ห้างใหม่ๆ ผุดขึ้นมากมาย

ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2012-2018 มีการเปิดทำการของห้างสรรพสินค้าใหม่ๆ หลายแห่งทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพ เช่น Mega Bangna ที่เป็น Super Regional Mall ห้างระหว่างจังหวัด, Terminal 21 ที่เป็นห้างสรรพสินค้าที่มีโรงแรมด้วย จุดเด่นที่มี Food Center อร่อยราคาประหยัดที่คนไทยและต่างชาตินิยม, Gateway Ekamai ที่เป็น Concept Mall จากห้างญี่ปุ่นเปลี่ยนเป็นพื้นที่สนุกนานของครอบครัวที่มีเด็กๆ , Central Plaza Westgate ที่เป็น Regional Mall ของนนทบุรีตะวันตกและจังหวัดรอบข้าง, The EmQuartier ห้างสรรพสินค้าที่เจาะกลุ่ม Luxury ของคนที่พักในย่านพร้อมพงศ์และไลฟสไตล์สำหรับคนทำงานในออฟฟิศย่านนั้น, Century Sukhumvit ออกแบบเป็นห้างโรงหนังและรองรับไลฟ์สไตล์อัพเกรดของคนรอบสถานีอ่อนนุชที่ชอบความแตกต่างจากห้าง Mass ทั่วไป

ห้างสรรพสินค้าในยุคนี้มีการแข่งขันกันสูง ทั้งแข่งกันเองในกลุ่ม Retail ด้วยกันแล้วยังต้องแข่งกับคลื่นลูกยักษ์อย่าง E-mall อย่าง lazada, shopee, 11street, BigC Shopping Online ทำให้เป็นเรื่องที่ท้าทายของห้างแบบดั้งเดิม การพัฒนาห้างสรรพสินค้ามีทั้งจากผู้พัฒนารายเล็ก-ใหญ่จากไทยและต่างประเทศด้วยเช่นกัน โดยเราจะเห็นว่ารายใหญ่ๆ ทั้งไทยและต่างประเทศเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในการจัดสร้างห้างเพราะธุรกิจทำห้างจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก มีสายป่านยาวเพื่อพัฒนาอาคารบวกกับทำการตลาดและกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องหลังจากเปิดห้าง การทำห้างไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ไม่หมูเหมือนคอนโดมิเนียมที่มีความซับซ้อนน้อยกว่า ทีมงานสร้างสรรค์ห้างต้องมีสรรพความรู้ทั่วทุกแขนงรอบตัวเข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อให้ธุรกิจให้เช่าพื้นที่ค้าปลีกของตนนั้นดำเนินต่อไปและเป็นที่นิยมครองใจผู้คนอยู่เสมอ ดังนั้นธุรกิจ Retail จึงเป็นตัวพิสูจน์วัดว่า Developer บริษัทไหนที่มีฝีมือทำงานละเอียดแบบนี้ได้บ้าง

Trend การพัฒนาห้างสรรพสินค้า

1.From Shopping Mall to Eateries Experience

หลายๆ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่างสยามพารากอน เซ็นทรัลเวิร์ลด์ ก็เริ่มปรับเปลี่ยนโซนร้านค้าขายของทั่วไปเปลี่ยนให้กลายเหมือนห้างที่เต็มไปด้วยอาหาร (Food Mall) จัดสรรพื้นที่ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ร้านขนม เปลี่ยนตัวเองให้เป็นแหล่งของกินที่ไม่ใช่มีแต่อาหาร แต่ต้องเป็นการกินแบบมีการออกแบบประสบการณ์การกินด้วย ดังนั้นร้านอาหารจึงต้องเน้นไปที่การตกแต่ง รูปแบบอาหาร รูปลักษณ์หน้าตา รวมไปถึงการออกแบบเมนู ออกแบบกลิ่นของอาหาร เครื่องแต่งกายพนักงาน และวิธีการกินอาหาร

วิธีนี้เป็นการปรับตัวของห้างที่ดีและได้ผลครับ หลุดพันจากความเสี่ยงต่อการเจ๊ง ตอบโจทย์กับความต้องการทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวเอเชียที่ชื่นชอบรสชาติของอาหารในประเทศไทย ถึงแม้จะเดินเล่นไม่ซื้อของในห้าง มาแค่จับๆ สินค้าแล้วไปซื้อในห้างออนไลน์แทน แต่อย่างน้อยทางห้างก็ได้เงินเพราะคนเดินต้องมากินข้าว กินขนม กินไอศครีมที่ห้าง

2. Speciality Mall จับตลาดที่แคบลง เป็นห้างที่มีจุดประสงค์เฉพาะ

Developer มักจะเลือกที่จะพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความเป็น Neighborhood มีการออกแบบ Facility และร้านค้าที่ตอบโจทย์คนในถิ่นนั้นๆ เช่น The Circle Ratchapruk, The Phyll, The Walk หรือไม่ก็สร้างเป็นแบบ Speciality Store เช่น ห้างอุปกรณ์แต่งบ้าน เช่น CDC (Crystal Design Center), Home Pro, IKEA, Boonthavorn, SB Design Square, Index Living Mall หรือไม่ก็เป็นศูนย์รวมร้านอาหารไปเลย เช่น สวนเพลิน Market พระรามสี่ทำขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์พนักงานออฟฟิศย่านพระรามสี่ที่อยากหาข้าวเที่ยงกินมากกว่าที่เต้นท์, London Street พัฒนาการ ที่รวมร้านอาหารในเครือ MK สุกี้มาไว้ที่เดียวกัน, The Paseo ที่มีเจ้าของเป็นโชว์รูม Toyota และอยากให้ลูกค้าไม่เบื่อเวลารอรถ ก็เลยทำห้างให้เดินมันซะเลย

3. Culture Mall

อีกเทรนด์สำหรับการพัฒนาห้างคือการทำห้างที่นำเสนอวัฒนธรรมที่เป็น Theme เดียวกัน กรณีศึกษาที่จะยกตัวอย่างมาให้ดูคือ SHOW DC (โชว์ ดีซี) ห้างสรรพสินค้าใหม่ที่กำลังมาแรง โดยเป็นห้างที่จับกลุ่มเฉพาะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ คนไทยที่ชอบติดตามเทรนด์ใหม่ๆ และกลุ่มคนที่ชื่นชอบวัฒนธรรม K-pop เป็นห้างที่พัฒนาโดยกลุ่มทุนจากประเทศไทยและต่างประเทศที่เรียกว่ายกทัพเอาความเป็นเกาหลีมาจริงๆ ทั้งร้านอาหาร สินค้า รูปแบบของห้าง วัสดุที่ใช้ในการตกแต่ง บรรยากาศ รวมไปถึงห้าง LOTTE Duty Free ดูๆ ไปเหมือนยก Hongdae ย่านดังมาไว้ที่กรุงเทพ

บทความนี้จะพาไปสำรวจและวิเคราะห์ว่าห้าง SHOW DC นี้โลเคชั่นอยู่ตรงไหน มีจุดเด่นอย่างไร มี facility อะไรบ้าง และ Show DCแข่งขันกับห้างอื่นๆ ในระยะยาวได้อย่างไร  และคนที่มาเดิน SHOW DC เขามาทำอะไรกันบ้าง

โลเคชั่นของห้าง SHOW DC อยู่ตรงไหน

SHOW DC อยู่บนถนนจตุรทิศครับ ถ้าบอกแท๊กซี่ให้บอกว่า “ไปห้างใหม่ SHOW DC ข้างๆ RCA”

ถ้าขับรถไป ให้จิ้มพิกัดนี้เลยครับ GPS Coordinate: 13.750818, 100.572637 หรือคลิก Google Maps นำทางไปได้เลย ที่นี่ https://goo.gl/maps/4Qi4UW8dS2o

ใครอยากหาข้อมูลก่อนไป SHOW DC ก็ดูที่เว็บไซต์หลักได้ที่ https://www.SHOW DC.co.th/

เข้าไปกด Like และ Follow โปรโมชั่นและกิจกรรมใหม่ของ SHOW DC ได้ที่เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/SHOW DC.co.th/

SHOW DC คืออะไร

เมื่อมาถึงแล้วจะพบด้านหน้าห้าง SHOW DC แบบนี้ครับ ออกแบบ facade ด้านหน้ามีลูกเล่น ทันสมัย

SHOW DC Thailand First Entertainment & Retail Mega Complex

SHOW DC Corp เป็นบริษัทที่ถือหุ้นโดย AEC Capital Co., Ltd. ซึ่งเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ มีการลงทุนร่วมกันระหว่างนักลงทุนเอกชนไทยและมาเลเซีย

SHOW DC ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเปิดมิติใหม่ให้กับการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ ด้วยการเปิดตัวแนวคิดใหม่ที่เหมาะกับความต้องการและความชอบของนักท่องเที่ยวสมัยใหม่ทั้งจากต่างประเทศ และนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 67 ล้านคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชั้นกลางที่มีจำนวนมากขึ้น

โครงการ SHOW DC ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 43 ไร่ พื้นที่ตัวอาคารกว่า 180,000 ตารางเมตร และพื้นที่ค้าปลีกให้เช่าประมาณ 80,000 ตารางเมตร ด้วยการออกแบบด้านหน้าอาคารที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ด้วยจอ LED ขนาด 2600 ตารางเมตร เป็นพื้นที่โฆษณาที่โดดเด่นจากการจราจรที่หนาแน่นโดยรอบและมองเห็นได้ชัดจากรถยนต์ที่วิ่งผ่านไปมากว่า 400,000 คันต่อวัน จึงทำให้ Show DC เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ

SHOW DC มีอะไรเจ๋งๆ รอให้เราไปดูบ้าง

1. Meet the Unique Design พบกับดีไซน์ที่ไม่เหมือนห้างไหน มีเอกลักษณ์

SHOW DC มีการตกแต่งที่ไม่เหมือนห้างอื่น ใช้เทคโนโลยีจอภาพ LED ทั่วทั้งโครงการ มีเทคโนโลยีจัดวางแสงต่างๆ เหมือนห้างที่เกาหลีใต้ ทำให้ประสบการณ์ระหว่างที่เดินเล่นในห้างดูทันสมัย ไม่น่าเบื่อ

แสงประดับตกแต่งช่วยให้พื้นที่ร้านค้าสว่างสดใสแม้เป็นพื้นที่ indoor

เล่นแสงสีและวัสดุแปลกๆ ที่สร้างการรับรู้ใหม่ๆ

การจัดวางรูปแบบร้านค้าแบบใหม่ๆ

โซน Current Seoul ที่อัพเดตแฟชั่นจากเกาหลี

การตกแต่งร้านค้าต่างๆ ที่น่าไปเดินดูวิธีการออกแบบ

การเล่นแสงไฟของร้านค้าที่ดูแปลกตา

ไฟบนฝ้าที่ออกแบบรูปแบบทันสมัย

จอ LED มีอยู่ทั่วไปในห้าง ดูมีความเคลื่อนไหว ไม่น่าเบื่อ

Starwar น่ารักเชียว

ห้องน้ำภายในห้าง

มีร้านอาหารบุฟเฟต์ที่ตกแต่งเพื่อรองรับกับกรุ๊ปทัวร์ด้วย

2. See a breathtaking view on rooftop มีจุดชมวิวเมืองสวยๆ พร้อมกับนั่งกินอาหารเพลิดเพลิน

ที่ชั้นบนสุดของห้างจะมีพื้นที่ Outdoor เปิดรับลมได้

มีทางเดินไปร้านอาหารต่างๆ ระหว่างเดินก็แวะถ่ายรูปชมวิวได้ตามสบาย ตอนกลางคืนก็สวยดีเพราะมีแสงไฟจากถนนหนทางด้านล่างเป็นเส้นสายสวยงาม

เทควิวโล่งไกลๆ

ชิลล์ๆ hangout ยามเย็นและกลางคืน

3. Feel the Korean Culture สัมผัสวัฒนธรรมแบบเกาหลีๆ

ยก street food แบบเกาหลีๆ มาไว้ในห้าง SHOW DC ต๊อกปอกกี คิมบับ ฯลฯ

มีพื้นที่นั่งกินสำหรับโซน Korean Street Food

ร้านอาหารที่มีคอนเซปต์ผูกโยงกับศิลปิน ดารา นักร้องเกาหลีที่โด่งดัง

PSY มาขาย Ramen รสชาติจะเป็นยังไง

Kim’s Full House

สำหรับคนที่ชื่นชอบ K-Pop จะต้องมาถ่ายรูปและฟินกับมุมนี้

ชวนให้จินตนาการว่ามีดาราเกาหลีมาเสิร์ฟถึงโต๊ะ

Star Avenue เดินดูดารา

ที่ Star Avenue มีรอยประทับมือของดาราเกาหลีดังๆ ให้มือของเรากับของเค้าสัมผัสกัน

Rain ก็มา

เป็นร้านอาหาร ตกแต่งสวยดี

Kim Soo Hyun ก็มายืนหน้ายิ้มพร้อมให้ทุกคนมาถ่ายรูป

ถ่ายรูปฟินๆ เสร็จก็มาเดินเลือกร้านอาหารกันต่อ

BUGSY DOG ขายเบอร์เกอร์

Samsi Coco

4. Free Access via Shuttle Service นั่งรถชัทเทิลบัสมาที่ SHOW DC ฟรี ฟรี ฟรี!

นักท่องเที่ยวและคนไทยถ้าเห็นรถบัส SHOW DC จอดตรงไหนก็เดินขึ้นมาได้เลยครับ คนขับจะมาส่งที่ห้างเองเลย สำหรับใครที่มาลงสถานี MRT พระราม 9 ให้ไปขึ้นรถบัส SHOW DC แถวๆ หน้าโรงแรม Grand Mercure Bangkok Fortune ตรงฟอร์จูนครับ

หน้าตารถบัส SHOW DC เป็นแบบนี้ครับ สีขาวๆ และมีโลโก้ SHOW DC

จริงๆ แล้วรถบัสไม่ได้มีที่แยกพระราม 9 อย่างเดียว แต่ว่ามีทั่วกรุงเทพครับ

นี่คือจุดรับส่งทั้งหมดครับ เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง MRT พระราม 9  รัชดาภิเษก สยาม ข้าวสาร แต่อย่างไรก็ตามสอบถามจุดขึ้นรถบัส SHOW DC ฟรีแบบอัพเดตล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ https://www.showdc.co.th/th-TH/HowToGetHere

ที่ห้าง SHOW DC จะมี Terminal แบบนี้ครับ ทำสวยและดูดี

เหมือนท่ารถอย่างบขส.เลย แต่สวยกว่า 555

ภายในรถบัสก็สะดวกสบาย แอร์เย็น มีทีวีให้ดู เบาะกว้าง ไม่แออัด และที่สำคัญฟรี

5. Your New Third-place ,Spacious Shopping Mall for everyone ที่นี่เป็นเหมือนบ้านหลังที่สามสำหรับคนทุกวัย

SHOW DC ออกแบบให้มีพื้นที่ public space ที่ให้ใครก็ได้มาใช้ วัยรุ่นจะมานั่งคุย นั่งเมาท์ คนทำงานจะมานั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือ จะมาทำอะไรก็ได้ที่สร้างสรรค์ มาใช้ space ตามที่ห้างจัดไว้ให้ได้เลย

พื้นที่นั่งแบบอัฒจรรย์

นั่งคุยที่ Starbucks สาขานี้ไม่แออัดครับ เหมาะกับมานั่งทำงานนานๆ ได้

คาเฟ่อื่นๆ ก็มี

Tourist Lounge ตรงนี้ก็หรูหรา ดูดี คนไทยก็มานั่งได้ครับ

ยังมี space ให้นั่งอีกมากมาย

Secret Garden เป็นพื้นที่นั่งอ่านหนังสือที่มีคอนเซปต์เหมือนนั่งในสวนแห่งความลับ คนมานั่งเยอะเหมือนกันครับในวันเสาร์อาทิตย์

พื้นที่นั่งกินข้าวของร้านอาหาร

ร้านขนมหวาน กินไป คุยไป เพลินๆ

ที่นั่งกินข้าวใน Foodcourt โซนนี้คนค่อนข้างเยอะกว่าโซนอื่น มีอาหารหลากหลายและราคาไม่แพงมาก ถือว่าถูกที่สุดในห้างแล้วครับ

6. Special Shows เป็นห้างที่มีโชว์การแสดงเป็นของตัวเอง

มีโชว์ Himmapan Avatar (หิมพานต์ อวตาร) ซื้อบัตรชมได้ที่ด้านหน้า สอบถามรายละเอียดโชว์ก่อนได้ที่ https://www.showdc.co.th/th-TH/Himmapan-Avatar

ถ่ายรูปเล่นได้ก่อนเข้าชม

7. Tourists’ Time Killing destination เป็นพื้นที่เดินเล่นฆ่าเวลาสำหรับนักท่องเที่ยวและคนไทย

เนื่องจากพื้นที่กว้างใหญ่ มี space ให้เดินเล่นกันยาวนาน มีทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวมาเดินเล่น

ดูโน่นดูนี่

ตลาด Thai Thai Market ที่จับตลาดนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อของฝาก

จัดร้านค้าขายของแบบแปลกใหม่ดี

มีเคาน์เตอร์จองตั๋วการแสดงที่ชั้นล่างแถวๆ Tourist Lounge

Tourist Lounge ใหญ่ สะดวกสบาย

Travel Service Counter คอยให้บริการนักท่องเที่ยว

8. Duty Free Mall มีร้านค้าปลอดภาษี ไม่ต้องบินไปไหน

มีร้านปลอดภาษี LOTTE DUTY FREE ที่ชั้น 3

ทางเข้า LOTTE DUTY FREE

มีน้ำตกแบบแปลกใหม่ ไม่ค่อยคุ้นตาสำหรับห้างในไทย

สินค้าหลากหลายหมวดหมู่ Food, Cosmetic และอื่นๆ

สินค้าจริงๆ ก็เยอะ แต่ด้วยความที่มีพื้นที่กว้าง อาจทำให้ดูโล่งๆ ไปหน่อย

แต่ยังไงก็เดินสะดวกดี ไม่แออัด

SHOW DC แต่ละชั้นมีอะไรบ้าง

มีทั้งหมด 6 ชั้น แบ่งเป็นคอนเซปต์ต่างๆ เช่น K-District ชั้น 1 , Fashion District ชั้น 2, Play District ที่ชั้น 3 , Thai & Wellness District ชั้น 4, Asian Food District ที่ชั้น 5 และชั้น 6 เป็น Entertainment District ครับ

ลองมาจิ้มๆ ที่หน้าจอ Directory

สรุปแล้ว SHOW DC เป็นห้างที่ตั้งอยู่ในย่าน Entertainment เพราะใกล้ RCA และไม่ไกลจากอโศกพระราม 9 รัชดา เดินทางฟรีด้วยชัทเทิลบัสตามจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพ SHOW DC มีคอนเซปต์ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่ต้องการสถานที่เดินเล่นฆ่าเวลา ดูโชว์ ซื้อของฝาก กินนั่นกินนี่ นอกจากนี้ก็เหมาะสำหรับกลุ่มคนไทยที่อยากเดินห้างที่ไม่แออัด มีที่จอดรถมากมาย คนที่อยากได้สถานที่นั่งคุยนั่งทำงาน ชอบการตกแต่งภายในที่ทันสมัยและชอบร้านค้าที่ไม่จำเจเหมือนห้างแบรนด์อื่นที่มีอยู่ซ้ำไปซ้ำมา หากเข้ามาที่ SHOW DC แล้วจะพบกับประสบการณ์แบบเกาหลีๆ และแบบไม่เกาหลีก็มี อยากจะ Shopping สินค้า Duty Free ได้จากที่ SHOW DC เลย สุดท้ายจุดเด่นตรงที่เป็นห้างที่มีชั้น Rooftop วิวโล่งโปร่งสบายพร้อมพื้นที่นั่ง Hangout ยามเย็นรับชมวิมวิว

ลองมาเดินเล่นดูสิครับที่ SHOW DC ก็เพลินๆ ดีครับ