Sustainability is a must!โรงแรมยุคใหม่ต้องยั่งยืน เพราะความคาดหวังของแขกเปลี่ยนไปแล้ว!
ทีมงาน Propholic.com ขอสรุปเนื้อหาจากเสวนาเรื่อง Going green: Sustainable hospitality and why it matters ในงาน NOVACANCY วันที่ 18 พ.ย. 2025
ในปี 2025 ความยั่งยืนไม่ใช่คำแฟชั่นอีกต่อไป แต่เป็น “เงื่อนไขพื้นฐาน” ที่นักเดินทางใช้ตัดสินใจเลือกที่พัก ตัวเลขจาก Booking.com ระบุว่า 84% ของนักเดินทางทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และกว่า 80% ของนักเดินทางในเอเชียแปซิฟิกยินดีเลือกตัวเลือกที่ยั่งยืน หากเข้าถึงง่ายและเชื่อถือได้ ความต้องการนี้ทำให้อุตสาหกรรมโรงแรมต้องมองความยั่งยืนเป็น “กลยุทธ์ธุรกิจ” ไม่ใช่ “กิจกรรมเสริมภาพลักษณ์” อีกต่อไป
บทความนี้สรุปแนวคิดสำคัญจากเสวนาระหว่างตัวแทนจาก Six Senses, Hilton และ Marriott ซึ่งเป็นสามเชนโรงแรมระดับโลกที่กำลังผลักดันมาตรฐานใหม่ให้กับวงการบริการในเอเชีย
1. Mindset คือรากฐาน ความยั่งยืนไม่ใช่โปรเจกต์ แต่คือวัฒนธรรมองค์กร
Jennifer Klar จาก Six Senses กล่าวว่า ความยั่งยืนคือ “mindset” ความคิดที่ว่าของบางอย่าง “ดูเหมือนยั่งยืน” เช่น แปรงสีฟันไม้ แต่ความจริงอาจไม่ยั่งยืนเลย หากเป็นวัสดุผสมที่รีไซเคิลไม่ได้ เธอชี้ว่าโรงแรมต้องสร้าง “นิสัย” ของพนักงานด้วยหลักการ carrot และ stick หมายถึงการให้ความรู้ ควบคู่กับการวัดผลเชิงตัวเลข เช่น ปริมาณขยะและการใช้พลังงาน เพื่อให้การเปลี่ยนพฤติกรรมเกิดขึ้นจริง
ขณะเดียวกันตัวแทนจาก Marriott และ Hilton เห็นตรงกันว่า mindset นี้กำลังเกิดขึ้นจริงในโรงแรม เมื่อพนักงานเริ่ม “คิดเอง ทำเอง” เพื่อหาวิธีลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากเบื้องบน
2. การลดขยะอาหาร (Food waste) ตัวอย่างชัดเจนว่าความยั่งยืนเท่ากับประสิทธิภาพทางธุรกิจ
ตัวแทนจาก Hilton ยกตัวอย่างการใช้ระบบ AI ตรวจวัดขยะอาหารในครัว ซึ่งทำให้สามารถปรับเมนู ลดต้นทุน และในหลายกรณีนำต้นทุนที่ประหยัดได้กลับไปเพิ่มคุณภาพวัตถุดิบ เช่น ไข่ปลอดสารหรือซีฟู้ดยั่งยืน ผลลัพธ์คือโรงแรมทั่วโลกของ Hilton ลดจำนวนมื้อที่สูญเปล่าได้ถึง 3.9 พันล้านมื้อ จากการใช้ระบบเดียวกันนี้
ในช่วง Green Ramadan ซึ่งเป็นเทศกาลที่ปกติขยะอาหารจะเพิ่มขึ้นถึง 50% Hilton ร่วมมือกับ UN เพื่อลดปริมาณขยะได้ 26% คิดเป็นมื้ออาหารกว่า 6,000 มื้อ ในสองปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าการให้ความรู้แก่ลูกค้าแบบ “ไม่ตำหนิ” เป็นวิธีที่ได้ผลที่สุดในเอเชีย
3. ความยั่งยืนสร้างผลตอบแทนจริง ทั้งด้านพลังงาน ต้นทุน และความเชื่อถือ
ตัวแทนจาก Marriott ชี้ว่าโรงแรมจำนวนมากเริ่มยอมเปลี่ยนเทคโนโลยี เช่น Chiller ประหยัดพลังงาน ทั้งที่อายุใช้งานเดิมยังเหลือหลายปี เพราะ ROI ของอุปกรณ์รุ่นใหม่คุ้มค่ากว่าในระยะสั้น นี่คือการลงทุนเพื่อโรงแรมในยุคที่แขกต้องการแบรนด์ที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
โรงแรมในไทยของ Marriott กว่า 75% ได้รับมาตรฐานด้านความยั่งยืน ซึ่งช่วยทั้งสร้างความเชื่อมั่นกับนักเดินทาง และเป็นเงื่อนไขสำคัญในการรับลูกค้าองค์กรระดับโลกที่มีนโยบาย ESG ชัดเจน
4. ลงทุนในชุมชน คือ ลงทุนในแบรนด์
Six Senses ใช้ Sustainability Fund ทำกิจกรรมเพื่อชุมชน เช่น จัดหาเครื่องกรองน้ำให้พื้นที่ห่างไกล, โครงการฟื้นฟูปะการัง, สนับสนุนการศึกษา
เจ้าของโรงแรมต้องการเห็น “ผลลัพธ์เป็นตัวเลข” เช่น จำนวนปะการังที่ฟื้นฟูได้ หรือน้ำดื่มสะอาดที่ผู้คนได้รับ เพราะนี่คือวิธีพิสูจน์ว่าเงินลงทุนสร้าง “ผลลัพธ์เชิงบวก” ไม่ใช่การทำ CSR แบบฉาบฉวย
Earth Lab ของ Six Senses ยังเปลี่ยนเรื่องความยั่งยืนให้ “จับต้องได้” ผ่านกิจกรรม เช่น รีไซเคิลแก้วเป็นของที่ระลึก ทำให้แขกรู้สึกมีส่วนร่วมและเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขานำแนวคิดกลับบ้านไปใช้จริง



