คลื่นเทคโนโลยีตั้งแต่ปี 2025 จะมีอะไรบ้าง และส่งผลต่ออสังหาริมทรัพย์อย่างไร?
วันนี้ Propholic อยากชวนผู้อ่านลองมองอนาคตของวงการอสังหาริมทรัพย์ผ่านเลนส์ของหลากหลายเทรนด์เทคโนโลยีสำคัญที่ทาง McKinsey สรุปออกมาว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีเม็ดเงินจริงลงทุนมหาศาลและจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่เป็นตัวแปรสำคัญในการสร้างโอกาสใหม่ๆ แต่ก็เกิดความท้าทายที่ไม่อาจมองข้ามได้ไปด้วยพร้อมกัน
Photo by ThisIsEngineering: https://www.pexels.com/photo/
หากคนวงการอสังหาเข้าใจ Tech Trend เหล่านี้จะช่วยให้สามารถวางกลยุทธ์และปรับตัวในโลกธุรกิจยุคใหม่ได้อย่างดีและไม่ตกเทรนด์ ไม่เป็นคนสุดท้ายที่ตื่นตัวแต่ไม่ทันเสียแล้ว
อนาคตของอสังหาริมทรัพย์จะไม่ใช่เพียงเรื่องของ Location ทำเลที่ตั้งและ Spec วัสดุก่อสร้างอีกต่อไป แต่จะถูกนิยามใหม่ด้วยข้อมูล ความอัจฉริยะ และความยั่งยืน (Data & Intelligence and Sustainablity) อาคารบ้านเรือนจะไม่ใช่เพียงที่อยู่อาศัยหรือสำนักงาน แต่จะกลายเป็นระบบดิจิทัลที่สามารถทำงานด้วยตนเองและเชื่อมโยงกับตัวเมืองรอบตัวได้อย่างสมบูรณ์ คนอสังหาฯ ที่ปรับตัวเร็วจะกลายเป็นผู้นำของตลาดได้
หนึ่งในเทรนด์สำคัญคือการปฏิวัติของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI การใช้ AI ในวงการอสังหาริมทรัพย์จะไม่จำกัดเพียงใช้แค่ทำการตลาด การวิเคราะห์ราคาและความต้องการของผู้ซื้อ แต่สามารถทำนายความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนได้อย่างแม่นยำ การตัดสินใจลงทุนอสังหาในอนาคตจึงมีความเสี่ยงลดลงเกือบเป็นศูนย์ แต่ก็เกิดการแข่งขันด้านข้อมูลอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นบริษัทใดที่สามารถรวบรวมและจัดการ Big Data ได้ดีกว่าจะได้เปรียบเหนือคู่แข่งอย่างชัดเจน
ในขณะเดียวกัน AI Agent หรือผู้ช่วยอัจฉริยะก็สามารถบริหารจัดการอาคารแทนมนุษย์ได้ จะช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการทรัพย์สินลงอย่างมาก แต่ก็ยากในด้านการควบคุมและความรับผิดชอบ เพราะหากวันใด AI ตัดสินใจผิดพลาดหรือถูกโจมตีทางไซเบอร์ ผู้ประกอบการต้องมีแผนรองรับอย่างชัดเจนและต้องคำนึงเรื่องกฎหมายซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงอีกทางด้วย
Photo by Tara Winstead: https://www.pexels.com/photo/
ความก้าวหน้าด้านการประมวลผลและการเชื่อมต่อก็เป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญ ชิปเฉพาะทางจะช่วยให้อาคารอัจฉริยะประมวลผลข้อมูลได้รวดเร็วและประหยัดพลังงาน แต่ก็ต้องแลกกับต้นทุนเริ่มต้นที่สูง การเชื่อมต่อความเร็วสูง เช่น 6G หรือดาวเทียม LEO จะทำให้เมืองอัจฉริยะเป็นจริง แต่ก็สร้างความคาดหวังในใจของผู้ซื้อที่ต้องพร้อมจ่ายเงินเพิ่มสำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเชื่อมต่อที่เหนือกว่า ความท้าทายอีกทางหนึ่งคือจะทำอย่างไรให้ผู้ซื้อยินดีจ่ายเพิ่มกับเทคโนโลยีเหล่านี้ ซึ่งนั่นต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ที่จะแปลงเทคโนโลยีให้กลายเป็น solution ที่ผู้บริโภคต้องการจริงๆ
เทคโนโลนีการประมวลผลแบบ Edge และ Cloud จะช่วยให้ระบบตอบสนองทันทีทันใดทั้งด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบาย แต่ก็ต้องระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย ประเด็นโลกเสมือนจริง (AR/VR) จะทำให้การขายและออกแบบโครงการทำได้โดยไม่ต้องสร้างจริงก่อน แต่ก็ต้องลงทุนสูงทั้งด้านอุปกรณ์และฝึกฝนบุคลากร ซึ่งต้องมาคำนวณว่าคุ้มค่าทางการเงินหรือไม่ ส่วนบล็อกเชนและสัญญาอัจฉริยะ (ฺBlockchain and Smart Contract) จะช่วยให้การโอนกรรมสิทธิ์รวดเร็ว โปร่งใส และลดค่าใช้จ่าย แต่ภัยคุกคามทางไซเบอร์ก็จะซับซ้อนและรุนแรงมากขึ้น และการปรับตัวฝั่งหน่วยงานรัฐและกฎหมายจะปรับปรุงทันตามเทคโนโลยีหรือเปล่า ทางด้านควอนตัมคอมพิวติ้ง (Quantum Computing) ยังเป็นเทคโนโลยีในอนาคตที่จะช่วยวิเคราะห์การลงทุนและออกแบบโครงสร้างได้เหนือชั้น แต่ก็ยังไม่พร้อมใช้งานเชิงพาณิชย์และต้องรอคอยกันต่อไป