ViLLE 168 บางหว้า สไตลิสต์คอนโด ราคาประหยัด เพื่อคนรุ่นใหม่ ติด ม.สยาม ใกล้รถไฟฟ้าบางหว้า

เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาทาง LPN ซึ่งเป็นดีเวลลอปเปอร์ที่มีภาพลักษณ์ของการเป็นผู้นำในการพัฒนาโครงการคอนโดราคาประหยัด บนแนวคิดชุมชนน่าอยู่ได้มีการประกาศแผนธุรกิจใหม่ โดยเน้นในเรื่องของการปรับตัวเพื่อมุ่งเป้าไปจับกลุ่มเป้าหมายใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Young Generation ที่กำลังจะเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญในอนาคต ซึ่งแนวทางการสร้างแบรนด์ใหม่ภายใต้แบรนด์ก็คือเน้นไปที่การพัฒนาโปรดักส์ ให้มีความเป็น Livable Home มีความน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานภายในห้อง พื้นที่ส่วนกลาง ฯลฯ เพื่อให้เป็นโครงการที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละทำเล และในปีนี้ LPN ก็จะมีการ Re-design และ Re-branding ภายใต้แบรนด์ “168” ที่เป็นการออกแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในยุคโควิดนี้ และเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละโครงการ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่ม First Jobber รวมไปถึงกลุ่ม Startups โดยหากเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างเข้าใจง่ายๆ รหัสแบรนด์ 168 จะถูกนำมาใช้กับทุกโปรดักส์ของ LPN ทั้ง คอนโด บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม โดยจะเป็นโครงการที่พัฒนาภายใต้คอนเซ็ปท์ Stylish Smart Living อันประกอบด้วย 3 แกนหลักคือ Stylish Design, Smart Place และ Livable Life  ซึ่งสำหรับกลุ่มคอนโด โครงการที่มีการนำแบรนด์ 168 มาใช้เป็นแห่งแรกได้แก่ Place 168 ที่ปิ่นเกล้าซึ่งเป็นกลุ่มคอนโดในเซกเมนท์พรีเมียม และในตอนนี้ก็ถึงคิวของ ViLLE168 Bang Wa ซึ่งเป็นกลุ่มคอนโดในเซกเมนท์ Economy ราคาประหยัด

ทำเลบางหว้าในปัจจุบัน มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณจุด Interchange ของรถไฟฟ้าที่สายสีเขียวและสายสีน้ำเงินตรงสถานีบางหว้า ทำให้ผู้คนที่อยู่ในละแวกนี้มีตัวเลือกในการเดินทางเพิ่มขึ้น และยังเป็นทำเลที่สามารถเชื่อมต่อได้หลายย่าน เดินทางออกนอกเมืองสะดวกด้วยถนนหลายสาย อย่างถนนราชพฤกษ์ ถนนกาญจนาภิเษก ถนนกัลปพฤกษ์ ถนนพุทธมณฑลสาย 1 และถนนบรมราชชนนี เมื่อมีการมาของโครงการรถไฟฟ้า ทำเลนี้ก็เป็นที่จับตามองเป็นอย่างมาก ด้วยการเดินทางที่สะดวกมากขึ้น ใช้เวลาไม่นานก็เข้าเมืองได้สบาย พร้อมทั้งอยู่ใกล้ทั้งสถานศึกษา โรงพยาบาล และมีชุมชนอื่นๆ โดยรอบ จึงทำให้มีโครงการคอนโดมิเนียมจากหลายรายเริ่มเข้ามาพัฒนาในทำเลนี้เพิ่มขึ้น มีทั้งโครงการที่สร้างแล้วเสร็จ และโครงการที่กำลังทำการก่อสร้าง ซึ่งล้วนแต่ได้รับการตอบรับจากกลุ่มคนวัยทำงานที่ใช้รถไฟฟ้าไปทำงานในย่านสีลม สาทร ในขณะที่ตัวกลุ่มนักศึกษาที่อยู่โดยรอบบริเวณนี้ก็ให้ความสนใจในการเช่าห้องอย่างต่อเนื่องหมุนเวียนกันทุกปีเนื่องจากโดยรอบมหาวิทยาลัยนั้น ส่วนใหญ่มักจะมีแต่ตัวเลือกอย่างหอพัก อพาร์ทเม้นท์ ที่ค่อนข้างจะสร้างมานานแล้ว โดยหากมีคอนโดใหม่โครงการไหนที่มีการออกแบบเลย์เอาท์ห้องดีๆ ราคาไม่แพง และสามารถทำค่าเช่าได้ในราคาไม่เกินหมื่นต้นๆก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับกลุ่มนักศึกษาที่มีพฤติกรรมการอยู่อาศัยแบบแชร์ห้องกันหลายคนมากกว่าอยู่คนเดียว ซึ่งในปัจจุบันคอนโดส่วนใหญ่ที่พัฒนาอยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบางหว้าก็มักจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงเกินไป จากการที่เป็นโครงการสูงติดถนนใหญ่ ติดรถไฟฟ้า ซึ่งอาจจะไม่ตอบโจทย์กับงบประมาณที่ค่อนข้างจำกัดของดีมานท์ส่วนใหญ่ในย่านนี้ แตกต่างจากคอนโด ViLLE168 Bang Wa (วิลล์ 168 บางหว้า) ซึ่งมีการวางตำแหน่งทางการตลาดและพัฒนารูปแบบโครงการให้เข้ากับความต้องการของคนในพื้นที่มากที่สุด เพื่อให้เป็นสไตลิสต์คอนโดที่มีห้องขนาดเล็กแต่มากประโยชน์ใช้สอยในราคาสุด Affordable ใครๆก็ซื้อได้

รวมความน่าสนใจของโครงการ ViLLE 168 Bang Wa

1. ดีไซน์ทันสมัยกว่า พร้อมมอบฟังก์ชันให้คุณอยู่สบายเหนือใคร ViLLE 168 Bangwa เป็น Stylish Smart Living ที่มีองค์ประกอบครบทั้ง 3 แกน ได้แก่ Stylish Design, Smart Place และ Livable Life บนราคาที่ประหยัดที่สุดในย่าน BTS/MRT บางหว้า เหมือนกับเป็นเวอร์ชั่นที่อัพเกรดจาก Lumpini Ville มาเพื่อจับกลุ่มลูกค้าหน้าใหม่ ด้วยดีไซน์ที่มีความแปลกใหม่ ต่างจากคอนโดลุมพินีที่เคยเห็นมาก่อน ให้เป็นคอนโดมิเนียมที่มีการออกแบบที่น่าอยู่ มีพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบทุกการใช้ชีวิตสมาร์ท และอยู่ในทำเลที่รองรับการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายของทุกคน

2. ที่ตั้งโครงการที่แม้จะไม่ได้อยู่ริมถนนใหญ่เพชรเกษม แต่ก็มีความได้เปรียบตรงสามารถเข้าออกผ่านทางถนนใหญ่ได้ 2 เส้นทาง ทั้งจากจากถนนเพชรเกษม ผ่านทางซอยเพชรเกษม 36 ระยะทาง 800 ม. และจากถนนราชพฤกษ์ ที่ซอยราชพฤกษ์ 5 ระยะทาง 500 ม. ใกล้สถานีรถไฟฟ้า Interchange สายสีเขียวและสายสีน้ำเงิน ที่สถานีบางหว้าเพียง 800 ม. สะดวกทั้งผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวและใช้รถไฟฟ้าในการเดินทาง

3. เป็นคอนโดที่ใกล้กับ ม.สยาม จึงมีการวางคอนเซ็ปท์ให้เป็นในสไตล์ Campus คอนโด มีพื้นที่ส่วนกลางตอบโจทย์ชาวมหาลัยที่หลากหลาย มีการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้เป็น Smart Place น่าอยู่ น่าใช้งาน ไว้รองรับลูกบ้านมากมาย ทั้ง Passive Zone และ Active Zone กระจายตัวอยู่ทั่วโครงการถึง 20 โซน ไม่เอาส่วนกลางมากระจุกรวมกันภายในที่เดียว ให้คุณได้ใช้เวลาว่างจากการเรียน การทำงานไปกับส่วนนี้ได้อย่างเต็มที่ และพื้นที่จอดรถมากถึง 32% รอบโครงการ

Passive Zone

Passive Zone

ส่วนกลางถูกโอบล้อมไปด้วยอาคาร 3 อาคาร คือ A, B และ C ให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและเป็นส่วนตัวจากคนด้านนอกโครงการ

Camping Zone อยู่ใน Passive Zone ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมกลางแจ้งที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวบนพื้นที่ของโครงการ

Pool ที่อยู่ใน Active Zone สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางโครงการและล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ

4. ห้องขนาดเล็กสตูดิโอ – 1 นอน แต่เป็นสไตล์ Compact ด้วยการออกแบบ Layout ที่ชาญฉลาด มอบ Extra Space ให้ในทุก Type เพื่อให้ตอบโจทย์ Passion ในการใช้ชีวิตของแต่ละคน เช่น ห้อง 1 ห้องนอน เป็นห้องหน้ากว้างที่ไม่เคยเห็นจากที่อื่น มีส่วนพื้นที่ครัวใหญ่พิเศษแบบเข้ามุมติดหน้าต่าง หรือห้องสตูดิโอที่เป็นห้องแบบแนวลึกทำให้สามารถวางเตียงคู่กันได้ และที่มียังเหลือที่พอให้วางโต๊ะทำงานชิดหน้าต่างแบบ Bay Window 1 ที่ กับปลายเตียงอีก 1 ที่

ViLLE 168 Bang Wa (วิลล์ 168 บางหว้า) จากบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low-Rise ขนาด 8 ชั้น 4 อาคาร A 140 ยูนิต, B 245 ยูนิต, C 245 ยูนิต และ D 245 ยูนิต จำนวน 875 ยูนิต บนพื้นที่ดินขนาด 9-1-33.80 ไร่ ที่ตั้งโครงการอยู่ที่ซอยเพชรเกษม 36 แยก 1 ถนนเพชรเกษม ที่จอดรถ 281 คัน เฉลี่ย 32% มีห้องให้เลือก 2 แบบ คือ Studio ขนาด 25.5 – 29.5 ตารางเมตร และ 1 Bedroom ขนาด 33.5 – 35 ตารางเมตร

Master Plan

โครงการแบ่งออกเป็น 4 อาคาร โดยอาคาร A, B และ C อยู่ในโซนเดียวกันติดกับส่วนกลางที่เป็น Active Zone ส่วนอาคาร D จะแยกออกไป อยู่ใกล้กับ Passive Zone และใกล้กับ ม.สยาม เพียง 200 ม. ถนนรอบโครงการกว้าง 12 ม. ที่จอดรถในโครงการจะมีช่องจอดให้รอบโครงการ ไม่มี Auto Parking และชั้นจอดรถใต้ดิน

ที่ตั้งโครงการและ Sale Gallery

เป็นโครงการที่อยู่ในทำเลที่สะดวกต่อคนที่เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวและคนที่ใช้บริการของรถไฟฟ้า เนื่องจากโครงการสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง โดยโครงการอยู่ในซอยเพชรเกษม 36 แยก 1 ใกล้กับประตูหลังของ ม. สยาม ในระยะทาง 200 ม. และสามารถทะลุออกไปยังถนนราชพฤกษ์ได้ พร้อมทั้งยังใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีน้ำเงินที่สถานีบางหว้า เป็นสถานี Interchange ทำให้สามารถเชื่อมต่อไปยังย่านอื่นได้ง่ายและคำนวณเวลาเดินทางได้อย่างแม่นยำ

Sale Gallery ติดกับถนนเพชรเกษม ใกล้ซอยเพชรเกษม 36/1

สังเกตขวามือก่อนถึง Sale Gallery จะเห็นปั๊มน้ำมัน Esso ที่อยู่ติดกับรั้วของ ม.สยาม

เป็นทำเลศักยภาพที่สามารถเชื่อมต่อได้หลายย่าน เดินทางออกนอกเมืองสะดวกด้วยถนนหลายสาย อย่างถนนราชพฤกษ์ ถนนกาญจนาภิเษก ถนนกัลปพฤกษ์ ถนนพุทธมณฑลสาย 1 และถนนบรมราชชนนี

ซอยเล็กๆ ข้างปั๊ม สามารถเดินเข้า ม.สยาม ได้เช่นกัน

ทั้งตั้งของโครงการอยู่ในซอยเพชรเกษม 36 สังเกตป้ายสีแดงด้านบนที่มีชื่อวัดประดู่บางจาก

จากปากซอยเพชรเกษม 36 เดินถึงสถานีบางหว้าในระยะทางเพียง 200 ม. เท่านั้น

มีปั๊มน้ำมันและร้านกาแฟ Deli Café ให้แวะก่อนขึ้นรถไฟฟ้า

ทางเดินขึ้น MRT สถานีบางหว้า

BTS สถานีบางหว้า

บรรยากาศในซอยเพชรเกษม 36

ใครกลัวหาที่ตั้งโครงการไม่เจอ สามารถหาป้ายโครงการตามทางได้ ไม่หลงแน่นอน

เดินตรงไปไม่ไกลก็จะเจอกับประตูด้านหลังของ ม.สยาม

ม.สยาม

เดินข้ามสะพานคลองบางจากไปไม่เกิน 200 ม. ก็จะพบกับที่ตั้งโครงการ ViLLE 168

ที่ตั้งโครงการบนพื้นที่ขนาด 9-1-33.80 ไร่

วกมาที่ Sale Gallery ใครที่อยากเข้ามาดูห้องตัวอย่าง และขับรถยนต์มาเอง สามารถขับเข้ามาในซอยเพชรเกษม 36/1 ขับเข้ามาไม่ไกลจะเห็นพื้นที่จอดรถด้านหลัง Sale Gallery เพียงพอสำหรับจอดรถหลายคัน

ด้านใน Sale Gallery ตกแต่งด้วยสีสันสดใส แบบที่ไม่ค่อยได้เห็นจาก LPN มาก่อน ตรงตามคอนเซ็ปต์โครงการ คือ “Make Your Living In Colors” เติมแรงบันดาลใจ ใช้ชีวิตให้มีสีสัน

Sale Gallery ขนาด 2 ชั้น โดยชั้น 2 ตกแต่งเป็นห้องตัวอย่างขนาด 3 ห้อง

มีที่นั่งรองรับลูกค้าที่เข้ามาชมห้องตัวอย่างหรือสอบถามรายละเอียดของโครงการ

Floor Plan + Unit Plan

อาคาร 4 อาคาร มีจำนวนยูนิตรวมกันที่ 875 ยูนิต อาคาร B, C, D มีจำนวน 245 ยูนิต แต่จะมีอาคาร A ที่มียูนิตน้อยกว่าอาคารอื่นคือ 140 ยูนิต และอาคาร B เป็นรูปตัวแอลเพียงอาคารเดียวเท่านั้น โดยบริเวณชั้น 1 ของทุกอาคารจะเป็นส่วนของล้อบบี้และที่จอดรถ ชั้นพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 2 – 8 และห้องพักอาศัยก็จะคละกันไปในแต่ละอาคาร บางอาคารอาจจะมีแค่ห้องสตูดิโอ หรือบางอาคารอาจจะมีแค่ 1 Bedroom ใครที่กำลังเล็งห้องไหนไว้ก็สอบถามทางพนักงานขายได้เลย

อาคาร A

อาคาร A มีห้องด้วยกัน 2 แบบ คือ Studio ไซส์ใหญ่ที่มีขนาด 28.5 – 29.5 ตารางเมตร อยู่คอร์ทนอกอาคาร และห้องแบบ 1 Bedroom 34 – 35 ตารางเมตร อยู่คอร์ทในอาคาร มีจำนวนยูนิตต่อชั้นเพียง 20 ยูนิต ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวอย่างมาก

Unit Plan อาคาร A

ห้อง Studio แบบไซส์ใหญ่ เป็นห้องแนวลึก แบบครัวหน้าที่ปิดด้วยกระจกบานสไลด์เป็นสัดส่วน พื้นที่ในห้องนอนกว้าง สามารถใช้วางเดี่ยว 2 เตียงได้สบาย พร้อมทั้งยังมีพื้นที่ Bay Window ให้วางโต๊ะทำงาน โต๊ะอ่านหนังสือพร้อมมองวิวด้านนอกได้ด้วย

ห้อง 1 Bedroom เป็นครัวติดอากาศทุกห้อง กั้นห้องเป็นสัดส่วน Living Room และห้องน้ำจะอยู่บริเวณหน้าห้อง มีพื้นที่อเนกประสงค์ติดกับห้องน้ำเชื่อมไปยังห้องครัว สามารถใช้วางตู้โชว์หรือตกแต่งอย่างอื่นได้ตามใจชอบ

อาคาร B

อาคารรูปตัวแอลเพียงอาคารเดียวในโครงการ มีจำนวน 35 ยูนิตต่อชั้น มีห้องด้วยกัน 3 แบบ คือ Studio ขนาด 26 – 26.5 ตารางเมตร, Studio ไซส์ใหญ่ ขนาด 29 – 29.5 ตารางเมตร และ 1 Bedroom ขนาด 33.5 – 34.5 ตารางเมตร โดยห้อง Studio ขนาดปกติจะอยู่บริเวณคอร์ทนอกอาคารทั้ง ส่วนห้อง Studio ไซส์ใหญ่ และห้อง 1 Bedroom มีเพียง 2 ห้องต่อชั้น จะอยู่คอร์ทในอาคาร

Unit Plan อาคาร B

ในอาคารนี้มีห้อง Studio ทั้งแบบปกติคือ ขนาด 26 ตารางเมตร และ Studio ไซส์ใหญ่ ที่มีขนาด 29.5 ตารางเมตร แบบครัวหน้า บริเวณส่วนห้องนอนกว้าง จะใช้วางเตียงเดี่ยว 2 เตียง หรือวางเตียงคิงไซส์พร้อมมุมนั่งเล่นข้างๆ กันก็ยังได้สบาย พร้อมพื้นที่ Bay Window ให้คุณได้ตกแต่งและปรับฟังก์ชั่นได้ตามใจชอบ

1 Bedroom ของอาคารนี้ เป็นห้องหน้ากว้าง แยกห้องครัว Living Room และห้องนอนอย่างเป็นสัดส่วน Living Room กว้างอยู่ติดกับระเบียง และห้องน้ำอยู่ในห้องนอน

อาคาร C

มีจำนวน 3 ยูนิตต่อชั้น และถือว่าเป็นอาคารที่มี Type ห้องเยอะที่สุดถึง 4 แบบ คือ Studio ขนาด 25.5 – 26.5 ตารางเมตร, Studio ไซส์ใหญ่ขนาด 28.5 – 29 ตารางเมตร, 1 Bedroom ขนาด 35 ตารางเมตร มี 2 ยูนิตชั้น และ 1 Bedroom ขนาด 34.5 ตารางเมตร ที่มีเพียง 1 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น โดย 1 Bedroom เป็นห้องมุมพร้อมทั้งบริเวณห้องนอนก็มีกระจกเข้ามุมให้มองวิวด้านนอกได้กว้างขึ้น

Unit Plan อาคาร C

เรียกว่าอาคาร C มีห้องหลากหลายแบบมากกว่าอาคารอื่น ทั้ง Studio ปกติและแบบไซส์ใหญ่ เป็นห้องแบบแนวลึกแต่ไม่แคบ ครัวหน้าที่กั้นประตูกระจกบานสไลด์ให้ พร้อมพื้นที่ในห้องนอนกว้าง สามารถวางโต๊ะทำงานและโซฟาทำเป็นมุมพักผ่อนได้

Studio ไซส์ใหญ่

1 Bedroom มีทั้งแบบหน้ากว้างและแบบปกติ โดยมีสัดส่วนของ Living Room และห้องนอนกว้าง ให้คุณได้ใช้พื้นที่ส่วนนี้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งพื้นที่ส่วนครัวเป็นแบบติดอากาศ ทำให้กลิ่นอาหารไม่เข้ามารบกวนยังส่วนอื่นของห้อง โดย 1 Bedroom มีเพียง 3 ห้องต่อชั้นเท่านั้น แถมยังเป็นห้องมุมด้วยนะ

อาคาร D

เป็นอาคารรูปตัวไอ มีความเป็นส่วนตัวเนื่องจากอาคารแยกตัวออกมาจากอาคารอื่น มีพื้นที่ติดกับรั้วของ ม.สยาม มีห้องทั้งหมด 3 แบบ คือ Studio ขนาด 25.5 – 26.5 ตารางเมตร, Studio ไซส์ใหญ่ขนาด 28.5 – 29 ตารางเมตร และ 1 Bedroom ขนาด 34.5 ตารางเมตร แบบหน้ากว้าง ที่มีเพียง 3 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น

Unit Plan อาคาร D

ห้อง Studio ที่อยู่ในอาคาร D มีให้เลือกหลายขนาด โดยจะเป็นห้องแบบครัวหน้า ที่ถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์แบบเป็นสัดส่วน พื้นที่ห้องนอนกว้าง วางเตียงคิงไซส์และเตียงเดี่ยว 2 เตียงได้สบาย พร้อมพื้นที่ Bay Window ให้ห้องรับแสงธรรมชาติได้ตลอดทั้งวัน

ห้อง 1 Bedroom เป็นห้องหน้ากว้าง แบบครัวปิดติดอากาศและติดกระจกบานสไลด์ให้ พื้นที่ Dining อยู่บริเวณหน้าห้อง เชื่อมต่อไปยัง Living Room ที่อยู่ติดระเบียงหลังห้อง มีห้องนอนในห้องน้ำ

ห้องตัวอย่าง

ห้อง Studio ขนาด 26 ตารางเมตร โดยห้อง Type นี้ จะมีอยู่ในอาคาร B, C และ D จำนวนยูนิตเยอะที่สุดในอาคาร ประมาณ 18 – 25 ยูนิตต่อชั้น และจะอยู่โซนคอร์ทนอกอาคารทั้งหมด ในห้องให้ของแถมทั้งหมด 7 รายการ คือ Hob & Hood, Internet ฟรี 1 ปี, แอร์, ตู้เสื้อผ้า, เครื่องทำน้ำอุ่น และระบบ IOT

ป้ายหน้าห้องมีสีสันสดใส ตามคอนเซ็ปต์ของโครงการ

ประตูหน้าห้องติดตั้ง Digital Door Lock ให้

เข้ามาด้านในก็จะเห็นครัวเป็นอันดับแรก

ให้เคาน์เตอร์ครัวและตู้ด้านบนแบบเดียวกับห้องตัวอย่าง

เคาน์เตอร์ครัวท็อปด้วยลามิเนท และติดตั้ง Backsplash ให้

Hob & Hood แบรนด์ Mex ที่ทางโครงการแถมให้

อ่างล้างจากจากแบรนด์ Mex เช่นกัน

ตู้ด้านล่างมีลิ้นชัก เปิดเก็บของได้เยอะ

ฝั่งหน้าห้องน้ำที่ตรงข้ามกับครัว มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้า

โครงการ Built-in ช่องให้วางเครื่องซักผ้าจะใช้เป็นแบบฝาหน้าหรือฝาบนก็ได้ พร้อมชั้นวางด้านบนที่สามารถเก็บอุปกรณ์ซักผ้าได้

ห้องน้ำ

ให้อ่างล้างหน้าของ Charmer

ข้างกันเป็นโถสุขภัณฑ์ American Standard

ห้องอาบน้ำให้ Hand Shower แบบปรับระดับขึ้น-ลงได้ แต่ไม่ได้ติดตั้ง Shower Screen ให้

กั้นครัวและห้องนอนด้วยประตูกระจกบานสไลด์ ห้องนอนเพดานสูง 2.5 ม. ผนังแบบฉาบเรียบทาสีขาว ปูพื้นด้วย SPC ที่มีความแข็งแรงกว่ากระเบื้องยาง ทนร้อนไม่ลามไฟ และทำความสะอาดง่าย

เป็นห้องสตูที่สามารถวางเตียงเดี่ยวได้ถึง 2 เตียง ตอบโจทย์นักศึกษาอาศัยอยู่ด้วยกัน 2 คน พร้อมยังเหลือพื้นที่ด้านข้างให้วางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะวางของได้อีกด้วย

พื้นที่บริเวณปลายเตียงกว้าง วางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พร้อมโต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้งก็ยังได้

โต๊ะทำงานมุมนี้อยู่ติดกับประตูระเบียง วางโต๊ะพร้อมเก้าอี้ก็ไม่ทำให้อึดอัด

ถ้าในห้องอาศัยอยู่ด้วยกัน 2 คน แล้วต้องมีโต๊ะทำงานแยกส่วนตัว พื้นที่ Bay Window ก็สามารถวางโต๊ะทำงานได้เช่นกัน แถมได้นั่งมองวิวด้านนอกพร้อมกับทำงานไปด้วย

หน้าต่างเป็นกระจกบานสไลด์ ไม่ได้ติดตั้งม่านให้ เจ้าของห้องสามารถเลือกม่านได้ตามใจชอบ

ช่วงโปรโมชั่นจะแถมแอร์ 1 ตัว ติดตั้งให้บริเวณด้านบนประตูระเบียง

ประตูระเบียงแบบกระจกบานสไลด์

ระเบียงไม่แคบเกินไป สามารถยืนได้สบาย

แขวน CDU แอร์ไว้ด้านบน ไม่ได้ติดตั้งระแนงเหล็กบังสายตาไว้ให้

มุมมองจากระเบียงเข้ามาในห้อง เป็นห้องสตูที่มีพื้นที่กว้างพอสมควร วาง 2 เตียงได้ไม่อึดอัด สามารถอาศัยอยู่ 2 คนได้สบาย

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 33.5 ตารางเมตร ห้อง Type นี้ จะมีอยู่ในอาคาร B และ D เป็นห้องหน้ากว้าง มีเพียง 2 – 3 ยูนิต/ชั้นเท่านั้น แถมยังเป็นห้องมุมที่ได้วิวดีและมีความเป็นส่วนตัวอีกด้วย ในห้องให้ของแถมทั้งหมด 7 รายการ คือ Hob & Hood, Internet ฟรี 1 ปี, แอร์, ตู้เสื้อผ้า, เครื่องทำน้ำอุ่น และระบบ IOT

เปิดเข้าห้องก็จะเจอกับ Living Room ก่อน เป็นห้องหน้ากว้างที่ไม่ค่อยได้เห็นจากแบรนด์ LPN มากนัก ปกติจะเป็นห้องสตูหรือ 1 Bedroom แบบกะทัดรัดมากกว่า เมื่อห้องขนาด 34 ตารางเมตร เป็นแบบหน้ากว้างนั้น ทำให้ห้องดูกว้างและโล่งขึ้นไปอีก ดูมีพื้นที่ในห้องเยอะ ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยทั้งในเรื่องของการพักอาศัยและคนที่ชอบทำกิจกรรมต่างๆ ในห้อง

ห้องถูกแบ่งเป็นสัดส่วน เพดานห้องสูง 2.5 ม. ปูพื้นด้วย SPC ผนังฉาบเรียบทาสีขาว

ซ้ายมือโครงการปรับฟังก์ชั่นห้องให้เป็นเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหารและวางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งได้

ซึ่งห้องจริงจะเป็นพื้นที่โล่ง เจ้าของห้องสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ

หรือจะวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง ก็ยังได้

Built-in ส่วนนี้ให้เป็นตู้โชว์แบบบานใส หรือตู้เก็บของแบบบานทึบก็ดูดีไม่น้อย

ส่วนครัวซ้ายมือไม่ได้ติดตั้งประตูให้ เป็นห้องโล่งๆ แบบห้องตัวอย่าง

ให้เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L และชั้นเก็บของด้านบน มีที่วางเครื่องซักผ้าไว้ใต้เคาน์เตอร์

ท็อปเคาน์เตอร์ครัวเป็นลามิเนท และติดตั้ง Backsplash ให้

ลิ้นชักด้านล่างใช้เก็บของได้

ครัวติดกระจกบานสไลด์ให้ เป็นข้อดีอีกอย่างเวลาทำอาหารสามารถเปิดระบายกลิ่นได้

Living Room

ห้องนี้ให้แอร์ 2 ตัว ติดให้ที่ Living Room และห้องนอน

ระเบียงด้านนอกเป็นแนวยาว พร้อมราวกันตก

แขวน CDU แอร์ไว้ให้ด้านบนแบบนี้

พื้นที่ติดตั้งทีวี เนื่องจาก Living Room มีพื้นเยอะ สามารถติดตั้งชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ที่มีชั้นวางของด้านข้างได้

ห้องนอนและห้องน้ำ

ห้องนอนกว้าง วางเตียงคิงไซส์ได้สบาย

ให้หน้าต่างบานสไลด์ในห้องนอน แต่ไม่ได้ให้ม่าน

พื้นที่ข้างหัวเตียงใช้วางโต๊ะเล็กๆ ได้ทั้ง 2 ฝั่ง

ตู้เสื้อผ้าวางตำแหน่งปลายเตียง

ห้องน้ำสีขาวสว่าง

ให้กระจกบานใหญ่ พร้อมอ่างล้างหน้าของ Charmer

โถสุขภัณฑ์แบรนด์ American Standard

ให้ Hand Shower แบบปรับระดับขึ้น-ลงได้ แต่ไม่ได้ติดตั้ง Shower Screen ให้

สเตปตรงส่วนอาบน้ำ ไม่สูงมาก

ห้อง 1 Bedroom 34 ตารางเมตร ห้องจะมีอยู่ในอาคาร A และ D โดยอาคาร A จะมี 7 ยูนิต/ชั้น เป็นห้องคอร์ทในวิวสระว่ายน้ำ ส่วนอาคาร D มีเพียง 1 ยูนิต/ชั้น และยังเป็นห้องมุมอีกด้วย ในห้องให้ของแถมทั้งหมด 7 รายการ คือ Hob & Hood, Internet ฟรี 1 ปี, แอร์, ตู้เสื้อผ้า, เครื่องทำน้ำอุ่น และระบบ IOT

ประตูหน้าห้องติดตั้ง Digital Door Lock ให้ เพดานห้องสูง 2.5 ม. พื้นปูด้วย SPC

Living Room

ส่วนนี้ใช้วางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่งได้ พื้นที่ว่างด้านข้าง สามารถวางโต๊ะทานอาหารได้

หรือจะปรับให้เป็นมุมใช้ไลฟ์สดลงโซเชียลแบบห้องตัวอย่างก็ดีไม่น้อย

ห้องน้ำติดกับผนังทีวี

ห้องน้ำกว้าง แต่ไม่ได้ติดตั้ง Shower Screen ให้

ให้อ่างล้างหน้า Charmer และกระจกบานใหญ่แบบห้องตัวอย่าง

ส่วนอาบน้ำ ให้ Hand Shower แบบปรับระดับขึ้น-ลงได้

พื้นที่อเนกประสงค์หน้าห้องน้ำที่เชื่อมต่อครัวได้ จะ Built-in ตู้เก็บของ หรือปรับเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่ใช้งานอื่นๆ ได้ตามใจชอบ

ครัวไม่ได้ติดตั้งประตูให้

ให้เคาน์เตอร์แบบเดียวกับห้องตัวอย่างก่อนหน้านี้ ท็อปเคาน์เตอร์เป็นลามิเนท

และตู้ด้านบนเปิดเก็บของได้เยอะ

โครงการให้ Hob & Hood แบรนด์ Mex

ตู้ชั้นล่างมีลิ้นชักใช้เก็บของ

ครัวห้องนี้เป็นครัวแบบติดอากาศ สามารถเปิดระบายอากาศเพื่อลดกลิ่นเวลาทำอาหารได้

ระเบียงใหญ่ วางเครื่องซักผ้าที่ระเบียงได้

CDU แอร์แขวนไว้ด้านบน

มุมมองจากระเบียงผ่านส่วนครัวไปยังห้องน้ำ ครัวไม่แคบ ยืนทำอาหารพร้อมกัน 2 คนได้สบาย

ขวามือเป็นห้องนอน

ห้องนอนวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้

ติดตั้งหน้าต่างบานสไลด์แบบเดียวกับห้องตัวอย่าง แต่ไม่ได้ให้ม่าน

พื้นที่ข้างเตียงวางโต๊ะเครื่องแป้งแบบนี้ได้

ห้องนี้พิเศษตรงที่ได้ตู้เสื้อผ้า Built-in แถมมาด้วย โดยตู้เสื้อผ้าจะอยู่ปลายเตียง และให้เป็นหน้าบานสีขาว (กรุณาสอบถามกับพนักงานขายอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ)

ห้องนี้ให้แอร์ 2 ตัว ติดไว้ที่ Living Room และห้องนอน ซึ่งเป็นห้องที่มีการแบ่งสัดส่วนดี ได้ห้องนอนกว้าง Living Room กว้าง ทำให้สามารถนั่งเล่น ดูหนัง ฟังเพลง หรืออยู่ในส่วนนั้นได้ทั้งวัน อีกทั้งครัวที่ติดอากาศเหมาะสำหรับคนชอบทำอาหาร

สรุปจุดเด่นโครงการ ViLLE 168 Bang Wa

ViLLE 168 Bang Wa (วิลล์ 168 บางหว้า) เป็นคอนโดมิเนียมซีรีย์ใหม่ที่ดูสมัยกว่าแบรนด์ Lumpini Ville และอยู่ในกลุ่มเซกเมนท์ Economy ของ LPN ซึ่งแบรนด์ 168 เป็น Flagship Brand ของ LPN ที่เน้นในเรื่องของคอนเซ็ปต์ Stylish Smart Living และยังเน้นห้องขนาดเล็กแต่เป็นเลย์เอ้าท์หน้ากว้าง ที่มีพื้นที่ใช้สอยแบบ Extra Space ห้อง Studio แยกฟังก์ชั่นการใช้งานได้ดี จัดวางพื้นที่ทำงานแบบ Bay Window พร้อมวางเตียงคู่ได้ เหมาะกับกลุ่มคนซื้อลงทุนปล่อยเช่า นักศึกษา และกลุ่ม First Jobber ที่มองหาคอนโดราคาดีใกล้รถไฟฟ้า และยังเข้า-ออกจากถนนเส้นหลักได้ 2 เส้นทาง คือ ซอยเพชรเกษม 36 และซอยราชพฤกษ์ 5 ใกล้ทางเข้า ม.สยาม เพียง 200 ม. และสถานีบางหว้าที่เป็น Interchange 800 ม. เท่านั้น โดยโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานทั้ง Active และ Passive Zone กระจายตัวรอบโครงการ พร้อมบริการ Hi Speed Internet ครอบคลุมทั่วพื้นที่ส่วนกลาง

วิลล์ 168 บางหว้า (ViLLE 168 Bang Wa)

คอนโดใหม่บนทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวกตอบรับทุกกิจกรรม

เพียง 800 ม.* จากสถานีอินเตอร์เชนจ์ BTS – MRT บางหว้า

จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สาทร หัวลำโพง บางซื่อ) และสายสีเขียวเข้ม (สีลม สนามกีฬาฯ)

ทำเลดีเข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งถนนเพชรเกษม ซอย 36 และราชพฤกษ์ ซอย 5

ใกล้ ม.สยาม เพียง 200 ม.*

เปิดจองครั้งแรก เริ่ม 1.53 ล้านบาท*

ลงทะเบียนและนัดเข้าชมโครงการ เพื่อรับข้อเสนอพิเศษ

คลิก : https://bit.ly/3UNrWHT

สร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิตมีสีสัน อยู่เองก็ครบ ปล่อยเช่าก็คุ้ม

MAKE YOUR LIVING IN COLORS ออกแบบการใช้ชีวิตให้มีสีสัน น่าอยู่ พร้อมส่วนกลางตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ โดนใจคนรุ่นใหม่

รีชาร์จพลัง ด้วยพื้นที่ส่วนกลาง Indoor และ Outdoor Facilities จัดเต็มกว่า 20 รายการ

เติมเต็มความรู้สึกดีๆ ในทุกวัน Feel Good Space ที่ออกแบบให้คุณสนุกสนานในทุกพื้นที่

สร้างพื้นที่ส่วนตัว สร้างสรรค์ได้ตามใจ Live Work & Play ฟังก์ชันรองรับกิจกรรมที่หลากหลาย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ที่ตั้งสำนักงานขาย :  https://goo.gl/maps/hUFaD9ZnMHmkGkkJA

ที่ตั้งโครงการ : https://bit.ly/3CkZGFj

Call Center : 026896888​

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด