ปัจจุบัน กทม.ได้ส่งผลการศึกษาของโครงการดังกล่าวต่อไปยังสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อพิจารณาผลการศึกษาต่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากผ่านการพิจารณาก็จะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปี หรือราวๆปี 2561 ครับ
การเดินทางด้วยรถยนต์สามารถเลือกใช้ได้ถึง 3 เส้นทางครับ
1. มาจากสี่แยกบางนาขาออก และวิ่งทะลุห้างอีเกียออกมา
2. มาจากบางนาขาเข้า
3.มาจากทางพิเศษหมายเลข 9 ฝั่งรามอินทรา – รามคำแหง
ผมเลือกใช้เส้นทางที่เข้าใจง่ายที่สุดคือถนน บางนา-ตราด ฝั่งขาเข้าไปทางแยกบางนาครับ จุดสังเกตง่ายๆก็คือถ้าวิ่งมาจนเห็นซ้ายมือเป็น Market Village และ Home Pro แล้วก็เตรียมชิดซ้าย เพื่อเลี้ยวไปยังถนนคู่ขนาน ที่อยู่เลียบถนนกาญจนาภิเษกด้านตะวันออก ฝั่งมุ่งหน้าไปถนนพระราม 2 -บางปะอิน
เตรียมเลี้ยวซ้ายตรงป้ายถนนกาญจนาภิเษกนั่นแหละครับ…ไม่ต้องขึ้นทางด่วนนะครับ
ตรงไปไม่เกิน 500 เมตรก็จะถึงโครงการแล้วครับ เยื้องกับอีเกีย พอดีเลย
ทางเข้าโครงการเป็นทางเดียวกันกับทางเข้าโครงการแนวราบของอารียาครับ โดยบริเวณนี้นอกจากโครงการ a space me บางนา แล้วก็ยังมี โครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ อารียา โคโม่ และ ทาวน์โฮม เดอะคัลเลอร์ส บางนา
ตัวโครงการอยู่ใกล้ห้างอีเกีย และเมกาบางนา มากครับ รูปนี้ถ่ายจากบริเวณลานจอดรถของห้างอีเกีย…ลองวัดระยะทางจากทางออกอีเกียจนถึงทางเข้าคอนโดแล้วปนะมาณ 500 เมตรครับ ซึ่งโครงการมีรถตู้รับส่งให้ถึง 3 คันครับ (ส่งจากโครงการไปอีเกียนะครับ แต่ถ้าใครอยากไปแถว BTS อุดมสุขก็เลือกใช้ Shuttle Bus ของห้างเมกา บางนา ต่อได้ครับ)
รถตู้รับส่งของโครงการ
ภาพรวมของโครงการ
โครงการเอ สเปซ มี บางนา เป็นคอนโดมิเนียมสูง 26 ชั้น 945 ยูนิตโครงสร้างตึกเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยที่มีการจัดวางห้องให้หันหน้าไปแค่ 2 ทิศคือทิศเหนือ และทิศใต้
Master Plan ของโครงการก็เรียบง่าย เช่นเดียวกับดีไซน์ตึกครับ ทิศเหนือจะหันไปทาง อิเกีย-เมกา บางนา และมองวิวได้ไกลไปถึงเส้นมอเตอร์เวย์ และสนามบินสุวรรณภูมิ
ทิศใต้จะหันไปทางแนวทางพิเศษหมายเลข 9 ช่วงสมุทรปราการโน่นเลยครับ และแน่นอนว่าที่นี่จุดเด่นก็คงหนีไม่พ้นวิวที่ไม่มีด้านไหนบล๊อคเลยครับ
ที่อยู่อาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 5 – 25 ครับ โดยพื้นที่จอดรถจะเริ่มตั้งแต่ชั้นล่างรอบโครงการจนถึงชั้น 4 ครับ


ชั้น 26 จะเป็นไฮไลท์ของโครงการ เพราะว่าเป็น Rooftop facility ครับ มีทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับฟิตเนส และสวนลอยฟ้าบนความสูง 70 เมตร จัดว่าเป็นพื้นที่ส่วนกลางของคอนโดที่อยู่สูงที่สุดในย่านบางนาครับ
Unit Plan ขนาดเล็ก ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
มีคอนโดเพียงไม่กี่โครงการครับ ที่ออกแบบโดยที่ทั้งตึกมีแต่ห้องแบบ 1 ห้องนอน และเป็น 1 ห้องนอนที่มีขนาดเพียงแค่ 25.05 – 31.84 ตรม. ทั้งสองแบบนี้ทาง a space me บางนา เค้าตั้งชื่อเรียกแต่ละแบบว่า
You Space ขนาดประมาณ 25 ตรม.
ห้อง Type นี้ เป็นห้องหน้าลึก โดยมีบานเลื่อนกั้นระหว่างส่วนห้องนอน และห้องครัว+ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่นครับ โดยที่นี่จะไม่มีพื้นที่ระเบียงแบบจริงจังให้ แต่จะทำเป็นบานประตูเปิดออกไปสู่พื้นที่วางคอมฯแอร์ และราวตากผ้า เท่านั้นครับ
We Space ขนาดประมาณ 32.10 ตรม.
ห้อง type นี้จะมีเพียงแค่ชั้นละ 2 ห้องเท่านั้นครับ เป็นห้องที่ถูกจัดวางตำแหน่งให้ติดกับ core lift ทั้ง 2 ด้าน…พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นมาจะถูกเติมเต็มสเปซด้วยห้องน้ำครับ ทำให้มีพื้นที่ในการเก็บของ และพื้นที่ในการจัดวางโต๊ะทานข้าวได้มากยิ่งขึ้น สร้างมิติที่กว้างกว่าให้กับห้องนั่งเล่นครับ
ดูแล้วก็เดาได้เลยครับว่าทางอารียาเอง วาง positioning ของโครงการให้จับกลุ่มคนที่ทำงานอยู่แถวๆบางนาตอนกลางครับ ด้วยห้องขนาดเล็กและราคาต่อตรม.ที่ถูกมากๆ ทำให้คนที่ต้องทำงานแถวๆนี้สามารถตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็วครับ…ลองมาไล่ๆดูที่นี่ก็ใกล้ทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ และใกล้แหล่งงานอย่างนิคมอัญธานี (Gemopolis) ในระยะไม่ถึง 6 กม.เองครับ รวมไปถึงพนักงานมหาศาลที่ทำงานอยู่ที่บรรดาห้างฯต่างๆที่รายล้อมอยู่แถวๆโครงการ เช่นกัน
ตอนนี้โครงการ a space me บางนา สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้วสำหรับชั้นล่างๆ ดังนั้นอย่ารอช้า เราเข้าไปดูพื้นที่จริงกันเลยดีกว่าครับ
บริเวณชั้นล่างของโครงการจะมีพื้นที่ร้านค้าอยู่ครับ เท่าที่เห็นตอนนี้จะมีร้าน 7 Eleven แต่ที่นี่ยังมีพื้นที่ร้านค้าว่างอยู่พอสมควรเลยครับ
สำนักงานขายของโครงการจะอยู่ข้างๆร้าน 7 Eleven แต่จะเดินเข้ามาทางล้อบบี้ก็ได้ครับ
ล้อบบี้ของโครงการตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาล สลับกับกำแพงก่ออิฐสีขาวบริเวณเค้าท์เตอร์ต้อนรับ ดูแล้วให้บรรยากาศ Homey ครับ…ในล้อบบี้ก็จะมีห้องนิติฯ ห้องประชุม รวมถึง Sale Office ครับ เป็นล้อบบี้ที่กึ่งๆ open air และมีลมโกรกแรงมากครับ


ห้องตัวอย่างอยู่ที่ชั้น 15 ครับ โครงการแต่งมาให้ดูสองแบบ แต่ห้องจริงไม่ได้เฟอร์ฯนะครับ ขายแบบ Fully Fitted ที่มีตู้เสื้อผ้า ครัว และแอร์ให้
สิ่งที่แตกต่างจากคอนโดเกรด mass ทั่วไปก็คือ a space me บางนา ค่อนข้างอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านโดยการจัดพื้นที่กล่อง mail box ให้แยกตามชั้น อยู่บริเวณถัดจากโถงลิฟท์เลยครับ…ลิฟท์ก็จัดมาให้ถึง 6 ตัว ในลิฟท์ขึ้นได้แต่ชั้นตัวเอง และออกจากลิฟท์มาก็มี access control เป็นประตูกั้นให้ทุกชั้นครับ
วิวทิศใต้ถ่ายจากโถงลิฟท์ชั้น 15 โล่งมาก พื้นที่ส่วนใหญ่มีแต่ทุ่งหญ้า และโครงการบ้านจัดสรรกระจายตัวอยู่ครับ… ด้านถัดไปทางซ้ายมือจะเป็นโครงการแนวราบของอารียา
ห้องแรกที่จะพาไปดูเป็นห้องเบอร์ 11 ขนาดประมาณ 25 ตรม. ทิศเหนือหันไปทางอีเกียครับ
ประตูเป็นบานสีขาวธรรมดา พร้อมมือจับกุญแจแบบก้านโยก เปิดเข้าไปเจอครัวแบรนด์ Starmark อยู่ทางขวามือ และซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำและตู้เก็บของ Build in ครับ…เพดานสูง 2.6 เมตร ห้องตัวอย่างทำเป็นปล่องไฟดาวน์ไลท์ แต่ห้องจริงเป็นโคมซาลาเปา 3 โคมครับ
ผมว่าโครงการแต่งห้องตัวอย่างออกมาค่อนข้างดูน่ารัก แต่ก็ยังดูหรูเรียบนะครับ เข้าไปแล้วรู้สึกเลยว่าสไตล์ของที่นี่คือ “me” จริงๆครับ แตกต่างจากสไตล์การตกแต่งคอนโดเกรด mass ที่อื่นอย่างชัดเจน…Prop ในห้องก็จัดมาให้เต็มมากครับ อาจเป็นเพราะว่าใกล้อีเกีย เลยหาซื้อง่ายหน่อย ฮา
ด้านซ้ายมือมีพื้นที่เล็กๆซ่อนอยู่หลังกระจกเงาครับ นั้นคือช่องเก็บของ และประตูเข้าห้องน้ำครับ
ชุดครัวของห้องตัวอย่าง ทางโครงการถอดเอาหน้าบานออกไปชิ้นนึงเพื่อติดตั้งเครื่องซักผ้าครับ ข้อดีอีกอย่างของห้องที่นี่คือ บริเวณส่วนครัวและหน้าห้องน้ำพื้นเป็นกระเบื้องครับ ถ้าเป็นคอนโดเกรดเดียวกันที่อื่นให้เป็นลามิเนตทั้งห้อง
ครัวไม่มีเครื่องดูดควันและเตาไฟฟ้าให้นะครับ เป็นสเปคมาตรฐานของคอนโดเกรดนี้ แต่ก็มีพื้นที่พอที่จะให้วางไมโครเวฟได้ครับ
เบรคเกอร์ผมว่าวางต่ำไปนิดนึงนะครับ ตู้เย็นก็เลยต้อง Fix ที่ขนาดไม่เกินนี้ ไม่งั้นเปิดไม่ได้ครับ
ห้องน้ำต้องไปติดฉากกั้นอาบน้ำหรือไม่ก็กระจกกั้น และเครื่องทำน้ำอุ่นเองนะครับ..นอกนั้นอุปกรณ์ก็ได้ตามมาตรฐาน
กระจกเงาและอ่างล้างมือค่อนข้างใหญ่ครับ
ห้องรับแขกก็ต้องไป Build in ชั้นวางของเองครับ แต่โครงการทำตัวอย่างมาให้ดูดีมาก ระยะห่างของทีวีค่อนข้างห่างนะครับ
โครงการตกแต่งในส่วนของผนัง เพื่อซ่อนไฟ และ drop ฝ้า ดูแล้วห้องมีมิติขึ้นเยอะ เลือกใช้โซฟาหนังสองที่นั่งสีน้ำตาลคุมโทนห้องได้ดีครับ
ฉากกั้นห้องจัดมาให้ค่อนข้างสูงนะครับ
ห้องนอนก็สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ ในแบบมีพื้นที่เหลือข้างเตียง
ตู้เสื้อผ้าอยู่ปลายเตียงได้แบบนี้เลยครับ
ข้างๆตู้เสื้อผ้าก็จะมีประตูเปิดออกไปยังพื้นที่ระเบียง แบบ semi outdoor ซึ่งดูแล้วออกไปยืนก็ได้นะครับ ถ้าใครไม่ mind เรื่องพื้นที่แคบ มีคอมฯแอร์แขวนอยู่บนเพดาน…แต่ผมว่าเก็บเอาไว้ตากผ้าชิ้นเล็กๆก็พอครับ


ไปดูห้องต่อไปกันครับ อยู่ตรงข้ามกันเลย ขนาดเดียวกันเป๊ะ แต่สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจก็คือโครงการเลือกแต่งห้องในสไตล์ที่ผมเกือบไม่เชื่อว่านี่คือเลย์เอ้าท์แบบเดียวกันครับ
เปิดมาก็เจอครัวอยู่ซ้ายมือ แต่ห้องนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกันว่ามี 3 โซนในห้องเดียวกันครับ สามารถเลือกที่จะนำผ้าม่านมาเพื่อกั้นส่วนระหว่างครัว ห้องนั่งเล่น และห้องนอนได้
แต่งห้องในสไตล์ที่ผมว่าสาวๆทั้งหลายก็น่าจะชอบ เพราะว่ามันดู Boutique Chic มากครับ ตั้งแต่การเลือกใช้วอลล์เปเปอร์ลวดลาย Vintage ตัดกับโทนสีของห้องในสไตล์พาสเทล และการนำเอาต้นไม้เทียมมาสอดแทรกในทุกส่วนของห้องครับ…ผมดูแล้วน่าจะเป็นห้องในฝันของสาวยุคใหม่ที่มีบ้านและที่ทำงานเป็นที่เดียวกันครับ
ห้องนั่งเล่น Build เป็นโซฟาขนาดสองที่นั่ง ติดวอลล์เปเปอร์ลวดลาย Vintage
ระยะดูทีวีก็ค่อนข้างห่างเช่นกันครับ…ห้องนี้โครงการดึงเอาบานเลื่อนกั้นห้องออก ทำให้ได้พื้นที่กว้างขึ้น โดยลดทอนความสำคัญของห้องนอนออก…เดี๋ยวเราไปดูกันครับว่าเค้าทำยังไง
พื้นที่เตียงนอนเลือกที่จะวางเตียงเดี่ยวและหันหัวนอนไปทางด้านหน้าต่าง ด้านข้างเตียง Build in ลิ้นชักเก็บของเต็มพื่นที่ ต่อเนื่องไปจนถึงระแนงไม้ด้านบนเพดาน…ที่นอนสร้างรางผ้าม่านไว้เลื่อนปิดได้เวลานอน การจัดวางพื้นที่แบบนี้ทำให้สามารถวางโต๊ะทำงานริมหน้าต่างเพิ่มได้…นี่มันห้องนอนในฝันของสาวโสด ผู้รักการทำงานชัดๆ!!
ที่เด็ดก็คือเตียง เป็นเตียงพับได้ครับ เวลาตื่นมาถ้าอยากได้พื้นที่ทำงานเพิ่ม หรือเอาไว้ปูเสื่อโยคะเล่น ก็แค่ยกเตียงขึ้น พื้นที่ก็จะเพิ่มมากขึ้นตามครับ
กว้างมากจนแทบไม่เชื่อว่าคือห้องขนาด 25 ตรม. ครับ
ดูห้องตัวอย่างกันไปเยอะแล้ว มาดูห้องจริงกันบ้างครับ ว่าจะมีบรรยากาศแตกต่างกันแค่ไหน
ชั้นเดียวกันเลยครับ 1512
มีชุดครัว ตู้เสื้อผ้า โคมซาลาเปา แอร์ และฉากกั้นห้องมาให้ครับ…นอกนั้นต้องไปแต่งเองหมด
ชุดครัวไม่ได้ติดกระเบื้อง back splash มาให้ ดีตรงที่ตู้แขวนสูงชิดฝ้าครับ
ถ้าจะติดตั้งเครื่องซักผ้า ต้องเอาหน้าบานออกบานนึงนะครับ
ห้องน้ำได้แบบห้องตัวอย่าง แต่ติดผ้าม่านอาบน้ำเองนะ
ห้องนอนมีตู้เสื้อผ้าให้ พร้อมกระจกเงา
เปิดประตูทางออกไปยืนเปลี่ยนบรรยากาศนอกห้องได้…
ขึ้นไปดูส่วนกลางบนชั้น 26 กันบ้างครับ…ถ้าเป็นคอนโดในเมือง ชั้น 26 อาจจะดูไม่สูง แต่ที่ a space บางนา ส่วนกลางที่ความสูง 70 เมตรนี่คือสูงที่สุดในแถวนี้ครับ…ส่วนกลางก็จะมีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนลอยฟ้าครับ
สระว่ายน้ำจะหันไปทางทิศเหนือครับ โดยจะถูกยกสเตปขึ้นมา น่าเสียดายที่ take วิวได้แค่ด้านเดียว และไม่ได้เป็น infinity edge ครับ
วิวอีเกีย สนามบินสุวรรณภูมิ และด่านเก็บเงินทางพิเศษครับ
แต่ถ้าว่ายมาจนสุดด้านทิศตะวันตกก็สามารถปีนมาขอบสระเพื่อดู City View แถวแยกบางนาไกลๆได้ครับ
อีกซีกนึงของชั้นส่วนกลางจะเป็นฟิตเนส และสวนลอยฟ้าครับ โดย facility สองส่วนถูกคั่นกลางด้วยห้องน้ำ และตู้ล้อคเกอร์
ห้องฟิตเนสดูเหมือนจะมีเครื่องเล่นน้อยไปนิดถ้าเทียบกับจำนวนยูนิต 945 ยูนิต แต่ภายในห้องฟิตเนสก็ได้แบ่งครึ่งห้องออกมาเป็นส่วนนั่งเล่น
ด้านนอกห้องฟิตเนสจะเป็นสวยลอยฟ้าครับ มีเก้าอี้ชิงช้าให้นั่งเล่นรับอากาศบริสุทธิ์แถวชานเมืองได้เป็นอย่างดี
โครงการ a space me บางนา เป็นโครงการชานเมืองที่ผมมองว่าจับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะครับ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่ว่านี้ก็เป็นบรรดาพนักงานที่ทำงานอยู่บริเวณบางนาตอนกลาง ในรัศมีไม่เกิน 10 กม. จากโครงการ เช่น ห้างอีเกีย-เมกาบางนา, โฮมโปร, เทสโก้ โลตัส, กลุ่มเนชั่น, นิคมอุตสาหกรรมอัญธานี จนถึงสนามบินสุวรรณภูมิ…ด้วยการออกแบบขนาดห้องที่มีเพียงแค่ 1 ห้องนอนขนาดเล็ก 25 ตรม. และ 32 ตรม. ไม่สามารถ combined ได้ (เท่าที่ถามพนักงานขายห้องขนาด 32 ตรม.เหลือขายแค่ห้องเดียวครับ) ทำให้โครงการตัดคู่แข่งขันที่เป็นแนวราบทั้งบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมที่รายล้อมอยู่รอบๆบริเวณนี้ไปจนหมดสิ้น เรียกได้ว่าถ้าใครคนไหนหาห้องขนาด 2 ห้องนอน ก้ไม่ต้องมาดูที่นี่เลย และผมก็คิดว่ามีน้อยคนครับที่จะหาคอนโด 2 ห้องนอนในแถบชานเมือง ที่มีโครงการแนวราบราคาตั้งแต่ 2 ล้านกว่าถึง 10 ล้านอยู่เต็มไปหมด แม้กระทั้งทาวน์โฮมสองชั้น 4 ห้องนอน ของอารียาเองที่อยู่ด้านในก็ยังมีขายในราคาสองล้านต้นๆ
การมีห้องขนาดเล็ก และราคาถูกทำให้โครงการได้เปรียบในเรื่องของการ draw ลูกค้า ที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่า หรือ ซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่สองกรณีที่ต้องทำงานแถวนั้น…ผมสอบถามทางพนักงานดูและทราบมาว่าโครงการนี้มีคนต่างชาติมาติดต่อขอเช่าอยู่เรื่อยๆในราคาค่าเช่าเริ่มต้น 7,500 บาทต่อเดือน ซึ่งคนต่างชาติเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนที่ทำงานในย่านนี้ทั้งสิ้น คิดง่ายๆค่าเช่า 7,500 ราคาห้อง 1.29 ล้าน ก็ได้ rental yield 6.9% แล้วครับ นอกจากนี้โครงการยังมีบริการเอเจนท์จัดหาผู้เช่าประจำอยู่ที่ล้อบบี้ด้วยครับ
หากเปรียบเทียบกับโครงการใกล้เคียงก็น่าจะเป็นโครงการ LPN Mega City คอนโดที่มีจำนวนยูนิตถึง 3,881 ยูนิต แต่ก้ sold out ได้ไม่ยาก และ The Niche Mono บางนา ทีอยู่เยื้องๆกับเซ็นทรัลบางนา…แต่ราคา ณ ปัจจุบันของโครงการ a space me บางนา ถือว่าเป็นโครงการที่มีราคาถูกที่สุดแล้วครับ เนื่องจาก LPN Mega City นั้นราคาได้ถูกปรับขึ้นไปหลังโอนพอสมควรแล้ว
ตอนนี้ห้องโครงการเหลือขายอีกประมาณ 25% ครับ และลูกบ้านโอนไปแล้ว 300 ยูนิต…ราคาขายของโครงการต้องบอกว่าถึงจะไม่ถูกเท่าตอนเปิดตัวที่ตรม.ละ 45,000 บาท แต่ก็ถือว่าถูกมากครับเพราะว่าห้องที่ถูกที่สุดตอนนี้อยู่ที่ชั้น 5 มีราคาเพียงแค่ 1.29 ล้านบาท หรือว่า 51,497 บาทต่อตรม. เท่านั้น…ส่วนห้องอื่นๆอย่างเช่น ห้องขนาด 31.84 ตรม. ห้องสุดท้ายบนชั้น 21 ก็มีราคาขายหลังหักส่วนลดแล้วที่ 2.2 ล้าน หรือราวๆตรม.ละ 69,096 บาท
นอกจากนี้โครงการก็ยังมีโปรโมชั่นเพิ่มเติมสำหรับบางห้องคือ ส่วนลด 50,000 บาท, ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน, อยู่ฟรี 1 ปี ใช้ได้กับทุกธนาคารโดยลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะรับเช็คเดือนละ 11,000 บาท x 12 เดือน หรือจะรับส่วนลดเงินสดไปเลย 120,000 บาทครับ และยังมี Gift Voucher ของ SB มูลค่า 50,000 บาทให้ด้วยครับ (โปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา กรุณาเช็คกับพนักงานขายก่อนนะครับ)
ช่วงนี้ทางอารียาก็กำลังทำแคมเปญ The Perfect Match ตอบโจทย์ได้ทุกความต่าง สำหรับแบรนด์ a space me ครับ โดยตัว TVC เองก็ได้พยายามสื่อให้เห็นถึง ความสมดุลกันทั้งไลฟ์สไตล์ส่วนตัวที่จำเป็นต้องสอดผสานกันทั้งชีวิตเมืองและการพักผ่อน ผมว่าทำออกมาได้น่ารักโดนใจวัยรุ่นดีครับ
แคมเปญนี้แค่แชร์วิดีโอก็มีสิทธิ์ได้รับ Starbucks Card/ ลงทะเบียนออนไลน์ก็ลุ้นรับ iPhone 6s Plus ทุกเดือน และลุ้นรับ MacBook Pro Retina Display 13″ เมื่อแวะชมโครงการ รวมถึงถ้าจองก็ยังได้ลุ้นรับรางวัลใหญ่เป็นรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ด้วยครับ… โอ้ยอะไรมันจะแจกเยอะขนาดนี้ เพิ่มเติมคลิก ThePerfectMatch
































































































































































































































