แสนสิริ ผนึก ธนาคารไทยพาณิชย์ สกัดสึนามิเศรษฐกิจ เดินหน้าช่วยเหลือ SMEs เส้นเลือดใหญ่ไทยให้ไปต่อได้ กับโครงการ “SANSIRI x SCB: BUILD FOR ALL สร้างไปด้วยกัน” วางเป้าช่วย 1,500 ราย งบซื้อสินค้า 6,000 ลบ. และ สนับสนุนวงเงินสินเชื่อรวม 1,000 ลบ.
– ‘แสนสิริ’ และ ‘ธนาคารไทยพาณิชย์’ ร่วมหาทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจฝ่าวิกฤติผ่านโครงการใหญ่ “SANSIRI x SCB : BUILD FOR ALL สร้างไปด้วยกัน” เพิ่มทางรอดวิกฤติ COVID-19 ให้ SMEs ก่อนกระทบเศรษฐกิจโดยรวมจนเป็น “สึนามิเศรษฐกิจ”
– เผย 5 มาตรการ “สร้าง” การช่วยเหลือ SMEs ไทย ในทุกมิติ สร้างรายได้เร่งด่วน – สร้างช่องทางโปรโมท – ผลักดันสู่แพลตฟอร์ม – สร้างความแข็งแกร่งด้วยองค์ความรู้และเทคโนโลยีจาก SCB – สร้างสภาพคล่องผ่านการสนับสนุนสินเชื่อ รวมวงเงินสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจ 1,000 ล้านบาท แก่ SMEs ไทยที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมให้ดอกเบี้ยอัตราพิเศษแก่กลุ่มลูกบ้านแสนสิริที่ประกอบธุรกิจและคู่ค้ากลุ่มผู้ประกอบการ ในอัตราดอกเบี้ย 99%* ใน 3 เดือนแรก
– ระบุธุรกิจ SMEs มีมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 7 ล้านล้านบาท คิดเป็นกว่า 40% ของ GDP ของประเทศและเป็นฟันเฟืองสำคัญการจ้างงานกว่า 80% ของการจ้างงานภาคเอกชนทั้งหมด แต่วิกฤติโควิดทำให้รายได้หดและหนี้เสียพุ่ง ต้องมีคนที่แข็งแรงยื่นมือมาช่วย SMEs อย่าง’เร่งด่วน เพื่อความมั่นคงของประเทศ
– เชื่อมั่นความแข็งแกร่งของแสนสิริและธนาคารไทยพาณิชย์จะช่วยสร้างรายได้ ขยายฐานลูกค้า และเพิ่มสภาพคล่องแก่ SMEs ให้ก้าวผ่านวิกฤติได้ วางเป้าปี 2564 ช่วย SMEs ไทย 1,500 ราย นำร่อง 6 กลุ่มธุรกิจ ด้วยวงเงินซื้อสินค้า 6,000 ล้านบาท และการให้สินเชื่อสนับสนุนธุรกิจพิเศษรวม 1,000 ล้านบาท ต่อยอดปี 2563 ที่แสนสิริช่วยมาแล้วกว่า 900 รายและซื้อสินค้าไปแล้ว 4,000 ล้านบาท
นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานกรรมการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันยังคงมีความเปราะบางเพราะทุกอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ต่อเนื่องมากว่า 1 ปี ภาคการส่งออก การท่องเที่ยวหยุดชะงัก ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อทั่วโลก ซึ่งภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบแรกก็คือกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เนื่องจากการมีข้อจำกัดด้านเงินทุน การเข้าถึงเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ และโอกาสในการแข่งขัน แม้ว่าเอสเอ็มอีหลายแห่งจะปรับตัวหันไปเจาะตลาดอีคอมเมิร์ซและ ลดต้นทุนด้านพนักงานลง แต่ก็ยังมีเอสเอ็มอีอีกหลายแห่งที่ต้องทยอยปิดตัวลงไปอย่างต่อเนื่อง และหากสถานการณ์ไม่คลี่คลายในเร็วๆนี้ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เนื่องจากเอสเอ็มอีเป็นฟันเฟืองที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ โดยข้อมูลจากธนาคารโลกประจำประเทศไทยพบว่าในปี 2563 เอสเอ็มอีของประเทศไทยมีสัดส่วนกว่า 40% ของผลิตภัณฑ์ มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และมีอัตราการจ้างงานคิดเป็น 80% ของการจ้างงานภาคเอกชน จึงถือเป็นอีกเส้นเลือดใหญ่ที่ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงการจ้างงานจำนวนมาก เมื่อเกิดวิกฤติขึ้นจึงต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
จากการตระหนักถึงสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงของเอสเอ็มอีล่าสุด แสนสิริ จึงได้ร่วมกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) ในการผนึกกำลังช่วยเหลือเอสเอ็มอีภายใต้โครงการ“SANSIRI x SCB: BUILD FOR ALL สร้างไปด้วยกัน” เพื่อเป็นต้นแบบสร้างการรับรู้เพื่อกระตุ้นให้องค์กรขนาดใหญ่เข้ามาช่วยเหลือเอสเอ็มอี ให้สามารถฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน จากการร่วมมือกันในครั้งนี้ได้ตั้งเป้าหมายการเข้าช่วยเหลือเอสเอ็มอีในปี 2564 จำนวน 1,500 ราย หรือคิดเป็นวงเงินการช่วยเหลือรวม 7,000 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินอุดหนุนสินค้าจากเอสเอ็มอีจากแสนสิริ 6,000 ล้านบาท และเงินสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจจากธนาคารไทยพาณิชย์ 1,000 ล้านบาท โดยกลุ่มเอสเอ็มอีเป้าหมายที่จะเข้าไปช่วยเหลือในโครงการนำร่องมี 6 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง กลุ่มธุรกิจออกแบบและตกแต่งภายใน กลุ่มงานบริการด้านที่อยู่อาศัย และ กลุ่มธุรกิจอาหาร