เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ชูกลยุทธ์ Eco-Luxury Experiences ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวยั่งยืน
ลองนึกภาพวันหยุด ที่นอกจากจะได้พักผ่อนอย่างมีความสุขท่ามกลางบรรยากาศอันงดงามแล้ว คุณยังได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและเป็นส่วนหนึ่งอย่างกลมกลืนกับท้องถิ่นไปพร้อมกัน
จากภาพแนวคิดดังกล่าว ทำให้ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (S Hotels and Resorts: SHR) ผู้ประกอบธุรกิจบริหารและลงทุนโรงแรมรีสอร์ทในเครือบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ต้องการที่จะผลักดันการท่องเที่ยวมุมมองใหม่ที่โดดเด่นและแตกต่าง โดยให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวสีเขียว หรือ Green Tourism ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมที่กำลังขยายใหญ่ขึ้น
นายไมเคิล มาร์แชล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า“เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ได้ทำการโปรโมทการท่องเที่ยวสีเขียวมาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ และนับเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทฯ ที่เป็นหนึ่งในผู้นำกระแสการท่องเที่ยวรูปแบบดังกล่าว”
การเพิ่มมูลค่าประสบการณ์การท่องเที่ยวและพักผ่อนที่แตกต่าง รวมไปถึงการสร้างสรรค์กิจกรรมที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถลดและชดเชยผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการท่องเที่ยว ล้วนเป็นหนทางของ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ในการนำเสนอการท่องเที่ยวของประเทศไทยมุมมองใหม่อย่างมีนวัตกรรม เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวระดับโลก (World Class Destination)
ยิ่งไปกว่านั้นเอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ยังเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ก้าวไปในทิศทางของ “การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ” ด้วยการโปรโมทการท่องเที่ยวสีเขียว ผ่านโรงแรมและรีสอร์ทของบริษัทฯ ทั้งในประเทศไทย และในมัลดีฟส์
โดยชู 2 จุดไฮไลท์ ได้แก่ Eco-Luxury Experience: การพักผ่อนอย่างลักชูรีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และEcotourism: ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เรียนรู้ธรรมชาติและท้องถิ่น
1. Eco-Luxury Experience: การพักผ่อนอย่างลักชูรีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
หากพูดถึงการท่องเที่ยวที่ไม่สร้างผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม ภาพของบรรยากาศที่หรูหรา สะดวกสบาย บริการที่มีคุณภาพ อาจไม่ใช่ภาพแรกที่หลายคนนึกถึง แต่ปัจจุบันผู้นำธุรกิจโรงแรมในเซ็กเมนต์ลักชูรีทั่วโลกได้เริ่มผสมผสานความยั่งยืนเข้ามาในรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานทดแทน ไปจนถึงการปรุงอาหารจากวัตถุดิบในท้องถิ่นจากแหล่งผลิตที่ยั่งยืน
สำหรับโรงแรมในเครือของ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ททั้งในไทยและมัลดีฟส์ ได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในหลากหลายมิติ เช่น การลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use plastic) การสร้างระบบผลิตน้ำและบรรจุน้ำดื่มใส่ขวด และมีจุดบริการเติมน้ำดื่มให้แก่ผู้เข้าพักทั้งที่โรงแรม รวมถึงที่ โซ/ มัลดีฟส์ มีการใช้พลังงานทางเลือกจากโซลาร์เซลล์บนหลังคาห้องพัก รวมถึงระบบบำบัดน้ำ ยานพาหนะไฟฟ้า สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องน้ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการใช้ผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่น ในขณะที่ไลฟ์สไตล์รีสอร์ท “SAii Resorts” (ทราย รีสอร์ท) ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ SAii Phi Phi Island Village (ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ) SAii Laguna Phuket (ทราย ลากูน่า ภูเก็ต) SAii Koh Samui Choengmon (ทราย เกาะสมุย เชิงมน) และ Maldives SAii Lagoon (ทราย ลากูน มัลดีฟส์) ก็มีการก่อสร้างและตกแต่งโรงแรมด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ ที่ยังคงไว้ด้วยการพักผ่อนและความสะดวกสบายแบบลักซ์ชัวรีโดยแต่ละองค์ประกอบเน้นแนวคิดการตกแต่งและออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะและงานฝีมือชาวท้องถิ่น บวกรวมกับแนวคิดการอนุรักษ์ธรรมชาติและความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของเอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
2. Ecotourism: ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เรียนรู้จากธรรมชาติและท้องถิ่น
การใช้เวลาพักผ่อนในสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นเรื่องความสวยงามทางธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ หรือตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity) ถือเป็นโอกาสสำคัญที่นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ปัจจุบันธุรกิจโรงแรมชั้นนำได้เริ่มนำเสนอกิจกรรมการสำรวจธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมสันทนาการของโรงแรม เพื่อเปิดโอกาสให้แขกผู้เข้าพักได้สัมผัสกับธรรมชาติในพื้นที่พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับพืชพรรณและสัตว์นานาชนิดในท้องถิ่น
โรงแรมในเครือ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท มีการจัดกิจกรรมสำรวจเส้นทางธรรมชาติ (Nature Trail) พานักท่องเที่ยวเยี่ยมชมเส้นทางธรรมชาติที่เป็นพื้นที่หลากหลายทางชีวภาพทั้งบนบกและในน้ำพร้อมให้ความรู้และสร้างจิตสำนึกที่ดีในการรักษาสิ่งแวดล้อมจนสามารถบอกต่อไปกับคนอื่น ๆ ทั้งที่ โรงแรมสันติบุรี เกาะสมุย (Santiburi Koh Samui) และ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ (SAii Phi Phi Island Village) นอกจากนี้ยังได้ก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล (Marine Discovery Centre: MDC) ขึ้นที่ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ (SAii Phi Phi Island Village) และโครงการ ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ (CROSSROADS Maldives) ในสาธารณรัฐมัลดีฟส์ เพื่อเป็นสื่อการเรียนรู้ให้ผู้ที่สนใจด้านระบบนิเวศน์ทางทะเล และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน