เกริก บุณยโยธิน เมื่อ 14 September, 2020 เวลา 21.13 pm
Prop score™: 4.0
คะแนนรีวิว: 0.0
0 รีวิว
ข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ
CELES Asoke
บริษัทผู้สร้าง
LUCKY LIVING PROPERTIES CO.,LTD.
สถานที่
อโศก (สุขุมวิท 21)
สถานีรถไฟ BTS
BTS อโศก Distance 150 m.
สถานีรถไฟใต้ดิน
MRT สุขุมวิท Distance 150 m.
Airport Rail Link
-
สถานี BRT
-
พื้นที่
1-1-20 ไร่
ชั้น
40 ชั้น
ยูนิต
217 ยูนิต
ที่จอดรถ
177 คันคิดเป็น 82%
ลิฟท์
ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว
สิ่งอำนวยความสดวก
SANCTUARY GARDEN, LOBBY LOUNGE, 180º PANORAMIC LAP POOL, REFLECTIVE SHALLOW POOL, SKY EDGE SOCIAL JACUZZI, JACUZZI TWIN BEDS, PERSONAL JACUZZI, HYDRO JET SEATS, FLOATING SKY LOUNGERS, POOL PAVILIONS, WET SPA (SEPARATE FOR MALE & FEMALE) INCLUDING STEAM/ SAUNA, EXPERIENTIAL SHOWER, WATER JET MASSAGE, PERSONALIZED SERVICE ROOM, SKY WATER CLUB, FITNESS CLUB – CARDIO & SPIN, WEIGHTS, BOXING, YOGA POD, VIRTUAL FITNESS CELES RESIDENTIAL CLUB – SKYLINE GALLERY, READING CORNER, PRIVATE DINING & MEETING ROOM, THE CELESTIAL TERRACE, ALFRESCO ROOFTOP – OBSERVATORY, SKY DINING, HORIZON BBQ, 360º SKY LOUNGE
ประเภทยูนิต
ประเภท
CONDO/คอนโด High Rise/Luxury Condo/Luxury High Rise Condominium
studio
-
1 bedroom
34.70 – 50-59 ตร.ม.
2 bedroom
70.30 – 86.12 ตร.ม.
3 bedroom
106.68-124.18 ตร.ม.
Duplex
90.01-101.82 ตร.ม.
Penthouse
133.68 – 137.88 ตร.ม.
ประเภทอื่นๆ
-
ความสูงจากพื้นถึงเพดาน
3 เมตร
ราคาเริ่มต้น / ตรม.
275,000 บาท/ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น / ยูนิต
17 ล้านบาท
ค่าส่วนกลาง
90 บาท/ตร.ม./เดือน
Sinking Fund fee
900 บาท/ตร.ม.
สร้างเสร็จ
2020
เว็บไซต์
www.celesasoke.com
02 259 4444
รีวิว CELES Asoke ดาวจรัสแสงดวงใหม่บนแยกอโศก ที่มอบความคุ้มค่า หรูหรา เหนือกาลเวลา มากกว่าคอนโดอื่นในระดับเดียวกัน
อโศกเป็นย่าน Super Prime Area ที่มีส่วนผสมของทั้งย่าน CBD และย่าน Lifestyle เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ที่ค่อนข้างแตกต่างจากย่าน CBD แห่งอื่นๆ เช่นเดียวกับการทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมการเดินทางที่หลากหลายทั้งระบบขนส่งมวลชน และรถยนต์ส่วนตัว ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้ย่าน CBD แห่งนี้เต็มไปด้วยโครงการที่พักอาศัยประเภทคอนโดสูงราคาแพง นอกจากทำเลที่เป็นต่อเรื่องการเดินทางแล้ว ในแง่ของที่ดินติดถนนใหญ่แทบจะหาไม่ได้แล้ว ซึ่งในปัจจุบันคอนโดเปิดใหม่ส่วนใหญ่ต้องไปพัฒนา ในย่านข้างเคียงอย่างสุขุมวิท 19, 23 หรือบริเวณฝั่งถนนรัชดาภิเษก และเพชรบุรีตัดใหม่ ที่มักจะชูจุดเด่นในเรื่องความใกล้อโศก แต่ก็ยากที่จะปฎิเสธว่าจุดศูนย์กลางที่มี Value มากที่สุดของอโศกก็คือบริเวณแยกอโศก – สุขุมวิท เนื่องจากในแง่ของการเดินทางสาธารณะ อโศก-สุขุมวิท เป็นจุดตัดสำคัญของรถไฟฟ้าบนดิน (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) และยังใกล้การเชื่อมต่อของรถไฟเชื่อมสนามบิน (ARL) และเรือ ที่ห่างไปเพียง 1 สถานี รวมทั้งในแง่การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ที่ถึงแม้จะขึ้นชื่อเรื่องรถติด แต่อโศก-สุขุมวิทก็เป็นพื้นที่ดีเวลลอปเปอร์ทุกรายหมายปองที่จะพัฒนาโครงการ เพื่อตอบสนองดีมานท์การอยู่อาศัยอันแสนสะสวกสบายใจกลางเมืองที่ไม่มีวันสิ้นสุด เนื่องจากเป็นทำเลที่เชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักของเมืองไว้มากหลากหลายเส้น ทั้งสุขุมวิท รัชดาภิเษก เพชรบุรี พระราม 4 พระราม 9 ทางด่วนเฉลิมพระเกียรติศรีรัช ฯลฯ อีกทั้งจากอโศกก็เดินทางไปย่านพร้อมพงษ์ พระราม9 พระราม4 เอกมัย และย่านแหล่งงานอื่นๆ ได้อย่างสะดวกและมีให้เลือกหลากหลายการเดินทาง
หากเปรียบอโศกดั่งกาแลคซี่ที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวนับล้านดวง CELES Asoke (เซอเลส อโศก) ก็คงเป็นดาวฤกษ์จรัสแสงดวงใหม่ที่พร้อมจะเปล่งประกายอันเจิดจรัส แม้ในยามค่ำคืนอันมืดสนิท
CELES Asoke คือโครงการ Luxury Condo พร้อมอยู่โครงการล่าสุด ที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดของอโศก – สุขุมวิท ในชั่วโมงนี้ ที่นี่เป็นดั่งภาพสะท้อนของความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ของบริษัท ลัคกี้ ลิฟวิ่ง พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ในการที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าบริษัทฯมีความตั้งใจที่จะส่งมอบสุนทรียภาพในการอยู่อาศัยที่ดีที่สุด ประณีตที่สุด ในราคาที่พิเศษที่สุดหากเทียบกับโครงการในระดับเดียวกัน โดยบริษัท ลัคกี้ ลิฟวิ่ง พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด แม้ว่าจะไม่ใช่ดีเวลลอปเปอร์ที่คุ้นหูนักในสายตาของใครหลายคน แต่ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญกระเป๋าหนัก ทุนหนา มีประสบการณ์โชกโชนระดับชาติ ในการพัฒนาโครงการคอนโด และธุรกิจ Hospitality ระดับไฮเอนด์ ที่สร้างชื่อมาแล้วหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็น Liv@5, Liv@Nimman, Liv@49, Four Points by Sheraton Bangkok และ Canopy by Hilton (ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา) โดยโครงการคอนโดที่ผ่านมาของ Lucky Living ได้มีการ Sold Out ภายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อ Lucky Living ว่าจะสามารถส่งมอบได้ตามมาตรฐานสูงสุดของบริษัท
CELES Asoke มีจุดเด่น 3 ประการที่ควรค่าแก่การลงทุน คือ
1. คอนโดที่อยู่เหนือกาลเวลา
เพราะจุดเด่นด้านทำเลที่ดีที่สุดใจกลางเมืองและเป็นทำเลที่ดีที่สุดของย่านอโศก
– ที่ตั้งห่างจาก BTS และ MRT เพียงแค่ 150 เมตร
– ตั้งอยู่บนถนนอโศกช่วงที่กว้างที่สุด 10 เลน
– สามารถเดินทางเลี่ยงรถติดโดยมาทางซอยสุขุมวิท 23 ได้
– หนึ่งในสถานที่ ที่เป็นศูนย์กลางมากที่สุดในกรุงเทพฯ และยังเป็นศูนย์รวมของโรงแรมชั้นนำ, บาร์, ร้านอาหาร, สวนสาธารณะ, โรงพยาบาล และโรงเรียน เป็นต้น รวมถึงอยู่กับกับทางหลวงสายสำคัญหลายสาย
การออกแบบทางด้านสถาปัตยกรรมที่เหนือกาลเวลา
– โครงการที่สวยงามตราตรึงในย่านอโศกตลอดไป
– การออกแบบสถาปัตยกรรมที่หรูหรา
2. นวัตกรรมและส่วนกลางที่กว้างขวาง
– สิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และส่วนกลางที่ใช้วัสดุที่มีคุณภาพมาตกแต่ง มากไปกว่านั้นยังนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้อีกด้วย
– ห้องออกกำลังกายที่ทันสมัย ประกอบไปด้วยห้อง Virtual Fitness ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่สามารถเชื่อมต่อกับแอปพิเคชั่นเพื่อใช้ในการออกกำลังกายตามความต้องการ
– ชั้นพิเศษเฉพาะสำหรับโซนสระว่ายน้ำ ภายในชั้นนี้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิเช่น ที่นั่ง Hydro Jet โซน personal Jacuzzi ห้องอาบน้ำ และห้อง water jet massage
– ห้องแต่งตัวพิเศษส่วนตัว
– พื้นที่ส่วนกลางทุกชั้นสามารถมองเห็นวิวที่ดีที่สุดของย่านอโศก แบบพาโนราม่าวิวได้
– Alfresco Rooftop บนชั้นที่ 40 จะเป็นจุดชมวิวที่สวยจุดหนึ่งของกรุงเทพ สามารถชมวิวได้ 360 องศา บนดาดฟ้าแห่งนี้ พร้อมโซนสำหรับ รับประทานอาหาร และ มีเตาบาร์บีคิวให้บริการอีกด้วย
– วิวจากชั้นบนสุดที่สามารถ Take View สวนป่าเบญจกิติ พร้อมทะเลสาบขนาดใหญ่ได้
3. ผลิตภัณฑ์ที่หรูหรา
– ทุกห้องของโครงการ จะตกแต่งด้วยวัสดุที่มีคุณภาพสูง และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากแบรนด์ชั้นนำ
– วัสดุคุณภาพระดับพรีเมี่ยม และเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน อาทิเช่น ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำ ห้องครัว สร้างพื้นที่หรูหราและทันสมัย
– ภายในห้องได้ติดตั้งระบบ Home Automation, ฟิล์มกระจกอัจฉริยะภายในห้องน้ำ และเครื่องใช้ภายในห้องครัว จากแบรนด์ Gorenje ซึ่งได้รับการออกแบบจากดีไซเนอร์ซื่อดังระดับโลก Philippe Starck
จากจุดเด่นทั้ง 3 ประการดังกล่าว รวมกับราคาขายที่สุดพิเศษ แต่ได้สเปคโครงการดีเทียบเท่า Super Luxury Condo ในระดับราคา Luxury Condo จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ CELES Asoke เป็นโครงการ Luxury Condo ที่ควรค่าแก่การลงทุนมากที่สุดในอโศกของรอบปี 2020 นี้
CELES Asoke มากับคอนเซปต์ Live life , Live celes บนพื้นที่ใจกลางเมืองขนาด 1-1-20 ไร่ กับอาคารสูง 40 ชั้น จำนวน 217 units แบ่งเป็นที่พักอาศัยที่ชั้น 9-32 และชั้น 35-40 ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด Timeless Sophistication ให้ดูเรียบง่าย แต่หรูหรา ทันสมัย กับการใช้ vertical stainless fin ทั้งโครงการ ตัดกับงานกระจกและ facade อาคารโทนสีดำ
ด้านหน้าโครงการมีการ set back ตัวอาคารจากหน้าถนนถึง 16 เมตร โดยออกแบบเป็นสวน buffer กั้นพื้นที่ภายนอกและภายในด้วย Sanctuary Garden ที่เป็น Green Step ทำให้ตัวอาคาร CELES Asoke มีระยะร่นจากพื้นที่อาคารอื่นๆโดยรอบ ทำให้ส่งผลต่อระยะการมองของผู้พักอาศัย ที่ทำให้มีความโปร่ง ไม่เป็นระยะประชิดกับถนน
ด้านหน้าโครงการมีการ set back ตัวอาคารจากหน้าถนนถึง 16 เมตร โดยออกแบบเป็นสวน buffer กั้นพื้นที่ภายนอกและภายในด้วย Sanctuary Garden ที่เป็น Green Step ทำให้ตัวอาคาร CELES Asoke มีระยะร่นจากพื้นที่อาคารอื่นๆโดยรอบ ทำให้ส่งผลต่อระยะการมองของผู้พักอาศัย ที่ทำให้มีความโปร่ง ไม่เป็นระยะประชิดกับถนน
โดย LOBBY LOUNGE มีพื้นที่นั่งพักคอย ที่เปิดต้อนรับด้วยผนังหิน Honey Onyx นำเข้าจากอิตาลี ซึ่งมีคุณสมบัติโปร่งแสงสะท้อนแสงไฟให้บรรยากาศงามสง่าหรูหราและทันสมัยสมบูรณ์แบบ เพดานมีการเพ้นท์พื้นผิวในรูปแบบ Venetian Paint และพื้นเป็นหินอ่อน Sky Grey Marble ส่วนผนังเป็น Supergenti Grey Marble การตกแต่งด้วยวัสดุพิเศษเช่นนี้พบได้เฉพาะในโครงการระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี และโรงแรมหรูห้าดาวเท่านั้น
ที่เชื่อมยาวจากทางเข้าด้านหน้าโครงการติด Sanctuary Garden และบริเวณ Drop-off เชื่อมไปสู่โถงรอรถติดกับลิฟต์จอดรถ
ซึ่งมีที่นั่งรอ และจอมอนิเตอร์สำหรับกดเรียกรถ
มีโถงลิฟต์โดยสารสำหรับลูกบ้านแยกออกจากบริเวณล็อบบี้ โดยต้องใช้ Key Card สำหรับเข้าออกเพิ่มระดับความปลอดภัย
เช่นเดียวกับ Mail box room ที่แยกพื้นที่เป็นสัดส่วน และใช้ระบบ Key Card เพื่อเปิดปิดตู้จดหมาย
ติดกันมี MEZZANINE ที่แบ่งเป็นพื้นที่ห้องนิติบุคคล และห้องประชุมที่รองรับสำหรับ 10 ที่นั่ง แยกขึ้นไปไว้ที่บริเวณชั้นลอย
ส่วน Main facility ทางโครงการเรียกว่าจัดหนักจัดเต็ม เพื่อให้คุณได้พักผ่อนท่ามกลางวิวเมือง กับพื้นที่ส่วนกลางเต็มชั้น ที่ชั้น 33-34 และพื้นที่สวนที่ชั้น 35, 39-40
โดยชั้น 33 เป็นพื้นที่ของ SKY WATER CLUB ที่มาพร้อมกับสระว่ายน้ำวิว 180̊ กับ 180̊ PANORAMIC LAP POOL ที่ออกแบบให้มี REFLECTIVE SHALLOW POOL ที่ออกแบบให้มีไฟ Fiber optic กระจายเป็น spot เต็มเพดานสระว่ายน้ำ ยามค่ำคืนจะมีแสงไฟสะท้อนเสากระจกสะท้อนน้ำ และสะท้อนกลับกันไปมา ทำให้เกิดเป็นประกายแสงระยิบระยับเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
ผืนน้ำถูกออกแบบให้เชื่อมต่อเป็น U shape รอบอาคาร ทำให้เป็นเสมือนผืนน้ำผืนเดียวที่เชื่อมสระว่ายน้ำ สู่ SKY EDGE SOCIAL JACUZZI, JACUZZI TWIN BEDS, PERSONAL JACUZZI, HYDRO JET SEATS, FLOATING LOUNGERS
รวมทั้งยังมี POOL PAVILIONS ให้ถึง 2 หลัง ที่สามารถนั่งรับลมแบบส่วนตัว หรือกับเพื่อนๆ ได้มากถึง 8 ที่นั่งต่อหลัง
ด้านหลังของชั้นนี้มี WET SPA แยกชายหญิง ที่ภายในมีห้อง STEAM / SAUNA
ที่เน้นการตกแต่งด้วยผนังและพื้นลายหินสีขาว และลายไม้ ที่เป็นโทนดูอบอุ่น ผ่อนคลายในการใช้งาน
รวมทั้งมี EXPERIENTIAL SHOWER, WATER JET MASSAGE ที่ใช้แรงดันน้ำในการบำบัดและผ่อนคลาย พร้อมกับวิวเปิดโล่งด้านหลังซอย สุขุมวิท 23 หรือวิวด้านเอกมัย
และห้อง PERSONALIZED SERVICE ROOM ห้องที่คุณสามารถ Booking เพื่อใช้เป็นห้องแต่งหน้า ทำผม ลองชุด เปลี่ยนชุดในโอกาสพิเศษต่างๆได้ ภายในห้องใช้ผนังหินสีเทาขาว เพิ่มสว่างให้กับห้อง
ส่วนที่ชั้น 34 เป็นพื้นที่ของ FITNESS CLUB ที่ออกแบบเป็นพื้นที่ CARDIO & SPIN, WEIGHTS, BOXING ที่วางเครื่องเล่นให้สามารถ take view สระว่ายน้ำและวิวเมืองโดยรอบได้
มีพื้นที่แยกสำหรับ YOGA POD สำหรับ 2 คน
และห้อง VIRTUAL FITNESS ที่รองรับได้สูงสุด 8 คน ที่มาพร้อมจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ ที่คุณสามารถเชื่อมต่อโปรแกรมส่วนตัวขึ้นสู่จอและใช้งานได้โดยง่าย
ที่สำคัญยังคงคอนเซปต์การใช้หินในพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Honey Onyx ที่นำมาใช้กับผนังส่วนหนึ่งของห้องfitness
โซนด้านหลังของชั้นนี้เป็น CELES RESIDENTIAL CLUB-SKYLINE GALLERY ที่ออกแบบให้เป็นวิวเมือง panorama แบบเปิดโล่ง กับพื้นที่พักผ่อนหลากหลายมุมให้ได้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น READING CORNER
หรือจะใช้ห้องส่วนตัวเป็น PRIVATE DINING & MEETING ROOM สำหรับโอกาสพิเศษๆ ได้อย่างส่วนตัว
โดยโครงการได้ออกแบบให้มีผนังหิน Honey Onyx เช่นเดียวกับที่ Lobby สร้างความโดดเด่น หรูหรา เพิ่มบรรยากาศพิเศษในการใช้งานเฉพาะคุณ
นอกจากนี้แล้วที่ชั้น 35 ถึงจะเป็นชั้นที่พักอาศัยแบบ Penthouse แต่ก็มีพื้นที่สวน THE CELESTIAL TERRACE ที่สามารถออกไปรับลม สัมผัสดิน สัมผัสหญ้า และสัมผัสวิวที่สวยที่สุดบนถนนอโศก กับวิวใจกลางอโศก และวิวสวนเบญจกิติที่เป็นพื้นที่โล่งกว้างขนาดใหญ่
นอกจากนี้แล้วที่ชั้น 35 ถึงจะเป็นชั้นที่พักอาศัยแบบ Penthouse แต่ก็มีพื้นที่สวน THE CELESTIAL TERRACE ที่สามารถออกไปรับลม สัมผัสดิน สัมผัสหญ้า และสัมผัสวิวที่สวยที่สุดบนถนนอโศก กับวิวใจกลางอโศก และวิวสวนเบญจกิติที่เป็นพื้นที่โล่งกว้างขนาดใหญ่
HORIZON BBQ และ 360̊ SKY LOUNGE ที่มีลิฟต์โดยสารขึ้นมาถึงที่ชั้น 39 และมีบันไดเดินเชื่อมต่อมาสู่ชั้น 40 หรือใช้ลิฟต์ Service ขึ้นมาสู่ชั้น 40 ได้เช่นกัน
พื้นที่ส่วนกลางเน้นหินสีขาว ไม่ว่าจะเป็นพื้น ผนัง ไปจนถึงการออกแบบโต๊ะ ที่นั่ง ที่ใช้วัสดุเดียวกันในการใช้งาน อีกทั้งการเลือกใช้กระจกมาเป็นราวกันตก ทำให้ไม่ว่าใช้งานอยู่ในพื้นที่ส่วนใดก็สามารถเห็นวิวได้โดยรอบ ไม่มีสิ่งบดบังสายตา แต่ยังรักษาความปลอดภัยมาเป็นลำดับแรก
ที่สำคัญยังมีอุปกรณ์การใช้งานไว้รองรับทั้งที่ย่าง BBQ อ่างลางจาน ตู้เก็บของ รวมทั้งโต๊ะ เก้าอี้ พร้อมใช้งาน
เรียกว่าเป็น Facilities ระดับ Super Luxury ที่มาครบครัน มีระดับ หรูหรา และสะดวกสบาย เพียบพร้อม รองรับการใช้งานอย่างหลากหลายรูปแบบ
ในส่วนของห้องพักอาศัยมีรูปแบบห้องมากถึง 6 Typeหลัก และที่สำคัญคือเหลือให้จับจองกันเพียง 15% ของโครงการเท่านั้น (ขายไปแล้ว 85%) โดยรูปแบบห้อง มี 1Bedroom, 2Bedroom, 3Bedroom, Capella Penthouse, Celestial Penthouse และ Celestial Duplex
โดย 1Bedroom มี 5 ขนาด คือ
1BR : A1A 34.70Sq.m ห้องทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส แบ่งพื้นที่ใช้งานห้องนอนและห้องนั่งเล่นอย่างละครึ่ง เป็นพื้นที่นั่งเล่นที่ด้านซ้ายติดทางเข้า และห้องนอนที่ด้านขวา มีชั้นละ 1 ห้องที่ชั้น 9-32
1BR : A1B 34.70Sq.m แปลนห้องเหมือน 1BR : A1A 34.70Sq.m แต่กลับแปลนห้องซ้ายขวา มีชั้นละ 1 ห้องที่ชั้น 9-29
1BR : A2 42.19 Sq.m. แปลนห้องรูปตัว L ได้พื้นที่ Living แนวยาวและลึก ห้องนอนเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ มีชั้นละ 1 ห้องที่ชั้น 9-29
1BR : A3 49.70 Sq.m. ห้องทรงลึก แบ่งพื้นที่ใช้งานห้องนอนและห้องนั่งเล่นอย่างละครึ่ง เป็นพื้นที่นั่งเล่นที่ด้านขวาติดทางเข้า และห้องนอนที่ด้านซ้าย ห้องน้ำบริเวณอ่างอาบน้ำเป็นกระจกเข้ามุม มีชั้นละ 1 ห้องที่ชั้น 9-29
และห้อง1BR Sizeใหญ่สุด คือ 1BR: A4 50.59 Sq.m. เป็น 1BRหน้ากว้างได้ห้องนอนกระจกเข้ามุม และกระจกห้องน้ำบริเวณอ่างอาบน้ำเข้ามุม มีชั้นละ 1 ห้องที่ชั้น 9-29
2Bedroom มี 2 ขนาด
2BR : B1A และ B1B 70.30 Sq.m. ห้องหน้ากว้างได้พื้นที่ห้องนอนทั้ง2ห้องติดอากาศ และห้องliving กระจกเข้ามุมบานใหญ่เต็มแนวผนัง มีที่ชั้น 9-29 ชั้นละ 2 ห้อง
2BR : B2AและB2B 86.12 Sq.m. ห้องหน้ากว้าง ได้ทุกพื้นที่ติดอากาศ และได้ห้องนอนใหญ่กระจกเข้ามุม พร้อมห้องน้ำ มีอ่างอาบน้ำเข้ามุม มีที่ชั้น 9-29 ชั้นละ 2 ห้อง
3Bedroom มี 2 ขนาด
3BR : C1 106.68 Sq.m. ห้องหน้ากว้าง ได้พื้นที่ living เข้ามุม และห้องนอนทุกห้องติดอากาศ มีชั้นละ 1 ห้อง ที่ชั้น 30-32
และ 3BR : C2 124.18 Sq.m. 3ห้องนอน เน้นพื้นที่ living กว้าง ได้กระจกเข้ามุมและระเบียง 2 ตอน และห้องนอนทุกห้องติดอากาศ มีชั้นละ 1 ห้อง ที่ชั้น 30-32
Capella Penthouse : C3 131.90 Sq.m. 3ห้องนอนติดอากาศ ได้ห้องนอนใหญ่เข้ามุม มี 1 ห้องmaid และห้องครัวแบบไทย และliving area ติดระเบียง มีชั้นละ 1 ห้อง ที่ชั้น 30-32
Capella Penthouse : C4 138.92 Sq.m. แปลนห้องเหมือน Capella Penthouse : C3 แต่แปลนกลับด้านซ้ายขวา และเพิ่มพื้นที่ส่วน living area มากขึ้น มีชั้นละ 1 ห้อง ที่ชั้น 30-32
ห้อง Duplex 3 size คือ Celestial Duplex : D1AและD1B 90.01 Sq.m. Duplex ห้องมุม แบ่งเป็นครัว living area เข้ามุม ห้องน้ำ และห้องนอนเล็กที่ชั้นล่าง และห้องนอนใหญ่เข้ามุมและห้องน้ำที่ชั้นบน มี2ห้อง ที่ชั้น39-40
Celestial Duplex : D2 90.63 Sq.m. Duplex ห้องหน้ากว้าง แบ่งเป็นครัว living area ห้องน้ำ และห้องนอนเล็กที่ชั้นล่าง และห้องนอนใหญ่และห้องน้ำที่ชั้นบน มี1ห้อง ที่ชั้น39-40
Celestial Duplex : D3A , D3B 101.82 Sq.m. Duplex ห้องใหญ่ แบ่งเป็นครัว living area ห้องน้ำ ห้องนอนเล็ก และmulti-purpose room ที่ชั้นล่าง และห้องนอนใหญ่และห้องน้ำที่ชั้นบน มี2ห้อง ที่ชั้น39-40
Celestial Penthouse : PH1 133.68 Sq.m. 3ห้องนอนติดอากาศ ได้ห้องนอนใหญ่เข้ามุม มี 1 ห้องmaid และห้องครัวแบบไทย และliving area เข้ามุม ติดระเบียง มีชั้นละ 1 ห้อง ที่ชั้น 35-38
Celestial Penthouse : PH2 137.88 Sq.m. แปลนห้องเหมือน Celestial Penthouse : PH1 133.68 Sq.m. แต่กลับด้านซ้ายขวา และมีพื้นที่ที่ห้องlivingเพิ่ม มีชั้นละ 1 ห้อง ที่ชั้น 35-38
โดยตอนนี้ Celes Asoke เริ่มเปิดให้ตรวจห้อง และรับมอบห้องกันแล้ว โครงการจึงตกแต่งห้องตัวอย่าง ในโครงการจริงมาให้ชมกันถึง 3 ห้อง ที่ชั้น 12A เป็นห้อง 2 Bedroom ทั้งหมด ต่างที่ขนาด และตำแหน่งวิว คือ 2 Bedroom 85 Sq.m., 2 Bedroom 70 Sq.m. จำนวน 2 ห้อง
ในส่วนของชั้นที่พักอาศัย โถงลิฟต์ และโถงทางเดิน ค่อนข้างกว้างขวาง และออกแบบให้ปูพื้นและผนังด้วยหินอ่อนสีเทา ดำ ดูเรียบง่าย แต่หรูหรา
โครงการออกแบบประตูทางเข้ายูนิตที่ดูกว้างขวาง ด้วยประตูลายไม้สูงจากพื้นจรดเพดาน มาพร้อมกับระบบ Digital Door Lock ของ Yale
ห้องตัวอย่างแรก คือ 2 bedroom 85 sq.m. (ห้องเลขที่ 8/54) 2 ห้องนอน หน้ากว้าง วิวด้านหน้าโครงการ มีจุดเด่นที่ห้องนอนใหญ่ได้กระจกเข้ามุม
แปลนของห้องนี้แยกพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วนคือ พื้นที่ครัวและนั่งเล่นที่ปีกซ้ายติดทางเข้า และพื้นที่ห้องนอนทั้งสองห้องที่ปีกด้านขวา หรือสุดทางเดินของห้อง ที่มีความสูงของยูนิตสูงถึง 3 เมตร
พื้นที่ส่วนแรกที่ปีกซ้าย เป็นพื้นที่ครัว และห้องliving area ติดประตูทางเข้า
โดยติดประตูทางเข้าเป็น built-in ชั้นวางรองเท้า
ถัดไปเป็นครัว built-in เข้ามุมผนังทั้งสองด้านเป็น L – Shape และตู้เก็บเครื่องซักผ้า
โครงการให้เตาไฟฟ้า 4 หัว และชุดครัว gorenje by Philippe Starck
ที่ออกแบบมากับที่ดูดควันแบบลาดเอียงและกระจก Full Reflect
อ่างล้างจาน 2 อ่างแบบฝังของ teka ด้านบนเป็นไมโครเวฟ built-inและตู้เก็บอุปกรณ์ทำครัว ด้านล่างเคาท์เตอร์ โครงการให้เตาอบ และชั้นวางของ built-in แยกการใช้งาน ปลายสุดเคาท์เตอร์เป็นตู้เย็นbuilt-in แยกบานเปิดบนล่างแบบบานเปิดเดี่ยว
ตรงกลางมี island เป็นbarสำหรับเตรียมอาหาร และสามารถใช้เป็นที่นั่งทานอาหารได้ในบางโอกาส มาพร้อมกับตู้เก็บของที่ฝั่งเดียวกับชุดครัว
ติดริมระเบียง เป็นพื้นที่ living ที่เปิดรับด้วยวิวเปิดโล่ง เพราะออกแบบให้บานเลื่อนเป็นกระจกบานใหญ่เต็มบาน
เชื่อมกับราวกันตกกระจก ทำให้สามารถมองเชื่อมจากภายในสู่ภายนอก โดยไม่มีอะไรบดบัง
และสามารถเปิดเชื่อมใช้งานพื้นที่ได้เพราะพื้นที่ระเบียงยาว และสามารถใช้งานได้จริงเต็มทั้งพื้นที่
พื้นที่ living สามารถวางชั้นวางทีวี built-in สูงเต็มผนัง
ด้านหน้าวางชุดโซฟาสำหรับ2-3ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางติดริมระเบียงห้อง
ด้านหลังชุดโซฟา มีพื้นที่เหลือพอให้วางโต๊ะทานอาหารสำหรับ4ที่นั่ง ติดผนังฝั่งทางเข้าห้องนอน
ถัดไปเป็นโถงทางเดินเชื่อมทางเข้าห้องนอนทั้งสองห้อง และห้องน้ำ
ติดครัวเป็นห้องน้ำสำหรับห้องนอนเล็ก และห้องliving
ภายในห้องน้ำ พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้อง cotto italia ลายน้ำตาลขาว แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้งและเปียก กั้นด้วยกระจกอาบน้ำ
ที่ส่วนแห้งโครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ลอยตัว
ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์สีขาว
ด้านบนเป็นกระจกยาว มีบานเปิดเก็บอุปกรณ์อาบน้ำ
ส่วนพื้นที่ส่วนเปียก ให้ hand shower และ rain shower ของ hansgrohe แบบติดผนัง พร้อมช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำ
ด้านซ้ายของโถงทางเดินเป็นห้องนอนเล็กติดริมระเบียง (ระเบียงไม่ได้เชื่อมกับพื้นที่ living)
ภายในห้องนอนเล็ก กว้างพอให้ตั้งเตียง queen size แบบมีพื้นที่เหลือพอทั้งด้านข้างและปลายเตียง
ข้างหัวเตียงเป็นทางออกระเบียง
ราวกันตกระเบียงเป็นกระจก สามารถเชื่อมมุมมองได้แบบไม่มีสิ่งบดบัง แยกที่วางคอมแอร์ พร้อมบานปิด
ที่ผนังปลายเตียง สามารถติดทีวีแบบแขวนได้
และผนังติดทางเข้าโครงการให้ตู้เสื้อผ้า built-in หน้าบานกระจกสีชา
สุดโถงทางเดินเป็นทางเข้าห้องนอนใหญ่ ห้องน้ำในตัว
ด้านขวาของทางเข้าเป็น walk-in closet เข้ามุม
ที่ห้องน้ำทั้งพื้นและผนังปูด้วย กระเบื้อง cotto italia สีน้ำตาลขาว ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก ส่วนแห้ง ส่วนแห้ง ระบบน้ำเป็นแบบ thermostat
โครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ลอยตัว แยก his & her ด้านล่างมีชั้นวางของ
ด้านบนเป็นกระจกยาว มีบานเปิดเก็บอุปกรณ์อาบน้ำ
ติดกันเป็นอ่างอาบน้ำลอยตัว วางติดกระจกเข้ามุม Intelligent Glass film
ที่สามารถเปลี่ยนเป็นกระจกทึบแสง เมื่อต้องการใช้งานได้
ฝั่งตรงข้ามแบ่งเป็น2ห้อง
ห้องแรกเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ให้ hand shower และ rain shower ของ hansgrohe แบบติดผนัง พร้อมเจาะช่องวางผลิตภัณฑ์อาบน้ำ
ติดกันเป็นห้องวางโถสุขภัณฑ์ มีกระจกบานเปิด แยกสองห้องซ้ายขวา
ส่วนห้องนอน เป็นกระจกเข้ามุม ที่บริเวณปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีแบบเตี้ยได้
ภายในห้องสามารถวางเตียง king size พร้อมโต๊ะหัวเตียงได้
โดยผนังห้องจริงโครงการให้ผนังฉาบเรียบ และให้รางม่านทั้ง 2 รางแต่ให้ม่านทึบ 1 ชั้น
วัสดุหลักของห้องนี้ นอกจากคัดคุณภาพยังเน้นโทนสีน้ำตาลอ่อนและขาว เพื่อให้ดูสงบ เรียบหรู เหมาะสำหรับวันพักผ่อนในทุกๆวัน และยังมาพร้อมกับระบบ Home Automation ของ Schneider ที่รองรับการเปิดปิด ไฟ แอร์ ที่ห้อง Living ครัว และห้องนอน รวมทั้งมี Smart switch ที่สามารถกด on-off ระบบไฟทั้งหมดได้เพียงกดเพียงปุ่มเดียว
ห้องตัวอย่างที่สอง คือ 2 Bedroom 70 Sq.m. (ห้องเลขที่ 8/50) วิวด้านข้างและด้านหลังโครงการ มีจุดเด่นที่ห้อง living และระเบียงได้พื้นที่เข้ามุม
แปลนของห้องนี้มีโถงทางเดินเป็นพื้นที่เชื่อมห้องต่างๆ เข้าด้วยกัน คือ พื้นที่ครัวและนั่งเล่น และห้องนอนเล็กที่ปีกซ้ายติดทางเข้า และห้องนอนใหญ่ที่ปีกด้านขวา
พื้นที่ส่วนแรกเป็นโถงทางเดินที่โครงการ built-in ชั้นวางรองเท้า
ปีกซ้ายสุดทางเดิน เป็นพื้นที่ครัว และห้องliving area ที่เปิดรับด้วยวิวเปิดโล่งด้านหลังโครงการ
ครัว built-in ยาวติดผนัง พร้อมที่วางโต๊ะทานอาหารสำหรับ4ที่นั่ง ติดหน้าต่างบานใหญ่
เป็นพื้นที่ครัวที่เป็นสัดส่วน
ครัว โครงการให้เตาไฟฟ้า 4 หัว และชุดครัว gorenje by Starck (ยกเว้น Hood ที่เป็น Gorenje ธรรมดา) ให้อ่างล้างจาน 2 อ่างแบบฝังของ teka ด้านบนเป็นที่ดูดควัน และตู้เก็บอุปกรณ์ทำครัว ปลายสุดเคาท์เตอร์เป็นตู้เย็น built-in แยกบานเปิดบนล่างแบบบานเปิดเดี่ยว
เตาไฟฟ้ายังคงเป็น Gorenje by Starck
ด้านล่างเคาท์เตอร์ โครงการให้เตาแบบ combi oven & microwave โดย Gorenje by Starck และชั้นวางของ built-in แยกการใช้งาน
ติดริมระเบียง เป็นพื้นที่ living ที่เปิดรับด้วยวิวเปิดโล่ง เชื่อมต่อด้วยกระจกบานใหญ่เต็มบาน
สุดทางเดินด้านข้างเป็นระเบียงเข้ามุมเชื่อมกับราวกันตกกระจก ทำให้สามารถมองเชื่อมจากภายในสู่ภายนอก โดยไม่มีอะไรบดบัง
และสามารถเปิดเชื่อมใช้งานพื้นที่ได้เพราะพื้นที่ระเบียงยาว และสามารถใช้งานได้จริงเต็มทั้งพื้นที่
พื้นที่ living สามารถวางชั้นวางทีวี แบบเตี้ยเพื่อเปิดมุมมองสู่วิวด้านนอก พักสายตาได้
ติดผนังสามารถวางชุดโซฟาสำหรับ2-3ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง
ด้านหลังห้อง living เป็นห้องนอนเล็ก
ภายในห้องนอนเล็ก กว้างพอให้ตั้งเตียง queen size แบบมีพื้นที่เหลือพอทั้งด้านข้างและปลายเตียงติดหน้าต่างกระจกเต็มความกว้างห้อง
ที่ผนังปลายเตียง สามารถติดทีวีแบบแขวนได้
และติดทางเข้าโครงการให้ตู้เสื้อผ้า built-in หน้าบานกระจกสีชา
ตรงข้ามทางเข้าห้องนอนเล็กเป็นห้องน้ำสำหรับห้องนอนเล็ก และห้องliving
ภายในห้องน้ำ พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้อง cotto italia ลายน้ำตาลขาว แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้งและเปียก กั้นด้วยกระจกอาบน้ำ
ภายในห้องน้ำ พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้อง cotto italia ลายน้ำตาลขาว แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้งและเปียก กั้นด้วยกระจกอาบน้ำ
ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์สีขาว
ด้านบนเป็นกระจกยาว มีบานเปิดเก็บอุปกรณ์อาบน้ำ
สุดโถงทางเดินด้านขวาเป็นทางเข้าห้องนอนใหญ่ ห้องน้ำในตัว
ด้านซ้ายของทางเข้าเป็น walk-in closet แยกเป็นพื้นที่ส่วนตัว
ตรงข้ามเป็นห้องน้ำ ที่ห้องน้ำทั้งพื้นและผนังปูด้วย กระเบื้อง cotto italia สีน้ำตาลขาว ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก ส่วนแห้ง ส่วนแห้ง ระบบน้ำเป็นแบบ thermostat
โครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ลอยตัว ด้านล่างมีชั้นวางของ
ด้านบนเป็นกระจกยาว มีบานเปิดเก็บอุปกรณ์อาบน้ำ
ด้านหน้าเป็นอ่างอาบน้ำ วางติดกระจก Intelligent Glass Film ที่สามารถเปลี่ยนเป็นกระจกทึบแสง เมื่อต้องการใช้งานได้
ด้านขวาโครงการแบ่งเป็น 2 ห้อง
ห้องแรกเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ให้ hand shower และ rain shower ของ hansgrohe แบบติดผนัง พร้อมเจาะช่องวางผลิตภัณฑ์อาบน้ำ
ติดกันเป็นห้องวางโถสุขภัณฑ์ มีกระจกบานเปิด แยกสองห้องซ้ายขวา
ส่วนห้องนอน เปิดรับด้วยกระจกบานใหญ่ที่บริเวณปลายเตียง
ภายในห้องสามารถวางเตียง king size พร้อมโต๊ะหัวเตียงได้
และมีมุมตั้งโต๊ะทำงาน หรือวางทีวีได้ที่ด้านซ้ายของเตียง
ห้องนี้ตกแต่งเป็นโทนขาว ดำ เหมาะกับผู้ชาย หรือสายโมเดิร์น ที่ชอบความเรียบหรู คลาสสิค และรูปแบบห้องน่าจะเหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่ living กว้างขวาง และชอบวิวเปิดโล่งมากกว่าสีสันของกรุงเทพอย่างบนแยกอโศก
ห้องตัวอย่างสุดท้าย เป็น 2 Bedroom 70 Sq.m. เช่นกัน (ห้องเลขที่ 8/48) แปลนเหมือนห้องตัวอย่างที่ได้บอกไป เพียงแต่กลับแปลนซ้ายขวาเท่านั้น และโครงการก็ตกแต่งในสไตล์ห้องผู้หญิง หวานๆ โทนสีชมพูให้ชมกัน
วิวด้านข้างและด้านหลังโครงการ มีจุดเด่นที่ห้อง living และระเบียงได้พื้นที่เข้ามุม
แปลนของห้องนี้มีโถงทางเดินเป็นพื้นที่เชื่อมห้องต่างๆ เข้าด้วยกัน คือ พื้นที่ครัวและนั่งเล่น และห้องนอนเล็กที่ปีกขวาติดทางเข้า และห้องนอนใหญ่ที่ปีกด้านซ้าย
พื้นที่ส่วนแรกเป็นโถงทางเดินที่โครงการ built-in ชั้นวางรองเท้า ชั้นเก็บของ
ปีกขวาสุดทางเดิน เป็นพื้นที่ครัว และห้อง living area ที่เปิดรับด้วยวิวเปิดโล่งด้านหลังโครงการ
ครัว built-in ยาวติดผนัง พร้อมที่วางโต๊ะทานอาหารสำหรับ4ที่นั่ง ติดหน้าต่างบานใหญ่
ให้อ่างล้างจาน 2 อ่างแบบฝังของ teka
ด้านบนเป็นที่ดูดควัน และตู้เก็บอุปกรณ์ทำครัว
ด้านล่างเคาท์เตอร์ โครงการให้เตาแบบ combi oven & microwave และชั้นวางของ built-in แยกการใช้งาน
ปลายสุดเคาท์เตอร์เป็นตู้เย็นbuilt-in แยกบานเปิดบนล่างแบบบานเปิดเดี่ยว
ให้เตาไฟฟ้า 4 หัว และชุดครัว gorenje by Philippe Starck (ยกเว้น Hood)
ติดริมระเบียง เป็นพื้นที่ living ที่เปิดรับด้วยวิวเปิดโล่ง เชื่อมต่อด้วยกระจกบานใหญ่เต็มบาน
พื้นที่ living สามารถวางชั้นวางทีวี แบบเตี้ยเพื่อเปิดมุมมองสู่วิวด้านนอก พักสายตาได้
ติดผนังสามารถวางชุดโซฟาสำหรับ 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง
สุดทางเดินด้านข้างเป็นระเบียงเข้ามุมเชื่อมกับราวกันตกกระจก ทำให้สามารถมองเชื่อมจากภายในสู่ภายนอก โดยไม่มีอะไรบดบัง
และสามารถเปิดเชื่อมใช้งานพื้นที่ได้เพราะพื้นที่ระเบียงยาว และสามารถใช้งานได้จริงเต็มทั้งพื้นที่ เพราะคอมแอร์แยกพื้นที่เก็บและมีบานปิดเรียบร้อย
ด้านหลังห้อง living เป็นห้องนอนเล็ก
ภายในห้องนอนเล็ก กว้างพอให้ตั้งเตียง queen size แบบมีพื้นที่เหลือพอทั้งด้านข้างและปลายเตียงติดหน้าต่างกระจกเต็มความกว้างห้อง
ที่ผนังปลายเตียง สามารถติดทีวีแบบแขวนได้
และติดทางเข้าโครงการให้ตู้เสื้อผ้า built-in หน้าบานกระจกสีชา
ตรงข้ามทางเข้าห้องนอนเล็กเป็นห้องน้ำสำหรับห้องนอนเล็ก และห้องliving
ภายในห้องน้ำ พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้อง cotto italia ลายน้ำตาลขาว แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้งและเปียก กั้นด้วยกระจกอาบน้ำ
ส่วนพื้นที่ส่วนเปียก ให้ hand shower และ rain shower ของ hansgrohe แบบติดผนัง พร้อมช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำ ที่ส่วนแห้งด้านขวา โครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ลอยตัว
สุดโถงทางเดินด้านซ้ายเป็นทางเข้าห้องนอนใหญ่ ห้องน้ำในตัว
ด้านขวาของทางเข้าเป็น walk-in closet แยกเป็นพื้นที่ส่วนตัว
ตรงข้ามเป็นห้องน้ำ ที่ห้องน้ำทั้งพื้นและผนังปูด้วย กระเบื้อง cotto italia สีน้ำตาลขาว ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก ส่วนแห้ง ส่วนแห้ง ระบบน้ำเป็นแบบ thermostat
โครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ลอยตัว ด้านล่างมีชั้นวางของ
ด้านบนเป็นกระจกยาว มีบานเปิดเก็บอุปกรณ์อาบน้ำ
ด้านหน้าเป็นอ่างอาบน้ำ วางติดกระจก Intelligent Glass Film ที่สามารถเปลี่ยนเป็นกระจกทึบแสง เมื่อต้องการใช้งานได้
ภายในห้องแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก ให้ hand shower และ rain shower ของ hansgrohe แบบติดผนัง พร้อมเจาะช่องวางผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ติดกันเป็นห้องวางโถสุขภัณฑ์ มีกระจกบานเปิด แยกสองห้องซ้ายขวา
ส่วนห้องนอน เปิดรับด้วยกระจกบานใหญ่ที่บริเวณปลายเตียง
ภายในห้องสามารถวางเตียง king size พร้อมโต๊ะหัวเตียงได้
และมีมุมตั้งโต๊ะทำงาน หรือวางทีวีได้ที่ด้านขวาของเตียง
จริงๆ ห้องในตำแหน่งนี้อาจดูว่าถูกบังด้วยอาคารโดยรอบ แต่ด้วยการออกแบบที่ให้พื้นที่ living area เป็นพื้นที่หลัก มีมุมเปิดกว้างสู่วิวด้านหลังโครงการเป็นหลัก และความสูงของห้องที่สูงโปร่ง และเพิ่มความโล่งด้วยกระจกบานเปิดเต็มความสูงเกือบทุกห้อง โดยเฉพาะห้องนั่งเล่น ทำให้ไม่ได้ดูอึดอัด และไม่ได้มีมุมที่ปะทะกันโดยตรงในแง่ของพื้นที่ที่ใช้งาน
CELES Asoke กับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นโครงการที่ดีที่สุดสำหรับตลาด Luxury Condo ย่านอโศก
ท่ามกลางกระแสการแข่งขันกันพัฒนาโครงการคอนโดสูงหลายแห่งในกรุงเทพฯ ปฎิเสธไม่ได้ว่าคีย์เวิร์ดของคำว่า Luxury นั้นถูกหยิบยกมาใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อที่มีศักยภาพและสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง จากทั่วทุกมุมโลก ผลลัพธ์ก็คือเราได้เห็นโครงการคอนโดหลายโครงการที่นิยามตัวเองว่าเป็นโครงการระดับ Luxury จนกลุ่มผู้ซื้อหลายคนเริ่มรู้สึกว่าโครงการเหล่านั้น ไม่ได้มีความเป็น Exclusivity และไม่ได้สะท้อนความเป็นปัจเจกนิยมของผู้เป็นเจ้าของได้มากเท่าที่ควร
สำหรับตลาดคอนโด Luxury ในกรุงเทพฯ ปัจจัยที่จะช่วยชี้วัดความหรูหรา ก็จะมีทำเลที่ตั้งที่มีความเป็น Super Prime Area ความเป็นส่วนตัว มอบ Space ที่มากกว่า ความประณีตในการก่อสร้าง การคัดสรรวัสดุ ที่หรูหราแต่ทนทาน มีความ Timeless สวยเด่นเสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน มีบริการสุดพิเศษสำหรับไลฟ์สไตล์เหนือระดับที่แตกต่างกันของลูกบ้าน และที่สำคัญมากๆก็คือต้องสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ในการอยู่อาศัยที่เป็นเอกลักษณ์อันยากจะหาใครเลียนแบบ เมื่อเอาองค์ประกอบเหล่านี้มารวมกัน ก็จะนำมาซึ่ง Benefit ที่ทุกโครงการ Luxury ที่แท้จริงต้องมีก็คือมูลค่าที่สูงขึ้นตามกาลเวลาครับ…เมื่อนำเอาข้อเท็จจริงนี้มาพิจารณาก็จะพบว่า CELES Asoke เป็นหนึ่งในไม่กี่โครงการ Luxury Condo ในกรุงเทพฯที่มีองค์ประกอบดังกล่าวครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุดในชั่วโมงนี้
CELES Asoke คือโครงการ Luxury Condo พร้อมอยู่โครงการล่าสุด ที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดของอโศก – สุขุมวิท ในชั่วโมงนี้ โครงการถูกพัฒนาโดยบริษัท ลัคกี้ ลิฟวิ่ง พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการคอนโด และธุรกิจ Hospitality ระดับไฮเอนด์ ที่สร้างชื่อมาแล้วหลายโครงการ โดย CELES Asoke ตั้งอยู่บนที่ดินแปลงสวยที่สุด เป็น Super Prime Location ในทำเลใกล้สี่แยกอโศก-สุขุมวิท จุดเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก และ MRT สถานีสุขุมวิท ทั้งยังอยู่ในฝั่งถนนอโศกตอนต้นใกล้ถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นฝั่งถนนที่การเดินทางโดยรถยนต์มีความสะดวกมากที่สุดโดยสามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ต่างจากจุดอื่นๆ บนถนนอโศก
ตัวอาคารมีความสูง 40 ชั้น ไม่รวมชั้นดาดฟ้าแห่งนี้ ถูกบรรจงรังสรรค์ขึ้นมาโดยทีมงานระดับโลกที่มาร่วมเป็นพันธมิตรในการพัฒนาโครงการ ไม่ว่าจะเป็นบริษัท สถาปนิก 49 จำกัด ที่รับผิดชอบเรื่องงานออกแบบสถาปัตยกรรม บริษัท ฉมา จำกัด รับผิดชอบเรื่อง Landscape และ DWP ที่รับผิดชอบเรื่องงาน Interior Design ให้ทุกองค์ประกอบเต็มไปด้วยความหรูหรา สมกับที่นิยามตัวเองว่าเป็น Timeless Sophistication (ความงามบริสุทธิ์แห่งศิลป์) รูปลักษณ์อาคารจึงเรียบง่ายแต่หรูหราทันสมัยสวยงามเหนือกาลเวลา ด้วยการใช้ระบบโครงสร้างผนังกระจก (Structural Glass Wall ) ยังมีการตกแต่งอาคารเพื่อความงาม โดยไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคาร โดยทีมสถาปนิกใช้ “Vertical Stainless Fin” สแตนเลสผิวขัดมัน สะท้อนแสง เพื่อประดับอาคารในแนวดิ่งรอบตัวตึก ส่งผลทำให้ตัวอาคารทั้งหลังมีประกายระยิบระยับยามต้องแสงพระอาทิตย์ เรียกว่าเป็นโครงการที่ออกแบบด้วยการคำนึงถึงการใช้งาน มุมมอง และความสบายในอยู่อาศัยในทุกๆ พื้นที่ เพราะตั้งแต่เข้าสู่โครงการ พื้นที่ส่วนกลาง ไปจนถึงพื้นที่ภายในยูนิตแต่ละยูนิต ก็รู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบาย ทั้งการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ หรูหรา แต่เรียบง่าย การมีช่องเปิดเพื่อเปิดรับลม รับแสงธรรมชาติ และการเปิดรับมุมมองกับวิวเมืองโดยรอบ ถือว่าโดดเด่นเป็นหนึ่งเดียวใจกลางย่านอโศก
อโศกเป็นพื้นที่ Super Prime Area ที่มีศักยภาพสูงและยังคงมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาที่ดินพุ่งสูงขึ้นตาม Supply ที่มีอยู่อย่างจำกัด ถ้าพิจารณาจากราคาขายเฉลี่ยของคอนโดที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก็จะมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 220,000 จนไปถึงมากกว่า 300,000 กว่าบาทต่อตารางเมตร โดยโครงการที่อยู่ในซอยย่อยที่แยกออกจากถนนสุขุมวิทก็จะมีราคาขายเฉลี่ยต่ำกว่า
หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ที่เปี่ยมเสน่ห์ของย่านอโศก และความหรูหราในรูปแบบ Timeless Sophistication คือสิ่งที่คุณใฝ่หา ก็ต้องบอกว่า CELES Asoke คือ Luxury Condo โครงการเดียวที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดบนถนนหลักอโศก ที่มอบประสบการณ์สุด Exclusive มากกว่ามาตรฐานคอนโด Luxury ทั่วไป โดยมีราคาขายในปัจจุบันที่สะท้อนราคาจริงของตลาดคอนโดหรูในย่าน CBD อโศก-สุขุมวิท สำหรับโครงการ CELES Asoke เอง อาจพูดได้ว่าเป็นโครงการที่มีราคาอยู่ในเซกเมนท์ Luxury แต่ให้สเปคหลายๆอย่างที่เทียบเท่ากับเซกเมนท์ Super Luxury กับราคาเริ่มต้น 8.9 ลบ. ซึ่งมีราคาขายที่ค่อนข้าง Competitive กว่าคอนโด Luxury และ Super Luxury ในย่านเดียวกัน โครงการยังมีรูปแบบห้องหลากหลายที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้พักอาศัยระดับไฮเอนด์ มีกำลังซื้อสูง ที่มักจะมองหา Space ที่กว้างกว่า ในแบบ 2 ห้องนอนขึ้นไป เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงไปตามเทรนด์การอยู่อาศัยในแบบ The Next Normal ที่ Space และ Privacy มีส่วนสำคัญอย่างมากในการเลือกซื้อโครงการ
เรียกว่าที่นี่ได้ทั้งความคุ้มค่า หรูหรา เหนือกาลเวลา โดยโครงการพร้อมรอให้คุณเข้าชมและเป็นเจ้าของดาวจรัสแสงดวงใหม่บนแยกอโศกแล้ววันนี้ ที่ CELES Asoke
สนใจนัดหมายเข้าชมโครงการสามารถติดต่อได้ที่ 02 259 4444 หรือเว็บไซต์ www.celesasoke.com
ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ
CELES Asoke คือโครงการ Luxury Condo พร้อมอยู่โครงการล่าสุด ที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดของอโศก - สุขุมวิท ในชั่วโมงนี้ โครงการถูกพัฒนาโดยบริษัท ลัคกี้ ลิฟวิ่ง พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการคอนโด และธุรกิจ Hospitality ระดับไฮเอนด์ ที่สร้างชื่อมาแล้วหลายโครงการ โดย CELES Asoke ตั้งอยู่บนที่ดินแปลงสวยที่สุด เป็น Super Prime Location ในทำเลใกล้สี่แยกอโศก-สุขุมวิท จุดเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก และ MRT สถานีสุขุมวิท ทั้งยังอยู่ในฝั่งถนนอโศกตอนต้นใกล้ถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นฝั่งถนนที่การเดินทางโดยรถยนต์มีความสะดวกมากที่สุดโดยสามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ต่างจากจุดอื่นๆ บนถนนอโศก
PROPSCORE™ 4.0
0
0 รีวิว รูป
ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ
12 ปี กรุงเทพมหานครเปลี่ยนไปแค่ไหน?
EURO ยกระดับ Design District ใจกลางทองหล่อ เปิดตัว Poltrona Frau Monobrand Store แห่งใหม่! ส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้า
สโคป หลังสวน เผยโฉมครั้งแรกกับยูนิตพิเศษ “The Debonair Edition” 2-bedroom เลย์เอาต์ใหม่ ที่จะมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือกว่า
นิว อีโว พัฒนาการ คอนโดฟีลบ้าน สเปซกว้าง เลี้ยงสัตว์ได้* ใกล้ทองหล่อ และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 2.95 ล้าน*
"เซ็นทรัล: ดิ ออริจินัล สโตร์" ศูนย์รวมวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ที่ตั้งอยู่ในใจกลางย่านเจริญกรุง ย่านสร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งกับการเปิดพื้นที่ศิลปะสุดพิเศษ