นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและบริหารสินทรัพย์

บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (www.plus.co.th)

จากความมุ่งหมายของภาครัฐที่ต้องการจะเปิดประเทศ โดยนำร่องการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หัวเมืองท่องเที่ยว โดยเริ่มจากการเปิดเมืองภูเก็ตตามมาตรการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั้น นับเป็นสัญญาณที่ดีของภาคธุรกิจการท่องเที่ยว รวมถึงการฟื้นกลับมาของเศรษฐกิจในเมืองท่องเที่ยวนั้นด้วย เพราะแน่นอนว่าหากนักท่องเที่ยวกลับมา นอกจากจะส่งผลดีต่อธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและการโรงแรมโดยตรงแล้ว ยังช่วยกระจายรายได้และส่งผลดีต่อธุรกิจอื่นๆ ในเมืองนั้นอีกด้วย ทั้งธุรกิจร้านค้าร้านอาหาร ธุรกิจบริการ รวมถึงธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ก็จะได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน จึงเป็นอีกหนึ่งความหวังของธุรกิจปล่อยเช่าที่พักอาศัย ที่หากการเปิดเมืองครั้งนี้ประสบความสำเร็จ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวกลับมาได้ เมืองภูเก็ตน่าจะคึกคักและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจและเศรษฐกิจได้

สำหรับการปล่อยเช่าคอนโดในภูเก็ตนั้น จากข้อมูลธุรกิจที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ซื้อ-ขาย-เช่า ของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ พบว่า มีการปล่อยเช่าทั้งแบบระยะสั้น (1 เดือนขึ้นไป) และระยะยาว โดยหากเป็นผู้เช่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จะนิยมเช่าในช่วง High Season คือเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ และนอกจากกลุ่มนักท่องเที่ยวแล้ว ยังสามารถปล่อยเช่าให้ผู้เช่ากลุ่มคนทำงานในพื้นที่ภูเก็ตได้ดีเช่นกัน ซึ่งมักเป็นการปล่อยเช่าระยะยาว เนื่องจากภูเก็ตมีผู้ที่เดินทางเข้ามาทำงานและประกอบธุรกิจจำนวนมาก หากเศรษฐกิจในภูเก็ตฟื้นกลับมาอีกครั้ง ก็จะช่วยดึงดูดกลุ่มคนทำงานให้กลับเข้ามาในพื้นที่ได้เช่นกัน โดยสัดส่วนผู้เช่า TOP3 ในโครงการที่พลัสฯ ดูแล พบว่า อันดับ1 เป็นผู้เช่าชาวรัสเซีย อันดับ2 เป็นผู้เช่าชาวไทย  และอันดับ3 คือผู้เช่าชาวจีน โดยคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มนี้น่าจะกลับเข้ามา จากที่ประเมินว่าในอีก 3-4 เดือน สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในยุโรปน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มองว่ามีโอกาสสูงที่ทางการจีนจะอนุญาตให้ชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศในปีนี้ จากสัญญาณบวกเรื่องการระดมฉีดวัคซีนของประชากรในจีน

ในส่วนของค่าเฉลี่ยผลตอบแทนการปล่อยเช่า (Rental Yield) ในภูเก็ต ประมาณ 6-10% ต่อปี และกำไรจากการขายต่อ  (Capital Gain) ประมาณ 5-10% ต่อปี โดยสาเหตุที่ผลตอบแทนค่อนข้างดีกว่าในกรุงเทพฯ เพราะลักษณะการปล่อยประมาณ 35% เป็นการทำสัญญาเช่าระยะสั้น (1-3 เดือน) ยกตัวอย่างโครงการในกลุ่ม D Condo ห้องที่ปล่อยเช่าได้ดีเป็นห้องขนาด 29 – 30 ตร.ม. ค่าเช่าระยะสั้นเฉลี่ย 14,500 บาทต่อเดือน และค่าเช่าระยะยาวเฉลี่ย  9,400 บาทต่อเดือน ดังนั้นในแง่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ จากสถิติในสถานการณ์ปกติที่ผ่านมา ภูเก็ตจึงนับว่าเป็นพื้นที่ที่มีความน่าสนใจและมีผลตอบแทนการลงทุนที่น่าดึงดูดอยู่มาก

หากการเปิดเมืองภูเก็ตรอบนี้ประสบความสำเร็จ ก็นับว่าเป็นสัญญาณบวกสำคัญที่เป็นความหวังของภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่จะช่วยกระตุ้นตลาดปล่อยเช่าให้ค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมา ซึ่งไม่เพียงแต่นักลงทุนที่มีอสังหาริมทรัพย์อยู่ในมือเท่านั้น สำหรับผู้ที่มีความสนใจจะลงทุนซื้อคอนโดในภูเก็ตเพื่อนำมาปล่อยเช่า ช่วงนี้ก็นับว่าเป็นจังหวะที่ค่อนข้างดีเช่นกัน เพราะอย่างที่เราเห็นว่าโครงการใหม่หลายโครงการมีการลดราคา ทำโปรโมชั่นพิเศษ จึงเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะได้ห้องที่มีต้นทุนต่ำลง เพื่อโอกาสการทำกำไรและผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

การที่ภาครัฐมีการเปิดประเทศและกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน ก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่ทำให้ภาคธุรกิจได้ทราบเพื่อเตรียมการสำหรับการทำธุรกิจได้อย่างเหมาะสม  ทำให้ผู้ประกอบการสามารถกำหนดแผนและงบประมาณได้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม เรายังคงต้องจับตาและประเมินสถานการณ์จากผลการนำร่องเปิดเมืองภูเก็ตในครั้งนี้ ซึ่งหากประสบความสำเร็จและได้รับการรับรู้และยอมรับในระดับสากลว่าสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวและพักผ่อนระยะยาวที่ภูเก็ตได้ ก็จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นเพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาที่ไทย เป็นก้าวที่ดีที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจต่อไป