะประกอบด้วยจอแสดงผลขนาดใหญ่ และจอแสดงผลแบบ Interactive Display ขนาดเล็ก เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุม เลือกเมนูต่างๆได้ โดยที่ไม่ได้ยืนบังหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ อีกทั้งยังช่วย Draw Attention ให้กับคนหมู่มากได้ในคราวเดียวกันด้วย

ถ้าถามว่า BANGKOK 3D SIMULATOR นั้นทำอะไรได้บ้าง ในเชิงฟังก์ชั่นการใช้งาน และมีความแตกต่างจาก Tool ประเภทอื่นๆยังไง ก็ต้องบอกว่า Interactive Mapping View เป็นการสร้างบรรยากาศ เพื่อจำลองประสบการณ์ในการอยู่อาศัยจริง ส่วน Object Touch ก็เป็นการสร้าง Brand Engagement ให้เกิดภาพจำที่ดีครับ ในทางกลับกัน BANGKOK 3D SIMULATOR นั้นจะเป็นแนว Infotainment ที่ช่วยในการปิดการขายแบบตรงๆเลยครับ เนื่องจากข้อมูลที่ได้รับนั้นจะออกมาเป็นทั้งภาพจำลอง 3 มิติ การจำลองวิว ทิศทางแสง ทั้งกลางวันและกลางคืน ตลอดจนการเปรียบเทียบแปลนห้องที่เราเลือกได้แบบชั้นต่อชั้น มุมต่อมุมเลยล่ะครับ

โดยหลักการทำงานของ BANGKOK 3D SIMULATOR นั้นเป็นการสร้างเมืองจริงๆ โดยการขึ้นเมืองแบบ 3D Model ในอัตราส่วนที่ถูกต้องแล้วประกอบไปยังโปรแกรมเพื่อใส่คำสั่งให้ Map 3D Simulator ทำงาน อาทิ การใส่แสงในช่วงเวลาต่างๆ จะเป็นแสงที่ใกล้เคียงกับแสงจริงตาม Timing ที่เราเลือก รวมถึง surrounding ต่างๆ ที่สามารถเคลื่อนไหวได้ เช่น เส้นทางการจราจร รถไฟฟ้า ไฟถนน เป็นต้น จากนั้นเราสามารถใส่ตัวตึกของคอนโดหรือโครงการลงไปตาม Location จริง โปรแกรมจะสามารถทำให้มองเห็น surrounding โดยรอบตึกแบบ 360 องศา เลือกดูแลนด์มาร์คสำคัญๆ หรือแม้กระทั่งคำสั่งที่สามารถให้ดู Detail ของตัวโครงการได้อย่างละเอียด เช่นแปลนแบบเจาะจงชั้นและห้อง , ทิศทางของแสง, วิว ทิวทัศน์ของแต่ละชั้น (สามารถเลือกคำสั่งได้ว่าจาก IPAD หรือ PC)

ในเวลาที่เราดูจอ Touch Screen ตาม Sale Gallery แน่นอนว่าส่วนของเมนู Location น่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้าง Value ให้กับตัวโครงการคุณได้มาก ไม่แพ้ส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะหากเป็นการขายชาวต่างชาติ คนต่างจังหวัดที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับย่านนั้นๆ แต่กลับคุ้นเคยกับสถานที่สำคัญของย่านเหล่านั้นมากกว่า ซึ่งโดยปกติที่ผ่านๆมาข้อมูลในส่วนนี้ก็จะแสดงผลเป็นข้อมูลแผนที่ 2 มิติ พร้อมจุด Landmark สำคัญเป็นข้อๆ หรือไม่ก็เชื่อมต่อกับระบบนำทาง Google Map ซึ่งในหลายๆครั้งก็เป็นการยากที่จะทำความเข้าใจได้โดยเร็ว แต่วันนี้ DEC Media ได้นำมาพัฒนาต่อยอดให้เกิดเป็น 3 มิติโดยเริ่มจากโซนในกรุงเทพฯชั้นในก่อนและนำมาผนวกกับโปรแกรมที่เป็น Simulator จึงทำให้นวัตกรรมตัวนี้ตอบโจทย์ทั้งในแง่ ภาพและแสง และยังเพิ่มฟีเจอร์ที่สามารถบ่งชี้ได้เลยว่ารัศมีในระยะ 2 Km. หรือ 5 Km มี Landmark อะไรที่สำคัญๆอยู่บ้าง และใช้เวลาเดินทางกี่นาที นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกดูตามช่วงเวลาได้ ว่าห้องที่คุณจะซื้อนั้นได้รับวิวแบบใหนในช่วงกลางวันและกลางคืน

ที่สำคัญคือเราสามารถใส่ข้อมูลของทุกโครงการที่เราตั้งใจจะโปรโมตลงไปใน BANGKOK 3D SIMULATOR ได้ในคราวเดียวกัน ซึ่งนับว่าเป็นการประหยัดต้นทุนในการสร้าง Sale Gallery แบบชั่วคราวหลายๆแห่งลงไปได้เยอะมาก เรียกได้ว่ามีแค่ Sale Center เพียงแห่งเดียว ก็สามารถปิดการขายคอนโดได้จบ ครบ ในที่เดียว จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมจาก DEC Media ที่ตอบโจทย์ทุกด้านในเรื่องของข้อมูล ง่ายต่อการปิดการขายห้องที่ขายยากๆ ต้องใช้จินตนาการเยอะ และที่สำคัญลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ในการดูข้อมูลที่ไม่ซ้ำใครด้วยตัวเอง และยังช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูดีทันสมัย ตรงตาม Brand Positioning ที่วางเอาไว้เลยล่ะครับ

Special Innovation Product จาก DEC Media นั้นไม่ได้มีเพียงแค่นี้ แต่ยังมีด้วยกันถึง 5 Products ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันไป แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็น “Touchnology” ที่มีส่วนสำคัญในการต่อยอดกลยุทธ์ Digital Branding ของคุณ เรามาติดตามกันในตอนหน้าว่าจะเป็นเรื่องราวของ Product ตัวไหนครับ

สนใจ BANGKOK 3D SIMULATOR สามารถติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-7147794 และ 081-880-2230
และสามารถติดต่อสอบถามอัพเดทข่าวสารของ “DEC MEDIA” ได้ที่
Web: www.decmediathailand.com
FB: www.facebook.com/decmediathailand/
IG: www.instagram.com/decmedia_thailand/
Youtube: www.youtube.com/decmediathailand/