“สัมมากร” ยกระดับความใส่ใจให้ลูกบ้านและพนักงาน ภายใต้แนวคิด “บ้านที่หลับสบาย” จับมือ “อูก้า” (ooca) แอปพลิเคชันตรวจเช็คสุขภาพใจโดยผู้เชี่ยวชาญ ผ่านแคมเปญ “HeartHealing ฮีลใจ…ให้ทุกคืนหลับสบาย”
เพราะบ้านที่หลับสบาย ไม่ใช่เพียงแค่ที่อยู่อาศัยที่ดี แต่ยังหมายรวมถึงการที่ผู้อาศัยมีสุขภาพใจที่ดีด้วย ล่าสุด “สัมมากร” ดีเวลล็อปเปอร์รายใหญ่ที่อยู่มานานกว่า 54 ปี และเข้าใจใน Insight คนไทยมากที่สุด ได้สร้างสรรค์แนวคิดการดูแลลูกบ้านและพนักงาน ผ่านแคมเปญ “HeartHealing ฮีลใจ…ให้ทุกคืนหลับสบาย” เพื่อยกระดับมาตรฐานความเอาใจใส่ ภายใต้แนวคิด “บ้านที่หลับสบาย” ด้วยการจับมือกับ “อูก้า” (ooca) แอปพลิเคชันตรวจเช็คสุขภาพใจในรูปแบบออนไลน์ ที่ให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญ
ณพน เจนธรรมนุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราเชื่อเสมอว่าสุขภาพใจที่มีความสุขจะเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งดีๆ เราจึงอยากดูแลลูกบ้านทุกคนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีแบบรอบด้าน รวมไปถึงพนักงานทุกคนที่เป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญเพื่อนำพาองค์กรให้บรรลุเป้าหมายได้ สัมมากรจึงพร้อมดูแลพนักงานโดยเปรียบเสมือนเป็นคนในครอบครัว พร้อมการสร้างองค์กรให้เป็น Flat Organization หรือโครงสร้างองค์กรแบบแนวราบ เพื่อให้การทำงานภายในองค์กรอยู่ในระดับเดียวกันมากที่สุด ทำให้ข้อมูลมาถึงระดับผู้บริหารได้ง่ายขึ้น เพราะทุกคนมีอิสระในการแสดงความคิดเห็นได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งแน่นอนว่าหากองค์กรต้องการพนักงานที่มีประสิทธิภาพ เราก็ต้องมีส่วนช่วยให้พวกเขาทำงานง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมหรือระบบต่างๆ ที่ซัพพอร์ตการทำงาน หรือคอร์สอบรมเสริมทักษะ ไปจนถึงการดูแลสุขภาพจิตใจให้พนักงานมีความสุขในทุกๆ วัน เพราะเราอยากสร้างองค์กรที่สามารถเป็นพื้นที่ปลอดภัยเปรียบเสมือนเป็นบ้านอีกหลัง ที่ไม่ว่าจะเป็นลูกบ้านหรือพนักงานก็สามารถมีความสุขและสุขภาพใจที่ดีได้ ตามแนวคิดบ้านที่หลับสบายของสัมมากร เพราะหากเราสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่กันในทุกครั้งที่มีโอกาส และพนักงานมีประสบการณ์ที่ดีกลับไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ก็จะสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เยี่ยมยอดให้กับลูกค้าได้”
ด้าน กัญจน์ภัสสร สุริยาแสงเพ็ชร์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชั่นอูก้า (ooca) เสริมว่า “การร่วมมือกับทางสัมมากรครั้งนี้นับได้ว่าเป็นการส่งเสริมการดูแลสุขภาวะทางจิตที่ดีให้กับลูกบ้านและพนักงานของสัมมากร ให้สามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพใจได้อย่างสะดวกสบาย โดยสามารถรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งการตรวจสุขภาพจิตเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญไม่ต่างจากการตรวจสุขภาพร่างกายประจำปี โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีอาการก็สามารถที่จะเข้ารับการปรึกษาหรือตรวจสุขภาวะทางจิตได้ เพราะวิถีการใช้ชีวิตของคนเมืองในปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ มีความกดดันจากการทำงาน รวมถึงสภาพแวดล้อมทางสังคม อาจจะมีผลทำให้เกิดความเครียดสะสม โดยอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม ดังนั้นการได้พบผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจเช็คสุขภาพใจนับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้จิตใจเข้มแข็ง โดยในปัจจุบันคนไทยกว่า 60% มักจะมีความเครียดในเรื่องของการทำงาน จุดเปลี่ยนผ่านของชีวิต หรือความสัมพันธ์ เนื่องจากความกดดันของสภาวะสังคมที่มีการแข่งขันสูง รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจต่างๆ ความเครียดจึงเป็นหัวข้ออันดับแรก ๆ ที่ทุกคนเข้ามาขอรับคำปรึกษา เพราะการจัดการความเครียดด้วยตนเองอาจเป็นเรื่องยาก หากไม่มีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยในการตกตะกอนความคิด อีกทั้งความเครียดยังเป็นสาเหตุของอาการต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับร่างกายและจิตใจในอนาคตได้อีกด้วย”