โดยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว The Line Asoke – Ratchada เป็นโครงการ The Line ลำดับที่สามที่ทางแสนสิริได้ร่วมทุนกันพัฒนาโครงการกับ BTS ภายใต้คอนเซปท์ Balance is Everything ชีวิตวุ่นวายแต่ผ่อนคลายได้อย่างแสนสงบ ซึ่งสำหรับผมแล้วที่นี่น่าจะเป็นโครงการที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีลูกค้าต่างชาติที่ซื้อไปพร้อมโอนอย่างไม่มีลังเลมากที่สุดในบรรดา The Line ทุกโครงการที่สร้างเสร็จครับ เนื่องจากเป็นทำเลที่ชาวจีน – ฮ่องกง คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พระรามเก้าเพียง 300 เมตร ที่สำคัญคือมีขนาดห้องที่ไม่ใหญ่มากคือเริ่มต้นแค่ 27.5 ตรม. เป็นห้อง 1 นอนขนาด 35 ตรม.ซะเป็นส่วนใหญ่โดยมีห้องขนาด 2 นอน 46.25 – 50.25 ตร.ม เพียงนิดหน่อยเท่านั้น

ถึงแม้ว่าตอนที่เปิดขายในช่วงแรกจะมีราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 170,000 บาท นับว่าค่อนข้างสูงในตอนนั้น แต่ในตอนนี้รอบๆบริเวณแยกพระรามเก้าก็มีโครงการที่ขายแพงกว่าเกิดขึ้นมาเช่นเดียวกัน ซึ่งไฮไลท์ของการเข้าชมในวันนี้ก็จะมีอยู่ 2 ประเด็นหลักก็คือ ความสวยงามน่าใช้งานมากของ Facilities 4 ชั้นต่อเนื่อง ตั้งแต่ชั้นที่ 23 ถึงชั้นที่ 26 จากพื้นที่ Terrace ชมวิวขึ้นมายังสระว่ายน้ำ เรื่อยมายังฟิตเนส โดยที่ชั้นบนของฟิตเนสก็ยังเป็นสวนพักผ่อน ออกกำลังกาย เล่นโยคะได้ ที่วิวสวยไม่แพ้กันก็คือส่วนชั้นบนสุด ชั้นที่ 38 ซึ่งเป็น Lounge สามารถนั่งทำงานหรือนั่งพักผ่อนก็ได้ทั้งนั้น เปิดรับวิวฝั่งทิศตะวันออก ถนนพระรามเก้า รวมถึงวิวตึกสูงสวยงามรอบด้านที่กำลังทยอยขึ้นมาในอนาคต

ส่วนอีกอย่างนึงที่เป็นไฮไลท์ก็คือความเป็นคอนโดอัจฉริยะ Smart Building ที่ทางแสนสิริได้มีการพัฒนาระบบ Home Intelligent ทั้ง Software และ Hareware ต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน ซึ่งเทคโนโลยีสุดล้ำนี้จะครอบคลุมทั้งการบริการจัดการระบบพลังงานและทรัพยากรต่าง ๆ ภายในอาคารแบบอัตโนมัติ พร้อมคาดการณ์การซ่อมบำรุง ทั้งระบบไฟฟ้า ระบบน้ำประปา ระบบระบายน้ำ ระบบการรักษาความปลอดภัย และระบบ Home Automation ภายในห้องพักอาศัยใน 3 ด้าน ได้แก่ iConvenience (ความสะดวกสบาย) iSafe (ความปลอดภัย) และ iGreen (ด้านประหยัดพลังงาน) เพื่ออำนวยความสะดวกในทุกมิติของการใช้ชีวิตของลูกบ้าน นอกจากนี้ แสนสิริยังได้นำระบบลงทะเบียนอัจฉริยะสำหรับบุคคลภายนอกที่เข้ามาในโครงการได้เพียงใช้คิวอาร์โค้ด โดยลูกบ้านสามารถกำหนดวันและเวลา รวมทั้งบริเวณที่ผู้มาติดต่อสามารถเข้าถึงได้ (Smart Guest Registration) นอกจากนี้ยังมี ศูนย์ควบคุมระบบการบริหารจัดการอาคารด้วยระบบ IoT of Building, ระบบควบคุมการใช้ไฟฟ้าส่วนกลาง (Smart Lighting Control), ระบบควบคุมการปิด-เปิดประตูหนีไฟ (Smart Door Safety Monitoring), ระบบสมาร์ทล็อคเกอร์และตู้จ่ายพัสดุอัติโนมัติเชื่อมต่อกับ iBox (Smart Delivery) โดยมีพันธมิตรคือไปรษณีย์ไทย และ Box 24, แท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมบริการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Smartmove และสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า โดยสามารถจองใช้บริการได้ง่าย ๆ บนแอพพลิเคชั่น Home Service, เครื่องซักผ้าอัจฉริยะ (Smart Wash), เครื่องรับคืนขวดพลาสติค (Refun Machine) และระบบเทเลคอมในอาคารจอดรถ

ห้องตัวอย่างมี 2 ห้องครับ อยู่ในโซนชั้นล่างหมด มองแล้ววิวก็ไม่ได้อึดอัดนะ ราคาก็ค่อนข้างโอเคเลย และผมว่าที่นี่ปล่อยเช่าดีแน่นอนครับ เพราะคนคนต่างชาติทยอยเดินเข้ามาถามที่นิติฯเรื่องห้องเช่าเยอะทีเดียว