CHEWA พร้อมบุก! ปรับกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืนพร้อมพันธมิตร วางแผนเติบโตด้านรายได้และลดหนี้ต่อเนื่อง เตรียมแผนซื้อที่ดิน 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 2,395 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ 2,000 ล้านบาท
CHEWA พร้อมบุก! ปรับกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืนพร้อมพันธมิตร วางแผนเติบโตด้านรายได้และลดหนี้ต่อเนื่อง ตั้งแต่มุ่งเน้นโปรโมชั่น Mega Sales , อยากซื้อต้องได้ซื้อ ที่ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพิ่มรายได้จากธุรกิจให้เช่าและนิติบุคคล รวมถึงการลดหนี้ลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมชูจุดเด่นด้านการดูแลลูกค้า เตรียมแผนซื้อที่ดิน 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 2,395 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 จำนวน 2,000 ล้านบาท
นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า ในปี 2568 ชีวาทัยเดินหน้าศึกษาเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยบนทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมุ่งเน้นเซ็กเมนต์ที่บริษัทถนัดและได้รับผลตอบรับที่ดีมาตลอด ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมในช่วงราคา 2-4 ล้านบาท ผ่านแบรนด์หลัก Chewathai Hallmark โดยวางแผนการซื้อที่ดินใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 2,395 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการเจรจาเพื่อเข้าซื้อคอนโดระหว่างก่อสร้างเพื่อการรับรู้รายได้ที่เร็วขึ้นอีก 1-2 โครงการในปีนี้ เพื่อให้ได้เป้าหมายที่ต้องการการรับรู้รายได้ปี 2568 จำนวน 2,000 ล้านบาท และบริษัทยังขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) โดยเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพและเชื่อมโยงกับธุรกิจเดิมของบริษัท ได้แก่ ธุรกิจบ้านมือสอง ภายใต้แบรนด์ Chewa Renue และธุรกิจนิติบุคคล พร้อมศึกษาธุรกิจอื่นๆ ที่จะส่งเสริมและสร้างรายได้ให้บริษัทอย่างต่อเนื่อง
ด้านกลยุทธที่จะนำมาใช้ในปีนี้ มีการต่อยอดนโยบายด้านการขายที่ได้รับผลตอบรับที่ดี คือโปรโมชั่น “อยากซื้อต้องได้ซื้อ” ที่มาในรูปแบบของการให้บริการ financial consultant เข้าดูแลลูกค้าที่มีปัญหาด้านการจัดการเอกสารการกู้สินเชื่อ การบริหารภาระหนี้ หรือปัญหาด้านวินัยทางการเงิน จนไม่สามารถกู้ได้ ชีวาทัยจะเข้าไปดูแลให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าในระยะยาวต่อเนื่องจนสามารถกู้ผ่านและโอนได้ ทำให้มี backlog ส่วนหนึ่งที่อยู่กับเรานานมาก บางรายมากกว่า 6 เดือน และค่อยๆปรับปรุงวินัยทางการเงินจนสามารถกู้ได้สำเร็จ นอกจากนี้กลยุทธ์เพื่อส่งเสริมด้านการแข่งขัน จะมีการจัดโปรโมชันใหญ่ของชีวาทัย “MEGA SALES” เพื่อคืนกำไรแก่ลูกค้าตลอดปี คาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
“บริษัทมีแผนลดภาระหนี้หุ้นกู้รวม 470 ล้านบาท โดยปีนี้สามารถลดภาระหนี้ลงได้แล้ว 250 ล้านบาท จากการชำระคืนหุ้นกู้ ภายในปี 2568 ยังตั้งเป้าจะเร่งลดหนี้ลงอย่างต่อเนื่องอีก 220 ล้านบาท การลดภาระหนี้ลงตามแผนจะทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนทางการเงินของบริษัท และยังทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง มีสภาพคล่องทางการเงินสูงขึ้น ที่สำคัญยังจะมีผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทลดลงด้วย