รีวิว WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA คอนโดอยู่แล้วสุขภาพดี คุณภาพชีวิตครบ สะดวกสบายตรงข้ามเดอะมอลล์ท่าพระ เดินนิดเดียวถึงรถไฟฟ้าตลาดพลู

จากที่ผู้เขียนสำรวจทำเลฝั่งธนที่รถไฟฟ้าสีเขียวสายสีลมผ่าน นับตั้งแต่สถานีกรุงธนบุรี วงเวียนใหญ่ โพธิ์นิมิตร ตลาดพลู วุฒากาศ และสถานีบางหว้า ในบรรดาสถานีทั้งหมดนี้ผู้เขียนพบว่าย่านรอบสถานีตลาดพลูเป็นย่านที่เรียกว่า Great Neighborhood ที่ดีที่สุดเพราะเหตุผลหลายประการ ได้แก่…

ทำไมย่านตลาดพลูน่าอยู่มากกว่าย่านอื่นๆ ในฝั่งธนตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีลม

ย่านตลาดพลูน่าอยู่มากกว่าย่านอื่นในย่านรถไฟฟ้าสีเขียวฝั่งธน เพราะเหตุผลที่สำคัญคือ ย่านตลาดพลูมีห้างสรรพสินค้าเป็นศูนย์รวมของการค้า ห้างที่มีในย่านนี้คือ The Mall ท่าพระ ส่วนย่านอื่นๆ ไม่มีห้าง ย่านอื่นๆ มีแค่สถานีรถไฟฟ้า มีแต่คอนโดมิเนียมเงียบๆ มีแต่ออฟฟิศที่มีแต่คนทำงานตอนกลางวันแล้วร้างชีวิตตอนกลางคืน ย่านไหนไม่มีห้างมันคือจุดบ่งชี้ว่าเป็นย่านที่แห้งแล้ง ใครไปอยู่ก็อาจจะอดอยากปากแห้ง

บอกได้ว่าคนกรุงเทพยุคนี้ติดห้างมาก ชอบเดินห้างมาก ไปกันทุกวันหรือทุกวันหยุด มีเวลาว่างก็ไปเดินเล่นเปรียบเสมือนสถานที่ท่องเที่ยวแบบหนึ่ง วงการห้างเมืองนอกจะล่มสลายปิดตัวไปแค่ไหนแต่ห้างไทยก็ยังยืนหยัดอยู่ได้ เพราะคนไทยชอบเดินห้างติดแอร์เย็นๆ มีของมีสินค้าครบ มีร้านอาหาร มีบริการต่างๆ รวมไว้ในที่เดียว เราขี้เกียจไปหลายๆ ที่ เสียเวลา ร้อน ดังนั้นในกรุงเทพ ใครมีบ้านติดห้างดีๆ ถือว่าสะดวกสบายไปมากกว่าคนอื่นแล้วครับ

ย่านมีห้างอย่างตลาดพลูมีบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายมาสร้างคอนโดมิเนียมในย่านนี้มากมายหลายแบรนด์ ก็เพราะย่านตลาดพลู มีห้าง มีร้านค้า มีสถานีรถไฟฟ้าตลาดพลู ใกล้กับตลาดพลูที่มีของกินแนวดั้งเดิมอีกด้วย และยังใกล้สถานี Interchange รถไฟฟ้าท่าพระซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีของสายสีน้ำเงินที่สามารถเดินทางไปได้รอบกรุงเทพในอนาคตอีกไม่นาน แถมยังมีถนนวงแหวนสำคัญอย่างรัชดา ท่าพระ และใกล้กับถนนสาทร ถนนราชพฤกษ์ ที่เชื่อมต่อไปยังส่วนต่างๆ ของฝั่งธน รวมถึงออกไปย่านบางแค ไปต่างจังหวัด ไปเที่ยวทะเล ไปภาคตะวันตกได้อย่างง่ายๆ

สถานีรถไฟฟ้าตลาดพลู เดินทางไปทั่วกรุงเทพสะดวกสบาย

ตลาดพลูเป็นทั้งที่ท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวและยังเป็นย่านที่คนท้องถิ่นมากินมาใช้บริการอยู่ด้วย เป็นย่านที่มีเสน่ห์

ของกิน street food ในย่านตลาดพลูมีเยอะแยะมากมาย กินไม่หมด

ขนมหวานเจ้าเก่าที่เปิดมานาน ดูแค่การตกแต่งร้านก็รู้ว่าเก๋าชัวร์

เหตุผลเหล่านี้แหละครับที่ทำให้ใครที่ชอบอยู่ฝั่งธนจึงควรจะเลือกมาใช้ชีวิตที่ย่านตลาดพลู

คอนโดมิเนียมที่อยู่สบายต้องเป็นแบบไหนและคือที่ไหน

คอนโดมิเนียมที่ดีอยู่สบายไม่ใช่คอนโดมิเนียมที่มีราคาสูงหรืออยู่ในย่าน Prime Area อยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ CBD อย่างที่หลายคนเชื่อ นิยามความดีเฉพาะด้านทำเลอย่างเดียวแค่นั้นไม่เพียงพอ แม้จะอยู่คอนโดมิเนียมแพงหรูหราแค่ไหนแต่ถ้าเดินลงมาข้างล่างไม่มีของกินก็บอกเลยว่าตัดสินใจผิดพลาดในการซื้อคอนโดมิเนียมอย่างมหันต์ เพราะเหตุผลการอยู่ในคอนโดมิเนียมหลักๆ คือ ต้องการความสะดวกสบายครบ 100% มันจะต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง

คอนโดมิเนียมในฝันครบ 100% คือ คอนโดมิเนียมที่มีองค์ประกอบครบดังนี้ มียูนิตจำนวนน้อย ไม่แออัด มีความเป็นส่วนตัว แต่ก็ต้องมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานได้จริง มีครบถ้วนทั้งสำหรับการพักผ่อน ออกกำลังกายและเพื่อการงานธุรกิจการเรียนต่างๆ  มีสิ่งอำนวยสะดวกสบายที่ดูแลจัดการในระยะยาวง่ายโดยไม่มีค่าดูแลที่สูงเกินไป ส่วนภายในห้องก็ต้องออกแบบรูปแบบ layout ดี ใช้วัสดุตกแต่งภายในห้องที่ดี สวยงาม ใช้งานได้จริง ชุดครัวคุณภาพดี ห้องน้ำมีคุณภาพ มีการใช้เทคโนโลยีเพื่อการแก้ปัญหาหรือส่งเสริมให้การอยู่อาศัยภายในห้องดี ระบบระบายอากาศยอดเยี่ยม ได้วิวโล่ง มีวิวสวย วิวแม่น้ำ วิวเมือง วิวไม่ชนกับตึกอื่นๆในระยะประชิด ทำเลต้องใกล้การคมนาคมที่สะดวก มีทางเลือกการเดินทางหลายแบบ ใกล้ป้ายรถเมล์ ใกล้รถไฟฟ้าถึงจะดีที่จอดรถยนต์จะได้ไม่เต็มง่ายเกินไป แต่ก็ไม่ใช่ชิดรถไฟฟ้าจนได้ยินเสียงอี๊ดอ๊าดทั้งวันทั้งคืนจนไม่ได้พักผ่อน คอนโดมิเนียมที่ดีต้องใกล้ห้างสรรพสินค้าในระยะทางที่เดินเท้าไปได้ มีตลาดของกินอยู่ใกล้ๆ รอบคอนโดมิเนียมต้องมีชีวิตชีวาทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่ใช่คึกคักเฉพาะกลางวันแต่กลางคืนเงียบร้างไม่มีคนไม่มีของกินไม่มีชีวิตดูเปลี่ยว ทั้งหมดนี้คือปัจจัยที่ทำให้คอนโดมิเนียมนั้นถือว่าดีเหมาะสมกับความเป็นคอนโดมิเนียมครับ

แล้วคอนโดมิเนียมที่มีครบทุกปัจจัยอย่างที่บอกมาข้างบน นั้นจริงๆ มีไหม มีครับ ในกรุงเทพมีหลายโครงการ และคำตอบหนึ่งในนั้นคือ WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA (วิสซ์ดอม สเตชั่น รัชดา – ท่าพระ) หนึ่งในโครงการของ MQDC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่คิดแตกต่างจากผู้พัฒนารายอื่นๆ มาดูกันว่า MQDC คิดต่างและดีต่อผู้อยู่อาศัยอย่างไร

MQDC กับปรัชญาการออกแบบคอนโดมิเนียมที่ผู้บริโภคต้องการแต่เจ้าอื่นไม่ทำ

แบรนด์ MQDC เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท DT ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดยักษ์ของประเทศไทย เมื่อมีกำลังเงินมากมายและคิดจะทำโครงการใดจึงไม่คิดทำแบบคนอื่นทั่วไป โครงการต่างๆ ของ MQDC ที่ขายดี เช่น ซีรีส์ Whizdom ต่างๆ ที่ย่านรัชดา-ลาดพร้าว และย่านตลาดพลู-ท่าพระก็ขายดี อีกโครงการที่ได้รับผลตอบรับดีคือโครงการ Mixed Use Whizdom 101 ย่านปุณณวิถี จุดเด่นของโครงการคอนโดมิเนียมในเครือ MQDC คือทำเลสะดวกสบายใกล้ห้าง ใกล้ซูเปอร์มาร์เก็ต ใกล้ร้านค้าร้านอาหาร มีสิ่งอำนวยความสะดวกล้อมรอบในทุกที่่ หรือต่อให้ไม่มีห้าง ไม่มีร้านค้า MQDC ก็สร้างห้างขึ้นมาเองเลยไม่ง้อใครอย่างที่ Whizdom 101 วิธีคิดการสร้างห้างขึ้นมาเองนั้นคงมีผู้พัฒนาอสังหาในไทยไม่กี่รายที่ทำได้ เพราะต้องใช้สรรพกำลังบุคลากร ใช้กึ๋น ใช้ทุน ใช้คอนเนคชั่นคู่ค้าต่างๆ มากมายเพื่อให้โครงการติดตลาดและประสบความสำเร็จ เป็นงานที่ยากลำบากกว่าการสร้างคอนโดมิเนียมแบบ stand alone ไปเฉยๆ จุดนี้เองที่ทำให้ MQDC แตกต่างจากผู้พัฒนาอสังหาส่วนใหญ่ทั้งหมด

นอกจากการเป็นพ่อบุญทุ่มสร้างห้างสร้างให้ประชาชนมาใช้บริการ MQDC ยังมีแนวคิดการสร้างคอนโดมิเนียมสำหรับการอยู่อาศัยอย่างแท้จริงโดยสมดุลระหว่างราคาขายกับคุณภาพของดีที่มอบให้ลูกบ้านในโครงการ และเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่ใส่ใจถึงคุณภาพชีวิตภายในห้องพักอาศัยอีกด้วย ผู้พัฒนาอสังหาส่วนใหญ่อาจจะมองข้ามคุณภาพการอยู่อาศัย มองข้ามสุขลักษณะภายในห้องมองข้าม Well-being ของผู้อาศัยแล้วไปเน้นแค่เรื่องฉาบฉวยสวยแค่เพียงภายนอก เช่น สระว่ายน้ำสวยๆ พื้นที่ส่วนกลางคุณภาพดี แต่ของที่ได้ภายในห้องกลับไม่ได้เรื่องและไม่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในระยะยาวซึ่งเราคงเห็นภาพแบบนี้จนชินตาในโครงการคอนโดมิเนียมในเมืองไทยจนเผลอคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่คอนโดมิเนียมเป็นได้แค่เท่าที่เห็นๆ กัน

แต่ MQDC ลุกขึ้นมาบอกไม่เอาเหมือนเดิมอีกต่อไป และจะเป็นผู้นำ พร้อมตั้งมาตรฐานใหม่ในการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมให้ผู้บริโภคได้รับรู้ว่าคอนโดมิเนียมดีๆ ควรจะเป็นแบบที่ MQDC ทำ โดยออกแบบโครงการตาม “WHIZDOM STANDARD มาตรฐานวิสซ์ดอม” ได้แก่มาตรฐานด้านอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม (Energy & Environment) มาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัย (Home & Well-being) มาตรฐานด้านพฤติกรรมและการรับรู้ที่ดี (Behavior and Psychology) เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีและพัฒนาระดับ Demand ของผู้บริโภคให้ก้าวขึ้นไปอีกระดับที่เหนือกว่าเดิมไปทั้งวงการ

รับชมวิดีโอเกี่ยวกับ Research and Development by MQDC ใส่ใจทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่เหนือกว่า

https://www.youtube.com/watch?v=6blyWu30BpQ

ความคุ้มค่าของการอยู่อาศัยใน WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA กับระบบ Home Intelligent System 10 อย่าง

ยุคสมัยนี้คอนโดมิเนียมมักจะมี Application ที่เพิ่ม Module ในเรื่องของการ Monitor และควบคุมการทำงานของระบบไฟฟ้าผ่านมือถือ ได้ง่ายๆ เช่น เปิดปิดไฟฟ้าได้ตามต้องการผ่าน app ซึ่งในโครงการคอนโดมิเนียมใน MQDC ก็มีให้เช่นกัน

และ Hilight ที่สำคัญการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาส่งเสริมให้เป็นคอนโดมิเนียมที่อยู่สบาย คือระบบปรับอากาศแบบที่พ่วงระบบเติมอากาศบริสุทธิ์ให้อากาศถ่ายเทเข้าออกห้องได้ (ERV) อยู่อาศัยจริงแล้วสบายมากขึ้น หายใจได้รู้สึกเต็มปอดมากกว่าเดิม ซึ่งหากเราอยากจะมองหาระบบแบบนี้ต้องไปหาในคอนโดระดับตารางเมตรละเกิน 200,000 บาทขึ้นไปทั้งนั้น แต่จะบอกว่าที่ WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA นี้ก็ให้ระบบดังกล่าวด้วย ซึ่งราคาต่อตารางเมตรละแค่แสนต้นๆ ที่ให้มาครบทุกอย่าง เรียกได้ว่าเป็นคอนโดมิเนียมระดับหรูหราที่สเปคคุ้มค่าที่สุดในย่านตลาดพลูครับ

รายละเอียดของเทคโนโลยีที่ MQDC เลือกจัดมาให้ลูกบ้าน Whizdom Station Ratchada-Thapra ยังไม่หมดแค่นี้ครับเนื่องจากเป็น

คอนโดมิเนียมแห่งแรกๆ ที่มีระบบบ้านอัจฉริยะ (Home Intelligent System) ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนและครบวงจร จึงต้องมีระบบส่งเสริมอื่นๆ ที่เพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้อยู่อาศัย ได้แก่

1. ระบบ ERV (Energy Recovery Ventilation) เป็นเทคโนโลยีที่เป็นไฮไลท์สำคัญของ Home Intelligent System โดยระบบ ERV จะทำงานสัมพันธ์กับระบบอื่นๆ ของระบบเทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะ (Home Intelligent System) จะช่วยถ่ายเทให้ห้องที่เราอยู่มีอากาศที่มีคุณภาพที่ดีขึ้นและมีผลดีต่อสุขภาพ โดยระบบนี้จะตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในห้องนอนตลอดเวลา หากพบว่ามีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO₂ มากกว่าที่กำหนดไว้ ระบบจะเชื่อมโยงอัตโนมัติไปยังเครื่อง ERV เพื่อเติมอากาศจากด้านนอกเข้ามาภายในห้อง และนำอากาศในห้องออกสู่ภายนอกอาคาร จนกระทั่งสภาพอากาศมีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ลดน้อยลงในระดับที่เหมาะกับการพักผ่อนที่มีคุณภาพสูง

2. ระบบ Energy Measurement Unit หรือ EMU ซึ่งเป็นระบบแสดงผลอัตโนมัติ ผ่าน Smart Devices ต่างๆที่ลง Application MQDC Home Intelligent System ที่จะรายงานค่าการใช้พลังงานไฟฟ้า รายวัน รายเดือน และรายปี อีกทั้งยังสามารถตั้งเป้าหมายการใช้พลังงานในแต่ละเดือนได้ด้วยว่า จะจำกัดการใช้พลังงานไว้ที่งบประมาณเท่าไร โดยระบบจะแจ้งเตือนและแสดงให้เห็นปริมาณการใช้พลังงานเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตระหนักการใช้พลังงานอย่างเหมาะสมและสนุกไปกับการประหยัดการใช้พลังงานที่เห็นผลลัพธ์ซึ่งจับต้องได้ในทุก ๆ วัน อีกด้วย

3. ระบบการควบคุมเพื่อตอบสนองวิถีการชีวิตเพื่อความสะดวกสบาย โดยนำเสนอระบบควบคุมอัจฉริยะซึ่งจะทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถควบคุมทุกระบบในบ้านได้จาก Smart Device หรือโทรศัพท์มือถือ เช่น เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ระบบแสงสว่างอัตโนมัติในห้องน้ำ/ หรือจะเป็นการตั้ง Scene ระบบแสงสว่างเป็น Morning Scene โดยระบบทำหน้าที่แจ้งเตือนเหมือนนาฬิกาปลุก และจะเปิดไฟส่องสว่างให้พร้อมที่จะเริ่มวันใหม่ จากนั้นระบบจะสรุปการใช้พลังงานให้ทราบ ทั้งการใช้พลังงานในช่วงวันที่ผ่านมา รวมทั้งสัปดาห์ หรือ ทั้งเดือน/ Entertainment Scene เมื่อเราต้องการพักผ่อนบริเวณห้องรับแขก ระบบจะสามารถควบคุมการทำงานของทีวี และไฟส่องสว่างในห้องโดยท่านสามารถเลือก Scene ที่เหมาะสมในการพักผ่อนได้ เช่น ระบบจะสั่งการให้ปรับความสว่างของไฟลง และเพิ่มเสียงของทีวีเพื่อให้เหมาะสม หรือถ้าเลือกเป็น Reading Scene ระบบก็จะเพิ่มความสว่างของแสงไฟในห้อง และปรับเสียงทีวีให้เบาลงได้ ท่านยังสามารถสั่งการระบบ Scene ผ่านอุปกรณ์ Smart Devices ได้อีกด้วย

4. MQDC Application เป็นความสะดวกสบายที่จะเริ่มตั้งแต่เมื่อคุณเดินทางกลับบ้าน และเข้ามาในรัศมี 2 กม.ของเขตบ้าน MQDC Application ที่เราลงไว้ในเครื่อง Smart Devices ต่างๆ จะแจ้งเตือนทันที เพื่อสอบถามว่าเราต้องการจะเปิดเครื่องปรับอากาศในที่พักหรือไม่ เมื่อเรากลับถึงบ้านสภาพอากาศภายในบ้านจะได้เย็นสบายเหมาะกับการพักผ่อนได้ทันที

5. ระบบรักษาความปลอดภัย พร้อมแจ้งเตือน นอกจากจะให้ Digital Door Lock แล้ว โดยเมื่อเรามาถึงหน้าประตูบ้านหรือห้องพัก กุญแจบ้านจะไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะเราสามารถเปิด-ปิดประตูด้วยระบบดิจิทัลด้วยการ scan นิ้วมือ การใส่รหัสลับ ระบบประตูหน้าต่างของทุกยูนิตยังมี Magnetic Censor เพื่อแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการเปิดปิด/ และโครงการยังมีการติดตั้งระบบ IP Camera ในห้อง เพื่อเชื่อมกับระบบความปลอดภัยที่สามารถดูแล จัดการผ่าน MQDC Home Intelligent System ได้เป็นต้น

6. ระบบ Night Step ระบบนี้จะทำงานผ่านรีโมตไร้สายที่ควบคุมความสว่างในบ้านได้ทุกจุด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นการตื่นมาเข้าห้องน้ำกลางดึก หรือเดินไปดื่มน้ำ เราสามารถเปิดไฟเป็นระยะ ๆ ได้ เพื่อความสะดวกแก่ผู้อยู่อาศัยอีกด้วย

รับชมวิดีโอเกี่ยวกับ Home Intelligent System by MQDC ที่นี่

https://www.youtube.com/watch?v=V8yRA5Wm4OM

WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA คือคำตอบที่ดีที่สุดของคนที่อยากอยู่ย่านตลาดพลู

WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA (วิสซ์ดอม สเตชั่น รัชดา-ท่าพระ) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 37 ชั้น จำนวน 1 อาคาร พัฒนาโดย MQDC (Magnolia Quality Development Corporation) ตั้งอยู่ถนนรัชดาภิเษก ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าตลาดพลู ตรงข้ามเดอะมอลล์ท่าพระ เนื้อที่โครงการประมาณ 3 ไร่ 53.2 ตารางวา รูปแบบห้องมีทั้ง Studio 22 ตร.ม. 1 Bedroom ขนาด 26-35 ตร.ม. 2 Bedroom 47-59 ตร.ม. และแบบ Penthouse 40-78 ตร.ม. มีที่จอดรถทั้งหมด 295 ช่องจอด จำนวนยูนิตพักอาศัย 690 ยูนิต และมีร้านค้า 6 ยูนิต ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://mqdc.com/whizdom/ratchadathapra/

Floor plan ของ WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA

ชั้นล่าง จะมีทางเดินเข้าสู่โครงการเป็นซุ้มทางเดินต้นไม้ ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายก่อนเข้าสู่ที่พักของเรา นอกจากนี้มียูนิตร้านค้าซึ่งอนาคตจะมีร้านค้ามาเปิดให้บริการหลังจากที่มีลูกบ้านอยู่อาศัยไปสักระยะหนึ่ง และที่ชั้น 1 มี Grand Lobby

ชั้น 2 หลักๆ จะเป็นที่จอดรถ และจะมีพื้นที่ยูนิตสำหรับร้านค้า ยูนิตร้านค้านี้ก็ขายด้วยนะครับ ใครสนใจลองติดต่อกันได้ ทราบราคามาว่ายูนิตร้านค้าขายตารางเมตรละ 130,000 บาท ถือว่าราคาดีครับ และร้านค้าที่จะมาเปิดให้บริการนั้นจะต้องผ่านการคัดเลือกรูปแบบร้านค้าที่ตอบโจทย์ให้กับผู้อาศัยและชุมชนรอบข้างด้วย

บันไดเดินขึ้นไปชั้น 2

มีพื้นที่ร้านค้าที่จะขายพื้นที่ให้กับกิจการที่น่าสนใจ

ชั้น 6 จะมีพื้นที่ส่วนกลางแบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนสระว่ายน้ำและโซนสวน โดยโซนสระว่ายน้ำมี Infinity Edge Pool, Fitness,Pool Bar ส่วนโซนสวนจะมี Greenery Courtyard และ waterscape ที่จำลองลำธาร

ชั้น 7 จะมีทางเข้าสู่ fitness ได้ด้วย

ชั้นพักอาศัยชั้นต่างๆ ชั้น 9-33

ชั้น roof top มี Tunnel Garden อุโมงค์ต้นไม้และทางเดินนำไปสู่ห้อง Co-working Space และ Glass house sky lounge ที่มี Vertical garden และชมวิวเมืองได้ นอกจากนี้อีกด้านจะมีลานจอด Helicopter ที่เป็นจุดสูงสุดของอาคารสามารถยืนรับลมชมวิวเมืองได้กว้างขวาง

Unit Plan ที่โดดเด่นของ WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA

รูปแบบห้องที่ WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA มีหลายรูปแบบตั้งแต่Studio, 1 Bedroom, 2 Bedroom และ Penthouse ครับ

ดูรายละเอียดได้ที่ https://mqdc.com/whizdom/ratchadathapra/building/

ส่วนรูปแบบห้องที่น่าสนใจที่หยิบยกมานำเสนอวันนี้คือ

2 Bedroom แบบ D3

เป็นรูปแบบห้องเดียวกับห้องตัวอย่างที่นำเสนอภาพในบทความนี้ครับ

มีฟังก์ชั่นที่ดี ห้องนั่งเล่นกว้าง และห้องนอนใหญ่แยกออกจากห้องนอนเล็ก มีความเป็นส่วนตัว

Penthouse (PH11) เป็นห้องที่ rare item หาซื้อที่อื่นไม่มี จุดเด่นตรงที่ห้องนอนมีห้องน้ำส่วนตัว และเป็นห้องหน้ากว้างมากๆ

Penthouse (PH10) จุดเด่นตรงที่กระจกเข้ามุมเพิ่มประสบการณ์แปลกใหม่ในการพักอาศัย

Penthouse (PH8) จุดเด่นตรงที่ห้อง master bedroom กว้างขวางมากและมีมุมชมวิวกระจกเข้ามุมที่เหมือนยื่นออกไปกลางอากาศ โดดเด่นมากครับยูนิตนี้

นอกจากนี้ยังมีห้อง Penthouse แบบอื่นๆ อีก ลองเข้าไปดูในเวปไซต์ https://mqdc.com/whizdom/ratchadathapra/building/

แต่ขอบอกก่อนว่าถ้าจะซื้อห้องโดยตรงจากโครงการเลย คงบอกว่า Sorry ครับ เพราะโครงการขายห้องไปหมดแล้ว แต่ถ้าใครยังอยากได้คอนโดมิเนียมที่ WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA สนใจคอนเซปต์การอยู่อาศัยในระดับมาตรฐาน Whizdom แนะนำว่าจะต้องไปหาซื้อห้อง Resale ซื้อต่อดาวน์จากคนอื่นแทนครับ ซึ่งที่ Lobby ของ WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA ก็จะมีเคาน์เตอร์ของบริษัทผู้ดูแลซื้อ-เช่าของเครือ MQDC ที่มีชื่อว่า The Estate Thailand ให้บริการช่วยเหลือหาห้องที่ถูกใจให้ด้วยครับ หรืออีกหนทางคือไปซื้อโครงการใหม่ๆ ของ MQDC ที่พร้อมจะเปิดอีกหลายโครงการทั่วกรุงเทพมหานคร ติดตามได้ที่ https://mqdc.com/whizdom/ หรือทาง www.Propholic.com  ก็ได้ครับ

ทำเลแสนสะดวกสบายของ WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA

ความดีงามของ WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA คงไม่ต้องกล่าวซ้ำอีกแล้ว เพราะบอกได้ว่าสะดวกสบายสุดๆ

จากสถานีรถไฟฟ้า เดินไปทางออกที่ 3

จากสถานีมองเห็น WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA ได้ทันที

สี่แยกรัชดา-ราชพฤกษ์

เดินทางไปแยกท่าพระที่มีสถานี MRT ท่าพระ interchange ได้

ทางเท้าระหว่างรถไฟฟ้าถึงหน้าโครงการ สวยงาม ร่มรื่น

ถึงแล้ว

ใกล้รถไฟฟ้าตลาดพลู 100 เมตร

ใกล้สี่แยกจุดตัดระหว่างถนนสำคัญ 2 สาย ได้แก่ถนนรัชดาภิเษกซึ่งเป็นถนนวงแหวนชั้นในกรุงเทพและถนนราชพฤกษ์ซึ่งเป็นถนนวงแหวนชั้นนอกกรุงเทพ ทำให้จะไปไหนมาไหนก็สะดวก

ภายนอกของอาคาร WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA

ป้ายหน้าโครงการ WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA

มีทางเดินเข้า

ตรงข้าม WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA มีห้างสรรพสินค้า The Mall ท่าพระ

ถัดจากโครงการไปมีป้ายรถเมล์ติดกับสะพานลอย

สะพานลอย

เดินข้ามไป The Mall

มี supermarket

ร้านอาหารเพียบ

บริการต่างๆ

ขนม อาหาร มาครบ

ศูนย์อาหารก็มี อุดมสมบูรณ์มาก

โครงการ WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA ติดถนนใหญ่

ประตูทางเข้าก่อนเข้าสู่Grand Lobby

สวนด้านหน้าโครงการ รื่นรมย์ดี

อนาคตด้านล่างโครงการจะมีร้านค้า

สีของอาคารใช้โทนเทาอมเขียวเข้ม ทำให้เกิดความรู้สึกสุขุม หรูหรา และผสมผสานความเป็นธรรมชาติ

ทางเดิน บริเวณชั้นล่างก่อนเข้าสู่อาคาร ที่จำลองเส้นทางในบ้านสวนให้บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติของย่านนี้ อนาคตต้นไม้จะเติบโตขึ้นเป็นอุโมงค์เขียวครึ้ม

มีลานจอดรถสำหรับ Visitor ด้านล่างอาคารด้วย

Facility ต่างๆ ใน WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA

Grand Lobby อันโอ่โถงสร้างบรรยากาศเหมือนอยู่ในบ้านสวนหลังบ้านขนาดใหญ่ มี sculpture จำลองรูปทรงของต้นไม้จัดวางและมี Lighting Object เป็นเส้นสายเรียงรายลงมาเสมือนกิ่งดอกงอกใบจากตัวต้น สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ อยู่อาศัยแล้วเจริญเติบโต

มีเฟอร์นิเจอร์สีสันสวยงามที่ให้อารมณ์เข้าถึงธรรมชาติ

เคาน์เตอร์ให้บริการด้านซื้อ-ขาย-เช่าอสังหาริมทรัพย์

เบอร์โทรติดต่อตามภาพครับ

โซน mail box ที่สว่างสดใสสวยงาม

ออกแบบเป็นทางเดินวนเป็นรูปตัว O จำลองประสบการณ์เหมือนเดินล้อมรอบลำต้นไม้ขนาดใหญ่กลางป่า

ตู้จดหมายกว้าง ใส่สิ่งของขนาดใหญ่กว่า A4 ได้สบาย

โซน Sky facility บนชั้น Roof top

จุดรับลมชมวิว เทควิวแบบนี้ได้

Sky Tunnel Garden อุโมงค์ต้นไม้ ถ้าต้นไม้เจริญเติบโตปีนไต่ซุ้มเหล็กน่าจะสวยมาก

ทางเดินที่ให้ความเงียบสงบ

ผ่อนคลายกับพื้นที่สีเขียวแนวตั้ง

เดินจากทางเดินเมื่อสักครู่ เข้ามาสู่ห้อง sky lounge

ออกแบบเป็น Glass House Sky Lounge ที่สวยงาม

มีโซฟานั่งพักชมวิวมองเห็นเมืองอันกว้างไกล มี Vertical Garden และโต๊ะนั่งทำงาน มีเก้าอี้หูกระต่ายเสมือนเราอยู่ดินแดินเทพนิยาย

Co-working space บรรยากาศร่มรื่นย์เหมือนนั่งใต้ต้นไม้ มีชั้นบนเป็น Champaign Lounge ชมวิวเมืองและมองเห็นวิวแม่น้ำได้ด้วย ช่วยผลักดันความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจให้เกิดขึ้นง่ายได้ในที่นี่ พร้อมให้บริการ Wifi และ E-library

โถงลิฟต์ที่มีวัสดุตกแต่ง

ลิฟต์เลือกใช้แบรนด์ Schindler

การตกแต่งแสงไฟภายในลิฟต์

วิวจากชั้นดาดฟ้าสวยมากครับ

พื้นที่ส่วนกลางชั้น 6 จากโถงลิฟต์จะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ประกอบไปด้วยฝั่งสวนและฝั่งสระ

สวน Greenery Courtyard สวนสวยๆ จำลองแปลงผักร่องสวนพืชพรรณในสมัยก่อนให้ออกมาดูทันสมัย มีลำธารจำลองและน้ำไหลให้เกิดเสียงที่ไพเราะ พืชที่เลือกมาปลูกก็สามารถใช้งานได้ด้วยเช่น ว่านหางจระเข้สำหรับเป็นสมุนไพรรักษาแผลน้ำร้อนลวก

ฝั่งสระว่ายน้ำ

มีพื้นที่สวนสีเขียวและทางเดิน

ทางเดินและเก้าอี้นั่งพักผ่อน

สระว่ายน้ำชมวิวเมือง วิวรถไฟฟ้า และเก้าอี้อาบแดด

ภายในห้องกระจกนั้นคือ Pool Bar

Pool Bar ประยุกต์แนวคิดชานบ้านริมน้ำสำหรับพักผ่อนยามเย็น ออกแบบ Lounge ให้เหมือนยื่นเข้าไปในสระว่ายน้ำ มีเคาน์เตอร์บาร์สำหรับปาร์ตี้ริมสระช่วงกลางคืน ส่วนช่วงกลางวันก็นั่งพักผ่อนได้

เดินขึ้นบันไดมาพบกับ fitness เครื่องออกกำลังมากมายหลายแบบ

ห้องน้ำส่วนกลางอันแสนหรูหราและสวยงาม

พื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการนี้ออกแบบให้ใช้งานได้ดี มีฟังก์ชั่น ออกแบบให้เข้ากับบริบทความเป็นธรรมชาติของย่านตลาดพลู มีพื้นที่สีเขียวค่อนข้างเยอะ และมี roof top facility ที่สร้างความโดดเด่นและเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการได้ดี เหมาะสมกับความเป็นคอนโดมิเนียม Luxury ในราคาที่น่าดึงดูดใจ

ห้องตัวอย่างในโครงการ WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA

ปัจจุบันห้องตัวอย่างของโครงการ WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA มีให้ชมแค่ห้องเดียวคือ 2 Bedroom ขนาด 59.95 ตร.ม.

โถงทางเดินภายในชั้นพักอาศัย กว้างขวาง ไฟ LED ส่องสว่างสวยงาม

ห้องตัวอย่าง

เปิดประตูห้อง Digital Door Lock เข้ามา

พบกับโถงหน้าห้อง วางเฟอร์นิเจอร์ตู้เก็บของ และวางของกระจุกกระจิกก่อนออกจากบ้าน และมีทางเข้าห้องน้ำกลาง

เดินเข้ามาอีกนิดจะเป็นโซนนั่งเล่น กินข้าว

แอร์มีให้โซนนั่งเล่น 1 เครื่อง

โซฟา

ชิลล์ๆ

มุมวางทีวี

เชื่อมต่อกับระเบียงกว้าง

ระเบียงสามารถวางเครื่องซักผ้าได้

ระเบียงอยู่มุมห้อง เทควิวได้กว้างมากกว่า 180 องศา

ระยะห่างระหว่างโซฟาและทีวีค่อนข้างกว้าง

กระจกหน้าต่างขนาดใหญ่ รับชมวิวได้เต็มที่

จุดวางตู้เย็นและพื้นที่ชุดครัว

ครัวมีหน้าต่างเล็กๆ สำหรับมองวิวภายนอกด้วย

ตู้และลิ้นชักชุดครัวเปิดออกได้แบบนี้

ที่เก็บของมากมาย และตู้ด้านบนจะเป็นช่องรวมอุปกรณ์เชื่อมต่อทั้งอินเทอร์เน็ต และ Gateway สำหรับระบบ MQDC Home Intelligent System

แถมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน ปลั๊กไฟ

เป็นห้องที่อเนกประสงค์ ทำครัว นั่งเล่น กินอาหาร สารพัดกิจกรรม

Multi-funcition room จริงๆ

จัดเป็นโต๊ะกินข้าวแบบนี้ก็ได้

เดินเข้ามาดูห้องนอนเล็ก หัวเตียงหันไปทางทิศเหนือ

วางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้

จริงๆ ห้องนี้ออกแบบเป็นห้องทำงานก็ดีครับ

หน้าต่างบานใหญ่ ชมวิวเมืองได้ไกลสุดตา

หน้าต่างแบบบานกระทุ้ง ปลอดภัยในการใช้งานดีครับ

มีตู้เสื้อผ้าให้ด้วย

เดินข้ามมาที่ห้องนอน master bedroom กันบ้าง

สามารถวางทีวีตรงนี้ได้

กระจก 2 ด้านเลยครับ ชมวิวเมืองได้เต็มที่

ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ Built-in เต็มความสูงของห้อง

การออกแบบภายในตู้เสื้อผ้า สามารถแขวน Dress ยาวได้

หัวเตียงห้องนอน master bedroom หันไปทางทิศตะวันออก

ระยะห่างดูทีวีจากบนเตียง

ทางเดินเข้าห้องนอนใหญ่

หน้าต่างบานใหญ่มาก มีส่วนที่เปิดออกได้เป็นบานกระทุ้ง

เป็นห้องนอนที่กว้างทีเดียว

กระจกเข้ามุม

ติดม่านได้เพื่อความเป็นส่วนตัวยามค่ำคืน

ห้องน้ำ Master Bathroom จุดเด่นจะมีหน้าต่างเล็กๆ ระบายอากาศ

พื้นที่ shower box จุดเด่นตรงที่วางของมีหลอดไฟติดตั้งไว้ด้วย

ก๊อกน้ำใช้แบรนด์ตามภาพ

หน้าต่างระบายอากาศ ดีมากๆ

ธรณีระหว่างโซนเปียกและโซนแห้ง

ธรณีประตูระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำ

โถสุขภัณฑ์และปุ่มกดขนาดใหญ่สะใจ ไม่ต้องเอานิ้วเล็กๆ จิ้มแล้วครับ

อ่างล้างมือและชั้นวางของ

แบรนด์อ่างล้างมือที่เลือกใช้

กระจกฉากกั้นอาบน้ำ แขวนผ้าได้

กระจกเงา

สวิตช์ไฟแบรนด์ตามภาพครับ

อุปกรณ์ Multi Sensor สำหรับเชื่อมต่อกับระบบ Home Intelligent System ในการเปิดไฟส่องสว่างโซนต่างๆ ในห้องต่างๆ เช่น สั่งปิดไฟโซนครัว เปิดโซนหน้าห้องน้ำ เป็นต้น และสามารถทำได้อีกหลายๆ อย่าง เช่นเป็นเครื่องวัดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ และตรวจจับความเคลื่อนไหว ตามที่เขียนไว้ข้างต้น 10 อย่างครับ โดย Multi Sensor นี้จะมีในห้องนั่งเล่น และห้องนอนใหญ่ครับ

Scene Switch ที่สามารถควบคุมการเปิดปิดไฟทุกห้องได้ในแบบรีโมท

ระบบ ERV แลกเปลี่ยนอากาศเพื่อสุขภาพและประสบการณ์ในการพักผ่อนที่ดี

Digital Door Lock แบรนด์ YALE

ห้องน้ำกลาง อุปกรณ์ต่างๆ ครบถ้วน ออกแบบโทนสว่างดูเป็นธรรมชาติ อบอุ่น สะอาดตา

ที่ระบายน้ำออกแบบดี

ป้องกันเส้นผมลงไปอุดตัน และทำความสะอาดง่าย

ฝักบัวที่แถมมาให้ ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้

ช่องวางของที่มีไฟส่องสว่าง

สุขภัณฑ์แบบประหยัดน้ำ

อ่างล้างมือ

ก๊อกน้ำ

บันไดหนีไฟ

เจาะจุดเด่น  WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA

WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA นับว่าเป็นคอนโดมิเนียม High-rise สูง 37 ชั้นที่หรูหราที่สุดหนึ่งเดียวในย่านสถานีตลาดพลู ยกระดับเหนือกว่าใคร และมีสเปคที่ดีที่สุดในย่าน มีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลายและจุดเด่นตรงที่ Glass house sky lounge บนชั้น roof top ที่สูงที่สุดและมองเห็นวิวเมืองวิวแม่น้ำ ทำเลสะดวกสบายเพราะไม่กี่ก้าว 100 เมตรก็ถึงสถานีรถไฟฟ้าตลาดพลูและเดินข้ามสะพานลอยก็ถึงห้าง The Mall ท่าพระ โครงการออกแบบคำนึงถึงผู้ใช้งานทุกคนด้วย Universal Design และภายในห้องออกแบบให้อยู่สบายผ่านการค้นคว้าวิจัยพัฒนาผสานเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพเช่นแอร์แบบ VRV และเครื่องเติมอากาศ ERV พร้อมทั้งระบบ Home Intelligent System ครบวงจรเพื่อประสบการณ์อยู่อาศัยอย่างมีสุขภาพดีและปลอดภัย แถมประหยัดพลังงาน และสะดวกสบายไปพร้อมกัน

หนึ่งในการออกแบบ Universal Design

WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA มีคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในย่านใกล้เคียงกันหลายโครงการแต่เมื่อเทียบถึงวัสดุ สเปค อุปกรณ์ และเทียบกับพื้นที่ส่วนกลางแล้วจะเห็นได้ว่า WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA คุ้มค่าและได้ความหรูหรากว่าในราคาไม่ต่างกันมาก และมีแนวโน้มที่ WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA จะมีอัตราการเติบโตของราคาที่ดีเพราะเป็นโครงการที่จับกลุ่มตลาดระดับบนของย่าน เป็นคอนโดมิเนียมที่ดูดีที่สุดในย่านตลาดพลู ทำให้กลุ่มคนที่มีรายได้สูงรสนิยมดีสนใจโครงการนี้มากกว่าหันไปซื้อโครงการอื่นๆ รอบข้างที่มักจะเป็นระดับ Main Class ซะส่วนใหญ่ และ supply กลุ่ม Real Luxury Condominium ในย่านตลาดพลูมีแค่ WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA โครงการเดียวที่ตอบสนองตลาดระดับนี้ จึงเรียกได้ว่ามีคู่แข่งน้อยหรือไม่มีคู่แข่งเลยในปัจจุบัน

สนใจโครงการ WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA

กรุณาติดต่อที่ฝ่ายขายที่ Lobby ของโครงการ WHIZDOM STATION RATCHADA-THAPRA ชั้น 1

Location ใน Google Maps https://goo.gl/maps/WtTUePp1kLu

แผนที่

ติดต่อ โทรศัพท์ 1265

เว็บไซต์ http://bit.ly/thapraprop