มาดู Floor Plan ของ COOPER SIAM คอนโดสไตล์ SOHO ให้คุณทำธุรกิจได้ง่ายๆ บนทำเล Siam-Chula ห้องเพดานสูง 4.6 เมตร เริ่มต้นแค่ 4 ล้านบาท

หลังจากที่เราเคยแนะนำทำเลของคอนโด Cooper Siam ไปแล้วตามลิงค์นี้ >> พาชมทำเล COOPER SIAM คอนโดขวัญใจวัยรุ่น บนย่าน EXPANSION EDUBIZ เดิน 10 นาทีถึงสยาม

ว่าเป็นคอนโดที่มีความน่าสนใจที่อยู่ใจกลางเมือง ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งเส้นทางการจราจรที่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า และขนส่งสาธารณะ ร้านอาหารดังๆ หลายร้าน ทั้งยังล้อมรอบไปด้วยห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างต้องมาเดินกัน ซึ่งในปัจจุบันและอนาคตในย่านนี้ก็จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และเป็นที่จับตามองของหลายๆคนอีกด้วย ตอนนี้ขอนำเสนอข้อมูลที่เป็นจุดเด่นและน่าสนใจของทางโครงการฯ พร้อมเผย Floor Plan ที่น่าสนใจมาให้ได้ชมกัน

COOPER SIAM ฉีกคอนเซ็ปต์ของคอนโดมิเนียมทุกรูปแบบที่เคยมีมา ด้วยการนำคอนเซ็ปต์ที่มีอยู่ในต่างประเทศตามใจกลางเมืองใหญ่เข้ามาพัฒนาเป็นคอนเซ็ปต์แรกในประเทศไทย เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ชีวิต และพฤติกรรมคนยุค 4.0 และ Gen Y มีอิสระในการใช้ชีวิตที่มากขึ้น

โดย COOPER SIAM เป็นคอนโด High Rise ใหม่เพียวแค่โครงการเดียวในย่าน BTS สนามกีฬาแห่งชาติ-บรรทัดทอง-รองเมือง ด้วยพื้นที่ของโครงการทั้งหมด 1–2–21.5 ไร่ และมีเพียงแค่ 188 ยูนิต แบ่งเป็นโซน Combo Loft แบบ Single และ Double ขนาด 41-71 ตารางเมตร โซนพักอาศัยชั้นสูง หรือ Sky Residence แบบ 1,2 ห้องนอน ขนาด 30 – 67 ตารางเมตรและ Penthouse Duplex 3 ห้องนอน ขนาด 188 – 220 ตารางเมตร รวมมูลค่าโครงการกว่า 1,300 ล้านบาท

พร้อมด้วยที่จอดรถมากถึง 90% ผสมระหว่าง Automatic parking และ แบบวนจอด โดยแบบ Auto มีช่องจอดถึง 6 ช่องอยู่บนชั้น G หากใครมองหาคอนโดที่มีที่จอดเยอะๆ ในย่าน สยาม-สามย่าน-จุฬาฯ-ราชเทวี มีแค่ที่นี่ที่เดียว

ส่วนคอนเซ็ปต์ของโครงการ คือ Lofts that Work หมายความว่าเป็นคอนโดที่ผู้ซื้อสามารถปรับเป็นบริษัทได้ คือจดทะเบียนบริษัทเพื่อทำธุรกิจได้เหมือนกับบ้านแนวราบ หรือ Home Office

ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ไม่ถึง 10 นาที ก็ได้เดินเล่นแถวสยามอย่างสบายๆ หรือจะเดินเท้าก็ได้นะถือว่าได้ออกกำลังไปในตัว เนื่องจากห่างจากสถานี BTS สนามกีฬาแห่งชาติ เพียงแค่ 700 เมตร เท่านั้น

คอนเซ็ปต์คอนโดแบบนี้จะเรียกว่า SOHO ย่อมาจาก Small Office Home Office ซึ่งเป็นที่นิยมมากในสิงคโปร์ และคอนโดในไทยที่เป็นรูปแบบ SOHO ที่ดังๆ ในตลาดมีแค่ The Emporio Place SOHO (อาคาร South) ที่ซอยสุขุมวิท 24

ภาพจาก : http://www.tcccapitalland.co.th/emporio_place/emporio_html/gallery.html

ซึ่งทางโครงการฯ จะมีการแบ่งโซนที่อยู่อาศัยตามการใช้งาน เช่น หากต้องการทำเป็น Office ให้เลือกชั้นตั้งแต่ 2-11 ซึ่งเป็นห้องแบบ Combo Loft มีทั้ง 1 นอน และ 2 นอน

เพดานสูง 4.6 เมตรของ Cooper เป็นห้อง Loft เพดานสูงลำดับสองในตลาดต่อจากห้อง High Ceiling Hybrid ของ The Lofts Silom ที่มีความสูง 4.7 เมตร สามารถดู Reference ห้องแบบ Loft ได้จากโครงการ The Loft Silom, Siamese Exclusive Sukhumvit 31, Chewathai Residence Asoke, Ideo New Rama 9 (ห้อง Hybrid)

แบบห้อง Loft จะมีความแตกต่างจากห้อง Duplex คือ ห้อง Duplex จะมีประตูเข้าออกทั้ง 2 ชั้น เจ้าของห้องสามารถเลือกเดินเข้าจากชั้นไหนก็ได้ และระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้าจะสูงกว่า Loft เพราะกินพื้นที่ 2 ชั้น แต่ห้องแบบ Loft จะเข้าออกได้แค่ชั้นเดียว ส่วนพื้นที่ด้านบน จะใช้วิธีในการต่อเติมโครงสร้างห้องขึ้นไปเหมือนชั้นลอย และเพดานจะไม่สูงเท่าห้อง Duplex

พื้นที่ Living Area ห้องแบบ Loft

อีกหนึ่งมุมของ Living Area

ห้องน้ำ ห้องแบบ Loft

สำหรับคนที่ต้องการซื้อเพื่อพักอาศัยและอยากได้วิวสวยๆ ทั้งสระว่ายน้ำแนวยาว และสนามศุภชลาศัย ห้องโซน Sky Residence ทางทิศตะวันออกเบอร์ 05 จะสวยมาก เพราะเป็นห้องขนาดเล็กแต่ได้วิวพรีเมียมซึ่งหาได้ยากมากในตลาดคอนโดกลางเมือง

Master Bedroom โซน Sky Residence

ห้องน้ำ โซน Sky Residence

ห้อง Living Area ในโซน Sky Residence

โดยพื้นที่ส่วนกลางได้รับการออกแบบให้รองรับการใช้ชีวิตในรูปแบบต่างๆ ทำมาเพื่อคน Gen Y ทันสมัย มีอิสระในการใช้ชีวิต เปิดกว้างทางความคิด และวัฒนธรรม ที่ต้องรองรับทั้งการอยู่อาศัยและการทำงานไปพร้อมๆ กัน

พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน เช่น Co-working space ห้องประชุมส่วนตัว และห้องอเนกประสงค์ ศาลาชมวิว สระว่ายน้ำพร้อมจากุชซี่ ฟิตเนส ห้องสำหรับเล่นเกมส์ สวนลอยฟ้า

เพิ่มความสะดวกด้วยรถรับส่งจากโครงการไปยังสถานที่ต่างๆ อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาบุญครอง สยามสแควร์ และบีทีเอสสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ

Lobby Area

พื้นที่เพดานของ Lobby Area ถูกยกสูง ให้ความรู้สึกโล่งสบาย และติดกระจกใสรอบๆ สามารถรับวิวด้านนอกได้

Co-working space ที่มีขนาดกว้างขวาง รองรับผู้พักอาศัยได้จำนวนมาก

ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่สามารถเทควิวกรุงเทพฯ ผ่านบานกระจกที่ถูกติดไว้แบบเต็มความสูง เพื่อไม่ให้บดบังวิวทิวทัศน์ข้างนอกได้

สระว่ายน้ำพร้อมจากุชซี่ ทั้งว่ายน้ำพร้อมชมวิวได้อีกด้วย

มาดู Floor Plan ของแต่ละชั้นกันว่าแต่ละห้องจะมีลักษณะเป็นอย่างไร และจุดเด่นที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง

ซึ่งทางเข้าหลักหันไปทางถนนรองเมืองห้า ทิศทางอาคารวางตามเเนวทิศเหนือและใต้ส่วนใหญ่ มีที่จอดรถแบบ Automatic พร้อมช่องเข้าจอดถึง 6 ช่อง เยอะที่สุดในตลาดคอนโดกรุงเทพฯ

พื้นที่จอดรถชั้นใต้ดิน

พื้นที่จอดรถแบบ Automatic พร้อมช่องเข้าจอดถึง 6 ช่อง

พื้นที่ของชั้น 2 ก็จะเป็นโซน Co-working space เป็นส่วนใหญ่ และมีสวนย่อมอยู่ทางด้านนอก แต่ก็ยังมีห้อง Combo Loft อยู่ 2 ห้อง ใครเหมาซื้อเพื่อไปทำสำนักงานคงมีความสุข เพราะติดทั้งสวน ทั้ง Co-Working Space เอามาเป็นห้องประชุมของบริษัท ได้เลยนะเนี่ย

ชั้น 3 จะเป็นในส่วนของที่อยู่อาศัย ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวเพียงแค่ 8 ยูนิตเท่านั้น

ส่วนชั้น 4-10 เป็น Typical Floor Plan ซึ่งจะเป็นห้อง Style Combo Loft มีเพดานสูง 6 เมตร ที่นี่แบ่ง Lift เป็น Low Zone  และ High Zone โถงทางเดินมีช่องแสงและช่องระบายอากาศมากถึง 3 จุด

ห้องขนาดเล็กสุด 41 ตร.ม. วางอยู่ทางทิศตะวันออก โดยทิศยอดฮิตน่าจะเป็นทิศตะวันออกที่เห็นวิวสนามศุภชลาศัยสวยๆ และเป็นห้องขนาด 41.5 – 59 ตร.ม.ที่อยู่ทางหัวมุม ส่วนห้องใหญ่สุดจะเป็นห้องเบอร์ 9 ที่มีขนาด 71 ตร.ม.

ชั้นส่วนกลางหลักอยู่ที่ชั้น 11 มีไฮไลท์เป็นสระว่ายน้ำแนวยาว 25 เมตร และมีห้องพักอาศัยอยู่ด้วย 3 ห้อง

ที่ Cooper ห้องตั้งแต่ชั้น 12-24 จะเป็นห้องมาตรฐานเพดานสูง 2.7 เมตร แต่มีจุดเด่นตรงที่ใช้สำหรับพักอาศัยเท่านั้น และได้วิวที่สูงกว่า เหมาะกับคนที่อยากจะอยู่อาศัยแบบสงบๆ ที่นี่ หรือคนที่มีห้องแบบ Combo Loft เพื่อทำธุรกิจด้านล่าง และอยากซื้ออีกห้องชั้นบนไว้อยู่เอง

ชั้น 23-24 จะเป็น Penthouse Duplex มีเพียง 3 ห้องนอน ขนาด 188 – 220 ตร.ม.  ภายในออกแบบตกแต่งให้มีอิสระในการปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัย เลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ มีเอกลักษณ์ และคงไว้ซึ่งความโอ่อ่าหรูหรา

โครงการ COOPER SIAM ขายในราคาที่ค่อนข้างถูกมาก ถูกกว่าตลาดคอนโดใกล้เคียงคือราคเฉลี่ยแค่ตารางเมตรละ 138,000 บาท เป็นราคาที่ใครๆ ก็สามารถจับจองได้ทั้งนั้น คาดโครงการแล้วเสร็จประมาณปี 2564

ซึ่งบริษัทผู้พัฒนาโครงการ COOPER SIAM คือ บริษัท คูน เอสเตท จำกัด เป็นบริษัทที่เริ่มพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โดยก่อนหน้านี้พัฒนาโครงการแนวราบย่านสุขุมวิท แบรนด์ ควอเตอร์ คือ ควอเตอร์ ทองหล่อ บ้านเดี่ยว, ควอเตอร์ สุขุทมวิท 39 และควอเตอร์ สุขุมวิท 31 คลัสเตอร์เฮ้าส์ โดย 3 โครงการที่ผ่านมาพัฒนาโครงการร่วมกับบริษัท นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้  จำกัด ซึ่งคูเปอร์ สยาม เป็นคอนโดมิเนียมโครงการแรกที่พัฒนาเอง 100%

และบริษัทที่เป็นผู้ให้คำปรึกษาทางด้าน architect และ Interior Design ก็คือ บริษัท เมคอะซีน จำกัด ที่เคยทำโครงการ อาทิ Best Western BluPhere, FynnSukhumvit 31 และ U Gallery Hotel

ส่วนบริษัทที่ให้คำปรึกษาทางด้าน Landscape Design คือ TECTONIC DESIGN ซึ่งมีส่วนร่วมในการออกแบบที่ยั่งยืนในแต่ละโครงการ และพยายามที่จะรวมความคิดเกี่ยวกับวัสดุและแนวคิดที่ยั่งยืนให้เข้ากับแต่ละโครงการ โครงการที่เคยทำ อาทิ  Vittorio Sukhumvit 39, Life RAMA 9 และ Life One Wireless

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษและข้อมูลข่าวสารอัพเดทใหม่ๆ ได้ที่ http://coopersiam.com/ โทร. 089-459-5399 และ LINE @CooperSiam โดยวันนี้ 3 กพ. 2018 โครงการพร้อมเปิด Pre Salesแล้ว