เหมือนมีเซฟมิชลินสตาร์ อยู่ข้างกาย! เนรมิตรห้องครัวให้เป็นมากกว่าการเตรียมอาหาร ด้วยสุดยอดเทคโนโลยี ที่รู้ใจคุณมากที่สุดกับ Miele Generation 7000
เหมือนมีเซฟมิชลินสตาร์ อยู่ข้างกาย! เนรมิตรห้องครัวให้เป็นมากกว่าการเตรียมอาหาร ด้วยสุดยอดเทคโนโลยี ที่รู้ใจคุณมากที่สุดกับ Miele Generation 7000
“ไม่ใช่แค่การอุ่นอาหาร แต่นี่คือการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ สำหรับใครหลายๆคนให้เป็นไปได้ง่าย เพียงแค่กดสวิทซ์” ประโยคสั้นๆดังกล่าวนี้ดังก้องขึ้นมาในหัวผม หลังจากที่ได้มีโอกาสเห็นทั้ง Presentation และ Demonstration ของ Miele Generation 7000 Dialog Oven ซึ่งได้เปลี่ยนมุมมองของคนที่เคยใช้เตาอบเพียงแค่อุ่นอาหาร กับนึ่งติ๋มซำอย่างผม ให้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงครับ…เมื่อวานนี้ผมได้มีโอกาสไปงาน The Exclusive Launch Event of Generation 7000 โดยแบรนด์ Home Appliances ชั้นนำระดับไฮเอนด์จากเยอรมัน อย่าง Miele ครับ (อ่านว่ามีร์เล่อร์ แต่ภาษาไทยสะกดว่า มีเลอ) ที่ Experience Center ของ Miele (ประเทศไทย) ที่อาคารภิรัช ทาวเวอร์ @TheEmquartier ชั้น 43 มาครับ ซึ่งก็เป็นครั้งที่สองแล้วที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนที่ Experience Center สุดหรูหรา เหมาะกับการจัด Private Party แห่งนี้ (ว่าจะเอาเสื้อไปลองซักกับเครื่องซักผ้าของ Miele ดูตามคำเชื้อเชิญ แต่ก็ลืมหยิบติดตัวไปครับ ฮา)
สำหรับใครที่ชอบทำอาหาร หรือมีจิตวิญญาณของความเป็นแม่บ้าน ดูแลบ้าน ซักผ้า เข้าครัวเป็นประจำ และเคยใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศในแถบยุโรป หรือแม้กระทั้งสิงค์โปร์ ออสเตรเลีย ก็น่าจะคุ้นเคยกับแบรนด์ Home Appliances ระดับไฮเอนด์ ค่อนไปทางลักซ์ซัวรี่อย่าง Miele ครับ ต้องบอกว่าหากนับกันที่อายุของแบรนด์แล้ว จุดเริ่มต้นของ Miele ที่เยอรมันเองต้องนับย้อนกลับไปถึง 121 ปีเลยครับ ซึ่งในช่วงแรกของการทำธุรกิจนั้นแบรนด์ Miele เองมีสินค้าที่เป็น Flagship นิยมใช้กันมากในครัวเรือนก็คือเครื่องซักผ้าครับ…จากรูปที่ผมยืนถ่ายกับพี่จ๊อช LAB เนี้ย (แฟนเค้าเป็น Brand Follower ตัวจริงของ Miele ตั้งแต่ใช้ชีวิตอยู่ที่สิงค์โปร์มาสิบกว่าปีแล้วครับ) ต้องบอกว่าเป็นเครื่องซักผ้าของจริงที่ยังใช้งานได้ดีอยู่นะครับ มีอายุราวๆ 100 ปีแล้ว เครื่องนี้เป็นตัวที่ 55 ของโลก ตกใจเลยตอนแรกนึกว่าเครื่องปั่นไอศครีมแนววินเทจ
สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ หากพูดถึงแบรนด์ Home Appliances ประเภท Hob, Hood, Oven, Microwave, ตู้เย็น, เครื่องชงกาแฟ ระดับไฮเอนด์ ราคาแพงที่มาจากเยอรมัน หลายคนก็อาจจะคุ้นหูกับแบรนด์อย่างGaggenau, Poggenpohl และ SieMatic มากกว่า เพราะแบรนด์เหล่านี้เริ่มทำตลาดในไทยมาเป็นระยะเวลาอันยาวนานแล้ว และส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปที่ฐานลูกค้าที่เป็น Project Based พวกคอนโดระดับ Luxury – Super Luxury ก็มักที่จะเลือกใช้กัน เพื่อเพิ่ม Tangible Benefits & Value ที่จับต้องได้ให้กับตัวโครงการ เพราะชุดนึงก็มีราคาที่แพงมหาศาล…ในทางกลับกันแบรนด์อย่าง Miele เองนั้น ก็เพิ่งจะเริ่มเข้ามาทำตลาดที่ไทยไม่นาน โดยที่จะเน้นไปที่กลุ่มฐาน Brand Followers ระดับ End Users ที่เคยได้มีประสบการณ์การใช้งาน สินค้าภายใต้แบรนด์ Miele ที่อยู่ต่างประเทศมาบ้างแล้ว (สมัยก่อนมีหลายรายที่ติดใจ หิ้วมาจากต่างประเทศก็มีเยอะเลยครับ) ซึ่งจากที่สอบถามผู้ใช้งานดูว่าทำไมถึงใช้แบรนด์นี้ คำแรกที่พูดออกมาเลยก็คือ “ทนมากกกกกกก”…. ใช้มากี่สิบปีก็ไม่เคยเสียเลย อุปกรณ์ต่างๆเน้นในเรื่องการเก็บเสียงเป็นพิเศษ แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆที่ใช้แค่หมดประกันก็เสียแล้ว ที่สำคัญคือเวลาเสียก็มักจะซ่อมไม่ได้ ไม่มีอะไหล่ ต้องซื้อรุ่นใหม่เลย แตกต่างจากแบรนด์ Miele ที่หากคุณซื้อไปใช้งานแล้ว เจอแจ๊กพอตเสียจริงๆ หลังจากประกันหมด 2 ปี เค้าก็มีอะไหล่พร้อมเปลี่ยนให้ตลอด เพราะสินค้าทุกชิ้นทางบริษัทแม่จะทำอะไหล่ Spare Parts เอาไว้ให้รองรับนานถึง 20 ปีทีเดียวครับ
และถ้าหากจะพูดถึงจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ Miele ที่หาไม่ได้จากแบรนด์ไฮเอนด์อื่นๆ ก็น่าจะเป็นในส่วนของ Innovation ที่รู้ใจคนทำอาหาร แม่บ้าน แม่ครัว กับ Design ที่ตอบโจทย์ความหรูหรา ตามไลฟ์สไตล์ของคนยุคมิลเลนเนียล ที่มองคุณค่าของสินค้าที่มากกว่าการใช้งานปกติ แต่ต้องเติมเต็มประสบการณ์ที่แปลกใหม่ร่วมกับคนรอบข้าง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจที่ไม่รู้จบได้ โดย Generation 7000 นี้ได้ถูกพัฒนาขึ้น และเปิดตัวสู่ตลาดโลกเมื่อประมาณกลางปี 2019 เพื่อให้สอดรับของเทรนด์ผู้ใช้งาน Home Appliances ในปัจจุบันที่มองว่า ชุดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวให้ฟังก์ชั่นพื้นฐานเพียงอย่างเดียวนั้นมันไม่เพียงพอ สำหรับผู้ใช้งานหลายๆครอบครัว ชุดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ช่วยสะท้อนสถานภาพทางสังคม และตัวตนให้กับผู้ใช้งาน และครัวที่ดีตามปรัชญาของ Miele นั้น ต้องช่วยสร้างแรงบันดาลใจที่ไม่รู้จบ ตลอดจนเพิ่มศักยภาพของผู้ใช้งานให้ได้ไม่แพ้เชฟระดับมืออาชีพ ประมาณว่าแม้เราจะมีวัตถุดิบชั้นยอดในการทำอาหารแล้ว แต่ถ้าอุปกรณ์ไม่พร้อม ไม่มีผู้ช่วยฝีมือดี มีข้อจำกัดหลายอย่าง ก็ไม่สามารถที่จะทำอาหารชั้นยอดออกมาได้นั่นเองครับ