ปัจจุบันการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้นิยมกันแค่ลงทุนในโครงการที่อยู่อาศัยอย่างบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม หรือทาวน์โฮมอีกแล้ว และด้วยความยืดหยุ่นในการใช้งานของบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ที่ตั้งใจออกแบบมาเพื่ออยู่อาศัย ก็มีประโยชน์ใช้สอยด้านเดียวคือสร้างไว้เพื่อพักอาศัยเท่านั้น แต่ปัจจุบันสังคมมีการเปลี่ยนแปลง ชีวิตคนอาจเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ได้เสมอ ดังนั้นบ้านที่ออกแบบตอบโจทย์หลายๆ แบบเอาไว้ในที่เดียวทั้งอยู่อาศัยและใช้ทำงานก็ได้อย่าง Home Office ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองกรุงมากขึ้น เพราะว่าแท้จริงแล้ว Demand หรือความต้องการอสังหาฯ เพื่อทำธุรกิจนั้นยังมีอยู่อีกมาก เช่น ต้องการเช่าทำสำนักงาน เก็บสินค้า เช่าเปิดร้านค้าทำธุรกิจต่างๆ  เป็นต้น

สำหรับคนทำธุรกิจขนาดเล็กกึ่งกลางที่กำลังตัดสินใจจะขยายธุรกิจ หรือคนทำธุรกิจขนาดกลางที่กำลังมองหาออฟฟิศใหม่ที่ประหยัดกว่าการเช่าตึกสำนักงานอาคารสูงรูปแบบเดิมๆ ในเมืองอย่างย่านสุขุมวิทที่มีอัตราการเช่าอาคารสำนักงานในเมืองอยู่ที่ประมาณ 800-1,000 บาทต่อตารางเมตรซึ่งถ้าอยากได้พื้นที่ใช้สอยที่พอๆ กับ Home Office ขนาดใช้สอย 450 ตารางเมตรก็จะต้องจ่ายค่าเช่าสูงถึง 300,000 บาทต่อเดือน ในขณะที่ Home Office ค่าเช่าอาจอยู่เริ่มต้นที่ 130,000 บาทเท่านั้น ถือว่าประหยัดได้เยอะทีเดียว หรืออีกกรณี ที่คนทำธุรกิจอยากย้ายออกมาสร้างอาณาจักรของตัวเองแทนที่จะไปสร้างบนที่ดินคนอื่น ทางเลือกที่ใช่สำหรับคนทำธุรกิจขนาดกลางอาจจะเป็น Home Office เพราะสามารถกู้ซื้อในรูปแบบสินเชื่อบ้านที่ได้อัตราดอกเบี้ยแบบเดียวกับที่อยู่อาศัยหรือสามารถซื้อแล้วเก็บเป็นทรัพย์สินของบริษัทที่มีมูลค่าสูงขึ้นตามกาลเวลาได้อีกด้วย  และถ้ากิจการของเราเช่าอาคารสำนักงานนั้นก็กู้ไม่ได้ ต้องควักเงินจ่ายค่าเช่าออกไปอย่างเดียว แถมเป็นเจ้าของไม่ได้ด้วย เพราะตึกเป็นของคนอื่นเค้า และอัตราค่าเช่าสำนักงานมีแนวโน้มขึ้นทุกครั้งที่ต่อสัญญาใหม่

สำหรับนักลงทุนอสังหาฯ การเลือกทำเลที่เหมาะสมกับอสังหาริมทรัพย์ประเภท Home Office จะต้องประกอบไปด้วยเหตุผลที่ดีหลายอย่างประกอบกัน ได้แก่

1. Location ต้องอยู่ในทำเลที่ธุรกิจอื่นๆ เขาก็อยู่กัน ใกล้คู่ค้า ใกล้พันธมิตรและคู่แข่ง มีความหลากหลายของธุรกิจ ไม่ใช่มีแค่ธุรกิจวงการเดียว ถ้าหากวันใดวันหนึ่งทั้งวงการนั้นเกิดปรากฎการณ์ขาลงยกแผง อย่างน้อยก็มีธุรกิจวงการอื่นๆ ช่วยประคองทำเลตรงนั้นให้ยังมีชีวิตชีวาและยังเพิ่มมูลค่าให้กับย่านนั้นอยู่ได้เสมอ ประเด็นนี้ต้องลองจินตนาการภาพกันยาวๆ ถึง 10-20 ปี

2. Location ต้องอยู่ใกล้พื้นที่ที่เป็นแหล่งชุมชน มีที่อยู่อาศัยอพาร์ทเมนต์ หอพัก คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ มีร้านค้า ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกที่จะดึงดูดให้ลูกจ้างของกิจการอยากเข้ามาทำงานและพักอาศัยใกล้กับ Home Office ของเรา ยกตัวอย่างเรื่องง่ายๆ ที่อาจดูเหมือนเรื่องเล็กๆ เช่น แม้ออฟฟิศจะดูดีแต่รอบข้างไม่มีข้าวเที่ยงอร่อยๆ กิน เจ้าของกิจการก็คงจะหาคนมาร่วมงานด้วยยากอยู่พอสมควร

3. เมื่อคำนวณตัวเลขแล้วต้องใช่ต้องโดนและคุ้มค่ากับการลงทุนทั้งปล่อยเช่าและการขายต่อในอนาคต

แล้วทำเลไหนในกรุงเทพที่เหมาะกับ Home Office?

ตลาดอาคารสำนักงานส่วนใหญ่จะยึดติดกับ CBD อย่างสีลม สาทร ลุมพินี พระรามสี่ รัชดา พระราม 9 แต่ข้อเสียคือ ไม่เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้พื้นที่ เช่น ต้องการขนาดพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้น ต่อเติมได้ แถมสำนักงานในเมืองก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ที่จอดรถ ค่าแม่บ้าน ค่าส่วนกลาง ฯลฯ

ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีธุรกิจที่ใช้ Home Office ส่วนใหญ่ก็จะใช้อาคารพาณิชย์เป็นตัวเลือกเพียงอย่างเดียว แต่ก็ติดปัญหาในเรื่องไม่มีที่จอดรถ หน้าตึกแคบ และส่วนใหญ่เป็นแบบเซ้ง ซึ่งในระยะยาวไม่ค่อยจะดี เช่น ตึกจะเก่าลงแต่เจ้าของก็จะไม่ซ่อมให้ เราก็ต้องมาซ่อมเอง ซึ่งเราก็คงไม่ลงทุนบนพื้นที่ของคนอื่นทั้งๆ ที่รู้ว่าในอนาคตตึกที่ปรับปรุงไปก็ไม่ใช่ของเรา ดังนั้นตลาด Home Office เกิดขึ้นมาเพิ่มตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ เป็นสำนักงาน ยืดหยุ่นพื้นที่ได้ ต่อเติมได้ และเราเป็นเจ้าของพื้นที่เอง มีกรรมสิทธิ์และบางแห่งมีการ provide ที่จอดรถ ระบบความปลอดภัย รวมถึงสาธารณูประโภคพวกอินเทอร์เนต โทรศัพท์ ไม่แพ้อาคารสำนักงาน

ทำเล Home Office ที่เป็นคำตอบสุดคลาสสิกก็คือ ทำเลสุขุมวิทครับ เพราะสุขุมวิทเป็นย่านธุรกิจที่เติบโตมาตั้งแต่ดั้งเดิมและค่อยขยาย จนกระทั่งปัจจุบัน Home Office แถบสุขุมวิทก็หาได้ยากมากแล้วเพราะเหตุผลจำนวนที่ดินที่มีจำกัดและยุคนี้สุขุมวิทก็ต้องสร้างขึ้นเป็นตึกสูงหรือทำเป็นบ้านเพื่ออยู่อาศัยเท่านั้นเพราะถ้าทำเป็น Home Office จะมีข้อจำกัดเรื่องจำนวนที่จอดรถที่น้อยจนจอดไม่ได้ ดังนั้น Home Office จึงค่อยๆ ไหลออกมาจากแนวสุขุมวิท จะไหลออกซ้ายเข้าสยามก็ไม่ได้เพราะเป็นที่ดินแพงไปหมดแล้ว จะไหลไปทางขวาก็เป็นสมุทรปราการที่มีสถานีรถไฟฟ้าสร้างเสร็จแล้วรอเปิดใช้งานที่เป็นตัวถีบราคาที่ดินให้สูงขึ้นจนทำ Home Office แล้วไม่คุ้ม ดังนั้นทำเล Home Office จึงไหลขึ้นมาจากเอกมัย ไหลขึ้นมาตามแนวของทางด่วน เพราะยิ่งใกล้ทางด่วนก็ยิ่งเป็นทำเลที่สะดวกสำหรับธุรกิจ ลูกค้าไปหามาสู่กันง่าย ดังนั้นคำตอบปัจจุบันของทำเล Home Office ก็คือ  ย่านเลียบด่วน (บริเวณริมสองข้างทางถนนประดิษฐมนูธรรม), ลาดพร้าว, เกษตร-นวมินทร์ และรามอินทรา ยิ่งใกล้เอกมัยเท่าไหร่ยิ่งเป็นย่านชุมชนมากขึ้นเท่านั้น

5 เหตุผลหลักที่ทำให้ย่านเลียบด่วนเป็นทำเลศักยภาพยอดนิยมของธุรกิจ

1. ย่านเลียบด่วนเปรียบเสมือน NEW HUB มีความหลากหลายในแง่ของการเดินทางไปสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจ (ย่าน CBD) ได้แก่ ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ถนนรัชดาภิเษก ถนนพระรามเก้า ถนนสุขุมวิท

2. ย่านเลียบด่วนมีความหลากหลายของธุรกิจ และเป็นย่านสำคัญของธุรกิจสร้างสรรค์ ทำให้บรรยากาศของย่านมีสีสัน สวยงาม ดูดี

3. ย่านเลียบด่วนมีอนาคตเป็นทำเลรถไฟฟ้าผ่านล้อมกรอบทุกทิศ สายที่สำคัญคือ สายสีเทาที่เชื่อมต่อไปทองหล่อและสุขุมวิท อีกสายที่สำคัญคือสีส้มที่เข้าเมืองไปรัชดา ราชเทวี พญาไท

4. ย่านเลียบด่วนมีสิ่งอำนวยความสะดวก ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ มี Community Mall และร้านอาหารกลางวัน-กลางคืน มีความอุดมสมบูรณ์ด้านไลฟ์สไตล์ และนี่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ย่านนี้นักลงทุนนิยมซื้อตึกสำนักงานไว้ปล่อยเช่าและเพื่อที่จะสามารถขายต่อทำกำไรได้ในอนาคต  ยิ่งถ้าเมื่อใดที่โครงการรถไฟฟ้าเริ่มขึ้นโครงสร้างจริงขึ้นมาราคาก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไปตามโครงการรถไฟฟ้า

5. ย่านเลียบด่วนเป็นย่านที่อยู่กึ่งกลางระหว่างใจกลางเมืองกับถนนกาญจนาภิเษก และที่เชื่อมเข้าสู่แหล่งอุตสาหกรรมทำให้เป็นหนึ่งในย่านที่เป็นจุดหมายนัดพบที่ดีของผู้คน ของ Supplier ของคู่ค้าที่ทำงานร่วมกัน

สำหรับผู้ที่มองหาอสังหาฯ ย่านเลียบด่วน เร็วๆ นี้เตรียมพบกับ Biz Villa แบรนด์ใหม่ล่าสุด ที่เป็นหนึ่งในไฮไลท์ประจำปี 2017 จาก SC ASSET  โครงการ Headquarters เอกมัย – ลาดพร้าว อยู่ใกล้ทาวน์อินทาวน์

พิกัด GPS: 13.771767, 100.614081 คลิก Google Maps ที่นี่  https://goo.gl/maps/KqbPKSXLLsm

เชื่อมต่อเข้าสู่พระราม 9  ห้วยขวาง  ทางด่วน  ลาดพร้าว และรามคำแหง

ลงทะเบียนขอรับข้อมูลโครงการ Headquarters เอกมัย – ลาดพร้าว ก่อนใครได้ที่ http://boffice.scasset.com/Register/registerForm59_HQ-EL.asp

Headquarters เอกมัย – ลาดพร้าว เป็นโครงการที่พักอาศัยรูปแบบใหม่สไตล์ Biz Villa ที่ตอบโจทย์ทั้งทำงานและการพักผ่อน มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าและปรับแต่งได้ดั่งใจต้องการ มีพื้นที่พักอาศัยให้ชีวิตทั้งทำงานและอยู่อาศัยสมดุลกัน

Headquarters เอกมัย – ลาดพร้าว ตั้งอยู่บนทำเลธุรกิจใจกลางเมืองทาวน์อินทาวน์ ติดถนนใหญ่อินทราภรณ์ เดินทางสะดวกเชื่อมสู่ถนนเลียบทางด่วนเอกมัยรามอินทรา เข้าไปทองหล่อได้ง่าย หรือจะวิ่งไปถนนลาดพร้าว ถนนรามคำแหง ถนนรัชดาภิเษก และถนนพระราม 9 ได้

Headquarters เอกมัย – ลาดพร้าว รายล้อมด้วยศูนย์กลางความเจริญในย่านทาวน์อินทาวน์  ใกล้ Community Mall โรงแรมและร้านอาหารชั้นนำ อาทิเช่น CDC, The Crystal , Central Festival Eastville, The Scene, ต้นซุงอเวนิว, Central Plaza Grand Rama 9, โรงแรมทาวน์อินทาวน์, โรงแรม SC Park เป็นต้น นอกจากนี้ยังใกล้แหล่งนักศึกษาฝึกงาน จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และ ABAC

Headquarters เอกมัย – ลาดพร้าว ตั้งอยู่ในย่านที่เป็นศูนย์รวมของสำนักงานธุรกิจชั้นนำเกี่ยวกับธุรกิจสร้างสรรค์ บันเทิงและการออกแบบ รวมถึง SME ต่างๆ ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและเชื่อมต่อธุรกิจกับ Suppliers ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว รถไฟฟ้าปัจจุบันที่ใกล้ที่สุดคือสถานี MRT ลาดพร้าว และ MRT ศูนย์วัฒนธรรม นอกจากนี้เป็นทำเลที่มีมูลค่าเพิ่มเพราะอยู่จุดกึ่งกลางระหว่างรถไฟฟ้าในอนาคตทั้งสายสีเทาที่วิ่งจากเหนือลงใต้ สีส้มวิ่งจากตะวันออกไปตะวันตก และสีเหลืองที่วิ่งเป็นครึ่งวงกลมเชื่อมระหว่างลาดพร้าวกับศรีนครินทร์ ในอนาคต Headquarters เอกมัย – ลาดพร้าว จะใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีเทา (ในอนาคต) สถานีศรีวรา ประมาณ 1.3 กม.

Headquarters เอกมัย – ลาดพร้าว  มีพื้นที่โครงการ 6 – 2 – 38.6 ไร่ ยูนิตที่ขายมีทั้งหมด 29 ยูนิต ขนาดที่ดินแต่ละแปลงเริ่มตั้ง 44.4 ตร.วา ไปจนถึง 107 ตร.วา แต่ละยูนิตมีพื้นที่ใช้สอย เริ่มที่ 479 ตร.ม. ไปจนถึง 693 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ 27 ล้านบาท ไปจนถึง 50 ล้านบาท

แบบบ้านของ Headquarters เอกมัย – ลาดพร้าว  มีทั้งหมด 3 แบบดังนี้ โดยมีคอนเซปท์เป็น Biz Villa 5 ชั้น แบ่งเป็น 3 แบบ โดยทุกหลังจะแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานเป็น ชั้น 1-4 เป็น OPEN PLAN* ชั้น 5 เป็น PENTHOUSE  1 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก

1. แบบบ้าน PRESIDENT  พื้นที่ใช้สอย 479 ตร.ม. มี 4 ห้องน้ำ และ 6 ที่จอดรถ พร้อมลิฟต์ส่วนตัว

2. แบบบ้าน PRESIDENT (S)  พื้นที่ใช้สอย 576 ตร.ม. มี 4 ห้องน้ำ และ 6 ที่จอดรถ พร้อมลิฟต์ส่วนตัว

3. แบบบ้าน CHAIRMAN  พื้นที่ใช้สอย 693 ตร.ม. มี 4 ห้องน้ำ และ 7 ที่จอดรถ พร้อมลิฟต์ส่วนตัว

หากสนใจ กรุณาลงทะเบียนขอรับข้อมูลโครงการ Headquarters เอกมัย – ลาดพร้าว ก่อนใครและรับสิทธิพิเศษรอบ V.VIP ได้ที่ Headquarters หรือโทร. 089 203 2233