ก่อนอื่นต้องบอกว่าเสียดายจริงๆที่วันนี้ฝนตกทั้งวัน เลยทำให้โครงการไม่สามารถ Present จุดเด่นที่สำคัญอย่างวิว 2 สวน 1 แม่น้ำได้ครับ…. COCO PARC คือโครงการคอนโดระดับ Luxury ที่ทางอนันดานิยามว่าเป็น The First Branded Residences ตัวแรกของอนันดา ซึ่งเป็นผลผลิตมาจากกลยุทธ์ Ananda New Blue ในปีที่แล้ว ที่ได้มีการมองหาน่านน้ำใหม่ ผสมผสานกับการจับมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องที่อนันดาไม่ถนัด ซึ่งในที่นี้ก็คือกลุ่มดุสิตธานี ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของ Hospitality Management และเป็นเจ้าของเชนโรงแรมชื่อดังในระดับโลกอย่าง ดุสิตธานี ดุสิตดีทู อาศัย ดุสิตปริ๊นเซส เช่นเดียวกับการมี Branded Residences แห่งแรกของตัวเองภายใต้ชื่อ Dusit Residences ที่อยู่ห่างจาก COCO PARC ออกไปเพียงแค่ 2 สถานีรถไฟฟ้า MRT โดยที่กลุ่มดุสิตเองก็ต้องการหาตลาดใหม่เพื่อที่จะใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองมา Plug in กับพาร์ทเนอร์รายอื่นๆเพื่อให้แบรนด์ดุสิตเป็น Ingredient Brand เสริมแกร่งให้กับคอนโดของดีเวลลอปเปอร์รายอื่นๆด้วยการรับบริหารอาคารพักอาศัยเพื่อสร้าง Value Added เพิ่มเติมในส่วนของบริการ และการจัดการในแบบองค์รวมครบคลุมทุกมิติการใช้ชีวิตของลูกบ้าน เหมือนที่เคยทำมาแล้ว และมีคนสนใจให้มาร่วมด้วยอย่างต่อเนื่อง…ดังนั้นในมุมมองของผม COCO PARC จึงเป็นกึ่งกลางระหว่าง Serviced Residences และ Branded Residences ของอนันดา เนื่องจากการเป็น Branded Residences นั้นอย่างแรกเลยก็คือชื่อโครงการจำเป็นต้องเป็นชื่อของ Legendary Brand ที่ต้องการนำมาเป็นจุดขายโดยตรง เช่น เป็นเชนโรงแรม ก็เป็นชื่อแบรนด์โรงแรมโดยตรงและต่อด้วยคำว่า Residences ในทางกลับกันนี่คือแบรนด์ใหม่ที่ทางอนันดาตั้งขึ้นมาเอง โดยส่วนของดุสิตก็มี Branded Residences ของตัวเองอยู่แล้ว บนทำเลที่ใกล้ๆกัน จึงอาจจะเรียกได้ไม่เต็มปากนักว่าเป็น Branded Residences เพราะหากใช้ Criteria นี้แบรนด์อย่าง CULTURE ที่มี Ascott Limited เป็นผู้บริหารงานนิติบุคลล และอาคารก็คงจะถูกนิยามว่าเป็น Branded Residences เช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากทางอนันดาก็ถือหุ้นอยู่ในกลุ่มดุสิตมากถึง 5% และชื่อแบรนด์กับคอนเซปท์โครงการก็เกิดจากการคิดพัฒนาร่วมกัน จึงนับว่าเป็น Unfair Advantage ที่ต่างจากดีเวลลอปเปอร์รายอื่นๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดที่จะเรียกว่าเป็น Branded Residences แต่ผมคิดว่าหากจะนิยามให้ถูกต้องจริงๆในตอนนี้ ที่นี่ก็น่าจะเป็น Co – Op Branded Residences มากกว่า เพราะมีความเหนือกว่าจาก Services Residences ตรงที่ทีมงานทั้งหมดของดุสิตมาดูแลบริหารจัดการทั้งหมดในแบบ Long term operation ตั้งแต่โครงการกำลังก่อสร้าง เพื่อพัฒนา Services ทั้ง Ordinary Concierge และ A La Carte มี Senses of Brand Ownership ร่วมกัน เพื่อรอวันที่จะเป็น Authentic Branded Residences หากว่าทางกลุ่มอนันดา x ดุสิต จะมีการนำเอาแบรนด์นี้ไปใช้พัฒนาโรงแรม หรือโครงการอื่นๆในอนาคตจนได้รับความนิยมในหมู่นักเดินทางทั่วโลก และได้ฐาน Brand Followers สะสมมาเรื่อยๆ เพื่อยกระดับให้เป็น Global Brand ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างแรกของการพัฒนา Branded Residences ต่อไป

ในด้านทำเลนั้นแน่นอนว่า COCO PARC มีจุดขายที่ค่อนข้างโดดเด่นในตัวเองอยู่แล้ว โครงการพร้อมเป็น NEW Residential LANDMARK ในแบบ Freehold ใหม่บนถนนพระรามสี่ ติด MRT คลองเตย* ซึ่งหนึ่งในย่าน Ultra CBD ของพระรามสี่ อันประกอบด้วยแยก ศาลาแดง – ลุมพินี – คลองเตย ที่มี One Bangkok เป็นจุดศูนย์กลางของย่าน สังเกตุง่ายๆคืออยู่เยื้องกับโรงพยาบาล Medpark พร้อมทั้งยังใกล้กับจุดขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครสุดๆเพียงออกจากโครงการแล้วแค่เลี้ยวซ้าย ที่จะทำให้คุณไปได้ทั่วกรุงเทพฯ แวดล้อมไปด้วยอาคารสำนักงาน และโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ทั้ง One Bangkok, The PARQ, FYI Center, Medpark Hospital, Dusit Central Park การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานใหญ่ และปัน ทาวเวอร์ อีกทั้งยังช่วยเติมเต็มคุณภาพชีวิตของคุณได้อย่างเต็มที่ด้วยพื้นที่สีเขียวที่เป็นเสมือนปอดแห่งใหม่ ทั้งสวนลุมพินีฯ และสวนเบญจกิติ สวนป่าแห่งใหม่ รวมทั้ง 2 สวนกว่า 810 ไร่ ซึ่งลำพังแค่เรื่องทำเลเพียงอย่างเดียวก็ทำให้หลายๆคนตัดสินใจได้ไม่ยากแล้วล่ะครับ

COCO PARC มีคอนเซปท์คือ “A Luxurious Service & Stylish Residence” คอนโดหรูที่มีเพียบพร้อมทั้งสไตล์และการบริการระดับโรงแรม ซึ่งก็ต้องบอกว่ารูปแบบการบริการระดับโรงแรมนี่มีดีเวลลอปเปอร์หลายๆรายนำมาใช้เป็นจุดขายเพื่อสร้าง Value ให้กับตัวโครงการทั้งในตอนเปิดตัวและในระยะยาวครับ แต่โครงการส่วนใหญ่กลับทำได้ต่ำกว่าความคาดหวังของลูกค้าเนื่องจากเป็นเพียงแค่การนำเอาเจ้าหน้าที่มาเทรนกับเจ้าของแบรนด์เท่านั้น ไม่ได้โรงแรมมาเป็นหน่วยงาน Property Management แบบเต็มตัว ซึ่งตรงกันข้ามกับ COCO PARC ที่เป็นครั้งแรกในการจับมือเพื่อสร้างสรรค์แบรนด์ใหม่ระหว่าง ANANDA X DUSIT เกิดเป็นประสบการณ์โครงการที่อยู่อาศัยพร้อมบริการสุดพิเศษจากโรงแรมดุสิตธานี ด้วยมาตรฐานระดับโรงแรม 5 ดาวเฉพาะโครงการ (ดุสิตรับบริหารในช่วงต้นที่ 10 ปี ซึ่งมองในระยะยาวจะดีกว่าเพราะจะการันตีว่าชื่อโครงการจะไม่ถูกเปลี่ยนไปหากหมดสัญญาการบริหาร เหมือนอีกหลายคอนโด) โดยผู้ซื้อจะได้สิทธิเป็น Dusit Gold Benefits ในระดับ Elite ในระยะเวลา 2 ปี ที่จะได้สิทธิพิเศษในเรื่องส่วนลดพิเศษจากบริการในกลุ่มโรงแรมดุสิตทั่วโลก ซึ่งคนทั่วไปจะต้องสะสมคืนในการเข้าพักในระยะเวลาที่กำหนด

สิ่งหนึ่งที่สร้าง Value ให้กับโครงการไม่แพ้ทำเล และ Property Management ก็คือวิวที่ได้จากในห้องครับ โดยห้องที่เป็นไฮไลท์ก็คือห้อง 2 – 3 ห้องนอนหน้ากว้างที่หันหน้าเข้ารับวิวสวนป่าเบญจกิติได้อย่างเต็มตามากที่สุดจากภายในห้อง ที่นี่ทั้งโครงการมีเพียง 444 ยูนิตเท่านั้น เริ่มตั้งแต่สตูดิโอ 25.5 – 27 ตร.ม. / 1 Bed ขนาด 34.5 – 48 ตรม./ 1 Bed Plus ขนาด 49.5 ตรม./ 2 Bed ขนาด 64.5 – 66.5 ตรม./ 3 Bed ขนาด 101.5 – 113.5 ตรม./ จนถึง Penthouse ขนาด 134 – 234 ตร.ม. มาพร้อมวัสดุระดับพรีเมี่ยม ไม่ว่าจะเป็น Engineering Wood, Porcelain Tile, Toto Sanitary, เครื่องใช้ไฟฟ้าจาก Teka & Kuppersbusch* โดยมีพื้นที่ส่วนกลางหลักอยู่ที่ชั้น 8 พร้อมนั่งชมวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งบางกระเจ้าสวยๆได้ที่ COCO Lounge บนชั้น 37 โถง Corridor ทุกชั้นแต่งเหมือนโรงแรม กรุวอลล์เปเปอร์ และใช้เป็นพื้นหินทั้งหมด

ที่นี่มีค่าส่วนกลางที่ตารางเมตรละ 130 บาทต่อเดือนครับ Sinking Fund 1,000 บาทต่อตรม.ซึ่งปกติแล้วหากเป็นคอนโดระดับ Luxury ขึ้นไปก็จะเก็บกันที่ตารางเมตรละเกิน 100 บาทขึ้นไป โดยที่นี่เพิ่มอีก 30 บาทก็จะได้การบริการระดับ 5 ดาวจึงถือว่าสบายกว่าคุ้มกว่า และก็ยังนับว่ามีราคาที่ดีกว่า Branded Residences ที่บริการจัดการโดยเชนโรงแรมแห่งอื่นๆ

ราคาขายเริ่มต้นตอนนี้ 230,000 บาทต่อตรม. โดยมีห้องสตูดิโอ 25.5 ตรม.เริ่ม 6.59 ลบ.

ห้องตย.มีถึง 5 ห้อง แบ่งเป็น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ แบบไม่มีระเบียง บนชั้น 23 ขนาด 109 ตรม. ขายราคา 39.9 ลบ.เป็นห้องตัวอย่าง ส่วนห้องเปล่าราคา 29.9 ลบ.หน้ากว้าง 20 กว่าเมตร โดยเฉพาะ 3 ห้องนอน – เพนท์เฮ้าส์ได้ประตูหน้าห้องแบบ 1.5 บาน เพดานสูง 2.7 เมตร ให้ครัว ห้องน้ำ แอร์ฝังฝ้าส่วน Living และตู้เสื้อผ้าบานทึบ

ชั้น 19 มีอีก 4 ห้อง เป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำขนาด 66.5 ตรม.เหลือแค่ 2 ห้อง กำลังรอ Combined ห้อง 1 นอน ราคา 16.9 ลบ.เป็นห้องเปล่าที่ชั้น 10 ส่วนห้องตัวอย่างราคา 21 ลบ.

1 ห้องนอน 36 ตรม. ราคาห้องเปล่า 9.5 ลบ. แต่มี One Bed ขนาดเริ่มต้นเป็น 34 ตรม. ราคา 8.99 ลบ.

1 ห้องนอน 36.5 ตรม.แบบไม่มีอ่าง ขายราคา 10.9 สำหรับห้องตย. และ 9.2 ลบ.สำหรับห้องเปล่า

2 Bedroom 3 Bathroom (เป็น Powder Room 1 ห้อง) ขนาด 65 ตรม.ขายห้องตย.ราคา 21 ลบ. ส่วนห้องเปล่า 16.9 ลบ.

ส่วนราคาจองค่อนข้างโอเคเลยครับ จองแค่ 50,000 บาทสำหรับห้องสตูดิโอ – 1 นอน Plus, 100,000 บาท สำหรับห้อง 2 – 3 นอน และ 200,000 บาทสำหรับห้อง Penthouse รอกู้แบงค์เลยไม่ต้องทำสัญญาแล้ว นับว่าเป็น Branded Residences ที่พร้อมอยู่ พร้อมเสิร์ฟแบบฉับพลันมากที่สุดในปีนี้เลยครับ

ใครสนใจโครงการแนะนำคุยกะเซลล์ชื่อน้องปีใหม่ได้เลยที่ Line ppppeemai ให้ข้อมูลค่อนข้างครบ และคุยรู้เรื่องดีครับ