พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ชูบริการ “Plus Luxury Management” ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย ยกระดับคุณภาพบ้าน คุณภาพชีวิต และการลงทุนที่คุ้มค่าระยะยาว
– พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ส่งมอบบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการผู้อยู่อาศัยในโครงการลักซ์ชัวรี่ ผ่าน “Plus Luxury Management” ชูกลยุทธ์ Customer Centric บริการที่ Customise ได้ตามต้องการ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกบ้านที่แตกต่าง พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้ที่อยู่อาศัย ชี้โครงการลักซ์ชัวรี่ที่ใช้บริการมีอัตราผลตอบแทนการลงทุนเฉลี่ย 7-10% ต่อปี และ ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า 7-9% ต่อปี*
– บริการตอบสนอง 3 สุดยอดองค์ประกอบสำคัญของการอยู่อาศัย: THE BEST COMMUNITY สังคมการอยู่อาศัยคุณภาพ อยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านอย่างอุ่นใจ THE BEST SECURE PLACE TO LIVE ผนึก LIV-24 ผู้นำเทคโนโลยีความปลอดภัย นำ AI มาใช้งาน ช่วยลด Human Error ผู้อาศัยมีความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น THE BEST IN TIMELESS QUALITY คุณภาพเหนือกาลเวลา ผ่านการดูแลการอยู่อาศัยครบวงจร
– ชูจุดเด่นของทีมงานมืออาชีพ มากประสบการณ์ ผ่านการฝึกอบรมจาก Luxury Management Academy โดยพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเปิดขึ้นเป็นเจ้าแรกในเมืองไทย พร้อมทั้งอบรมหลักสูตรอื่น ๆ จากในและต่างประเทศ พร้อมดูแลทรัพย์สินมูลค่าสูงและความเป็นอยู่ของลูกบ้าน ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
– ยกระดับมาตรฐานใหม่ให้วงการที่อยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรี่ ตอบทุกโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัย S-Class ทั้งคุณภาพบ้าน-คุณภาพชีวิต-การลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อความสุขในการอยู่อาศัยที่เหนือระดับไปอีกขั้น
นฤมล อาภรณ์ธนกุล รองกรรมการผู้จัดการสายงานบริหารอาคาร บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า พลัส พร็อพเพอร์ตี้ มุ่งยกระดับบริการ Luxury Management เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยอย่างครบวงจรให้กับลูกบ้านในโครงการลักซ์ชัวรี่ ด้วยการบริหารจัดการที่เป็นมาตรฐานสากล มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ พร้อมทีมงานที่ผ่านการฝึกอบรมจากหลักสูตรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้งานเพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ชูกลยุทธ์มุ่งเน้นลูกค้าเป็นสำคัญ (Customer Centric) จึงทำให้บริการปรับเปลี่ยนหรือออกแบบได้ตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้อย่างลงตัว ให้ลูกบ้านมีคุณภาพชีวิตในการอยู่อาศัยที่ครบครัน และมูลค่าโครงการที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลา
เทรนด์การมองหาที่อยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรี่ของลูกค้าในปัจจุบัน นอกเหนือจากปัจจัยด้านการลงทุนที่คุ้มค่า ทำเล คุณภาพบ้าน ความสวยงามของโครงการ ลูกค้ายังให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายที่จะได้รับ รวมถึงความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว สังคมการอยู่อาศัย และคุณภาพการใช้ชีวิต ซึ่งเป็นปัจจัยลำดับตั้น ๆ ที่ลูกค้าใช้ในการตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัยเช่นกัน พลัสฯ จึงต่อยอดความแข็งแกร่งด้วยกลยุทธ์ด้านบริการ ส่ง Plus Luxury Management ให้บริการลูกค้าที่อยู่อาศัยในโครงการลักซ์ชัวรี่ ด้วยประสบการณ์กว่า 28 ปีในการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร จึงทำให้สามารถออกแบบบริการที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง เรียกได้ว่า ไม่เพียงแค่ซื้อบ้านแล้วจบไป แต่ยังมีบริการหลังการขายที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตด้วย
จากข้อมูลการซื้อขาย ปล่อยเช่า ของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผลตอบแทนการลงทุน ในโครงการทำเลกรุงเทพกรีฑา เช่น โครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 1, เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2, บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา, ณริณสิริ กรุงเทพกรีฑา และ นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา พบว่า อัตราผลตอบแทนจากการขายต่อ (Capital Gain) เฉลี่ยสูงถึง 7-10% ต่อปี และมี Rental Yield อยู่ที่ 7-9% ต่อปี ซึ่งสะท้อนศักยภาพของทำเลและการบริหารจัดการโครงการที่มีมาตรฐาน ทำให้โครงการยังคงความสวยงาม และมีมูลค่าสูงขึ้นตามกาลเวลาจากการดูแลที่ดี