ให้ธรรมชาติ สายน้ำ และสวนสวย โอบล้อมคุณในทุกอิริยาบถของการพักอาศัย บนความเป็นส่วนตัวสูงสุด ที่ The Reserve 61 Hideaway คอนโด Super Luxury ที่ดีที่สุดบนเอกมัย

หนึ่งในคอนโดหรูระดับ Super Luxury ที่กำลังมาแรงมากๆช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คือแบรนด์ The Reserve (เดอะ รีเซิร์ฟ) ซึ่งเป็นแบรนด์ Top of Hierarchy ของพฤกษาฯ จากการทยอยสร้างเสร็จหลายโครงการทั้ง The Reserve Sathorn และ The Reserve Sukhumvit 61 จนเป็นที่บอกเล่ากันปากต่อปากในหมู่กลุ่มลูกค้าที่โอนไปแล้วถึงความหรูหราของจริงที่สะท้อนออกมาทั้งจากสิ่งที่จับต้องได้อย่างสเปควัสดุที่ได้ การก่อสร้าง บรรยากาศของพื้นที่ส่วนกลาง ไปจนถึงบริการแบบเหนือความคาดหมายจากทีม Concierge by The Reserve

สำหรับโครงการ The Reserve 61 Hideaway ที่เราจะพามารู้จักในวันนี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สร้างความท้าทายเป็นอย่างมากให้กับพฤกษาฯ เนื่องจากเป็นโครงการที่อยู่ติดกับโครงการสร้างชื่อแห่งแรกอย่าง The Reserve Sukhumvit 61 ที่ปิดการขายไปเรียบร้อยแล้ว และทางพฤกษาฯมีเป้าหมายที่จะพัฒนาโครงการ The Reserve 61 Hideaway ให้มีความเป็น One of A Kind ดีกว่า หรูกว่า และแพงกว่าโครงการแรก เพื่อให้สมกับการวาง Positioning ให้เป็น The Best Super Luxury Low Rise Condo แบบไร้คู่แข่งในกรุงเทพฯ ภายใต้โจทย์ที่ว่าการมาของโครงการนี้ต้องไม่ลดทอน Value ในการพักอาศัยของโครงการเดิมอย่าง The Reserve Sukhumvit 61 ที่ก่อนหน้านั้น 1 ปีก็เคยพิสูจน์ให้เห็นว่า เป็นคอนโดที่หรูและแพงที่สุดบนสุขุมวิท 61

จึงเป็นที่มาของคอนเซปท์ Hideaway ที่สื่อถึงชีวิตพักผ่อนที่ไม่วุ่นวาย ตัดขาดจากโลกภายนอก ได้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและส่วนกลางขนาดใหญ่ที่สุดในสุขุมวิท 61 กับโครงการ The Reserve 61 Hideaway (เดอะ รีเซิร์ฟ 61 ไฮด์อะเวย์) โครงการที่สร้างอยู่บนที่ดินผืนติดกัน และสร้างเสร็จไล่เลี่ยกันในระยะเวลาที่ห่างกันเพียงแค่ 2 ปี ซึ่งโดยปกติแล้วหากเป็นโครงการจากดีเวลลอปเปอร์รายอื่นที่มีพื้นที่ดินติด ๆ กันแบบแปลงชนแปลง ส่วนใหญ่เราก็มักจะเห็น การพัฒนาโครงการในรูปแบบเฟส 1 และเฟส 2 Mirror กัน มีทรงอาคาร และส่วนกลางที่คล้ายคลึงกัน และที่สำคัญผู้พักอาศัยย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอวิวที่ปะทะกันระหว่าง 2 โครงการตรง ๆ แต่กับโครงการ The Reserve 61 Hideaway กลับสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจ จนสามารถเป็น Case Study สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับโครงการคอนโดในระดับ Super Luxury ได้ว่า การพัฒนาโครงการหรูที่อยู่ติด ๆ กันให้ได้รับ Value ในการอยู่อาศัยร่วมกันนั้นเป็นอย่างไร ผ่านการออกแบบสถาปัตยกรรมและพื้นที่ส่วนกลางอันละเมียดละไม และชาญฉลาด โดย 3 บริษัทชั้นนำ ภายใต้แนวคิด “Start Your Never Ending Vacation” ได้แก่ บริษัท I’ll Design Studio (งานสถาปัตยกรรม) บริษัท T.R.O.P :Terrain & Open Space (งานภูมิสถาปัตย์) และบริษัท PIA Interior (งานออกแบบตกแต่งภายใน) เพื่อมอบประสบการณ์การพักอาศัยที่ทำให้ทุก ๆ วันเหมือนวันพักผ่อน

ซึ่งความใส่ใจในการออกแบบดังกล่าวนับว่ามีส่วนสำคัญในการทำให้โครงการ The Reserve Sukhumvit 61 ปิดการขายไปแล้ว และโครงการ The Reserve 61 Hideaway ก็กำลังจะปิดการขายตามมาโดยห้องขนาดใหญ่นั้นขายหมดเกลี้ยงแล้ว

5 เหตุผลที่ทำให้ The Reserve 61 Hideaway ขึ้นแท่นโครงการ Super Luxury Condo ในรูปแบบ Low rise ที่ดีที่สุดในตอนนี้

1. ทำเลเดินทางสะดวกและเป็นส่วนตัวที่สุดในซอยสุขุมวิท 61

The Reserve 61 Hideaway ตั้งอยู่สุดซอยสุขุมวิท 61 ซอยที่จัดว่าเป็น Residential Area ที่น่าอยู่ที่สุดของช่วงทองหล่อ – เอกมัย เนื่องจากมีคอนโด ที่อยู่อาศัย บ้านเรือนเตี้ย ๆ Serviced Apartment แบรนด์ดังเรียงรายตลอดทั้งซอย มีสารพัดห้างและ Community Mall บริเวณหน้าปากซอย ทั้ง Parklane และ Major Cineplex เอกมัย รวมทั้งเป็นซอยที่มีความเป็นระเบียบร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่พร้อมมีทางเดินเท้าตลอด 2 ข้างทาง และที่สำคัญคือเป็นโครงการเดียวเท่านั้นที่สามารถเข้าออกผ่านเอกมัยซอย 1 ได้ จึงเสมือนสามารถเข้าออกได้ทั้งจากถนนสุขุมวิท และเอกมัย ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ริมถนนใหญ่ใจกลางเอกมัย ที่มีพื้นที่ร่นเข้ามาเป็นถนนโครงการ แต่ได้ความสงบร่มรื่น เลี่ยงรถติด เป็นส่วนตัวที่มากกว่าคอนโดติดริมถนนเอกมัย แต่ยังเดินทางสะดวกสำหรับทั้งคนที่เดินทางไปถนนสุขุมวิท รถไฟฟ้า ผ่านซอยสุขุมวิท 61 ซอยบนสุขุมวิทเพียงไม่กี่ซอยที่สามารถเลี้ยวซ้าย-ขวาได้เลย และโครงการก็มีรถรับส่ง Shuttle Bus service ไปยังปากซอยสุขุมวิท 61 และสถานที่สำคัญ ๆ บนเส้นทางอีกด้วย

2. การออกแบบโครงการโดย 3 บริษัทชั้นนำภายใต้แนวคิด “Start Your Never Ending Vacation” 

ได้แก่ บริษัท I’ll Design Studio (งานสถาปัตยกรรม) บริษัท T.R.O.P :Terrain & Open Space (งานภูมิสถาปัตย์) และบริษัท PIA Interior (งานออกแบบตกแต่งภายใน) เพื่อมอบประสบการณ์การพักอาศัยที่ทำให้ทุก ๆ วันเหมือนวันพักผ่อน ผ่าน Element ต่าง ๆ ภายในโครงการที่ถูกคัดสรรค์มาอย่างดี บนความเป็นส่วนตัวสูงสุด เพียง 155 ยูนิต บนอาคารพักอาศัยสูง 7 ชั้น (พร้อมชั้นใต้ดิน) จำนวน 2 อาคารสไตล์ Modern Classic โครงการฯ มีที่จอดรถถึง 100% แบบ Conventional Parking และมีพื้นที่ส่วนกลางแบบ Triple Facilities กระจายบนพื้นที่กว่า 2.3 ไร่ ทั่วโครงการฯ และถ่ายทอดองค์ประกอบของคำว่า Hideaway ออกมาได้อย่างละเมียดละไมที่สุด จากการหลอมรวมเอาความสมบูรณ์แบบในด้านสภาพแวดล้อม สายน้ำ และสวนสวย บวกกับความสะดวกสบายแสนทันสมัยเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้คุณได้ค้นพบประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบใหม่ เสมือนได้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในทุกๆวัน จนคุณลืมไปเลยว่าที่นี่คือใจกลางเมืองย่านเอกมัย

3. พื้นที่ส่วนกลาง แบบ Triple Facilities กระจายบนพื้นที่กว่า 2.3 ไร่* ทั่วโครงการฯ พื้นที่สีเขียวรวมกว่า 2,900 ตร.ม.* (ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่ดินโครงการฯ) ถูกออกแบบให้สอดแทรก-โอบล้อมอยู่ในทุก ๆ พื้นที่ของการพักอาศัย ที่มอบวิวที่ไม่สามารถหาได้จากคอนโด Low Rise แห่งอื่น ๆ ที่พื้นที่บริเวณชั้นล่างมักจะถูกทำเป็นสวน หรือลานจอดรถธรรมดา และยกพื้นที่ส่วนกลางไปไว้บนดาดฟ้าเพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอย

แต่ที่ The Reserve 61 Hideaway พื้นที่ส่วนกลางแบบ TRIPLE FACILITY คือเชื่อม ตั้งแต่โถง Lobby ที่ชั้น G ที่เปิดโล่งด้วยบานกระจกสูงเกือบ 6 เมตร ที่สามารถ take view พื้นที่สวน พื้นที่น้ำ ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ เป็นเหมือนพื้นที่เกาะสวรรค์ ที่ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ Infinite Pool รูปทรงโดนัท หรือ Endless Pool ซึ่งหากมองจากโถง lobby สามารถมองเห็นสระน้ำ INFINITE POOL ที่ยาวต่อกันเป็น Loop กว่า 144 เมตร

แบ่งเป็นพื้นที่สระที่ว่ายได้ต่อกันได้ระยะประมาณ 84 เมตร

ล้อมรอบด้วย Hideaway Garden เล่นระดับตรงกลาง เหมือนแม่น้ำที่ล้อมรอบเกาะ ที่แตกต่างจากงาน Landscape ทั่วไปที่เราพบเจอ

มี pocket seat เล่นระดับ ที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวจำนวนมาก ให้เหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะพักผ่อนอยู่ในห้องของตัวเอง หรือใช้พื้นที่ส่วนกลาง (Outside-in)

อีกทั้ง HIDEAWAY GARDEN นี้เชื่อมต่อกับพื้นที่ facilities ที่ชั้นใต้ดินที่สามารถเข้าออกได้ทั้งจากภายนอกอาคาร

และจากภายในอาคารบริเวณ Lobby

มีทั้ง Pool Lounge พื้นที่ล้างตัวก่อนหลังลงสระที่แยกเป็นสัดส่วน

SPA & MASSAGE แบบกึ่ง private ที่มาพร้อมเตียงให้ใช้งาน

และ WELLNESS RETREAT & ONSEN แยกห้องชาย-หญิง

บ่อ Onsen มีทั้งบ่อน้ำร้อนและน้ำเย็น ทั้งชายและหญิง

และยังมีห้อง Massage Room

Private Steam (สำหรับฝั่งหญิง) และ Private Sauna (สำหรับฝั่งชาย)

พื้นที่ชั้นใต้ดินเชื่อมต่อกับ พื้นที่จอดรถรองรับระบบ conventional 100% ของจำนวนยูนิต ที่ออกแบบเส้นทางเข้าออกกดลงใต้ดินตั้งแต่ออกจากพื้นที่ drop off area ที่โถง lobby

พร้อมพื้นที่ใช้งาน พักผ่อน มุมต่าง ๆ ตลอดพื้นที่ชั้น G ของอาคาร B

แยกห้อง meeting room สำหรับเป็นพื้นที่นัดคุยงาน คุยธุรกิจ โดยไม่ต้องใช้ในพื้นที่ยูนิตพักอาศัย และมีห้อง Concierge By The Reserve สำหรับไว้ติดต่อผู้ช่วยส่วนตัว ภายในมีตู้ Smart Box สำหรับฝากของได้อีกด้วย

ที่ทางเชื่อมระหว่างอาคารที่ชั้น 3 (Pathway on 3rd ) ที่ไม่เป็นเพียงแค่ทางเชื่อม แต่เป็นพื้นที่ใช้งานที่สามารถชมวิวพื้นที่ส่วนกลางได้โดยรอบ

มีพื้นที่ The Reserve Lounge ที่เป็น Common Area ให้ทุกคนมา enjoy พื้นที่ใช้งาน สุด private เฉพาะคุณ

ที่แบ่งมุมพื้นที่ให้ใช้งานได้หลากหลายมุม หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะแชร์กัน หรือส่วนตัว

หรือจะใช้ประชุมธุรกิจอย่างเป็นทางการ ก็ยังได้ เพราะมีห้องประชุมไว้รองรับการใช้งาน

และ Fitness suite ที่อุปกรณ์ครบครัน ทันสมัย หรูสุดๆจากแบรนด์ Technogym

พร้อมห้องโยคะแยก ที่มีอุปกรณ์การใช้งาน และชั้นวางของจัดเตรียมไว้ให้

หรือแม้กระทั่งลิฟท์โดยสารก็มีการออกแบบตกแต่งอย่างหรูหราและละเอียดในทุก ๆ ดีเทล

จากพื้นที่ส่วนกลางสามารถมองเห็นตัวอาคารภายนอกที่ตกแต่งด้วยหิน lime stone เป็นหินตะกอนที่มีความคงทนและมีลวดลายสวยงาม สีของหินจะไม่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เรียกได้ว่าเป็น Classic material ที่ไม่ต้องปรุงแต่ง โดดเด่นด้วยความสวยงามของตัวเอง และยังเข้ากับพื้นที่ของการพักผ่อน เหมือนได้พักผ่อนอยู่ในรีสอร์ทหรู ท่ามกลางธรรมชาติในทุก ๆ วัน และยังสอดแทรกสัมผัสบรรยากาศสุดผ่อนคลายจากธรรมชาติ ทั้งเสียงจากการตกกระทบของสายน้ำ ร่มเงาและสีเขียวสบายตาจากต้นไม้ ยิ่งทำให้คุณสามารถสัมผัสความสุนทรีย์แห่งการพักผ่อน ที่สามารถครอบครองได้ไม่ว่าจะอยู่ในห้องหรือพื้นที่ส่วนกลาง และไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่ไหนไกล

และยังมีมุมผักผ่อนด้านหลังอาคารที่โอบล้อมด้วยแนวรั้วต้นไม้ เรียกว่ามีพื้นที่ส่วนกลางเยอะและหลากหลายสุดๆ

4. บริการผู้ช่วยส่วนตัว Concierge by The Reserve เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน อาทิ ชำระค่าไฟฟ้า-น้ำประปา มีบริการจองโรงแรม-ตั๋วเครื่องบิน ส่งเอกสาร-จดหมาย รับอาหาร รวมถึงบริการ Shuttle Bus service* อีกด้วย

5. Spec ของที่ได้ในห้องทั้งชุดครัว ห้องน้ำ และเฟอร์ฯ Built – in เป็นระดับ Top Class แบรนด์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นชุดครัวของ Gorenje ในส่วนของ Island Kitchen ด้านบนจะเป็นหิน Quartz ลาย Turbine Grey และด้านข้างจะใช้เป็นหิน Black Forest ซึ่งเป็นหินธรรมชาติทั้งหมด สุขภัณฑ์จากแบรนด์ระดับ World Class อย่าง Villeroy & Boch พร้อม VDO Door Phone และ Home Automation ในทุกยูนิต และที่ดู Luxury สุด ๆ คือห้องน้ำของห้องแบบ 2 นอน 100 ตรม.ขึ้นไปที่มี ไฮไลท์เป็นอ่างล้างหน้าแยก his & her แบบลอยตัว แบบโรงแรม 6 ดาว

พาชมห้องจริงบนอาคารจริง

The Reserve 61 Hideaway ตั้งอยู่บนพื้นที่กว้างถึง 3-2-60 ไร่ ประกอบด้วยอาคารพักอาศัยสไตล์ Modern Classic 2 อาคาร (Building A และ B) สูง 7 ชั้น รวม 155 ยูนิต (จากเดิม 164 ยูนิตแต่มีลูกค้าที่ซื้อห้องแบบ Combined เพื่อให้ได้ห้องที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม) มีทางเชื่อมระหว่างอาคารที่ชั้น 3 (Pathway on 3rd ) และอีก 1 อาคารพื้นที่ส่วนกลาง (Building C) ที่เป็นพื้นที่สวน สระว่ายน้ำ และพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้นใต้ดิน เป็นสไตล์การออกแบบ HIDEAWAY GARDEN ที่เน้นประสบการณ์การพักผ่อนในพื้นที่ส่วนกลางที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่สีเขียว และในพื้นที่โครงการ แต่ยังคงสะท้อนความหรูหราผ่านการเลือกใช้วัสดุที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ The Reserve ที่สะท้อนไปจนถึงภายในยูนิต ที่โครงการออกแบบรูปแบบห้องเหมือนยกโรงแรม 6 ดาวมาอยู่ใจกลางเมือง และมีรูปแบบห้องให้เลือกหลากหลายอารมณ์ โดยเน้นห้องหน้ากว้าง ให้ได้เปิดรับธรรมชาติ ผ่อนคลายกับพื้นที่สีเขียวภายนอกได้เต็มที่ มีทั้งห้องวิวสระ ห้องวิวสวน ห้อง Garden access ห้อง Private garden และห้องกระจกโค้งยื่นจากตัวอาคาร ให้ได้เลือกตามความชอบแต่ละคน

ตั้งแต่ห้อง size เล็ก 1 BEDROOM 48.42 – 63 Sq.m. 2 BEDROOMS 66 – 126 sq.m. 3 BEDROOMS ขนาด 158 sq.m. และห้อง Penthouse แบบ Duplex Pool Access ขนาด 138.03 ตรม. และ Penthouse TRIPLEX ขนาด 206 – 228 sq.m. ที่มี 3 ชั้น คือมีที่จอดรถส่วนตัว ห้อง Maid ที่ชั้นใต้ดิน ห้อง duplex pool access , duplex garden access แถมพื้นที่ห้องน้ำสำหรับห้อง 2 ห้องนอน ที่มีขนาดมากกว่า 100 ตรม.จะได้อ่างล้างหน้า และห้องน้ำ walk-in แบบโรงแรมห้าดาว ในห้อง master bathroom อีกด้วย

ดังเช่นห้องตัวอย่าง 2 bedroom 2 bathroom ขนาด 121.36 Sq.m. Type C18 อาคาร A 

ที่ภายในแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วน คือ พื้นที่ living are ที่ตรงกลาง เชื่อมพื้นที่ห้องนอนทั้งสองห้องที่ปีกซ้ายและปีกขวา

ประตูห้องเป็นบานไม้สูง 2.4 m กว้าง 1.4 m แบ่งเปิด 2 ด้าน เผื่อต้องขนย้ายเฟอร์นิเจอร์หรือของชิ้นใหญ่ ๆ ก็สามารถเปิดกว้างเพื่อใช้เข้าออกได้ ที่ประตูโครงการติด Digital door lock ของ Yale

และที่ประตูมีช่องใส่จดหมาย หรือเอกสารสำคัญ ที่ออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของประตู สำหรับให้ Concierge by The Reserve บริการส่งจดหมายให้ถึงห้อง ผ่านช่องดังกล่าว ภายในโครงการจึงไม่จำเป็นต้องมี Mailroom

ภายในห้องรองรับระบบ Home automation และ vdo door phone ที่เชื่อมกับ บริเวณหน้าประตู ก่อนเข้าโถงลิฟท์

พื้นห้องปูด้วย Engineered wood ปูลายก้างปลาที่ต้องอาศัยความพิถีพิถันในการปูเป็นอย่างมากทั้งในบริเวณห้อง living และห้องนอน

ติดประตูทางเข้าด้านขวาเป็นห้อง laundry ที่ภายในสามารถตั้งเครื่องซักผ้าฝาหน้า และมีชั้น built-in เก็บอุปกรณ์ซักผ้าและเสื้อผ้าต่าง ๆ และอุปกรณ์ซักรีดได้อย่างเป็นสัดส่วน

ที่ผนังติดกัน โครงการ built-in ชั้นวางรองเท้า ที่เก็บเรียบไปกับผนังห้องได้อย่างเป็นระเบียบ

ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่ครัวเปิดอยู่ซ้ายมือ

โครงการให้ครัว built-in เป็นชุดครัวของ Gorenje

ในส่วนของ Island Kitchen ด้านบนจะเป็นหิน Quartz ลาย Turbine Grey คุณภาพระดับ Food Grade และด้านข้างจะใช้เป็นหิน Black Forest ซึ่งเป็นหินธรรมชาติทั้งหมด

ชุดครัวโครงการ built-in เต็มผนัง โดยเว้นที่วางตู้เย็นไว้ที่ด้านซ้าย

โครงการให้ชั้นวางอุปกรณ์ทำครัวทั้งด้านบนและด้านล่างเคาท์เตอร์

ด้านบนเป็นที่ดูดควัน gorenje สามารถปรับมุมองศาการใช้งานได้ และในเวลาปกติจะเปลี่ยนเป็นที่ฟอกอากาศอัตโนมัติ

ด้านล่างมี Combi Oven ของ gorenje by Phillipe Starck เช่นกัน

ที่เคาท์เตอร์ โครงการให้เตาไฟฟ้า 4 หัว ฝังเรียบไปกับพื้นเคาท์เตอร์ พร้อมชั้นและลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ทำครัว

ตรงข้ามเคาท์เตอร์เป็น island ให้อ่างล้างจานฝังเคาท์เตอร์ พร้อม ก๊อกแบบ Touch Series คือ เป็นก๊อกที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานจริง เนื่องจากเวลาล้างจานมือจะเลอะฟองหรือเศษอาหารตอนทำอาหาร ซึ่งเราสามารถใช้หลังมือหรือส่วนอื่น ๆ ที่ไม่เลอะสัมผัสก๊อกเพื่อเปิด ปิดน้ำได้ เพียงแค่สัมผัส พร้อมที่คว่ำจานที่มีระบบรองรับการไหลของน้ำหลังล้างเสร็จ

และออกแบบให้มีพื้นที่จัดวางอุปกรณ์ใช้งานที่ด้านล่าง

ด้านล่างอ่างล้างจาน มี Food waste disposal เครื่องบดเศษอาหารซึ่งจะช่วยให้การกำจัดเศษอาหารง่ายขึ้นแล้วยังลดการอุดตันของท่อน้ำทิ้งได้อีกด้วย

ปลายสุดเคาท์เตอร์ครัวเป็นห้องน้ำแขกที่มีแค่ส่วน Powder Room

ถัดจากครัว ด้านใน ติดหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ เป็นตำแหน่งวางชุดโซฟาริมหน้าต่างบานโค้ง เข้ามุม สูงเต็มความสูงห้อง ที่สูงถึง 2.7 m เกินมาตรฐานคอนโด low rise ที่สามารถออกแบบได้ รวมทั้งให้แอร์ concealed type ในทุกห้อง

ที่ living area สามารถวางชุดโซฟาสำหรับ 5-6 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางตัวใหญ่ได้

ติดกันเป็นระเบียง indoor ขนาดใหญ่ Hideaway terrace ที่โดดเด่นด้วยกระจกเข้ามุมบานโค้ง สามารถเปิดรับลม รับแสงได้ แต่ก็สามารถปิด เปิดแอร์ ใช้งานได้เช่นกัน เป็นเสมือนระเบียงขนาดใหญ่และ multi-function room ด้วยเช่นกัน ที่สามารถนั่งชมวิว คิดงาน หรือปรับเป็นพื้นที่สวนภายในห้องได้ด้วย

ถ้าเป็น Unit type ที่เป็น garden access บริเวณนี้จะเป็นประตูเปิดเชื่อมออกสู่สวนภายนอก

ด้านหน้าทางเข้าระเบียง เป็นที่วางโต๊ะทานอาหาร กว้างพอสำหรับโต๊ะ 6 ที่นั่ง

นอกจากนี้ตามผนังยังมีพื้นที่เก็บของที่เรียบเนียนไปกับผนังตกแต่ง

ส่วนห้องนอนแยกไว้ที่ปีกซ้ายและขวา

ห้องนอนเล็กอยู่ที่ปีกซ้ายของ unit ระหว่างพื้นที่ครัวและพื้นที่ living

ภายในห้องนอนเล็ก แบ่งพื้นที่ด้านขวาหลังประตูทางเข้าเป็นพื้นที่ walk-in closet

โครงการให้ตู้เสื้อผ้าหน้าบานกระจก Reflective Glass คือ เป็นกระจกใสเมื่อเปิดไฟ และเมื่อปิดไฟจะเป็นกระจกส่องเพื่อใช้งาน พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งที่สุดทางเดินด้านใน

ด้านขวาเป็นทางเข้าห้องน้ำ โครงการให้พื้นที่ส่วนแห้งติดประตูทางเข้าด้านซ้าย

โครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์แบบลอยตัว พร้อมกระจกบานใหญ่

ที่เคาท์เตอร์ล้างหน้าเป็นชุดสุขภัณฑ์ของ Villeroy & Boch

ส่วนพื้นที่ส่วนเปียกอยู่ด้านขวา กั้นด้วย glass shower โครงการให้ hand shower พร้อมที่วางอุปกรณ์อาบน้ำติดผนัง

ส่วนพื้นที่พักผ่อน สามารถวางเตียง ไว้ติดทางออกระเบียง

ที่โครงการให้กระจกบานใหญ่ เต็มมุมมอง เต็มความกว้างของห้อง

ที่ระเบียง กว้างพอให้ใช้งาน กับราวระเบียงกันตกกระจก

และกั้นพื้นที่วางคอมฯแอร์ไว้เป็นสัดส่วนจากพื้นที่ระเบียง

ส่วนพื้นที่ห้องนอนใหญ่อยู่ที่ปีกขวาของยูนิต

ภายในห้องนอนใหญ่ สามารถวางเตียง king site พร้อมโต๊ะหัวเตียง ติดหน้าต่างบานใหญ่ ที่ด้านซ้ายของประตูทางเข้า

ภายในห้องนอนใหญ่ สามารถวางเตียง king site พร้อมโต๊ะหัวเตียง ติดหน้าต่างบานใหญ่ ที่ด้านซ้ายของประตูทางเข้า

ด้านในมีตู้เสื้อผ้าตั้งอยู่สองด้านซ้ายขวา ให้บานกระจกที่ตู้เสื้อผ้าเช่นเดียวกับห้องนอนเล็ก

ด้านในสุดขวามือเป็นที่ตั้งโถสุขภัณฑ์ แบบ auto washlet มีบานกระจกกั้นเป็นสัดส่วน

ส่วนด้านซ้ายเป็นห้องอาบน้ำ มีกระจกกั้นแยกห้องเช่นกัน โครงการให้ Rain shower และ hand shower พร้อมติดตั้งระบบน้ำ thermostat

ระหว่างทั้งสองห้องเป็นที่ตั้งอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว มีฉากหลังเป็นหิน black forest ปูต่อลายเต็มความกว้างผนัง

ส่วนตรงกลางห้องเป็นที่ตั้งอ่างล้างหน้า ไฮไลท์ของโครงการ ที่ให้เฉพาะ 2 ห้องนอน พื้นที่ 100 ตารางเมตรขึ้นไป กับอ่างล้างหน้าแยก his & her แบบลอยตัว มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งปลั๊กไฟ ไฟส่อง และตู้เก็บของ ที่ทั้งสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ห้องนี้เหมาะสำหรับครอบครัว ที่ต้องการพื้นที่ใช้งานเพิ่มขึ้นแบบมีสัดส่วน เป็นส่วนตัวได้ในเวลาที่ต้องการ เพราะมีพื้นที่ ระเบียง indoor ขนาดใหญ่ Hideaway terrace ที่สามารถใช้เป็นทั้งพื้นที่สวนเรือนกระจก พื้นที่พักผ่อน หรือปรับเป็นห้องใช้งานอื่น ๆ ก็ได้ตามแต่ความต้องการ

นอกจากนี้ ยังมีห้องเปล่าขนาดเล็ก 1 bedroom 48.42 Sq.m. ห้องทิศเหนือ ด้านหลังโครงการ ที่ภายในแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่ living ที่ปีกซ้าย และห้องนอนที่ปีกขวา 

โครงการให้ประตูห้องบานไม้สูง แบ่งเปิด 2 ด้าน เช่นเดียวกับห้อง 2 bedroom ที่ประตูโครงการติด Digital door lock ของ Yale และมีช่องใส่จดหมาย หรือเอกสารสำคัญ ที่ออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของประตู สำหรับให้ Concierge by The Reserve บริการส่งจดหมายให้ถึงห้อง  ภายในห้องรองรับระบบ Home automation และ vdo door phone ที่เชื่อมกับ lobby

พื้นห้องปูด้วย Engineered wood ปูลายก้างปลาที่ต้องอาศัยความพิถีพิถันในการปูเป็นอย่างมากทั้งในบริเวณห้อง living และห้องนอน

ติดประตูทางเข้าด้านซ้ายมือ เป็นครัว built-in เป็นชุดครัวของ Gorenje ในส่วนของ Kitchen ด้านบนจะเป็นหิน Quartz ลาย Turbine Grey และด้านข้างจะใช้เป็นหิน Black Forest ซึ่งเป็นหินธรรมชาติทั้งหมด

ชุดครัวโครงการ built-in เป็น L-shape โดยเว้นที่วางตู้เย็นไว้ที่มุมผนังด้านซ้าย โครงการให้ชั้นวางอุปกรณ์ทำครัวทั้งด้านบนและด้านล่างเคาท์เตอร์

ด้านบนเป็นที่ดูดควัน gorenje

ด้านล่างมี Combi Oven ของ gorenje by Phillipe Starck

ที่เคาท์เตอร์ โครงการให้เตาไฟฟ้า 2 หัว ฝังเรียบไปกับพื้นเคาท์เตอร์

พร้อมชั้นและลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ทำครัว

ปลายเคาท์เตอร์อีกด้าน โครงการให้อ่างล้างจานฝังเคาท์เตอร์ พร้อม ก๊อกแบบ Touch Series ที่ใช้ระบบสัมผัสก๊อกเพื่อเปิด ปิดน้ำ

ด้านล่างอ่างล้างจาน มี Food waste disposal เครื่องบดเศษอาหารซึ่งจะช่วยให้การกำจัดเศษอาหารง่ายขึ้นแล้วยังลดการอุดตันของท่อน้ำทิ้งได้อีกด้วย

ถัดจากครัว ด้านใน ติดทางออกระเบียง เป็นตำแหน่งวางชุดโซฟา เป็นมุมพักผ่อน ดูทีวี

ส่วนที่ปีกขวาของยูนิต ติดประตูทางเข้าเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า

ถัดไปเป็นทางเข้าห้องนอน ภายในห้องนอน แบ่งพื้นที่ด้านขวาหลังประตูทางเข้าเป็นพื้นที่ walk-in closet

โครงการให้ตู้เสื้อผ้าหน้าบานกระจก Reflective Glass คือ เป็นกระจกใสเมื่อเปิดไฟ และเมื่อปิดไฟจะเป็นกระจกส่องเพื่อใช้งาน

ด้านซ้ายเป็นทางเข้าห้องน้ำ พื้นที่ส่วนแห้งติดประตูทางเข้า โครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์แบบลอยตัว และ ชุดสุขภัณฑ์ของ Villeroy & Boch พร้อมกระจกบานใหญ่

ส่วนพื้นที่ส่วนเปียกอยู่ด้านซ้าย กั้นด้วย glass shower โครงการให้ hand shower พร้อมที่วางอุปกรณ์อาบน้ำติดผนัง

ติดผนังกระจกโครงการให้อ่างอาบน้ำแบบลอยตัว พร้อมฉากหลังเป็นหิน black forest

พื้นที่วางเตียงติดหน้าต่างกระจกบานสูง

ห้องนี้เหมาะสำหรับ 1-2 คนที่เน้นพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วน ไม่ต้องการห้องที่ใหญ่มาก ขนาดกะทัดรัด แต่ได้ function การใช้งานเพื่ออยู่อาศัยที่ครบครัน

บทสรุปส่งท้ายกับโครงการ Super Luxury Low Rise ที่ยากจะหาใครเลียนแบบ

หากพิจารณาจากผลตอบรับของ The Reserve 61 ที่ Sold out ไปแล้ว และยอดขายของ The Reserve 61 Hideaway ที่เหลือห้องอยู่ไม่กี่ยูนิต เห็นทีจะเป็นบทพิสูจน์ว่าแบรนด์ The Reserve แห่งนี้ต้องมีมนต์เสน่ห์อะไรที่สามารถครองใจกลุ่มลูกค้าระดับ HNWI (High Net Worth Individual) ได้อย่างอยู่หมัด ผ่านการมองลึกไปถึง Insight ของผู้ซื้อเฉพาะบุคคลว่าอะไรในโครงการที่สามารถสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นในตัวของคนซื้อได้ ในหลาย ๆ ครั้งคุณค่าก็อาจจะเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่เราไม่ทันได้คาดคิด แต่กลับมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้ออย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น The Reserve 61 Hideaway แห่งนี้ หากเราไม่นับการสร้างสรรค์พื้นที่ส่วนกลางที่ให้สุนทรียะมากกว่าโครงการ Luxury Low Rise ทั่วไป สิ่งหนึ่งที่เป็นตัวสร้างความแตกต่างชั้นดีก็คือรูปแบบยูนิตเลย์เอ้าท์ที่มีความแตกต่างกันออกไปหลายสิบแบบ จนห้องใหญ่ ๆ อย่าง Duplex Pool Access และ Triplex ที่นำรถมาจอดในตัวยูนิตเหมือนบ้านเลย ขายไปหมดแล้ว โดยห้องส่วนใหญ่ที่พอจะมีขายก็จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนเท่า ส่วนห้องรูปแบบ 2 ห้องนอน เหลือเพียงไม่กี่ห้องเท่านั้น  สะท้อนให้เห็นว่าหากเป็นโครงการหรูที่สร้างออกมาได้ตรงจริตกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง ยังไงก็ต้องขายได้ ซึ่งก็แน่นอนว่าห้องที่ดีที่สุดแพงที่สุดย่อมถูกขายออกไปก่อน แต่ถึงแม้โครงการจะมีห้องพร้อมขายเพียงห้องแบบ 1 ห้องนอนเป็นส่วนใหญ่ ก็ไม่ควรพลาดโอกาสการเป็นเจ้าของครับ น่าจะเหมาะกับกลุ่มเริ่มต้นครอบครัวที่อยู่กันประมาณ 2 คน เพราะแค่ห้องเริ่มต้นก็มีขนาดใหญ่กว่า 1 ห้องนอนของโครงการอื่นๆแล้วครับ

นอกจากนี้การออกแบบห้องพักให้ได้บรรยากาศเหมือนรีสอร์ทระดับ 6 ดาว ที่ไม่ว่าอยู่มุมไหนของห้องก็สามารถเสพวิวส่วนกลางสวยๆได้อย่างไม่มีเบื่อ ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบของการใช้ชีวิตอันหรูหราฟู่ฟ่าที่ยากจะหาจากคอนโด Low Rise แห่งอื่นๆ ที่มักจะเอาพื้นที่ส่วนกลางไปไว้ด้านบนดาดฟ้าแทน โดยที่ระยะห่างระหว่างอาคารส่วนใหญ่ก็ดูจะขัดตาไปหมด โดยทุกยูนิตของโครงการจะมีหน้าต่างเปิดโล่งรับแสงธรรมชาติจากกระจก Full Height และการออกแบบ function ที่เน้นความสะดวกสบายและหรูหราที่มี Mail Box อยู่ที่หน้าประตู ตู้เก็บของที่ออกแบบมาให้รองรับการใช้งานจริง ตู้เสื้อผ้า ครัว built-in เป็นชุดครัวของ Gorenje ในส่วนของ Island Kitchen ด้านบนจะเป็นหิน Quartz ลาย Turbine Grey และด้านข้างจะใช้เป็นหิน Black Forest ซึ่งเป็นหินธรรมชาติทั้งหมด และที่ดู Luxury สุดๆ ก็คือห้องน้ำแยก สำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอนที่มีขนาด 100 ตรม.ขึ้นไป จะเป็นแบบ His & Her พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ ให้บรรยากาศเหมือนห้องน้ำในโรงแรมระดับ 6 ดาว ที่น้อยคนจะมีโอกาสได้สัมผัส

แม้กระทั่งห้องฝั่งทิศใต้ที่ชิดกับ The Reserve Sukhumvit 61 ถ้าเป็นโครงการอื่นคงจะเป็นฝั่งที่มี Defect เรื่องวิว และเป็นฝั่งที่มีราคาถูก ก็กลับกลายเป็นห้องที่มี Value เพิ่มมากกว่าด้วย Buffer Zone อย่าง Hideaway Garden และ Infinite Pool รูปตัว O ที่สร้างทัศนียภาพอันดีให้แก่ทั้งผู้ที่อยู่ The Reserve 61 Hideaway เอง และผู้ที่อยู่ฝั่ง The Reserve Sukhumvit 61 ที่เหมือนถูกหวยไปเต็มๆ เพราะได้วิวที่สบายตาไปตลอดชาติ

มีราคาขายที่ Competitive กว่าหากเทียบกับคอนโดระดับ Super Luxury ในย่านทองหล่อ

ส่วนย่านเอกมัยจะไม่ค่อยมีคอนโดระดับ Super Luxury นอกจากแบรนด์ The Reserve ด้วยกัน และ Mulberry Grove Sukhumvit

เมื่อผสานกับพื้นที่ส่วนกลางสไตล์ Wellness Essential กว่า 2 ไร่ในแบบ Triple Facilities ที่มีเอกลักษณ์ในการดึงดูดคนที่พร้อมจ่ายได้โดยที่ไม่ต้องคิดเยอะ บนทำเลที่ดีที่สุดหนึ่งเดียวที่เข้าออกได้สองทางทั้งจากฝั่งสุขุมวิท 61 และซอยเอกมัย 1 จึงทำให้ที่นี่มี Value ไม่แพ้คอนโดริมถนนใหญ่ ที่มีระยะ Set Back จากถนนเยอะๆ โดยที่มีผลพลอยได้คือความเงียบสงบที่มากกว่าทุกคอนโด และความสบายในการเดินทางแบบเลี่ยงรถติดบนถนนเอกมัย ที่คอนโดไหนก็ให้ไม่ได้ครับ…เมื่อได้มากถึงขนาดนี้แล้ว ยังไงก็คงจะต้องยกตำแหน่ง Best of Super Luxury Condo ในแบบ Low Rise ของปี 2022 นี้ให้ไปเลยครับ

The Reserve 61 Hideaway ราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท* พร้อมเฟอร์นิเจอร์ จาก Olivia Living

โครงการจะเปิดให้ชมแบบเอ็กซ์คลูซีฟในงาน Open House  อย่างเป็นทางการในวันที่ 5 – 6 พฤศจิกายน 2565 นี้

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถโทรนัดหมายเพื่อเยี่ยมชมโครงการฯล่วงหน้า โทร. 1739

หรือ ลงทะเบียนขอรับข้อมูลเพิ่มเติม คลิก bit.ly/3VBxCoV

Line : @thereservecondo l bit.ly/31TXb8v

แผนที่ตั้ง : https://goo.gl/maps/Y9e6sJFmUxYFdG7R8

#thereservecondo

#thereserve61hideaway