เพราะเศรษฐกิจต้องเดินหน้าต่อไป ทำให้ซาอุฯ ยกเลิกกฎห้ามชาย-หญิงต่างชาติพักร่วมห้องในโรงแรม หวังเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้น

Propholic EditorialTeam 24 October, 2019 at 11.15 am

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

ตั้งกฎได้ ก็คลายกฎได้

ซาอุดิอาระเบียมีกฎข้อบังคับไม่ให้ชายหญิงพักห้องเดียวกันโดยไม่แสดงหลักฐานความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันอย่างเข้มงวดมานานนับสิบปี แม้แต่กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชายหญิงที่ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันยังต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรงหากฝ่าฝืนกฎในการพักร่วมกัน

แต่ปัจจุบันทางการซาอุฯ ไฟเขียวอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติชาย-หญิงสามารถพักห้องเดียวกันได้โดยไม่จำเป็นต้องหาหลักฐานมาแสดงความข้องเกี่ยวกันฉันท์ญาติมิตร หรือสามี-ภรรยาอีกต่อไป หวังกระตุ้นจุดดึงดูดให้ผู้คนมาท่องเที่ยวที่ดินแดนมุสลิมนี้กันมากขึ้น

ข่าวดีนี้ได้รับการยืนยันจากทางคณะกรรมการซาอุฯ ด้านการท่องเที่ยวและมรดกแห่งชาติ หรือ Saudi Commission for Tourism and National Heritage ว่าชาวซาอุยังคงต้องแสดงหลักฐานความเป็นครอบครัวเพื่อพิสูจน์ความสัมพันธ์ก่อนการเข้าพักโรงแรมอยู่ แต่ได้ทำการยกเลิกกฎนี้สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ นอกจากนี้ผู้หญิงทุกคนรวมถึงผู้หญิงซาอุฯ สามารถเข้าพักที่โรงแรมตามลำพังได้ด้วยการแสดงหลักฐานประจำตัวประชาชนในการเช็คอิน

Propholic EditorialTeam

เราคือทีมสร้างสรรค์เนื้อหาคุณภาพจาก Propholic.com มุ่งมั่นตั้งใจนำเสนอความรู้และข่าวสารในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ที่ครอบคลุมแง่มุมต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งหวังขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เติบโตและพัฒนาได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

เว็บไซต์

ซาอุฯ ตั้งเป้าหมายเพิ่มนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ 100 ล้านคนต่อปี

ทางการซาอุฯ ได้เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวจาก 49 ประเทศด้วยความหวังจะสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจที่นอกเหนือไปจากพึ่งพาการส่งออกน้ำมัน เช่น การท่องเที่ยว เทคโนโลยี โดยตั้งเป้าไว้ที่การเพิ่มนักท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศ 100 ล้านคนต่อปีให้ได้ภายในปี 2030 และเพื่อช่วยส่งเสริมเป้าหมายนี้ให้เป็นจริงง่ายยิ่งขึ้น ชาวต่างชาติยังได้รับการลดหย่อนให้ไม่ต้องสวมผ้าคลุมสีดำตลอดเวลาแต่ยังคงต้องแต่งกายสุภาพและไม่อนุญาตให้มีการดื่มแอลกอฮอล์

อาณาจักรแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการจำกัดสิทธิสตรี โดยก่อนหน้านี้ก็เป็นประเทศเดียวในโลกที่ห้ามผู้หญิงขับรถ แต่ในปัจจุบันได้มีการยกเลิกไปแล้ว เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาก็เพิ่งเริ่มอนุญาตให้ผู้หญิงสามารถออกเดินทางนอกประเทศได้โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายในครอบครัวมาเป็นผู้ปกครอง คอยควบคุมการคิดและการตัดสินใจเรื่องสำคัญในชีวิตหรือที่เรียกว่า The Guardian System นอกจากนี้ผู้หญิงซาอุฯ เองยังได้รับอนุญาตให้เข้าพักที่โรงแรมโดยลำพังได้ ไม่จำเป็นต้องมี Guardian คุมอีกต่อไป

การเปลี่ยนแปลงนี้มีส่วนมาจากความต้องการในการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของเจ้าชาย Mohammed Bin Salman ซึ่งความคิดนี้ได้รับการชื่นชมจากนานาชาติ

แผนการพยายามผลักดันประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าทำให้แม้แต่อาณาจักรที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเข้มงวดของการรักษาขนบธรรมเนียมที่มีมาช้านานยังต้องมีการปรับเปลี่ยนข้อบังคับบางประการที่ไม่เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจในภาพรวม

เป็นที่น่าจับตาดูว่าทิศทางของซาอุดิอาระเบียจะเป็นอย่างไรต่อไป และซาอุฯกับไทยใครจะเลือกหยิบเอาธรรมเนียมเก่าๆ มาพิจารณาชำระล้างแล้วพาประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง