ซีบีอาร์อีเผยตลาดที่พักอาศัยตากอากาศระดับลักซ์ชัวรี่ในภูเก็ตน่าจับตามอง ดีมานด์ทะลัก ทั้งกลุ่มผู้อยู่อาศัยเอง และกลุ่มนักลงทุน
ซีบีอาร์อี บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก เผยภาพรวมตลาดที่พักอาศัยตากอากาศในภูเก็ตปี 2566 มีสัญญาณการฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมที่ทำสถิติยอดขายในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 สูงสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และซีบีอาร์อีปิดการขายคอนโดมิเนียม ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 113% ของตัวเลขยอดขายรวมของทั้งปี 2565 โดยมีสามปัจจัยหลักที่ลูกค้าให้ความเชื่อมั่น ส่งผลให้ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ศักยภาพของตัวจังหวัดภูเก็ตเอง ภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก มีตลาดเช่าที่ชัดเจน มีการรับบริหารจัดการปล่อยเช่า สะดวกสบายต่อนักลงทุน และโครงการส่วนใหญ่ก็มีเซอร์วิสมอบบริการและประสบการณ์ที่ประทับใจให้แก่ผู้พักอาศัย จากปัจจัยข้างต้นดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดภูเก็ตได้รับความสนใจจากทั้งกลุ่มผู้อยู่อาศัยเองและกลุ่มนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
นางสาวประกายเพชร มีชูสาร หัวหน้าแผนกซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ซีบีอาร์อี ประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดวิลล่าและคอนโดมิเนียมในภูเก็ต มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากการผ่อนคลายการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เห็นได้จากการเปิดตัวโครงการที่พักอาศัยตากอากาศระดับลักซ์ชัวรี่ในภูเก็ตที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้พัฒนาโครงการ โดยเฉพาะภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมในภูเก็ตทำสถิติยอดขายในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 อยู่ที่ 1,486 ยูนิต สูงที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา โดยช่วงครึ่งแรกของปี 2566 มีอัตราการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่อยู่ที่ 364 ยูนิต ซีบีอาร์อีคาดการณ์ว่าตลอดทั้งปี 2566 จะมีคอนโดมิเนียมใหม่เปิดตัวรวมทั้งสิ้นกว่า 3,000 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากปี 2565 อยู่ที่ 8.9% และยังถือว่ามีการเปิดตัวโครงการมากกว่าช่วงปี 2561-2565 หรือคิดเป็น 2.03 เท่าของค่าเฉลี่ยการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยทำเลที่มีการเปิดตัวสูงที่สุดจะเป็นทำเลชายฝั่งตะวันตกกลาง West Coast (Central) โดยหาดที่มีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมมากที่สุด คือ หาดบางเทา และหาดลายัน
ซีบีอาร์อีปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียมในภูเก็ต ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 113% ของตัวเลขยอดขายรวมทั้งปี 2565 โดยมีสัดส่วนลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติอยู่ที่ร้อยละ 50 เท่ากัน ซึ่งลูกค้าชาวต่างชาติส่วนใหญ่มาจากโซนยุโรปและโซนเอเชีย ได้แก่ รัสเซีย จีน และอังกฤษ ตามลำดับ โดยซีบีอาร์อีคาดการณ์ว่าในปี 2567 ชาติดังกล่าวข้างต้นจะยังคงเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักเช่นเดิม อีกทั้งยังพบว่า มีตัวเลขชาวต่างชาติอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าจับตามอง ด้วยการเพิ่มขึ้นของตัวเลขการสอบถามที่พักอาศัยตากอากาศอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ กลุ่มตะวันออกกลาง และอินเดีย โดยพฤติกรรมของชาวต่างชาติจะเริ่มต้นจากการเข้ามาท่องเที่ยวและชื่นชอบในตัวจังหวัดภูเก็ต จึงเกิดความสนใจในที่พักอาศัยตากอากาศ อีกทั้งยังเล็งเห็นถึงโอกาสในการลงทุนจึงเปลี่ยนสถานะจากนักท่องเที่ยวเป็นผู้ซื้อ หรือนักลงทุน แสดงให้เห็นถึงภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมในปี 2567 จะยังคงได้รับความสนใจจากทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง
นางสาวประกายเพชร ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า สองวัตถุประสงค์หลักที่ลูกค้ากลุ่มลักซ์ชัวรี่ตัดสินใจซื้อที่พักอาศัยตากอากาศในภูเก็ต ได้แก่ การซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าร้อยละ 79 รองลงมาคือเพื่ออยู่อาศัยเองเป็นที่พักตากอากาศหรือบ้านหลังที่สองร้อยละ 21