Melanie Bangkok มนต์เสน่ห์แห่งสถาปัตยกรรมยูโรเปียนคลาสสิก ที่ผสานความเป็นอยู่ที่อบอุ่นแบบตะวันออก หนึ่งเดียวบนถนนจันทน์

ย่านสาทร ถ้ากล่าวถึงย่านนี้อาจนึกถึงภาพของการเป็น CBD หลักของชาวกรุงเทพ ที่มีความหนาแน่นของอาคารสูง และวิถีชีวิตคนเมืองแบบเร่งรีบ เพราะใจกลางย่านสาทรที่เป็นแหล่งรวมอาคารสำนักงาน และคอนโด High rise ตามสไตล์ของย่าน CBD แต่ถ้าคุณได้เลี้ยวรถเข้ามาในย่านถนนจันทน์ ถนนที่เชื่อมย่าน CBDสาทร และย่านชุมชนไทยจีน ที่พักอาศัยเก่าแก่บนถนนจันทน์ เข้าไว้ด้วยกัน เชื่อมถนนเจริญราษฎร์ และสามารถเชื่อมไปถึงถนนเจริญกรุง ถนนสายแรกของกรุงเทพฯ ที่เป็นการตั้งถิ่นฐานของทั้งคนจีนและชาวยุโรปในอดีต ทำให้ย่านถนนจันทน์เป็นย่านที่ผสมผสานทั้งวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และอาหารการกินที่หลากหลาย ผสานความเป็นเมืองและวิถีชุมชนเก่าดั้งเดิมที่ขยายตัวมาตามแนวถนนเจริญกรุง ทำให้ที่ดินในบริเวณถนนจันทน์ส่วนใหญ่เป็นการถือครองที่ดินโดยเจ้าของที่ดินดั้งเดิม ที่ส่งต่อพื้นที่จากรุ่นสู่รุ่น ดังเช่น บริษัท ไพร์มเกท เรียลตี้ จำกัด โดย คุณพงษ์ อิงคสิทธิ์ เจ้าของที่ดิน ที่ลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนทำเลย่านถนนจันทน์-สาทร ภายใต้ชื่อ Melanie Bangkok (เมลานี แบงค็อก)

Melanie Bangkok ตั้งอยู่บนถนนจันทน์ระหว่างซอย 7 และซอย 9 รายล้อมด้วยบ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์เก่าแก่ และตึกแถวที่มีคนพักอาศัยอยู่มานาน ทั่วทั้งบริเวณ

ซอย 7 และซอย 9 เป็นบริเวณต้นถนนจันทน์ ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนนราธิวาสฯเพียงและ BRT สถานีถนนจันทน์เพียง 200 เมตร ที่สามารถเชื่อมต่อไปยัง BTS ได้ และยังเดินทางสู่ถนนเจริญกรุง เชื่อมต่อสู่บางรัก เยาวราช หรือขึ้นลงทางด่วนที่จุดขึ้นลงบนถนนจันทน์ได้ จึงเป็นทำเลที่ค่อนข้างสะดวกสบาย อีกทั้งยังรายล้อมด้วยชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนเหมาะกับการพักอาศัยที่เงียบสงบ แต่ก็มีย่านการค้า ร้านค้า ร้านอาหาร ให้ได้ฝากท้องกันตลอดถนนจันทน์รวมทั้งห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองที่รายล้อมและสะดวกในการเดินทาง และที่สำคัญในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทา วัชรพล ท่าพระ วิ่งผ่านบน ถนนนราธิวาสฯ และกรุงเทพมหานครมีแผนที่จะปรับเปลี่ยน BRT เป็น Monorail รถไฟฟ้ารางเดี่ยวในอนาคต ทั้งนี้สำหรับผู้ที่ต้องใช้รถไฟฟ้าในการเดินทางเป็นหลัก ทางโครงการจะจัดให้มีรถ Shuttle Bus ไปส่งที่ สถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี ด้วยครับ

จาก character ของพื้นที่ที่เป็นย่านที่อยู่อาศัยที่คนติดถิ่น ไม่ค่อยย้ายออกไปไหน ทำให้ Melanie Bangkok ออกแบบพื้นที่ที่สร้างความเป็นส่วนตัวสูงสุดในการอยู่อาศัยใกล้ย่านธุรกิจ ด้วยการออกแบบอาคาร low density สูงเพียง 8 ชั้น จำนวน 123 ยูนิต (ชั้นละประมาณ 18 ยูนิต) บนเนื้อที่ 1-0-36.2 ไร่ เน้นครอบครัวและลูกค้าในพื้นที่ จึงออกแบบอาคารเป็นยูโรเปียนคลาสสิคสไตล์ เพื่อตอบโจทย์คนในย่าน และสอดคล้องกับสถาปัตยกรรมดั้งเดิมในพื้นที่จากการสร้างถนนเจริญกรุงที่ทำให้เกิดสถาปัตยกรรมทรงยูโรเปี้ยน คลาสสิค บนถนนเจริญกรุงจำนวนมาก อาทิ อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก โรงภาษีร้อยชักสาม เป็นต้น จึงน่าจะเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่คุ้นชินของคนในพื้นที่โดยเฉพาะครอบครัววัยทำงานถึงวัยสูงอายุที่อยากมีที่อยู่ในย่านเดิม

ตัวอาคารเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางตัวตามแนวเหนือใต้ลึกเข้าไปในที่ดินตามซอยทางเข้า

ตัวอาคารต้องเข้าถนนทางเข้าโครงการ ด้านหน้าเป็นร้านค้าเจ้าของเดียวกับตัวคอนโดฯ

โดยชั้น 1 และชั้น G (ใต้ดิน) เป็นที่จอดรถคิดเป็น 60% ของจำนวนยูนิต

ชั้น 2 เป็นพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องพัก

ชั้น 3-7 เป็นที่พักอาศัย

ชั้น 8 เป็นสวนลอยฟ้า และห้องพักที่สามารถเข้าออกสวนได้แบบส่วนตัว

ส่วนรูปแบบห้องมี 2 Type คือ 1 Bedroom และ 2 Bedroom   

1 Bedroom มีขนาด

A1 : 27 Sq.m. แบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน คือ ห้องครัวและห้องนั่งเล่นที่ทางเข้าห้อง ห้องนอนที่ปลายสุดของห้อง ที่ปีกด้านขวา และห้องน้ำเชื่อมกับห้องแต่งตัวและระเบียงที่ปีกด้านซ้าย

A2 : 35 Sq.m. แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือครัวเชื่อมห้องนั่งเล่นและเชื่อมระเบียงห้อง ที่ด้านขวาของห้อง อีกส่วนคือห้องนอน Bay window ตู้เสื้อผ้าในห้องนอน และห้องน้ำแบบ 2 ทางเข้าที่ด้านซ้ายของห้อง

A3 : 35 Sq.m. เหมือน A2 แต่กลับข้างกัน

A3-1 : 35 Sq.m. แปลนห้องเหมือน A2 และ A3 แต่ตู้เสื้อผ้าเปลี่ยนเป็นมาอยู่ระหว่างทางเข้าห้อน้ำและห้องนอนแทน

A3-2 : 35 Sq.m. แปลนห้องเหมือน A3-1 แต่กลับทิศกัน

A3-3 : 35 Sq.m. แปลนห้องเหมือน A3-1 แต่กลับข้างกัน

A4 : แปลนห้องเหมือน A3-1 แต่กลับข้างกัน

A5 : 43 Sq.m. เป็นห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสพื้นที่ครัว ห้องนั่งเล่น และระเบียงคล้ายกับห้องอื่นๆแบบ 1 Bedroom แต่ได้พื้นที่ห้องนอนบริเวณห้องแต่งตัวเพิ่มขึ้น เป็นตู้เสื้อผ้าเข้ามุมรูปตัวแอล

A5-1 : 48 Sq.m. แปลนห้องเหมือน ห้อง A5 แต่ได้ระเบียงกว้างเชื่อมไปถึงพื้นที่ห้องนอน

A6 : 43 Sq.m. เป็นห้องหน้ากว้าง ครัวเชื่อมห้องนั่งเล่น และระเบียงยาว ที่ด้านซ้ายของห้อง และด้านขวาเป็นห้องนอน ห้องน้ำและห้องแต่งตัวแยก เข้ามุม เป็นสัดส่วน

A6-1 : 49 Sq.m. แปลนห้องเหมือนห้อง A6 แต่ได้พื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น

ส่วน 2 Bedroom มี 5 ขนาด ทุก Size เป็นห้องหัวมุม คือ 56 Sq.m. , 61 Sq.m.(มี2แบบ) , 68 Sq.m. และ 77 Sq.m.(ขนาด 77 Sq.m. ได้ Fix ที่จอดรถ)

B1 : 56 Sq.m. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เป็นห้องหน้ากว้าง แบ่งเป็นครัว ห้องนั่งเล่นและระเบียงที่ด้านขวาของห้อง ส่วนด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ ห้องนอนเล็ก และห้องนอนใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัว

B2 : 61 Sq.m. ห้องหน้ากว้าง แบ่งเป็นครัว ห้องนั่งเล่น ระเบียง ที่ด้านซ้ายของห้อง และห้องน้ำ ห้องนอนเล็ก ห้องนอนใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัวที่ด้านขวาของห้อง

B3 : 61 Sq.m. เป็นห้องมุมที่ทางเข้าอยู่ชิดมุมห้องทำให้แบ่งพื้นที่ส่วนครัวห้องนั่งเล่น และระเบียงที่ติดทางเข้า ส่วนด้านในสุดของห้องเป็นห้องนอนทั้ง2ห้อง

B4 : 68 Sq.m. มีห้องครัวเชื่อมห้องนั่งเล่นและระเบียงเป็นรูปตัวแอล และห้องนอนทั้ง2ห้องอยู่ที่มุมห้องทั้งสองด้า

B4 – 1: 76 Sq.m. แปลนห้องเหมือน B3 แต่ได้พื้นที่ระเบียงยาวจากห้องนั่งเล่นถึงห้องนอนใหญ่

โดยห้องตัวอย่างที่ทางโครงการตกแต่งให้ดูมีขนาดเดียว คือ 1 Bedroom 35 Sq.m. โดยห้องจริงโครงการขายแบบ Fully Fitted และไม่ได้ติด wallpaper มาให้

รูปแบบห้องเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส สูง 2.6 m. แบ่งพื้นที่เป็นสองส่วนหลักๆ คือ จากทางเข้าเป็นพื้นที่ส่วนครัว เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น และระเบียงที่ปีกห้องด้านขวา

โดยครัวโครงการฯให้เป็น Built-in สูงจากพื้นจรดเพดาน มีอ่างล้างจานแบบฝัง

เตาไฟฟ้าของ Teka

พร้อมที่ดูดควันด้านบน เก็บเข้ากับชุดเฟอร์นิเจอร์ตู้บานเปิดโทนสีเทาอ่อน มีลายเซาะร่องที่หน้าบาน พร้อมตัวจับแบบหมุดกลมสีทอง

Built-in ติดเพดานเข้ามุมเชื่อมไปถึงผนังติดทางเข้า ที่มีเว้นเป็นชั้นวางแก้ว หรืออุปกรณ์ทำครัวได้ โดยเว้นระยะความสูงพอดีสำหรับวางตู้เย็นแบบ 2 บานเปิดได้

ที่ใต้ลิ้นชักTopครัว เจาะช่องเว้นไว้สำหรับวางไมโครเวฟ เชื่อมกับโต๊ะทานข้าวที่ออกแบบให้เชื่อมติดกับ Top ครัว สำหรับ 2 ที่นั่ง เพื่อกันพื้นที่เป็นสัดส่วน

ที่ปลายเคาท์เตอร์ครัว ออกแบบให้สามารถวางเครื่องซักผ้าฝาหน้าได้

ส่วนครัวเป็นครัวเปิด เชื่อมถึงพื้นที่นั่งเล่นริมระเบียง ขนาดกะทัดรัด ไม่เล็กไม่ใหญ่ มีพื้นที่พอสำหรับวางโซฟาสำหรับ 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง ส่วนผนังติดห้องนอน โครงการฯให้ชั้นวางทีวีแบบติดผนังยกลอยจากพื้น เป็นทั้งตู้โชว์และที่เก็บของได้

ระเบียงห้องค่อนข้างใหญ่ แบ่งสัดส่วนเป็นที่วางคอมเพรซเซอร์แอร์ ที่สามารถยกแขวนสูง เพื่อเพิ่มพื้นที่ที่ระเบียง

นอกจาก furniture built-in บางส่วนที่โครงการฯให้แล้ว ยังให้เชิงบัวโดยรอบห้องโทนสีเทาอ่อน สีเดียวกับผนังห้อง ขนาด 10 cm

ด้านซ้ายของห้องเป็นห้องน้ำที่เข้าออกได้ทั้งจากห้องครัวและห้องนอน ที่ผนังระหว่างทางเข้าห้องน้ำและทางเข้าห้องนอน เป็นตู้บานเปิด ด้านในออกแบบให้มีขนาดชั้นวางหลายขนาด ทั้งวางรองเท้า ชาย หญิง เก็บของ และช่องเก็บของแบบสูง ขนาดใหญ่พอที่จะวางถุงกอล์ฟได้

ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งด้วยกระจกบานเปิด ด้านในตกแต่งด้วย compressed marble ลายหินอ่อนจากในห้องอาบน้ำ มาถึงอ่างล้างหน้าที่ฝังตัวอ่างเข้าไปกับเคาท์เตอร์ลายหินอ่อน

เก็บของด้านใต้อ่างล้างหน้า เซลล์แจ้งว่าไม่ได้ให้มากับห้องชุด ของจริงจะเป็นเคาท์เตอร์ลายหินอ่อนเชื่อมเข้ากับผนังด้านหลังสุขภัณฑ์ของ Kohler

ในพื้นที่ส่วนเปียก โครงการให้ Hand Shower พร้อมที่วางอุปกรณ์อาบน้ำแบบเว้นช่องในผนัง

ติดประตูห้องน้ำด้านทางเข้าห้องนอน เป็นพื้นที่ทางเดิน

ที่ออกแบบให้เป็น Built-in ตู้เสื้อผ้า แบบบานเปิดเต็มผนัง ทั้ง 2 ด้าน

ส่วน Hi light ของห้องและของโครงการ คือ ห้องนอนที่มาพร้อมกับ Bay window ที่เปิดกว้าง ทำให้ห้องนอนดูโล่ง สว่าง พร้อมด้วยพื้นห้องนอนลามิเนตลายไม้ ทำให้ดูอบอุ่น และเข้ากับแสงธรรมชาติที่จะส่องเข้ามาจาก Bay window

ภายในห้องนอนโครงการฯวางเตียง Queen size ตกแต่งไว้ให้ ก็ยังพอมีที่เหลือโดยรอบเตียง หากใครชอบเตียงใหญ่ก็ยังสามารถเพิ่มขนาดได้โดยที่ยังพอมีพื้นที่โดยรอบเตียงแบบเหลือๆ

ที่ Bay window เป็นกระจกเข้ามุม หน้าต่างบานเลื่อนแบบ 2 ด้าน ทำให้มุมมองเปิดกว้าง มาพร้อมกับเว้นช่องให้เก็บม่าน ที่ตกแต่งขอบคิ้วเชื่อมทั่วทั้งห้อง

สำหรับ 1 ห้องนอน มีแอร์ให้ 2 ตัว คือที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นแอร์ของ Daikin

ส่วนพื้นที่ส่วนกลางล็อบบี้รูปแบบ Mood & Tone จะคล้ายกับ Sale office

ตกแต่งด้วยโทนสีเทาอ่อน ขาว ทอง เพื่อความอบอุ่น เน้นความเป็นครอบครัว และดูคลาสสิค

สระว่ายน้ำ ออกแบบให้เป็นอาคารล้อมรอบ เป็นฟิตเนส และพื้นที่พักผ่อนล้อมรอบที่ชั้น2 และที่พักอาศัยล้อมรอบ ได้วิวสระว่ายน้ำที่ชั้น 3-7

และมี roof top garden ที่ชั้น 8 ที่ล้อมรอบด้วยห้องพัก โดยเป็นเสมือนห้องพักที่มีสวนส่วนตัว

Melanie Bangkok เปิดขายในช่วงพรีเซลอยู่ที่ราคาประมาณ 110,000 – 130,000 บาท/ตร.ม. โดยราคาขายที่ถูกที่สุดในแต่ละ Type คือ

(ห้อง 1 Bedroom :Fl2: 35 Sq.m. ขาย 4,253,900 บาท

:Fl4: 49 Sq.m. ขาย 6,308,750 บาท

:Fl8: 43 Sq.m. ขาย 5,757,700 บาท

ห้อง 2 Bedroom :Fl3: 77 Sq.m. ขาย 10,055,130 บาท

:Fl4: 77 Sq.m. ขาย 10,213,750 บาท)

หากพิจารณาจากราคาขายในระดับนี้ก็คงต้องบอกว่ามีราคาที่ค่อนข้างจะ Competitive ถ้าเทียบกับบรรดาโครงการคอนโด High Rise ที่อยู่ในย่านถนนนราธิวาส และถนนจันทน์ โดยโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับ Melanie Bangkok อย่าง Fuse Chan Sathorn อาจจะหาห้องที่ราคาถูกลงกว่านี้ได้หน่อย แต่นั้นก็ต้อง Trade off กับจำนวนยูนิตพักอาศัยที่มีอยู่สูงถึง 1,225 ยูนิต และอยู่ค่อนข้างลึกเข้าไปในถนนจันทน์

ด้วยรูปลักษณ์การออกแบบที่เป็นสไตล์ยูโรเปียนคลาสสิค อาจเป็นข้อจำกัดกลุ่มลูกค้าไปสักหน่อย ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรม โทนสี และวัสดุที่เน้นกลุ่มครอบครัวในพื้นที่เป็นหลัก แต่ก็น่าจะการันตีการยอมรับกับคนละแวกนี้ กับยอดขายในช่วงพรีเซลถึง 30 ยูนิต จากทั้งหมด 123 ยูนิต ซึ่งก็ถือว่าตอบโจทย์กับคนในย่านและแวกนี้ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่คือคนที่อาศัยในพื้นที่ ที่เป็นชาวจีนสูงวัยที่มีกำลังซื้อสูง และอยากมีที่พักที่ถูกจริตกับไลฟ์สไตล์และความคุ้นชินของตัวเอง คือ ไม่ใช่อาคารสูง และรูปแบบที่ไม่ได้ทันสมัย แต่ตอบโจทย์ครอบครัวในพื้นที่ ที่ถือว่าเป็น กลุ่ม real demand ต่างกับโครงการ High Rise อื่นๆในย่านถนนจันทน์ที่ดูจะไม่ค่อยเน้นการขาย กับคนที่ยึดติดในถิ่นฐานเดิมอย่างถนนจันทน์มากนัก

ทั้งนี้สำหรับผู้ที่ต้องใช้รถไฟฟ้าในการเดินทางเป็นหลัก ทางโครงการจะจัดให้มีรถ Shuttle Bus ไปส่งที่ สถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี ด้วยครับ

และสำหรับคนที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุนในระยะยาว โครงการ Melanie Bangkok ยังมีห้องชั้น 3 ที่ขายแบบ Fully Furnished สำหรับนักลงทุนโดยเฉพาะ ที่มาพร้อมโปรโมชั่น guarantee yield 5% ซึ่งก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะด้วยทำเลใจกลางเมือง ที่หลบเข้ามาในพื้นที่ย่านที่อยู่อาศัยที่เงียบสงบ สามารถเดินทางได้หลากหลายและสะดวก Melanie Bangkok จึงน่าจะเหมาะกับการลงทุนสำหรับครอบครัวในอนาคต ของคนติดถิ่น ติดย่านถนนจันทน์ สาทร ที่เป็นย่านชุมชนดั้งเดิมใจกลางกรุงเทพมหานครแห่งนี้