แม้จะเหลืออีกเพียงแค่ 4 เดือนก็จะผ่านพ้นปี 2025 นี้ไปแล้ว แต่วันนี้ธุรกิจอสังหาฯไทยยังคงต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน บนความท้าทายใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเปิดตัวโครงการใหม่ที่มีการชะลอตัวลงอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโครงการแนวสูงอย่างคอนโด ที่นอกจากจะต้องเจอกับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่ไม่เพียงส่งผลทางกายภาพต่อตัวอาคารหลายแห่ง แต่ยังส่งผลกระทบมหาศาลต่อความเชื่อมั่นของผู้อยู่อาศัยภายในคอนโดมิเนียมสูงทุกแห่งทั่วกรุงเทพฯด้วยเช่นกัน ทั้งนี้สำหรับผู้พัฒนาโครงการรายใหญ่ในตลาดที่มีแบรนด์ดิ้งที่แข็งแกร่ง และมีความพร้อมในด้านงบลงทุน ล้วนมีแนวทางที่สำคัญในการเดินหน้าธุรกิจผ่านกลยุทธ์หลัก ไม่ว่าจะเป็นการ Balance Port Folio ไปสู่โครงการแนวราบ การเข้าสู่ตลาดใหม่ๆโดยเฉพาะในกลุ่ม Vacation Home ที่เจาะกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงทั่วโลก ไปจนถึงการเข้าลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตใหม่ๆ เช่นเดียวกับการสร้าง Ingredient Branding โดยการให้ความสำคัญในการเลือกบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างแนวหน้าของไทยมาก่อสร้างโครงการ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้อยู่อาศัยคอนโดในยุคนี้ ได้ไม่แพ้กับการตัดสินใจเลือกซื้อจากแบรนด์ผู้พัฒนาชั้นนำต่างๆเลยเพราะความเป็นจริงที่ปฎิเสธไม่ได้ก็คือ คอนโดสูงในมหานครใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งปลูกสร้างเพื่อพักอาศัย แต่มีอรรถประโยชน์ที่ตอบโจทย์สำคัญในด้านการซื้อคุณภาพชีวิต ซื้อเวลาที่สามารถให้เราไปใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพกับครอบครัว หรือทำกิจกรรมที่คุณรักได้ดีกว่าการไปอยู่นอกเมืองจริงๆ อย่าลืมว่าพื้นฐานเมืองไม่ได้เปลี่ยน เมืองไม่ได้ย้ายหนีไปไหน คนทำงานส่วนใหญ่ก็ยังต้องมีวิถีชีวิตที่วนเวียนอยู่ในย่าน CBD อยู่วันยังค่ำ ดังนั้นรูปแบบที่อยู่อาศัยอย่างคอนโดก็จะยังคงได้รับความนิยมอย่างไม่สิ้นสุด แบรนด์ที่สามารถส่งมอบโครงการภายใต้กระบวนการก่อสร้างที่ได้มาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด สามารถสร้างประสบการณ์ในการอยู่อาศัยที่เหนือความคาดหมายกว่า ย่อมครองใจผู้ซื้อได้มากกว่า!

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) แบรนด์อสังหาฯ อันดับ 1 ผู้นำด้านดีไซน์และคุณภาพการบริการ ภายใต้ปรัชญาการสร้างบ้านที่มากกว่าแค่ที่อยู่อาศัย แต่คือการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคน พร้อมเดินหน้าในการพัฒนาโครงการคอนโด เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคน ด้วยการจับมือกับพันธมิตรผู้รับเหมาก่อสร้างระดับแนวหน้าของประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่า “ทุกโครงการของแสนสิริ” มีความแข็งแรงและปลอดภัยสูงสุด ด้วยมาตรฐานการก่อสร้างที่ดีที่สุดในทุกองค์ประกอบ

หากจะกล่าวถึงแบรนด์ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างปรากฏการณ์ได้มากที่สุดในทุกยุคทุกสมัย ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปี ในการพัฒนาธุรกิจคอนโดมิเนียม ผ่านการสร้างโครงการแนวสูง 225 โครงการ รวมกว่า 90,000 ยูนิต คงจะต้องมีชื่อของ “แสนสิริ” ขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นๆ

โดยในปีนี้แสนสิริมองเห็นโอกาส ที่จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการยกระดับมาตรฐานทั้งอุตสาหกรรม เพื่อพิสูจน์ว่าการอยู่อาศัยในโครงการแนวสูงมีความมั่นคงปลอดภัยจริง ด้วยการผนึกกำลังกับเครือข่ายพาร์ตเนอร์ที่เปรียบเสมือน Ingredient Brand อันแข็งแกร่ง ในการก่อสร้างคอนโดที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมในทุกกระบวนการก่อสร้าง บน “ความเชื่อมั่น” และ “ความยั่งยืน” ไปพร้อมกัน ประกอบด้วย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้ดูแลงานนิติบุคคลระดับมืออาชีพ และบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างระดับแนวหน้าของประเทศ ประกอบไปด้วย บริษัท คอนสตรัคชั่น ไลนส์ จำกัด, บริษัท สี่พระยา ก่อสร้าง จำกัด, บริษัท สยาม มัลติ คอน จำกัด, บริษัท วิศวภัทร์ จำกัด, บริษัท กรณิศ ก่อสร้าง จำกัด, บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน), บริษัท ยูเวิร์ค 999 จํากัด, บริษัท เวลเกรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน), บริษัท จีระธนา ก่อสร้าง จำกัด, บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท 3 พร จำกัด, บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ที.ที.เอส.เอ็นจิเนียริ่ง (2004) จำกัด โดยผู้รับเหมาทุกรายมีมาตรฐานการทำงานระดับนานาชาติ ทั้งในด้านการก่อสร้าง คุณภาพ และความปลอดภัย ส่งมอบโครงการคุณภาพให้กับลูกบ้านแสนสิริมากว่า 40 ปี ซึ่งบริษัทฯมองว่าการเลือกบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ดีและมีคุณภาพไม่ใช่เพียงแค่การหาผู้รับจ้างที่เสนอราคาต่ำที่สุด แต่เป็นการลงทุนที่สำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยง สร้างความเชื่อมั่น และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โครงการอสังหาฯของแสนสิริประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ด้วยข้อได้เปรียบในเรื่องของการมีพาร์ตเนอร์ผู้รับเหมาที่ดี ภายใต้กระบวนการตรวจสอบที่เข้มงวด มีขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน เริ่มตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้าง ไปจนถึงการส่งมอบ มีการสุ่มตรวจจากองค์กรภายนอก โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ จากสถาบันการศึกษาชั้นนำภาครัฐ และหน่วยงานเอกชนหลายแห่ง จัดทำ “แนวทางปฏิบัติการออกแบบโครงสร้างในอาคารสูง” เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานให้แก่วิศวกรที่ได้รับการว่าจ้างจากแสนสิริในการออกแบบวิศวกรรมโครงสร้าง การคำนวณการวิเคราะห์ผลของแรงแผ่นดินไหว แรงลม และการออกแบบฐานรากสำหรับอาคารสูงให้สอดคล้องตามมาตรฐานที่มีอยู่ในประเทศไทยและจากต่างประเทศ จึงทำให้ปีนี้แสนสิริพร้อมที่จะเดินหน้าพัฒนา เปิดตัวโครงการคอนโดใหม่ๆ ในทุกเซกเมนท์ บนทุกทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯอย่างเต็มสปีด ตามแผนดำเนินงานที่วางไว้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการในกลุ่ม Sansiri Luxury Collection (SLC) ที่ประกอบไปด้วยโครงการ Ultra – Luxury ที่เป็น Iconic Masterpiece ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มี Brand Loyalty สูง และใช้ปัจจัยในด้านการมองหาของสะสมหายาก เป็นสิ่งที่ช่วยเติมเต็มความต้องการในแบบ Passion Investment ที่ซึ่งยิ่งหายากก็ยิ่งมีค่า มีราคาที่ทวีขึ้นตามเวลาที่ผ่านพ้นไป กับแบรนด์สร้างชื่ออย่าง 98 Wireless, The Monument Thong Lo และ KHUN by Yoo ที่ทั้งหมดล้วนผ่านบททดสอบสำคัญอย่างแผ่นดินไหว และได้พิสูจน์ให้คนทั่วโลกได้เห็นถึงความสวยแกร่ง สวยทน งดงามเหนือกาลเวลาในแบบที่แทบจะไม่มีความเสียหายในเชิงสถาปัตย์เลย ซึ่งก็ต้องยกเครดิตให้กับบริษัทผู้รับเหมาอย่าง บริษัท สี่พระยาก่อสร้าง จำกัด ด้วยเช่นกัน

โดย บริษัท สี่พระยาก่อสร้าง จำกัด เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในวงการว่าเป็นบริษัทรับเหมาที่มีคุณภาพสูงและเป็นที่น่าเชื่อถือมายาวนานกว่า 60 ปี มีผลงานการก่อสร้างที่เปี่ยมด้วยคุณภาพชั้นสูงสุด บนพื้นฐานของความตั้งใจ ความซื่อสัตย์ ผสานประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ โดยช่างฝีมืออาชีพ และเทคโนโลยีอันทันสมัย ด้วยแนวคิด “The Quality You Trust” ซึ่งสะท้อนจากผลงานโครงการขนาดใหญ่ และโครงการระดับ Luxury หลายแห่งที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ก่อสร้าง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างโครงการเชิงพาณิชย์และอาคาร สูง อาทิ

ศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง เซ็นทรัล ลาดพร้าว เซ็นทรัลซิตี้ บางนา เซ็นทรัลเวิลด์ และเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์  เช่นเดียวกับโครงการโรงแรมและคอนโดมิเนียม อย่าง โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ โรงแรม Four Seasons Bangkok โครงการคอนโดมิเนียมในกลุ่ม Sansiri Luxury Collection ของแสนสิริ เช่น 98 Wireless, The Monument Thonglor, และ KHUN by Yoo โดยบริษัทฯได้รับรางวัลและคำชมเชยจากโครงการต่างๆ เช่น รางวัลบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างดีเด่นในโครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริ และรางวัล “IFAWPCA GOLD MEDAL” For Building Construction ซึ่งเป็นรางวัลที่สะท้อนถึงคุณภาพงานก่อสร้างในระดับนานาชาติ และเป็นเครื่องยืนยันว่าบริษัท สี่พระยาก่อสร้าง จำกัด เป็นหนึ่งในผู้รับเหมาชั้นนำของประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพและมาตรฐานการทำงานมาอย่างยาวนาน

โดยในปีนี้บริษัท สี่พระยาก่อสร้าง จำกัด ได้รับความไว้วางใจจากแสนสิริในการก่อสร้างโครงการใหม่ ภายใต้กลุ่ม Sansiri Luxury Collection อีกครั้ง กับโครงการซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียม บนทำเลชิดลม ที่คราฟท์ความเป็น The Best ที่สุดในทุกมิติ ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปี ในฐานะ Luxury & Design Leader ที่เข้าใจรสนิยมลูกค้ากลุ่ม HNWIs เพื่อส่งมอบที่สุดของการอยู่อาศัย

สำหรับโครงการใหม่ในทำเลชิดลมนี้ แน่นอนว่ายังคงพัฒนาภายใต้ 3 ปรัชญาสำคัญของกลุ่ม Sansiri Luxury Collection คือ Refined Taste งานดีไซน์เปี่ยมด้วยรสนิยม ผลงานชิ้นเอกแห่งการอยู่อาศัยระดับมาสเตอร์พีซ, Uncompromising Quality ความพิถีพิถันในการคัดสรรวัสดุคุณภาพ เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง ตลอดจนงานศิลปะจากทั่วมุมโลก และ Unparalleled Living Experience การมอบบริการผ่านประสบการณ์อันเหนือความคาดหมายที่ยิ่งกว่าความเอ็กซ์คลูซีฟ โดยแสนสิริได้ทำงานร่วมกับ International Designer ที่มีผลงานระดับโลก เพื่อส่งมอบโครงการที่ดีที่สุดในทำเลศักยภาพสุดไพร์ม ศูนย์กลางของ Luxury Market & Lifestyle กับจำนวนยูนิตเพียงแค่ 158 ยูนิต พร้อม Private Lift ทุกห้อง คาดว่าโครงการจะสร้างเสร็จประมาณกลางปี 2572  โดยปัจจุบันสามารถปิดการขายห้อง Penthouse พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว มูลค่าเกือบ 500 ล้านบาท แม้จะยังไม่ได้เปิดตัวโครงการ จากความเชื่อมั่นในโลเคชั่นที่ซัพพลายใหม่จำกัด ที่ดิน Freehold หายาก ชื่อเสียงของแบรนด์แสนสิริ และคุณภาพการก่อสร้างที่เหนือมาตรฐานของบริษัทสี่พระยาก่อสร้าง

ในขณะที่อีกหนึ่งโครงการในกลุ่ม SLC ที่น่าจับตามองไม่แพ้กัน และเตรียมจะเปิดขายในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกันของปีนี้ก็คือ  โครงการที่ สุขุมวิท 51 ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียมติดถนนสุขุมวิท ในรูปแบบ All Penthouse เพียง 11 ยูนิต บนที่ดินสามเหลี่ยมรูปทรงพิเศษท้าทายวงการอสังหาฯลักซ์ชัวรี่ หนึ่งเดียวกับที่สุดของไอคอนิกเรสซิเดนท์ใหม่ ในย่านทองหล่อ-เอกมัย คาดสร้างเสร็จปี 2570 ซึ่งผ่านอนุมัติ EIA แล้ว และกำลังเดินหน้าก่อสร้างอยู่โดย บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) ที่มีผลงานก่อสร้างให้แสนสิริมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มโครงการในเซกเมนท์ High End – Luxury  ที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอยู่ เช่น The Standard Residences Hua Hin , Via 61 และ SHUSH Ratchathewi รวมไปถึงโครงการ Widen by Sansiri ที่เพิ่งเปิดตัวไป

สำหรับบริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) มีความเชี่ยวชาญในการรับเหมาก่อสร้างอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่ ยาวนานกว่า 40 ปี ทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม คอนโดมิเนียม และโรงงาน โดยทำหน้าที่เป็นผู้รับเหมา ที่ดูแลงานครบวงจร ตั้งแต่งานโครงสร้าง งานสถาปัตยกรรม ไปจนถึงงานระบบประกอบอาคาร หัวใจการทำงานของบริษัทฯ คือการคำนึงถึงความปลอดภัย แข็งแรง มีระบบตรวจสอบ ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO 45001 (มาตรฐานสากลสำหรับระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย) และได้รับมาตรฐาน ISO 9001 (มาตรฐานบริหารงานคุณภาพระดับสากลที่เกี่ยวข้องกับการจัดการคุณภาพองค์กร) บริษัทฯ ยังเป็นผู้รับเหมารายแรกๆ ของไทย ที่นำเทคโนโลยี BIM มาใช้ในการก่อสร้าง และได้นำ Applications ต่างๆ มาช่วยลดข้อผิดพลาดในการทำงานมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากทั้งภาครัฐและเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง และได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี พ.ศ. 2565 เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและความยั่งยืนให้กับองค์กร

นอกจากนี้โครงการที่สุขุมวิท 51 ยังนับว่าเป็น “The First Appartamento Molteni in Asia” ซึ่งเป็น Bespoke Penthouse เพียงยูนิตเดียว แห่งแรกในเอเชียและแห่งแรกในประเทศไทย ที่แสนสิริทำงานร่วมกับทีมสตูดิโอของ Molteni&C ภายใต้การนำของ Creative Director – Vincent Van Duysen สถาปนิกชื่อดังระดับโลก รังสรรค์เพนท์เฮาส์ระดับไอคอนิกอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่การวางคอนเซ็ปท์หลัก การลงดีเทลในทุกรายละเอียด การวางเลย์เอาท์ ตลอดจนคัดสรรค์วัสดุคุณภาพชั้นเลิศ เพื่อสร้างที่สุดของประสบการณ์การอยู่อาศัยระหว่างแสนสิริและ Molteni&C ที่เปรียบเหมือนงานศิลปะทรงคุณค่า จากกระบวนการคิดร่วมกันเพื่อคราฟท์ความเป็น The Best ที่สุดในทุกมิติ

สำหรับโครงการแนวสูงอื่นๆที่เปิดตัวในปีนี้ ได้แก่ valles HAUS และ Xelf by Sansiri บริษัทฯก็ได้จับมือกับผู้รับเหมารายใหญ่ที่มีประสบการณ์ในการทำงานกับแสนสิริมาอย่างยาวนานเช่นกัน โดยโครงการ valles HAUS ได้ผู้รับเหมาเป็น บริษัท ที.ที.เอส. เอ็นจิเนียริ่ง (2004) (T.T.S. Engineering) อีกหนึ่งบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีบทบาทสำคัญในวงการของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มอาคารที่พักอาศัยและโครงการขนาดใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมมาใช้ในงานก่อสร้าง เช่น การพัฒนาระบบ Tunnel Form เพื่อเพิ่มคุณภาพของโครงสร้างอาคารและลดระยะเวลาการก่อสร้าง

โดย T.T.S. Engineering เคยมีผลงานร่วมกับแสนสิริกับโครงการ Hasu Haus, Mori Haus, NYE by Sansiri, The Base Rama 9 และได้รับรางวัล “Sansiri Quality Day 2016″ สำหรับผลงานในโครงการ “Hasu Haus” เช่นเดียวกับก่อสร้างFlagship Project ที่เป็นที่รู้จักในระดับสากลอย่าง The Standard, Bangkok Mahanakhon, Silom Edge และเป็น 1 ใน 6 ผู้รับเหมาหลักในโครงการ ONE Bangkok

“valles HAUS” (วาลเลส เฮาส์) คือคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เฮาส์ โครงการล่าสุดของแสนสิริในทำเล T77 หรือ Town Sukhumvit 77 เมืองต้นแบบเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีแห่งแรกของแสนสิริ ตอบโจทย์เทรนด์กลุ่มคนรักสุขภาพและ คอมมูนิตี้สีเขียวอย่างยั่งยืน (Green & Sustainability community) พร้อมด้วยสังคมคุณภาพ ทั้งโรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep , คอมมูนิตี้ มอลล์ฮาบิโตะ, Dental Hospital และร้านกาแฟ BEANS Coffee Roaster ทำเลศักยภาพหายากใจกลางกรุงเทพฯ ใกล้กับ BTS และ ทางด่วน และไม่ไกลจากย่านไลฟ์ไสตล์ อย่างเอกมัย ทองหล่อ ที่สร้างมูลค่าเพิ่มในโครงการที่อยู่อาศัย ทำให้ผลตอบแทนปล่อยเช่าสูงถึง 6%

ในขณะที่ Xelf by Sansiri ก็ได้ทำงานร่วมกันกับ กรณิศ ก่อสร้าง ที่มีประสบการณ์ในการสร้างโครงการแนวราบในกลุ่ม Sansiri Luxury Collection มามากมาย เช่น นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา และ บูก้าน เช่นเดียวกับมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับประเทศอย่าง “One Bangkok” โดยเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาชั้นนำ 6 บริษัทที่ได้รับเลือกให้พัฒนาโครงการนี้ และยังได้รับรางวัลความเป็นเลิศในการจัดการด้านความสะอาดจากโครงการนี้อีกด้วย

โดย บริษัท กรณิศ ก่อสร้าง จำกัด เป็นอีกหนึ่งบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีความน่าเชื่อถือในวงการ โดยเฉพาะในตลาดงานก่อสร้างขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทก่อสร้างชั้นนำสองแห่งคือ บริษัท ฤทธา จำกัด และ บริษัท เหมราช จำกัด จึงทำให้ทำให้กรณิศ ก่อสร้าง มีมาตรฐานการทำงานที่สูง ทั้งในเรื่องของคุณภาพ ความปลอดภัย และการส่งมอบงานตรงตามกำหนด เป็นอีกหนึ่งในบริษัทรับเหมาที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการยอมรับในวงการก่อสร้างของไทย

สำหรับ Xelf by Sansiri เป็นคอนโดมิเนียมรูปแบบ High Rise สูง 37 ชั้น จำนวน 946 ยูนิต อยู่ติดกับโครงการ Oka Haus บนถนนพระราม 4 ใกล้ซอยสุขุมวิท 36 สามารถเชื่อมเข้าสู่ทองหล่อได้โดยตรง และเดินทางไปยัง BTS ทองหล่อได้ง่าย โดดเด่นด้วยดีไซน์ห้องที่หลากหลาย ยืดหยุ่นตามไลฟ์สไตล์ทั้งแบบ SIMPLEX และ LOFT Design เพดานสูง 4.7 ม.* พร้อมส่วนกลางวิวโค้งน้ำบางกระเจ้า ให้ความรู้สึกอิสระ บนทำเลใจกลางเมือง บนคอนเซปท์ BE YOUR BEST SELF กับราคาขายเริ่ม 3.59 ล้านบาท

ความร่วมมือระหว่างแสนสิริ และพันธมิตรผู้รับเหมาระดับแนวหน้าของประเทศ ในการปูพรมพัฒนาโครงการคอนโดคุณภาพทั่วกรุงเทพฯในครั้งนี้ คือการการันตีมาตรฐานการก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ของแสนสิริ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวหน้าของไทย ทั้งโครงการที่สร้างแล้วเสร็จ โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และโครงการในอนาคต ว่ามีความปลอดภัยสูงสุดมีคุณภาพในทุกกระบวนการก่อสร้าง และยังเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงพันธกิจที่สำคัญของแสนสิริ ในฐานะของการเป็นดีเวลลอปเปอร์ที่พัฒนาโครงการภายใต้จุดยืนว่า ความปลอดภัยของลูกบ้านคือสิ่งที่ไม่สามารถประนีประนอมได้ ควบคู่ไปกับการไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาโครงการเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและสร้างความสุขให้กับทุกคน ทั้งเรื่องการดีไซน์ ฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ การดูแลหลังการขาย การสร้างสังคมและคุณภาพชีวิตที่ดี ไปจนถึงแนวทางธุรกิจที่ยั่งยืน ภายใต้ปรัชญา Constructing Life, Not Just Building ที่นำเสนอคุณค่าของการอยู่อาศัยที่มากกว่าบ้านหลังใหญ่ แต่คือชีวิตที่ดีในทุกวัน เพราะความสุขที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่วันพิเศษแต่อยู่ที่ “ทุกวัน” ที่มีคุณภาพ

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการคอนโดคุณภาพจากแสนสิริ สามารถติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Call center 1685

#Sansiri #SansiriLuxuryCollection