‘โซ แบงคอก’ เนรมิต ‘Iris & Wild Iris’ รูฟท็อป Lifestyle Brasserie แห่งใหม่ ปักหมุด Social Dining Destination ใจกลางกรุง ชูไฮไลต์ “วิวสวนลุมพินีที่สวยสะกดสายตา”
‘โซ แบงคอก’ (SO/ Bangkok) ฉีกกฎดินเนอร์แบบเดิมๆ เนรมิตร “Iris & Wild Iris” (ไอริส แอนด์ ไวลด์ ไอริส) รูฟท็อป Lifestyle Brasserie แห่งใหม่ใจกลางมหานคร ที่จะมาปักหมุดเป็น Social Dining Destination สุดชิค แหล่งนัดพบปะสังสรรค์แห่งใหม่ที่ถ่ายทอดเสน่ห์และอารมณ์ที่แตกต่างระหว่างกลางวันและค่ำคืน พร้อมไฮไลต์ที่สะกดสายตา “วิวสวนลุมพินีแบบพาโนรามาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ” เผยโฉมให้คุณได้เข้ามาดื่มด่ำบรรยากาศและเช็คอินความชิคได้แล้ววันนี้
นายภวัฒก์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ผู้นำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจไลฟ์สไตล์ เปิดเผยว่า วีรันดาฯ ได้ยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ของโรงแรม โซ แบงคอก (SO/ Bangkok) ใหม่ โดยได้ลงทุนกว่า 30 ล้านบาท เพื่อเนรมิต “Iris & Wild Iris” (ไอริส แอนด์ ไวลด์ ไอริส) ที่ถ่ายทอดเสน่ห์กลิ่นอายความชิคแห่ง เฟรนช์ ริเวียร่า (French Riviera) หรือเมืองตากอากาศริมชายฝั่งทะเลของฝรั่งเศส เข้ากับจังหวะชีวิตที่มีสีสันของกรุงเทพฯ สะท้อนบุคลิกที่แตกต่างได้อย่างลงตัว โดยได้เปิดให้บริการแล้วเพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่และช่วงเวลาแห่งความสุขที่กำลังจะมาถึง
“Iris & Wild Iris” ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นบนรูฟท็อปชั้น 29 ของโรงแรมโซ แบงคอก โดยไฮไลต์ที่สำคัญของ “Iris & Wild Iris” คือทำเลที่ตั้งซึ่งมอบทัศนียภาพระดับมาสเตอร์พีซที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “จุดชมวิวสวนลุมพินีที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ” ให้แขกผู้มาเยือนได้สัมผัสความสอดประสานอย่างงดงามระหว่างพื้นที่สีเขียวผืนใหญ่ของสวนลุมพินี ตัดกับเส้นขอบฟ้าของมหานคร (City Skyline) ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่มองหาพื้นที่พักผ่อนที่ถ่ายรูปสวย มีเรื่องราว (Storytelling) และสามารถถ่ายทอดมุมมองของกรุงเทพฯ ได้อย่างน่าประทับใจในทุกมิติ
ที่มาของชื่อ “Iris & Wild Iris” สะท้อนถึงความงามของสองช่วงเวลาที่แตกต่าง ทั้งความอ่อนช้อยอบอุ่นในบรรยากาศฤดูร้อน และความอิสระโฉบเฉี่ยวผ่านงานดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพื้นผิวธรรมชาติ เส้นโค้งที่ละมุนตาเล่นล้อกับแสงแดดอุ่น สร้างบรรยากาศที่เป็นกันเอง (Casual) ในยามกลางวัน ก่อนจะเปลี่ยนผ่านสู่ความน่าหลงใหลในยามค่ำคืน สถานที่แห่งนี้จึงเป็น Social Dining ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพบปะ ช่วยเติมเต็มอรรถรสให้ทุกบทสนทนาลื่นไหลอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมมอบสุนทรียรสสไตล์ เฟรนช์ ริเวียร่า ผ่านเมนูอาหารที่ดึงรสชาติความสดใหม่จากผืนดินและท้องทะเลสไตล์อิตาเลียน ผสานกับเครื่องดื่ม Signature Cocktail และไวน์ชั้นเลิศที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ท่ามกลางเสียงดนตรีและบทเพลงที่ Curate มาเพื่อสร้าง Vibe แห่งการสังสรรค์ ตั้งแต่ช่วงพระอาทิตย์ตกดิน (Sunset Hour) ไปตลอดค่ำคืนอันแสนพิเศษ








