The Strand Thonglor

  

เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ


The Strand Thonglor ถูกพัฒนาขึ้นโดย บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (วันพ้อยท์ซิกซ์) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รุ่นใหม่ ร่วมกับ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ที่ออกแบบโครงการภายใต้แนวคิด “Essentially More” ที่สามารถตอบสนอง ความต้องการที่แท้จริงให้กับลูกบ้านอย่างรอบด้านมากที่สุด คือการออกแบบคอนโดที่เป็นมากกว่า ที่อยู่อาศัย และให้มากกว่าการพักอาศัยของผู้ที่เป็นเจ้าของ แต่เป็นคอนโดที่ Contribute ไลฟ์สไตล์ของย่านทองหล่อ ให้กับสังคมรอบข้างได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยในแบบชาวทองหล่อสมัยใหม่ ที่ซึ่ง Live - Eat - Work มาบรรจบกันในที่เดียว

เกริก บุณยโยธิน เมื่อ 8 January, 2019 เวลา 00.00 am

Prop score™: 4.2

คะแนนรีวิว: 0.0

0 รีวิว


ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา



    ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ

The Strand Thonglor

บริษัทผู้สร้าง

บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

สถานที่

ซอยสุขุมวิท 55

สถานีรถไฟ BTS

BTS ทองหล่อ Distance 30 m.

สถานีรถไฟใต้ดิน

-

Airport Rail Link

-

สถานี BRT

-

พื้นที่

1-2-46 ไร่

ชั้น

30 ชั้น รวมชั้นจอดรถอัตโนมัติ

ยูนิต

198 ยูนิต

ที่จอดรถ

ที่จอดรถอัตโนมัติ 204 คัน (103%)

ลิฟท์

2 Passenger Lifts + 1 Service Lift

สิ่งอำนวยความสดวก

Residential Lobby, The Playroom, Tutor room, The Clubhouse, The Living Room, Swimming Pool & Children’s Pool, Putting Green, Fitness & Meditation Studio, Changing Rooms & Sauna Rooms, Rooftop Terrace, สวน The strand,


    ประเภทยูนิต

ประเภท

Minimal Luxury/คอนโด High Rise/Luxury High Rise Condominium/CONDO/Luxury Condo/Luxury Residences

studio

-

1 bedroom

48.10-55.00 ตร.ม.

2 bedroom

2 ห้องน้ำ 73.00-90.60 ตร.ม.,

3 bedroom

-

Duplex

110.40 ตร.ม.

Penthouse

184.20 ตร.ม.

ประเภทอื่นๆ

-

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน

3 เมตร

ราคาเริ่มต้น / ตรม.

330,000 บาท/ตร.ม.

ราคาเริ่มต้น / ยูนิต

16.5 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง

n/a

Sinking Fund fee

n/a

สร้างเสร็จ

2021

เว็บไซต์

http://www.thestrandthonglor.com/

1265


เพื่อนบ้าน Street View


The Strand Thonglor ต้นแบบของคอนโดสไตล์ Minimal Luxury ลงตัวกับบริบทแวดล้อม พร้อมพื้นที่ Lifestyle Commercial เพียง 30 เมตรจาก BTS ทองหล่อ

 

“กรุงเทพฯเมืองแห่งสีสันที่ไม่เคยเงียบเหงา และไม่เคยหลับไหล” นี่คงเป็นวลีเด็ดจุดขายของเมืองกรุง ที่หลายๆคนไม่ว่าจะอยู่ในสายงานใด มักหยิบมาใช้เป็นคำโปรยให้กับการอ้างอิงมหานครแห่งนี้ แต่จะว่าไปมันไม่ได้มีพื้นที่เช่นคำโปรยในทุกที่ทั่วกรุงเทพฯ มีเพียงไม่กี่ย่านที่ฮิตติด Top ตลอดทั้งวันทั้งคืน และต่างมี character ของแต่ละพื้นที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นย่านไม่เคยหลับไหลในด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่คงต้องยกให้ย่านเก่าในเกาะรัตนโกสินทร์ แต่ถ้าจะพูดถึงย่าน CBD ที่ไม่หลับไหล ครบวงจรทั้งทำงาน กิน เที่ยว ปาร์ตี้ ในเมือง ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ก็คงหนีไม่พ้นย่านเอกมัย-ทองหล่อ ที่ถึงแม้ในอดีตที่ผ่านมาทองหล่ออาจ จะดูเป็นย่านที่ชีวิตงานกับชีวิตการพักผ่อนเป็นคู่ขนานกันกล่าวคือ ในอดีตย่านนี้ไม่ค่อยจะมีอาคารสำนักงานสักเท่าไหร่ เป็นเพียงแหล่งแฮงค์เอ้าท์ยามค่ำคืน

แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไป ก็เริ่มมีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่เกรดเอหลายแห่งเข้ามาตั้งในย่านนี้ ทั้ง Major Tower หรือ T-One รวมทั้งสำนักงานน้อยใหญ่ที่กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งพื้นที่ ทำให้เกิดการใช้งานของผู้คนที่เข้าออกพื้นที่จำนวนไม่น้อยในหลากช่วงเวลา ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน

และนอกจากการเป็นย่านสำนักงาน และย่านแฮงเอ้าท์ของเมืองแล้ว ทองหล่อ ยังเป็นย่านพักอาศัยที่เอื้อต่อไลฟ์สไตล์แบบครอบครัว เพราะทองหล่อ มีร้านอาหารมากมาย นานาชาติ คาเฟ่ คอมมูนิตี้มอลที่รายล้อม ให้เลือกใช้บริการได้อย่างหลากหลาย ทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ชื่อดังอย่าง เจ อเวนิว ซอยทองหล่อ 15 , Maze ทองหล่อ, FIFTY FIFTH Thonglor , มาร์เก็ต เพลส ซอยทองหล่อ 4, Eight Thonglor , Seen Space ซอยทองหล่อ 13, The Commons ซอยทองหล่อ 17 และยังมีfacilitiesระดับเมืองอย่างโรงพยาบาลระดับแนวหน้า สมิติเวช สุขุมวิท (สุขุมวิท 49) ที่โดดเด่นด้านบริการและเทคโนโลยีในการรักษาที่ทันสมัย รวมทั้งยังเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในประเทศไทยที่ผ่านการรับรองเป็นโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่–ลูก จากองค์การอนามัยโลก และองค์การยูนิเซฟ และคลินิกโรงพยาบาลอื่นๆรายล้อม เพื่อความอุ่นใจในการพักอาศัย

ด้วยปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้ย่านทองหล่อโดยสุขุมวิท 55 เป็นศูนย์กลางของ lifestyle การใช้ชีวิตคนเมืองที่มีสีสัน ตอบรับทุกการใช้ชีวิตในแบบฉบับเฉพาะตัว โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่มี lifestyle การใช้ชีวิตที่ฉีกกรอบจากรูปแบบเดิมๆ ทำให้พื้นที่จุดศูนย์กลางของย่านทองหล่อแห่งนี้ กลายเป็นพื้นที่หมายตาของนักลงทุน และเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งคอนโดและ Service Apartment ราคาแพง เพื่อรองรับกลุ่มคนที่หลากหลายในย่านทองหล่อแห่งนี้

 

เมื่อมีความต้องการสูง ที่ดินหลายแปลงของทองหล่อก็เริ่มถูกจับตามองและพัฒนาโครงการฯ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้คนที่ถวิลหาย่านที่มีสีสันของไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายแห่งนี้ จนราคาที่ดินจะพุ่งขึ้นสูงมาก ทำให้หลายโครงการเริ่มขยับไปทางฝั่งซอย 36-38 และ 57 รวมทั้งในย่านเอกมัยแทน และที่ดินบนทองหล่อเองก็เรียกว่าหาผืนใหญ่เพื่อพัฒนาโครงการได้น้อยเต็มที

 

และเป็นที่รู้กันดีว่าคอนโดส่วนใหญ่เกือบ 100% บนย่านทองหล่อเต็มไปด้วยคอนโดระดับ Super Luxury ที่มีราคาขายต่อตรม.เกินกว่าสามแสนบาท จนเรียกได้ว่าทองหล่อถูกตีตราเป็นแบรนด์ และเป็นของหาง่ายในย่านนี้ ดังนี้โครงการ Super Luxury แต่ละโครงการจึงต้องมีการพิถีพิถันในการออกแบบพัฒนาโครงการให้ตรงจริตกลุ่มเป้าหมายที่ตัวเองวางไว้ ให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างความแตกต่าง และความเด่นเฉพาะตัวของแต่ละโครงการ บางโครงการเน้นห้องเล็ก เพื่อจับกลุ่มตลาด Luxury Afforadable แต่ทำเลอาจจะอยู่ในทำเลรองของทองหล่อ เช่นในซอยย่อยทองหล่อ 10 และ 20  บางโครงการก็เน้นที่ทำเลติดบันไดรถไฟฟ้า แต่ส่วนใหญ่คอนโดที่สร้างและยึดทำเลติดรถไฟฟ้าได้ส่วนใหญ่เป็นฝั่งซอยสุขุมวิท 36 – 38 หรือฝั่งตรงข้ามทองหล่อ หรืออาจกล่าวได้ว่าไม่ได้อยู่ในทำเลฝั่งทองหล่อที่แท้จริง

 

แต่มีเพียง 1 โครงการเท่านั้น ที่นอกจากจะจับจุดเด่นในเรื่องของทำเลบนพื้นที่ใจกลางทองหล่อที่แท้จริงแล้ว ยังติดรถไฟฟ้าทองหล่อ เพียง 30 เมตรจาก BTS ทองหล่อ เป็นทำเลที่ใกล้ BTS กว่าโครงการใดในซอยสุขุมวิท 55 และยังมีจุดเด่นอีกสองอย่างคือเป็นโครงการ Mixed Use และการรับประกันยาวนานถึง 30 ปี นั่นคือโครงการ The Strand Thonglor

The Strand Thonglor ถูกพัฒนาขึ้นโดย บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (วันพ้อยท์ซิกซ์) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รุ่นใหม่ ร่วมกับ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ที่ออกแบบโครงการภายใต้แนวคิด “Essentially More” ที่สามารถตอบสนอง ความต้องการที่แท้จริงให้กับลูกบ้านอย่างรอบด้านมากที่สุด  คือการออกแบบคอนโดที่เป็นมากกว่า ที่อยู่อาศัย และให้มากกว่าการพักอาศัยของผู้ที่เป็นเจ้าของ แต่เป็นคอนโดที่ Contribute ไลฟ์สไตล์ของย่านทองหล่อ ให้กับสังคมรอบข้างได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยในแบบชาวทองหล่อสมัยใหม่ ที่ซึ่ง Live – Eat – Work มาบรรจบกันในที่เดียว ที่นอกจากการนำเสนอพื้นที่คอนโดพักอาศัย ยังนำเสนอพื้นที่ Commercial Lifestyle ขนาดใหญ่ ติดซอยสุขุมวิท 55 ที่นอกจากจะรักษาภาพจำของย่านการค้าทองหล่อ แหล่งไลฟ์ไตล์ที่ในอดีตที่คุ้นเคย ซึ่งนับตั้งแต่กระแสการพัฒนาโครงการคอนโดในย่านทองหล่อเริ่มบูมขึ้นมา ร้านค้า ร้านอาหาร ต่างๆในย่านทองหล่อก็ถูกกว้านซื้อเอาไปทำคอนโดหมด แทบจะไม่เหลือแหล่งไลฟ์ไตล์ที่ในอดีตเราเคยคุ้นเคยในย่านทองหล่อเอาไว้เลย แต่ The Strand Thonglor ก็ได้ริเริ่มที่จะพัฒนาให้โครงการมีพื้นที่การค้า และมีส่วนร่วมในการรักษาและยกระดับย่านนี้ให้เป็นแหล่งสังสรรค์ ในรูปแบบเฉพาะของทองหล่ออย่างแท้จริง ซึ่งถือเป็นแนวคิดที่แตกต่างจากการพัฒนาคอนโดระดับ Super Luxury ที่อื่นๆ ที่มักจะเอาความ Privacy นำ และเป็นคอนโดตีรั้วสูงตัดขาดจากสีสันของทองหล่อที่แท้จริงไป และจริงๆแล้ว คอนโดในต่างประเทศส่วนใหญ่ก็มักสร้างสรรค์พื้นที่ออกมาเหมือนแนวคิดของ The Strand Thonglor คือการเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับย่านโดยรอบ และเอื้อต่อการใช้งานที่มากกว่าการเป็นเพียงที่พักอาศัย

นอกจากการออกแบบพื้นที่ที่เชื่อมต่อและรักษาเสน่ห์ของความเป็นย่านการค้าทองหล่อไว้แล้ว The Strand Thonglor ยังตอกย้ำบริบทของความเป็นย่านไลฟ์สไตล์ทองหล่อ ผ่านนิทรรศการภาพถ่าย ผลงานของช่างภาพชื่อดังของเมืองไทยอย่างคุณธาดา วานิช ที่ภาพถ่ายบอกเล่าเรื่องราวของผู้คนในย่านทองหล่อ ผ่านมุมมองของผู้หญิงที่มีบ้านอยู่ทองหล่อ ย่านที่ไม่เคยหลับใหลและมีเสน่ห์ของความคลาสสิคเป็นอัตลักษณ์และ lifestyle ในแบบฉบับเฉพาะตน

เช่นเดียวกับการออกแบบตัวสถาปัตยกรรมและแปลนของโครงการ ภายใต้แนวคิด “Essentially More” สำหรับคนรุ่นใหม่ที่เน้นความสะดวกของทำเลและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต คือการตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพสูงสำหรับการอยู่อาศัยและลงทุนในอนาคต และการออกแบบให้มีทางเข้าออกถึง 2 ทางคือ จาก สุขุมวิท 55 และ สุขุมวิท 57 ทำให้หมดกังวลว่าหากใช้ถนนสุขุมวิท แล้วเลี้ยวเข้าโครงการผ่าน สุขุมวิท 55 จะเข้าออกโครงการลำบาก เพราะระยะกระชั้นชิด ผู้อยู่อาศัยจึงมีทางเลือกในการเข้าออกอีกหนึ่งเส้นทางที่สุขุมวิท 57 และเป็นทางเข้าออกส่วนตัวสำหรับลูกบ้านที่พักอาศัยโดยเฉพาะ

เพราะตัวโครงการที่ออกแบบให้มีพื้นที่ commercial area พื้นที่ Micro-Office & Business Lounge พื้นที่ร้านอาหารที่ให้บริการในรูปแบบ All-day dining สปีคอีซี่บาร์ (Speakeasy Bar) และพื้นที่สวนสาธารณะ The Strand Park บริเวณด้านหน้าโครงการฯ ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการฯ และเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ของชุมชนในบริเวณนั้น ที่บริเวณฝั่งสุขุมวิท 55 เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและชื่นชอบการใช้ชีวิตที่มีรูปแบบเฉพาะตัวของย่านทองหล่อ ที่มีชีวิตชีวาของแบบออลเดย์และออลไนท์

แต่ใครที่กังวลว่าจะไม่ปลอดภัย ไม่ส่วนตัวสำหรับการพักอาศัย ทางโครงการได้คิดและออกแบบให้มีความแยก ตัดขาดกันระหว่างพื้นที่ Commercial และพื้นที่ Residential ทั้งทางเข้าออกโซน commercial ที่เข้าออกได้เฉพาะด้านซอยสุขุมวิท 55 แต่ลูกบ้านก็สามารถเข้าออกทางนี้ได้ แต่แยกพื้นที่จอด และพื้นที่เข้าออกสำหรับคนในและคนนอก พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยเหนือระดับกับ Intelligent Technology อาทิ Secured Private Lift Lobby ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถขึ้นตรงจากพื้นที่ส่วนกลางถึงห้องชุดเสมือนลิฟต์ส่วนตัว ด้วยเทคโนโลยีไมโครชิปเซ็นเซอร์ (Microchip Sensor Technology – RFID) ที่จะส่งผู้อยู่อาศัยไปแต่ละชั้นโดยเฉพาะ พร้อมทั้งมาตรฐานความปลอดภัยภายในลิฟต์ ด้วยระบบ Active CCTV Monitoring & Control เชื่อมต่อกับห้องควบคุมตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้อาศัย

นอกจากนี้การที่บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (วันพ้อยท์ซิกซ์) พัฒนาโครงการ ร่วมกับ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) จึงนำเอาประสบการณ์การก่อสร้างในสไตล์ For All Well being มาใช้ในการรับประกันถึง 30 ปี จัดว่าเป็น Super Luxury Condo แห่งแรกในย่านทองหล่อ ที่มีการรับประกันครอบคลุมยาวนานขนาดนี้ เป็นการสร้างความรู้สึกอุ่นใจให้กับผู้ซื้อ ว่าซื้อแล้วฉันจะไม่โดนลอยแพเมื่อมีปัญหาแน่นอน และอาจเป็นการการันตีกลายๆว่าผลงานและคุณภาพต้องได้มาตรฐานดีอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นคงไม่กล้าออกมายื่นข้อเสนอการรับประกันให้มากขนาดนี้

โดยหลักในการออกแบบของโครงการ ยึดแนวคิด Low Density Living คือ ให้ผู้อยู่อาศัยมีความเป็นส่วนตัวสูงสุดและมีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุด โดยจะมีความหนาแน่นของจำนวนยูนิตต่อชั้นไม่มากนัก ทั้งโครงการฯ มีจำนวนทั้งสิ้น 198 ยูนิต แบ่งเป็นห้องชุด 4 รูปแบบ คือ

1-Bedroom (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) type ห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุด มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 48.10 – 55.00 ตารางเมตร จำนวน 124 ยูนิต มีทุกชั้นที่ชั้น 6-26 ส่วนใหญ่หันทางทิศตะวันออก

2-Bedroom (2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ) ห้องหัวมุม ได้วิวทิศเหนือ-ตะวันตก และทิศใต้-ตะวันออก มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 73.00 – 90.60 ตารางเมตร จำนวน 63 ยูนิต

Duplex (2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ) พื้นที่ขนาด 110.40 ตารางเมตร จำนวน 5 ยูนิต
ชั้นละ 1 ห้อง ที่ชั้น 9,12,17,21,25 ห้องมุม วิวหน้าโครงการ

Penthouse (3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ) พื้นที่ขนาด 184.20 ตารางเมตร จำนวน 6 ยูนิต ที่ชั้น 28-30 ชั้นละ 2 ห้อง

สำหรับยูนิตที่ชั้น 6 มีพื้นที่สวนติดระเบียงเพิ่มความเป็นส่วนตัว สำหรับพื้นที่พักอาศัยชั้นแรกที่ดูแลโดยโครงการ

ส่วนพื้นที่ส่วนกลาง ตั้งแต่โถงลอบบี้โครงการตกแต่งในโทนสีขาวและวัสดุไม้ ดูเรียบง่าย อบอุ่น แต่มีรายละเอียด ประณีต และหรูหราในสไตล์คลาสสิค

พื้นที่ส่วนกลางหลักโครงการยกทั้งหมดไปไว้ที่ชั้น 27

ทั้งเลานจ์ส่วนกลาง สำหรับนั่งพักผ่อน ริมหน้าต่าง full frame บานใหญ่ เชื่อมวิวเมืองด้านนอก

พื้นที่ห้องเด็กที่รองรับไว้แยกจากพื้นที่ใช้งานอื่นๆ เพื่อความเป็นส่วนตัวของครอบครัว

สระว่ายน้ำ แยก สระว่ายน้ำเด็กพร้อมพื้นที่ กึ่ง outdoor

ที่ชั้นลอยมีห้องฟิตเนสวิวเมือง

และ Sky Garden Lounge ที่ rooftop ชั้น 30

นอกจากพื้นที่ส่วนกลางจะออกแบบและตกแต่งแบบ minimal luxury โดยเน้นสีขาว สีน้ำตาลของไม้แล้ว พื้นที่ภายในห้องที่โครงการออกแบบและตกแต่ง ก็เน้นความเรียบง่าย ด้วยการเลือกใช้วัสดุที่เลือกสรรอย่างดี ตกแต่งอย่างพิถีพิถัน ผสานความละเอียดอ่อนของงานช่างฝีมือ ดูเรียบง่าย แต่คงความสง่างามไว้ตลอดกาลและ ใช้งานได้จริง เหมาะสำหรับการเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน รูปแบบเหมือนห้องตัวอย่างที่โครงการตกแต่งให้ชมทั้งหมด 2 ห้อง

 

ห้องแรก เป็น type 1 bedroom 55 sq.m. ภายในห้องโปร่ง โล่ง ด้วยความสูงจากพื้นจรดเพดานสูงถึง 3 m.

ที่มาพร้อมหน้าต่างกระจกบานใหญ่ เปิดรับแสงเข้าสู่ภายในห้อง แต่ไม่ร้อน เพราะโครงการใช้กระจก Low E laminated IGU ที่ให้ความสว่าง แต่ ไม่นำความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร เพื่อการประหยัดพลังงาน และเพิ่มความสว่างภายในห้องด้วยพื้นไม้สีน้ำตาลอ่อน และผนังสีขาว

ภายในห้องแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ พื้นที่ครัวและ living area ที่ด้านซ้ายของทางเข้า และพื้นที่ห้องนอนที่ด้านขวาของทางเข้า

ที่พื้นที่ครัวอยู่ติดประตูทางเข้า โครงการให้ครัว built-in สีขาวสูงจากพื้นจรดเพดาน

ที่ชุดครัวโครงการให้ อ่างล้างจาน FRANKE ฝังเคาท์เตอร์ เว้นพื้นที่สำหรับเตรียมและปรุงอาหาร

พร้อมเตาไฟฟ้าและที่ดูดควัน 2 หัวของ GAGGENAU

ด้านล่างเคาท์เตอร์ครัว โครงการ built-in Combi oven เตาอบไมโครเวฟ

ตู้ และชั้นสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำครัว

เว้นช่องพร้อมฝาปิดตู้สำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า

และตู้เย็น built-in 1 บานเปิด

 

ส่วนที่ด้านบนเหนือเคาท์เตอร์เป็นชั้นสำหรับวางของ แยกเป็นสัดส่วน top เคาท์เตอร์และฝาตู้ครัว ถึงแม้จะเป็นสีขาว แต่เป็นวัสดุที่โครงการเลือกมาอย่างดี ป้องกันรอยขีดข่วน และเชื้อรา รวมทั้งสามารถทำความสะอาดได้โดยง่าย

ถัดจากพื้นที่ครัวมีพื้นที่มากพอให้วางโต๊ะทานอาหารตัวใหญ่สำหรับ 2 ที่นั่ง

และโซนพื้นที่ติดริมหน้าต่างบานใหญ่ เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน ดูทีวี

สามารถวางชุดโซฟาตัวใหญ่ พร้อมโต๊ะกลาง สำหรับ 3-4 ที่นั่ง

ที่ผนังฝั่งตรงข้าม เป็นที่ติดตั้งทีวี หรือสามารถ built-in ชั้นวางทีวีเพิ่มได้เต็มพื้นที่แนวผนัง

พื้นที่ living area เป็นกระจกเข้ามุม เชื่อมระเบียงติดห้องนอน ที่โครงการติดตั้งผ้าม่านทึบแสงไว้พร้อมใช้งาน

ส่วนพื้นที่ด้านขวาของห้อง เป็นห้องนอนห้องน้ำในตัว

ด้านขวาของทางเข้าห้องนอนเป็นตู้เสื้อผ้า built-in บานสไลด์ ด้านบนเว้นช่องเหนือตู้เสื้อผ้า กว้างพอสำหรับเก็บกระเป๋าเดินทางให้เป็นสัดส่วน และง่ายต่อการหยิบใช้งาน

ปลายสุดทางเดิน สามารถตั้งโต๊ะเครื่องแป้งตัวเล็ก เป็นมุมแต่งตัวได้

ตรงข้ามตู้เสื้อผ้าเป็นทางเข้าห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำเป็น sexy bath room กระจกเข้ามุม

มีอ่างอาบน้ำวางเข้ามุมเต็มพื้นที่ความกว้าง

ที่ผนังฝั่งตรงข้าม แบ่งพื้นที่ส่วนแห้งติดทางเข้า และพื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วย shower glass

 

พื้นที่ส่วนแห้งโครงการ built-in อ่างล้างหน้า GROHE ฝังเคาน์เตอร์ลอยตัว ยาวเชื่อมพื้นที่วางอุปกรณ์ต่างๆ ด้านหลังโถสุขภัณฑ์ Fully automatic ของ TOTO washlet  Neorest

ติดกันเป็นพื้นที่อาบน้ำ โครงการให้ Hand shower GROHE  พร้อมพื้นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำ

ส่วนพื้นที่ห้องนอน เป็นพื้นที่ติดหน้าประตูกระจกออกระเบียงบานใหญ่

พื้นที่กว้างพอให้วางเตียง king size พร้อมโต๊ะหัวเตียง

และกว้างพอให้มีพื้นที่ปลายเตียงไว้ตั้งโต๊ะทำงานตัวเล็ก

หรือปรับเป็นชั้นวางทีวี built-in พร้อมที่วางของและที่ทำงานในตัว

ที่ระเบียง เป็นระเบียงหน้ากว้าง สามารถเปิดเชื่อมต่อใช้งานได้เต็มพื้นที่

เพราะโครงการนำงานระบบขึ้นไปไว้ที่เพดานด้านบน แยกส่วนการใช้งาน พร้อมแผงบังตา เพื่อความสวยงาม

ราวกันตกออกแบบเป็นกระจก ทำให้มุมมองจากภายในเชื่อมสู่ภายนอก ไม่มีอะไรบดบังมุมมอง เรียกว่าคำนึงถึงในทุกๆเรื่องของการพักอาศัยเลยทีเดียว

และพื้นที่ระเบียงยังสามารถเข้าออกได้จากห้องนั่งเล่น บริเวณประตูมุมห้องอีกด้วย

 

ห้องนี้น่าจะเหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คน เน้นพื้นที่living area และพื้นที่พักผ่อนที่เป็นสัดส่วนใกล้เคียงกัน และมีการใช้งานครบทุก function สำหรับการพักอาศัย

 

แต่ถ้าใครวางแผนมีครอบครัว หรือชอบห้องใหญ่ๆ ก็คงต้องขยับมาเป็นห้อง 2 bedroom 90.50 sq.m.

ตำแหน่งห้องจริงในโครงการเป็นห้องเข้ามุม ทำให้เปิดมา ได้พบกับพื้นที่ครัวและ living area ขนาดใหญ่ ที่ร้อมลอบด้วยกระจกบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดานถึง 2 ด้าน

และแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วนคือปีกซ้ายและขวาของทางเข้าเป็นห้องนอนเล็กที่ด้านซ้าย และห้องนอนใหญ่ที่ด้านขวา เชื่อมด้วยพื้นที่ living area

ที่ living area แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นพื้นที่ครัวติดประตูทางเข้า

โครงการ built-in ชุดครัวให้ยาวเต็มแนวผนัง สูงจากพื้นจรดเพดาน

ที่ชุดครัวโครงการให้ อ่างล้างจาน FRANKE ฝังเคาท์เตอร์ 2 อ่าง เว้นพื้นที่สำหรับเตรียมและปรุงอาหาร

พร้อมเตาไฟฟ้าและที่ดูดควัน 4 หัวของ GAGGENAU

ด้านล่างเคาท์เตอร์ครัว โครงการ built-in Combi oven เตาอบไมโครเวฟ

ตู้ และชั้นสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำครัว

เว้นช่องพร้อมฝาปิดตู้สำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า

และตู้เย็น built-in ขนาดใหญ่ อยู่ทางด้านขวา

ส่วนที่ด้านบนเหนือเคาท์เตอร์เป็นชั้นสำหรับวางของ แยกเป็นสัดส่วน top เคาท์เตอร์และฝาตู้ครัว

ห้อง 2 bedroom ยังได้พื้นที่ island ติดหน้าชุดครัว สำหรับเตรียมอาหาร หรือเป็นบาร์สำหรับทานอาหารเช้า ชงกาแฟ ง่ายๆเร็วได้อีกด้วย

ที่ island มีตู้และลิ้นชักสำหรับเก็บอุปกรณ์ชุดครัวต่างๆเพิ่ม และถึงแม้ชุดครัวทั้งหมดจะเป็นสีขาว แต่เป็นวัสดุที่โครงการให้ได้เลือกมาอย่างดี เพราะนอกจากป้องกันรอยขีดข่วนแล้ว ยังป้องกันเชื้อรา และทำความสะอาดง่ายอีกด้วย

ถัดจากครัว มีพื้นที่ติดหน้าต่างกระจกบานใหญ่ สามารถวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่ง ติดวิวด้านข้างโครงการได้

ส่วนที่พื้นที่ปลายสุดของห้อง living เป็นมุมสำหรับพักผ่อนริมหน้าต่างพร้อมประตูออกระเบียง

พื้นที่ริมหน้าต่างเปิดโล่ง เชื่อมราวกันตกกระจก ทำให้เปิดมุมมองสู่ภายนอกได้กว้าง

พื้นที่ living กว้างพอ ให้วางชุดโซฟาสำหรับ 4-5 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง

ส่วนที่ผนังฝั่งตรงข้ามสามารถติดทีวีแบบแขวนผนัง หรือ built-in ชั้นวางทีวีได้เต็มแนวผนังด้านนี้

ติดผนังวางทีวี เป็นทางเข้าห้องนอนเล็ก ห้องน้ำในตัว

ห้องนอนเล็กติดประตูกระจกบานเลื่อนออกระเบียง

สามารถวางเตียงนอนได้ที่มุมห้องด้านในติดประตูกระจก

และพื้นที่ตั้งทีวี ตู้ หรือชั้นวางของที่ผนังฝั่ง

ตรงข้าม ที่โครงการวางงานระบบไว้รองรับการใช้งาน

ด้านซ้ายของทางเข้าห้องนอนเล็ก เป็นมุมวางตู้เสื้อผ้า built-in พร้อมที่เก็บของ ที่กว้างพอให้วางกระเป๋าเดินทางได้พอดี

ติดกันเป็นทางเข้าห้องน้ำสำหรับห้องนอนเล็ก

ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนแห้งติดประตูทางเข้า

โครงการ built-in อ่างล้างหน้า GROHE ฝังเคาน์เตอร์ลอยตัว ยาวเชื่อมพื้นที่วางอุปกรณ์ต่างๆ ด้านหลังโถสุขภัณฑ์ Fully automatic ของTOTO washlet Neorest

ถัดไปเป็นพื้นที่อาบน้ำกั้นด้วย shower glass โครงการให้ Hand shower  พร้อมพื้นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำติดผนัง

ส่วนพื้นที่ห้องนอนใหญ่ที่ปีกขวาของยูนิต

แบ่งพื้นที่ด้านขวาของห้องเป็นห้องน้ำ

ด้านหน้าห้องน้ำเป็นตู้เสื้อผ้า built-in L shape ด้านบนเว้นช่องเหนือตู้เสื้อผ้า กว้างพอสำหรับเก็บกระเป๋าเดินทางให้เป็นสัดส่วน

ตรงข้ามตู้เสื้อผ้าเป็นทางเข้าห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำเป็น sexy bath room กระจกเข้ามุม

มีอ่างอาบน้ำวางเข้ามุมเต็มพื้นที่ความกว้าง

ติดกันเป็นพื้นที่อาบน้ำ โครงการให้ Hand shower GROHE ควบคุมความร้อนแบบ Thermostat พร้อมพื้นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำ

 

ถัดไป กั้นด้วย shower glass เป็นพื้นที่ส่วนแห้ง ที่โครงการ built-in อ่างล้างหน้า GROHE ฝังเคาน์เตอร์ลอยตัว ยาวเชื่อมพื้นที่วางอุปกรณ์ต่างๆ ด้านหลังโถสุขภัณฑ์ TOTO washlet Neorest

ส่วนพื้นที่ห้องนอน เป็นพื้นที่ติดหน้าต่างกระจกบานสูง

พื้นที่กว้างพอให้วางเตียง king size พร้อมโต๊ะหัวเตียง

 

ที่ผนังปลายเตียงสามารถแขวนทีวีไว้ที่มุมนี้ได้

และติดหน้าต่างบานสูง สามารถวางเตียง day bed ไว้นั่งอ่านหนังสือ คิดงาน ชมวิวย่านทองหล่อริมหน้าต่างได้

นอกจากนี้ทุกห้องโครงการให้ ระบบ ERV ปรับสมดุลความชื้นภายในห้อง และระบบตรวจจับก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ และมีระบบ home automation รองรับการเปิดปิดไฟ แอร์และม่าน รองรับทุกห้อง ทุกการใช้งาน

 

ห้องนี้เหมาะสำหรับคนที่กำลังสร้างครอบครัว มีห้องสำรองสำหรับสมาชิกใหม่ในอนาคต หรือ คนที่ชอบห้องใหญ่ และมีห้องเฉพาะสำหรับกิจกรรมพิเศษๆ อย่างเล่นดนตรี ดูหนัง หรือเป็นห้องทำงานได้

 

บทสรุปของ The Strand Thonglor กับสไตล์และเอกลักษณ์ที่แตกต่างจาก Super Luxury คอนโดอื่นๆ

เอกลักษณ์ของทำเล คือสิ่งที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงความนิยมของกลุ่มผู้ที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของไลฟ์สไตล์เหนือระดับที่มีต่อย่านนั้นๆ แน่นอนว่าความเป็นเอกลักษณ์นั้นไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ง่ายๆเพียงแค่ชั่วข้ามคืน แต่ต้องเป็นการสั่งสมวัฒนธรรม วิถีชีวิตที่มีอยู่ในท้องถิ่น มาหลอมรวมผสมผสานให้เข้ากับบริบทของเทรนด์ในยุคปัจจุบัน จนเกิดเป็นกระแสนิยมของคนเฉพาะกลุ่ม สำหรับในกรุงเทพฯแล้ว มีทำเลที่เป็นเอกลักษณ์อย่างมากมาย หลายๆทำเลเต็มเปี่ยมไปด้ววิถีชีวิตอันเรียบง่ายของคนพื้นถิ่น ในขณะที่หลายๆทำเลก็เป็นแหล่งไลฟ์สไตล์อันทันสมัย ชนิดที่โด่งดังไกลไปถึงระดับโลก เส้นทางรถไฟฟ้า BTS ก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับทำเลนั้นๆในเรื่องของการเข้าถึงได้ง่าย การเดินทางที่ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนก็เดินทางได้สะดวก เช่นเดียวกับเป็นการสร้าง Value added ให้กับบริเวณโดยรอบสถานีรถไฟฟ้า

 

ไม่ใช่เพียงแค่ทำเล CBD อย่างอโศก หลังสวน วิทยุ เพลินจิต ชิดลม สยาม หรือริมแม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้นที่มีศักยภาพพอที่จะพัฒนาโครงการคอนโดในระดับราคาที่เกินกว่าตารางเมตรละสามแสนบาทให้ขายได้ แต่ย่านไลฟ์สไตล์ที่ได้รับยอมรับนับถือจากคนทั่วโลกทุกครั้งที่มาเยือนกรุงเทพฯก็คือย่านทองหล่อ  ทองหล่อเป็นทำเลที่มีทุกอย่างครบครันในย่านเดียว เป็นหนึ่งในสองทำเลที่อยู่นอก CBD ที่มีอัตราการพัฒนาคอนโดระดับ Super Luxury ที่สูงมาก เคียงคู่กับย่านพร้อมพงษ์ ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาดีเวลลอปเปอร์หลายรายมีการทุ่มงบประมาณในการซื้อที่ดินบริเวณทองหล่อ ทั้งในสุขุมวิท 55 เอง และซอยใกล้เคียง รวมถึงฝั่งตรงข้ามอย่าง ซอย 57, 36, 38 เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดระดับ Luxury – Super Luxury มากกว่า 10 โครงการ ผลลัพธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือแหล่งแฮงค์เอ้าท์สำคัญๆในย่านทองหล่อ โดยเฉพาะผับ บาร์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่อยู่ริมถนนใหญ่ หรือถนนเชื่อมต่อสายรองไปยังเอกมัย ค่อยๆทยอยแปรสภาพเป็นโครงการที่พักอาศัย แต่ถึงอย่างไรก็ตามทองหล่อก็ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นในยามค่ำคืน จากคอมมูนิตี้มอลล์ใหม่ๆที่รวมเอา ร้านค้า ร้านอาหารนานาชาติ ร้านสะดวกซื้อ ผับ บาร์ ไว้ในที่เดียวกัน หรือแม้กระทั่งก็เริ่มมีการพัฒนาโครงการโรงแรมภายใต้แบรนด์ดังให้เห็นอยู่บ้าง โดยในปีหน้ามิติการใช้ชีวิตของคนในย่านทองหล่อจะไม่ได้มีแต่ชีวิตหลังเลิกงานเพียงอย่างเดียว เนื่องจากอาคาร T-One ซึ่งเป็นอาคารสำนักงาน Grade A ขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่ Retail เพียงแห่งเดียวในย่านนี้กำลังจะสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งก็แน่นอนว่าจะนำมาซึ่ง Traffic ของคนที่อยากใช้ชีวิตแบบ Live – Work – Play – Eat จบครบในที่เดียวมาได้มากกว่าเดิม ทั้งนี้ไม่เพียงแต่ในพื้นที่ตามซอยทองหล่อเท่านั้นที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่พื้นที่อื่นๆ ที่อยู่ในซอยย่อยต่างๆ ที่แยกออกจากซอยทองหล่อก็มีสิ่งต่างๆ เหล่านี้เช่นกัน โดยซอยแยกเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้การเดินทางภายในซอยทองหล่อกับพื้นที่อื่นๆ มีความสะดวกมากขึ้นเท่านั้น แต่ซอยย่อยต่างๆ เหล่านี้ยังคงช่วยให้ซอยทองหล่อมีเสน่ห์และมีความหลากหลายเพราะว่าพื้นที่ริมซอยทองหล่ออาจจะดูวุ่นวาย แต่พอแยกไปในซอยย่อยต่างๆ แล้วกลับมีความสงบ เป็นส่วนตัวขึ้นมาทันที

 

การที่ไม่มีโครงการพื้นที่ค้าปลีก หรือพาณิชยกรรมรูปแบบอื่นๆ เกิดขึ้นในทองหล่อรวมไปถึงพื้นที่รอบๆ สถานีรถไฟฟ้าทองหล่อมากนัก ก็เพราะว่าราคาที่ดินในพื้นที่นี้นั้นสูงมาก ถ้าเป็นทำเลริมถนนสุขุมวิท บริเวณปากซอยทองหล่อปัจจุบันบอกขายกันไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาทต่อตารางวาไปแล้ว ถ้าซื้อรวมตึกแถวก็เกินกว่า 2 ล้านบาทต่อตารางวาแน่นอนในปัจจุบัน แต่ก็มีดีเวลลอปเปอร์หลายรายสนใจและต้องการซื้อที่ดินรอบๆ สถานีทองหล่อ อย่างต่อเนื่อง เพราะแม้ว่าจะมีราคาขายสูงมากก็ตาม แต่ทำเลนี้สามารถพัฒนาโครงการระดับ Super Luxury ที่มีราคาขายสูงกว่า 300,000 บาทต่อตารางเมตรได้ โดยที่ยังเป็นที่สนใจของผู้ซื้อทั้งชาวไทยและต่างชาติเสมอมา หลายโครงการอาจจะไม่ได้มียอดขายที่สูงมาก ปิดการขายได้รวดเร็ว แต่เมื่อโครงการสร้างแล้วเสร็จก็กลับมีผู้ให้คนสนใจค่อนข้างเยอะ ด้วยการที่ย่านทองหล่อมีแต่คอนโดระดับ Super Luxury ที่ขายในราคาเกินกว่าตรม.ละสามแสนเกดิขึ้นมากกว่าคอนในเซกเมนท์อื่นๆ ดังนั้นดีเวลลอปเปอร์จึงต้องคิดหาวิธีในการพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์ โดนใจ กลุ่มลูกค้ามหาเศรษฐีที่มีใจรักในสีสันยามค่ำคืนของย่านทองหล่อให้มากที่สุด บางโครงการมีการ Co-Branding กับดีไซน์เนอร์ชั้นนำระดับโลก หลายโครงการมีการใช้งานดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยวมีแฟชั่น ในขณะที่เกือบทุกโครงการทำเสนอรูปแบบห้องที่มีขนาดใหญ่ อัดแน่นไปด้วยวัสดุแบรนด์เนม และฟังก์ชั่นการใช้งานสุดไฮเทคทั้งในตัวห้องพักอาศัย และพื้นที่ส่วนกลาง…ราคาอาจจะไม่ใช่ปัจจัยหลักในการพิจารณาว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ สำหรับคอนโดที่อยู่ในกลุ่มตลาด Super Luxury

The Strand Thonglor นำเสนอจุดขายที่ค่อนข้าง Selective ชัดเจน แตกต่างมากกว่าคอนโด Super Luxury อื่นๆที่อยู่ในบริเวณทองหล่อ เพราะในขณะที่คอนโดอื่นๆมักจะชูความเป็น Luxury ที่เคียงคู่กับ Privacy แต่ทีมงาน 1.6 Development ผู้พัฒนาโครงการกลับมองว่า The Strand Thonglor นั้นสามารถ Represent ความเป็นไลฟ์สไตล์ทองหล่อ ในยุคที่ย่านแฮงค์เอ้าท์เก๋ๆกำลังจะถูกเปลี่ยนผ่านกลายเป็นโครงการที่พักอาศัยได้เป็นอย่างดี ตัวโครงการถูกพัฒนาให้เป็นโครงการ Ultra Luxury Condo ประเภท Mixed Use โดยมีพื้นที่ Lifestyle Commercial ภายในอาคารเดียวกัน โดยทีมผู้พัฒนามีความเห็นพ้องต้องกันว่าในการที่จะสร้างโครงการที่พักอาศัยสักที่หนึ่งให้ดี ไม่ได้หมายความว่าจะดีเฉพาะผู้ที่พักอาศัย แต่ต้องสามารถแบ่งปันความสุขให้กับสังคมรอบข้างได้ด้วย ด้วยเหตุนี้ 4 พาร์ทเนอร์บริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง HB Design, PIA Interior, TROP และ MQDC จึงได้สร้างโครงการระดับ Master Piece ที่มีพื้นที่ส่วนกลางสวยๆแต่อัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นที่เป็นประโยชน์ต่อผู้พักอาศัย และสังคมใกล้เคียงอย่าง The Strand Park สวนสาธารณประโยชน์ของชุมชนหน้าโครงการ, Micro Office & Business Lounge พร้อมพื้นที่ร้านอาหารที่ให้บริการแบบ All Day Dining และ Speak Easy Bar ให้ได้สัมผัสกับไลฟ์สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ที่แท้จริงของทองหล่อได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน

 

ทั้งนี้สเปควัสดุที่ทาง The Strand Thonglor เลือกที่จะนำมาใช้นั้นนอกจากจะเป็นของแบรนด์เนมระดับโลก พ่วงด้วยเทคโนโลยี Home Automation อันทันสมัยที่สุด  ยังได้ถูกจัดวางให้สอดคล้องกับคอนเซปท์ For All Well – Being ที่นอกจากจะวัสดุแนว Sustainable + Innovation เป็นมิตรต่อผู้อยู่อาศัย และสภาพแวดล้อมแล้ว ก็ยังมีการรับประกันตามมาตรฐานที่ยาวนานถึง 30 ปี นับว่าเป็นคอนโดระดับ Super Luxury โครงการแรกในย่านทองหล่อ ที่กล้าคิดกล้าทำจริง โดยที่แบรนด์เกือบทุกแบรนด์ที่มีอยู่ในไทยไม่กล้าที่จะรับประกัน

แม้ว่าหลายโครงการคอนโดในย่านทองหล่อที่เปิดขายในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมาจะมีราคาเปิดขายสูงมากกว่า 300,000 บาทต่อตารางเมตร แต่ก็ยังคงมีโครงการคอนโดมิเนียมที่มีราคาขายต่ำกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตรเช่นกัน ดังนั้น ราคาขายเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมในทำเลรอบๆ สถานีทองหล่อจึงอยู่ที่ประมาณ  200,000 บาทต่อตารางเมตรโดยมีราคาต่ำสุดที่ต่ำกว่า 150,000  บาทต่อตารางเมตร สูงที่สุดนั้นมากกว่า 370,000 บาทต่อตารางเมตร โดยโครงการ The Strand Thonglor ก็ดูจะมีแต้มต่อสำคัญที่แบรนด์อื่นยากจะเลียนแบบมาใช้ อาทิ การรับประกัน 30 ปี การมีพื้นที่ Retail Commercial รวมไปถึงระยะห่างจาก BTS ทองหล่อ ที่ใกล้มากที่สุดในซอยสุขุมวิท 55 คือเพียงแค่ 30 เมตรเท่านั้น

 

สำหรับตลาดคอนโด Super Luxury ต้องวัดกันยาวๆไปถึงช่วงโครงการสร้างเสร็จครับ ว่าจะสร้างออกมาได้โดนใจ งานเนียนสมศักดิ์ศรีมากแค่ไหน แต่เชื่อแน่ว่า The Strand Thonglor ก็คงจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีสไตล์อันตอบโจทย์ผู้มีกำลังซื้อสูงในย่านทองหล่อ ที่มีประสบการณ์ในการพักอาศัยในคอนโดที่มหานครใหญ่ๆทั่วโลกมาอย่างยาวนานครับ

 

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและนัดหมายเพื่อเยี่ยมชมโครงการได้ที่ http://www.thestrandthonglor.com/



เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์


PropScore™ 4.2

SCORE:
0.0
From : 0 รีวิว


ยังไม่มีการให้คะแนนและ Comment โครงการนี้


TAIT Sathorn 12 เปิดห้องตัวอย่างใหม่ 1 Bed Iconic Suite แต่งครบ สไตล์ Classical American โดย ‘CHANINTR’ แค่ยูนิตเดียวเท่านั้น!

โครงการ TAIT Sathorn 12 ตอนนี้เค้ามีห้องเหลือขายแค่ 14 ห้องเท่านั้นครับ โดยเป็นห้อง 1 Bed Iconic ขนาดประมาณ 68 ตรม. 4 ห้อง 2 นอนอีกประมาณ 6 ห้อง นอกนั้นจะเป็น 1 นอนขนาดเล็กครับ ซึ่งตอนนี้โครงการก็ไ... อ่านต่อ

25 April, 2024



ข้อเท็จจริง และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ระหว่างอสังหาฯรูปแบบ Freehold และ Leasehold

ในปีนี้เราจะมีโอกาสได้เห็นโครงการ Leasehold ที่กำลังจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่หลายที่ครับ แล... อ่านต่อ
17 April, 2024

คัดสรรให้! งบ 7 ลบ. ก็หาซื้อคอนโดหรูพร้อมอยู่ในย่านพร้อมพงษ์ – ทองหล่อ – เอกมัย ได้

หลังจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมท... อ่านต่อ
12 April, 2024

เคาะแล้ว! แพคเกจกระตุ้นตลาดอสังหาฯ โดยกระทรวงการคลัง

สืบเนื่องมาจากข้อมูลของกระทรวงการคลังที่รายงานครม.ไปว่าในช่วงไตรมาสสี่ของปีที่ผ่านมา ภา... อ่านต่อ
10 April, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง