THE LINE PHAHONYOTHIN PARK

  

เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค


THE LINE PHAHONYOTHIN PARK (เดอะไลน์ พหลโยธิน พาร์ค) เป็นคอนโดใหม่บนทำเลห้าแยกลาดพร้าว ใกล้เซ็นทรัลลาดพร้าว และสถานีพหลโยธิน ทำเลห้าแยกลาดพร้าวคือทำเลที่มีศักยภาพอย่างเห็นได้ชัดเจนในปัจจุบัน และในอนาคตดูจากข่าวการลงทุนของกลุ่มทุนใหญ่ที่และภาครัฐที่จะมีแผนการลงทุนกันใหญ่โตในทำเลห้าแยกลาดพร้าวไม่ว่าจะเป็นโครงการที่อยู่บนฝั่งถนนพหลโยธินช่วงก่อนถึงแยกลาดพร้าวที่มีทั้ง Mochit Complex, Bangkok Terminal, ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน รวมถึงการเกิดของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ และ Mega Project ที่จะกลายเป็นโครงการใหญ่ของภาคเอกชนโดยความร่วมมือกันของกลุ่ม BTS และ กลุ่ม GLAND เดิม เพื่อพัฒนาที่ดิน 48 ไร่ให้กลายเป็นเป็นโครงการ Mixed-use มีอสังหาฯ หลากหลายแบบอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ขณะนี้กำลังเคลียร์พื้นที่เพื่อเตรียมสร้างถนน 8 เลนความกว้าง 30 เมตร เชื่อมระหว่างพหลโยธินกับวิภาวดีรังสิต

ต่อทอง ทองหล่อ เมื่อ 18 November, 2018 เวลา 00.08 am

Prop score™: 4.2

คะแนนรีวิว: 0.0

0 รีวิว


ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา



    ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ

THE LINE PHAHONYOTHIN PARK

บริษัทผู้สร้าง

แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

สถานที่

ถนนพหลโยธิน

สถานีรถไฟ BTS

ห้าแยกลาดพร้าว Distance 300 m.

สถานีรถไฟใต้ดิน

MRT พหลโยธิน Distance 700 m.

Airport Rail Link

-

สถานี BRT

-

พื้นที่

ประมาณ 2 ไร่

ชั้น

32 ชั้น

ยูนิต

880 ยูนิต

ที่จอดรถ

58% (ไม่รวมซ้อนคัน)

ลิฟท์

5 Passenger Lift +1 Service Lift

สิ่งอำนวยความสดวก

CO-LIVING SPACE, CO-LIFESTYLE, Lobby, Co-cooking Studio, CO-RECREATION, Co-Playing Space, Kids room, Gym, Pool, Tree house, CO-WORKING SPACE


    ประเภทยูนิต

ประเภท

คอนโด High Rise/CONDO

studio

-

1 bedroom

31.75 – 41.25 ตร.ม.

2 bedroom

58.75 – 79.5 ตร.ม.

3 bedroom

-

Duplex

-

Penthouse

-

ประเภทอื่นๆ

-

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน

n/a

ราคาเริ่มต้น / ตรม.

115,000 บาท/ ตร.ม.

ราคาเริ่มต้น / ยูนิต

3.59 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง

55 บาทต่อตารางเมตร ต่อเดือน โดยแบ่ง 5 บาทให้กับพื้นที่ที่เป็นเจ้าของร่วมกันทั้งระหว่าง 3 โครงการ

Sinking Fund fee

n/a

สร้างเสร็จ

คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ก.พ. 2022

เว็บไซต์

https://www.sansiri.com/condominium/theline-phahonyothin-park

1685


เพื่อนบ้าน Street View


ถ้าอยู่ที่ไหนก็ได้ อยากอยู่ที่แบบไหน? รีวิว THE LINE PHAHONYOTHIN PARK คอนโดแนว Eco-Luxury พร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่สุดในย่านห้าแยกลาดพร้าว

 

ถ้าให้จินตนาการที่ที่เราอยากอยู่ เราอยากอยู่ที่แบบไหน ลองดูวิดีโอตัวนี้ แล้วชวนกันจินตนาการไปด้วยกันว่าคำตอบของเราจะเป็นแบบไหน

คลิก https://youtu.be/Qu54gUkeYok

Imagine Living Here https://youtu.be/V8n6EVwDs2E

Location ของ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพสูง

THE LINE PHAHONYOTHIN PARK (เดอะไลน์ พหลโยธิน พาร์ค) เป็นคอนโดใหม่บนทำเลห้าแยกลาดพร้าว ใกล้เซ็นทรัลลาดพร้าว และสถานีพหลโยธิน ทำเลห้าแยกลาดพร้าวคือทำเลที่มีศักยภาพอย่างเห็นได้ชัดเจนในปัจจุบัน และในอนาคตดูจากข่าวการลงทุนของกลุ่มทุนใหญ่ที่และภาครัฐที่จะมีแผนการลงทุนกันใหญ่โตในทำเลห้าแยกลาดพร้าวไม่ว่าจะเป็นโครงการที่อยู่บนฝั่งถนนพหลโยธินช่วงก่อนถึงแยกลาดพร้าวที่มีทั้ง Mochit Complex, Bangkok Terminal, ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน รวมถึงการเกิดของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ และ Mega Project ที่จะกลายเป็นโครงการใหญ่ของภาคเอกชนโดยความร่วมมือกันของกลุ่ม BTS และ กลุ่ม GLAND เดิม  เพื่อพัฒนาที่ดิน 48 ไร่ให้กลายเป็นเป็นโครงการ Mixed-use มีอสังหาฯ หลากหลายแบบอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ขณะนี้กำลังเคลียร์พื้นที่เพื่อเตรียมสร้างถนน 8 เลนความกว้าง 30 เมตร เชื่อมระหว่างพหลโยธินกับวิภาวดีรังสิต

 

รวมไปถึงแผนการสร้าง Oasis Tower ที่เป็นที่สุดของห้าแยกลาดพร้าวโดย Singha Estate และประกอบกับคาแรกเตอร์ของย่านห้าแยกลาดพร้าวเดิมก็มีศักยภาพดีอยู่แล้ว มีโครงการอาคารสำนักงานมากมายเช่น ธนาคารทหารไทย, Sun Tower, SJ Infinite, One Business Complex, ไทยรัฐ Bangkok Airways ส่วนอีกฝั่งก็เต็มไปด้วยแหล่งจับจ่ายทั้ง Central Plaza ลาดพร้าว, Union Mall, Tesco Lotus ข้อมูลทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ทำให้เราปฏิเสธได้ยากว่าห้าแยกลาดพร้าวคือทำเลที่มีศักยภาพ

 

ติดตามอ่านศักยภาพของทำเลห้าแยกลาดพร้าวได้ที่บทความ “ส่องศักยภาพของทำเลห้าแยกลาดพร้าว ศูนย์รวม MEGA PROJECT ในอนาคตจากทุกภาคส่วน 

ที่ตั้งของโครงการจริงๆ ของ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร อยู่เยื้องกับ Central Plaza Ladprao ทางเข้าอยู่ติดกับ Tesco Lotus ครับ ตำแหน่งในแผนที่ Google Maps https://goo.gl/maps/PxuZjg1Ndf62 พิกัด GPS 13.818058, 100.564835

 

เดินจากรถไฟฟ้าสถานีพหลโยธินในปัจจุบันประมาณ 700 เมตร จากสถานีห้าแยกลาดพร้าวในอนาคตประมาณ 300 เมตรถึงด้านหน้าโครงการ (ยังไม่รวมระยะทางเดินเข้าไปถึงอาคารอีกนะครับ)

แต่สำนักงานขาย THE LINE PHAHONYOTHIN PARK จะอยู่ที่ปากซอยพหลโยธิน 29 ครับ ตำแหน่งในแผนที่ Google Maps https://goo.gl/maps/JPYVBKDEhVJ2 พิกัด GPS 13.825541, 100.567041

 

THE LINE PHAHONYOTHIN PARK เป็นคอนโดแสนสิริ ตั้งอยู่บนที่ดินเนื้อที่โครงการประมาณ 2 ไร่ เป็นอาคารพักอาศัย สูง 32 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวนห้องชุดทั้งหมด 881 ยูนิต แบ่งเป็นห้องชุดเพื่อการพักอาศัย 880 ยูนิต และห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 1 ยูนิต

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการแบ่งเป็นส่วนที่เป็นพื้นที่ได้แก่ พื้นที่โถงต้อนรับ, สวนหย่อมชั้น1, ชั้น 2 และ ชั้น 22 ,พื้นที่ทำงานส่วนกลาง, พื้นที่ถ่ายภาพอเนกประสงค์ ,พื้นที่กิจกรรมเวิร์คชอป ,พื้นที่ครัวส่วนกลาง ,พื้นที่สันทนาการสำหรับเด็ก และ ส่วนที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ สระว่ายน้ำและจากุซซี่, สระเด็ก, ห้องออกกำลังกาย พร้อมอุปกรณ์, ห้องประชุม, ห้องพักผ่อนอเนกประสงค์, สวนและสนามเด็กเล่น ชั้น 32, ห้องซักผ้า, อินเตอร์เน็ตไร้สายบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง, จุดบริการชาร์ตแบตเตอรี่ สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และที่จอดรถชั่วคราว

 

นอกจากนี้โครงการยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นทรัพย์ส่วนกลางที่ใช้ร่วมกัน 3 อาคารชุด คือ สวนขนาดใหญ่กว่า 8 ไร่และสวนหย่อมรอบอาคาร, อาคารจอดรถยนต์ 16 ชั้น, ถนนภายในโครงการ, อาคารพาณิชย์และสำนักงาน (อาคารอเนกประสงค์), สวนหย่อมและทางเท้าของอาคารพาณิชย์และสำนักงาน และทางเลี้ยวทางเข้า-ออก

 

ถึงเวลาแล้วที่คอนโดหรูยุคนี้ต้องใช้คอนเซปต์ GREEN & ECO-LUXURY

โครงการ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK นี้มีพื้นที่สวนกว่า 8 ไร่ ทีมออกแบบจึงนำจุดเด่นของสวนขนาดใหญ่มาต่อยอดให้เป็นคอนโดมิเนียมที่ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ GREEN & ECO-LUXURY ซึ่งถือว่าเป็น Trend ใหม่ของความหรูหราในยุคนี้ ติดตามอ่านบทความเรื่อง “ECO-FRIENDLY IS THE NEW LUXURY TREND เมื่อเทรนด์ความหรูหราที่แท้จริงเปลี่ยนไป” คอนโดมิเนียมหรูหราในยุคใหม่ไม่ใช่แค่จะยัดอัดเอาหินอ่อนลงไปทั้งแผ่นให้ดูหรูเฉยๆ ไม่ใช่แค่การเอาวัสดุที่ดูเหมือนจะหรูมาแปะให้ดูดีแค่เปลือกนอกแต่เบื้องหลังกลับมีผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมมากมาย

 

สิ่งที่มีค่าสูงในอดีตนั้นล้าสมัยแล้วเพราะความคิดและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป เช่น ในอดีตหูฉลามเคยเป็นอาหารหรูหรา แต่ปัจจุบันเทรนด์การกินเปลี่ยนเพราะความคิดคนเปลี่ยน ไม่นิยมกินหูฉลามกันแล้วเพราะผลกระทบทางลบของการเลือกกินมีมากเกินไป ปัจจุบันคนหันมาบริโภคอาหารรักษาสุขภาพ อาหาร Vegan อาหาร Organic กันมากขึ้นเพราะมีผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่น้อยกว่าและมีคุณค่ามากกว่า ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของความคิดมนุษย์ทั้งนั้นว่าจะตีความว่าอะไรดีกว่าหรือแย่กว่าในแต่ละช่วงเวลา แต่ถ้าในช่วงเวลานี้ต้องบอกว่าคอนเซปต์ Green & Eco-luxury นั้นจะมาฮิตในประเทศไทยแน่นอน หลังจากที่ประเทศอื่นๆ ฮิตกันไปนานแล้ว เพราะคนไทยเริ่มมีความคิดใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เราจะเริ่มเห็นได้จากพฤติกรรม Say No Plastic Bag ไม่รับถุงพลาสติกจากร้านค้า ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี

 

ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมเดิมทีก็เป็นโครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสูงอยู่แล้ว แต่เราสามารถช่วยกันทำให้สิ่งแวดล้อมของเราดีขึ้นได้โดยการเลือกซื้อเฉพาะโครงการที่มีกระบวนการออกแบบและการก่อสร้างที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นั่นคือคอนโดมิเนียมแนว Green & Eco-luxury นั่นเอง ซึ่งจะช่วยทำให้เรารู้สึกผิดต่อธรรมชาติให้น้อยที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ และถือว่าเป็นการเลือกอยู่คอนโดมิเนียมที่หรูหราจากคอนเซปต์และการอยู่อาศัยภายในที่รักษาสิ่งแวดล้อมจริงๆ ไม่ใช่การทำตัวหรูหราแค่เปลือกนอกแต่เบื้องหลังทำลายล้างธรรมชาติจนแทบมลายสิ้น ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่น่าเบือนหน้าหนีในยุคปัจจุบัน

 

แล้ว THE LINE PHAHONYOTHIN PARK มีอะไรบ้างที่เป็นคอนเซปต์ Green & Eco-Luxury

มาเริ่มดูที่งาน Architect & Landscape ทีมออกแบบโครงการ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง archi.smith ดูแลการออกแบบสถาปัตยกรรม กับสถาบันอาศรมศิลป์ซึ่งดูแลด้านภูมิสถาปัตยกรรม ออกแบบโดยใช้จุดเด่นจากสวนส่วนกลางที่มีขนาดใหญ่ถึง 8 ไร่เป็นแรงบันดาลใจและคอนเซปต์หลักในการออกแบบ โดยออกแบบให้ตัวอาคารเปรียบเสมือนเป็นต้นไม้ยักษ์ในเทพนิยาย (Magical Tree) จำลองความเป็นธรรมชาติขึ้นมา ถ้าเรามองจากด้านนอกอาคารจะเห็นการตกแต่ง Facade ภายนอกดูแล้วเป็นเหมือนลำต้นและกิ่งก้านสาขาของต้นไม้

แบ่งโซนของงานออกแบบออกเป็น 4 ส่วน

ส่วนแรกส่วนชั้นล่าง ซึ่งจะเกี่ยวเนื่องกับรากไม้ ถ้ำ ก้อนหิน

ส่วนที่สองคือ ส่วนกลางอาคาร ซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงลักษณะของลำต้นของต้นไม้ หรือกิ่งก้าน

ส่วนที่สาม คือ ส่วนบนชั้น 22 ซึ่งจะเชื่อมโยงกับโพรงบนต้นไม้ เปรียบเสมือนที่อยู่ของสัตว์

และส่วนสุดท้ายส่วน Rooftop ซึ่งจะเป็นลักษณะของยอดไม้ โปร่งโล่งสบายเปิดรับวิวกว้าง ซึ่งคอนเซปต์ที่กำหนดมานี้เป็น Universal Concept ที่ใช้ร่วมกันกับงานออกแบบภูมิทัศน์และงานออกแบบภายใน เพื่อให้งานที่ออกแบบมากลมกลืนเป็นเรื่องราวเดียวกันทั้งโครงการ

 

ในส่วนของ Interior การวางคอนเซ็ปต์โดยรวมของโครงการ “MAGICAL FOREST” พร้อมสอดแทรกแนวความคิดของการอยู่อาศัยที่ใส่ใจถึงสภาพแวดล้อม (Eco-Luxury Living) โดยสื่อออกมาทางประโยชน์ การใช้สอย (Functions) การวัสดุที่รักษ์ธรรมชาติ (Eco-Material) หรือ วัสดุที่นำกลับมาใช้ที่มีลักษณะโดดเด่น (Recycle Material) และการประหยัดพลังงานในรูปแบบของการออกแบบแสงสว่าง

 

ข้อดีที่โดดเด่นของ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK

THE LINE PHAHONYOTHIN PARK ทำเลดีมากเพราะหน้าบ้านคือ Tesco Lotus เดินข้ามสะพานลอยถนนพหลโยธินไปก็เป็นเซ็นทรัลลาดพร้าว (Central Plaza Ladprao) และก็ใกล้สถานีรถไฟฟ้าถึง 2 สถานี 2 สายสำคัญหรือสายสีเขียวและสายสีน้ำเงิน สายสีเขียวคือสถานีห้าแยกลาดพร้าวที่กำลังก่อสร้าง และไม่ไกลก็ใกล้กับสายสีน้ำเงินสถานีพหลโยธิน ใกล้ห้าง Union Mall เรียกได้ว่า THE LINE PHAHONYOTHIN PARK ตั้งอยู่ในที่เป็นที่สุดของความอุดมสมบูรณ์แห่งย่านห้าแยกลาดพร้าว

 

THE LINE PHAHONYOTHIN PARK มีสวนขนาดใหญ่ถึง 8 ไร่ที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากคอนโดมิเนียมอื่นๆ ในย่านห้าแยกลาดพร้าว ภายนอกโครงการที่ออกแบบสวยงาม จำลองธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนและการออกแบบภายในพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ก็คำนึงถึงความเป็นธรรมชาติตามคอนเซปต์ Green & Eco-Luxury เข้าไปถึงภายในห้องพักที่ใช้วัสดุคุณภาพดี สวยงามแตกต่างจากโครงการอื่นๆ มีรายละเอียดงานดีไซน์ที่มากกว่า

 

ราคาขาย THE LINE PHAHONYOTHIN PARK เมื่อเทียบกับคุณภาพของที่ได้รับนั้นตีความได้ว่าถูกกว่าคอนโดมิเนียมใกล้เคียงอย่าง Life Ladprao Valley, The Privacy , Knightbridge โดยในความเห็นส่วนตัวคิดว่า Life จะมีราคาที่สูงกว่าแต่สเปคด้อยกว่า แต่ข้อดีกว่าคือทำเลติดรถไฟฟ้ามากกว่า ส่วน The Privacy นั้นราคาพอๆ กับ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK แต่ทำเลด้อยกว่า The Line เพราะย่านห้าแยกลาดพร้าวฝั่งเซนต์จอห์นนั้นหาของกินยากมาก เดินทางด้วยรถยนต์ไม่ค่อยสะดวกต้องไปกลับรถไกล แต่ The Privacy ก็จะมีพื้นที่ส่วนกลางที่ดีไซน์แตกต่างกันไปแล้วแต่รสนิยมของผู้ซื้อ ส่วน Knightbridge นั้นราคาไปไกลรออยู่เหนือระดับเป็นผู้มาจากอนาคตแล้วเรียบร้อย ส่วนคุณภาพของงานภายในและบริการหลังการขายคงต้องให้ไปสำรวจกันเอาเองว่าโครงการก่อนๆ เป็นอย่างไรแล้วตัดสินใจกันเอาเองครับ

เมื่อดูภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียม segment ตารางเมตรไม่เกิน 250,000 บาทแถบห้าแยกลาดพร้าว ณ นาทีนี้ (เขียนเมื่อพ.ย. 2018) ก็ต้องขอชี้เป้าให้เลือกมาที่ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK เพราะชนะทุกโครงการใหม่รายล้อมไปแบบได้คะแนนสมดุลครบทั้งด้านทำเล ดีไซน์ คุณภาพ และราคาหน้าสัญญาครับ

 

จุดเด่นอีกอย่างคือโครงการ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK นี้ใช้เวลาสร้างนานมากครับ คาดว่าจะสร้างเสร็จในช่วง กุมภาพันธ์ Q3 ปี 2022 เพราะกว่าจะ craft จากตึกเก่าให้เป็นตึกใหม่ได้นั้นต้องใช้เวลาเพื่อคุณภาพการก่อสร้างและมีเวลาสร้างสรรค์ผลงานให้ออกมาดีที่สุดและมีผลกระทบต่อลูกบ้านตึกติดกันในปัจจุบันที่ Abstract ให้น้อยที่สุดครับ

 

พื้นที่ส่วนกลางที่นี่ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK ก็ให้เยอะ หลากหลาย ตามสไตล์ตระกูล THE LINE เป็นโครงการบนแปลงที่ดินใหญ่ facility จัดหนัก จัดเต็ม ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ทุก Generation สำหรับเด็ก นักเรียน นักศึกษา วัยทำงาน  วัยพ่อคนแม่คน วัยเกษียณก็ดี

 

ห้องพักอาศัยหลักๆ ของ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK จะแบ่งออกเป็นห้องวิวทิศเหนือกับทิศใต้ ทิศเหนือจะเจอวิวบล็อกกับอาคารสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่อยู่ติดกับกองปราบ ส่วนวิวทิศใต้จะโล่งมากกว่าครับ เห็นวิวเมืองและบางจุดจะมองเห็นหมู่ตึก Life แต่ระยะห่างค่อนข้างไกลจนมองไม่เห็นกิจกรรมภายในห้อง ก็ตีความได้ว่าเป็นวิวโล่งได้ครับ

 

THE LINE PHAHONYOTHIN PARK ออกแบบรูปแบบห้องพักอาศัยส่วนใหญ่เป็นห้องซองลึกยาวแต่มีความกว้างของห้องจึงทำให้ไม่ดูเหมือนห้อง Studio เพราะมีความโปร่งโล่ง และบางห้องก็มีการหันประตูห้องน้ำให้รับแสงธรรมชาติได้ด้วยจึงไม่รู้สึกอึดอัด

 

พื้นที่ครัวไม่ค่อยเน้นหนักเท่าไหร่เพราะเป็นคอนโดมิเนียมที่อยู่ใกล้ห้างมากมาย มีของกินตามร้านค้าในย่าน จึงไม่จำเป็นต้องทำครัวทำอาหารเองกันบ่อยๆ เพราะของอร่อยข้างนอกมีเยอะดีครับ

 

เจาะจุดเด่น  THE LINE PHAHONYOTHIN PARK

THE LINE PHAHONYOTHIN PARK ตั้งอยู่บนกึ่งกลางระหว่าง 2 ทำเลศักยภาพในอนาคต ห้าแยกลาดพร้าวและรัชโยธิน ภายในโครงการมีพื้นที่สวนขนาดใหญ่กว่า 8 ไร่ ซึ่งถือว่าใหญ่มาก เป็นโครงการแรกของแสนสิริที่พัฒนาภายใต้กรอบคอนเซปต์ Green Innovation ทั้งโครงการและใช้วัสดุในการก่อสร้างแนว green material เพื่อโยงกับงานออกแบบที่ตั้งใจ

 

ให้ตัวอาคารเปรียบเสมือนเป็นต้นไม้ยักษ์ในเทพนิยายโดยถ่ายทอดลวดลายต้นไม้ใหญ่ผ่าน facade ของอาคารและพื้นที่ส่วนกลาง แนวธรรมชาติภายในโครงการที่กระจายตัวอยู่หลายชั้น ตั้งแต่ชั้น G, 2, 22 และ 32 รวมกันเป็นเนื้อที่กว่า 3000 ตารางเมตร เพื่อให้ผู้เข้ามาอยู่อาศัยได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมี twinkle sky pool ที่เป็นสระว่ายน้ำลอยฟ้าสามารถชมวิวได้ 180องศาพร้อม feature tunnel ที่เชื่อมระหว่างทั้งสองฝั่งอาคาร และยิ่งไปกว่านั้นเพื่อคงคอนเซปต์ Green รักษาสิ่งแวดล้อม โครงการได้ติดตั้ง solar cell rooftop เพื่อเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยนำพลังงานไฟฟ้าที่ได้มาใช้ในส่วนกลางของโครงการ มีการใช้พืชพันธุ์ที่ช่วยกรองก๊าซเสียจากมนุษย์ ลดสารพิษจากวัสดุสังเคราะห์ จุลินทรีย์เชื้อโรคบางชนิดในอากาศ

 

สุดท้ายจุดเด่นที่ดึงดูดและไม่ควรพลาดในการเป็นเจ้าของโครงการนี้เลยคือ มีราคาเฉลี่ยที่ 139,000 บาทต่อตารางเมตร โดยเป็นการขาย fully furnished พร้อมเครื่องไฟฟ้าหลายชนิดอย่าง ตู้เย็น, TV, เครื่องทำน้ำร้อน, ไมโครเวฟ ส่วนเครื่องซักผ้าได้เฉพาะ 2 bed ในช่วงพรีเซล มีสัดส่วนยูนิตต่อขนาดพื้นที่โครงการที่ค่อนข้างน้อยไม่แออัดเกินไปเมื่อเทียบในบรรยากาศทุกโครงการที่อยู่ย่านสถานีห้าแยกลาดพร้าว และมีรูปแบบห้องหลากหลายตั้งแต่ 1 ห้องนอน ถึง 2 ห้องนอนขนาดใหญ่  Duplex Sky home เพื่อตอบทุกความต้องการและจินตนาการที่เป็นจริงของทุกคน

ECO & Smart Life

จากจุดเด่นของโครงการที่มีคอนเซปต์ Green รักษาสิ่งแวดล้อม แสนสิริจึงเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังนี้

Green Innovation และ Green Material ในสิ่งอำนวยความสะดวกในบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง เช่น  LED motion sensor, Solar charger, The Earth Blox, Refun machine, Instaview refrigerator, Solar cell rooftop, EV charger, Water saving sanitary ware, Smart food recycler, เลือกใช้วัสดุรักษาสิ่งแวดล้อม Green material Mixed marble tiles, Composite wood, Terrazzo Turf cell Stone,  veneer cabinet, recycled tire flooring ในส่วนของห้องพักอาศัยหรือ (Residential unit) ก็มีการใช้  Eco-friendly painting, In-room recycle bin, Natural light in bathroom, Double skin E2 kitchen cabinet, Hard coat low-e glass Fin facade, Well air  ส่วนการปลุกพืชพรรณ (Eco-planting) เช่น Rain garden, Pollution absorption plant, Vertical garden Coverage planting

เพราะธรรมชาติคือเพื่อนบ้านที่ดีที่สุดของมนุษย์ จึงไม่ได้แค่ทำที่อยู่อาศัย แต่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วย

นี่คือเครื่อง refun machine ใช้สำหรับ รีไซเคิลขวด PET แล้วได้เป็นแต้มสะสม

เครื่อง Smart food recycler สามารถย่อยเศษอาหารแล้วผลิตออกมาเป็น สารอินทรีย์ เพื่อใช้ผสมกับดิน ใช้ปลูกต้นไม้ได้ต่อไป ช่วยลดปริมาณขยะเปียกเหม็นเน่า

ตู้เย็นล้ำสมัย Instaview refrigerator ที่เพียง คุณเคาะที่ประตูเบาๆก็จะสามารถเห็นสิ่งของภายในที่ต้องการ สามารถหาของได้เร็วขึ้นโดยลดการเปิดตู้เย็นทิ้งไว้เป็นเวลานานช่วยลดการใช้พลังได้อย่างดีเยี่ยม

เครื่อง Well air เทคโนโลยีการระบายอากาศ มีเซนเซอร์ดักจับก๊าซเสียและดูดอากาศโดยอัตโนมัติ ดักก๊าซ CO2 VOCs และ ความชื้น

เทคโนโลยี Smart home สั่งงานเปิดปิดไฟด้วยเสียง

The Utmost Facilities สุดยอดพื้นที่ส่วนกลางอลังการ

 

โครงการ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK ได้ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้อลังกาลเกินกว่าจินตนการ ในส่วนของ Interior การวางคอนเซ็ปต์โดยรวมของโครงการ “MAGICAL FOREST” พร้อมสอดแทรกแนวความคิดของการอยู่อาศัยที่ใส่ใจถึงสภาพแวดล้อม (Eco-Luxury Living) โดยสื่อออกมาทางประโยชน์ การใช้สอย (Functions) การวัสดุที่รักษ์ธรรมชาติ (Eco-Material) หรือ วัสดุที่นำกลับมาใช้ที่มีลักษณะโดดเด่น (Recycle Material) และการประหยัดพลังงานในรูปแบบของการออกแบบแสงสว่าง Sub-concept โดยพื้นที่ของส่วน Common Area ประกอบไปด้วย

 

CO-LIVING SPACE

พื้นที่การใช้ชีวิตร่วมกัน ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตในทุกรูปแบบได้อย่างสมบูรณ์ ให้เป็นไปตามจินตนาการ พื้นที่ Co-living space นี้จะกระจายอยู่ในหลายส่วนของโครงการ ตั้งแต่ Lobby ที่ใช้ธีม The Natural Sanctuary สร้างบรรยากาศของทั้งพื้นที่ให้มีลักษณะคล้าย โพรงใต้ต้นไม้ใหญ่ ด้วยฟอร์มของฝ้าเพดาน (Feature Ceiling) คลุมทั้งพื้นที่ ด้วยรูปทรงถ้าที่ลดทอนด้วยความลาดเอียง แทนที่ด้วยวัสดุไม้สีอ่อนที่อบอุ่นไม่ดูไม่หนัก ต่อเนื่องไปกับ เสาอาคารเดิมที่มีขนาดใหญ่ถูกลดทอนด้วยอลูมิเนียมเส้นตั้งสีน้ำตาลเข้ม เพื่อเน้นโครงฝ้าให้เด่นชัดขึ้น พื้นหินที่ มีลวดลายที่ชัดเจน หรูหราภูมิฐาน การจัดวางพื้นที่หลักเป็นส่วนนั่งพักคอย ซึ่งมีทิศทางหันไปทางสวน การเลือกใช้เฟอร์เจอร์แบ่งออกเป็น ชุดโซฟา และ โซฟาลักษณะพิเศษ (Feature seating) หรือบริเวณ ชั้นที่ 22 มีบรรยากาศโดยรวมที่ถูกสร้างให้เป็นพื้นที่ของที่อยู่พื้นที่ชุมนุมของเหล่าสัตว์ป่า (Wild Life Habitat) มีความอบอุ่น สนุก อุดมสมบูรณ์แต่ยังคงความลึกลับ ปลอดภัย และน่าค้นหา ทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถพักผ่อนได้ในหลากหลายรูปแบบ

CO-LIFESTYLE

รูปแบบการใช้ชีวิตร่วมกัน เป็นสิ่งที่โครงการนี้คำนึงถึงผู้อยู่อาศัยจริงๆที่ โดยเฉพาะพื้นที่ Co-Cooking Studio เป็นห้องครัวส่วนกลางให้บริการแก่ผู้อาศัย มีการวางเคาน์เตอร์ครัวกึ่งบาร์ ใช้เป็นโต๊ะรับประทานอาหาร พร้อมตู้อุปกรณ์ครัว และ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สื่อถึงการ ประหยัดพลังงาน และ การ Recycle (Eco Full-Function Kitchen) โดยออกแบบให้ห้องมีความต่อเนื่องไปถึงส่วน ของ Co-living Lounge จัดเป็นห้องดู TV รูปทรงกลมกึ่งส่วนตัว และมีม่านสำหรับเปิดปิดเพื่อสร้างความเป็น ส่วนตัวได้ ทำให้พื้นที่ของ Co-Living lounge ใช้สำหรับรับประทานอาหาร และ ดูหนังเพื่อความหย่อนใจได้ในเวลาเดียวกัน หรือสามารถแยกให้เป็นส่วนตัวได้ ส่วนของ Co-Kitchen ออกแบบให้ได้พื้นที่อยู่หลังเสามีลักษณะคล้ายช่องหลืบของหน้าผา โดยหน้าบานจะเป็นวัสดุ Stone Veneer Surface ซึ่งลดการใช้หินธรรมชาติ แต่ยังได้ผิวสัมผัสประกายเหลือบของแร่หินเพื่อความรู้สึกแอบซ่อน ความมีค่า มีเวทมนต์และลึกลับ เป็นที่สรรค์สร้างเมนูอร่อยสุดจินตนาการ

 

Lobby มองเห็นสวนภายนอกผ่านกระจก สามารถเปิดออกรับลม วัสดุที่ใช้เป็นแผ่นหิน (stone slab) ที่มีสีแตกต่างกัน

Co-cooking Studio

CO-RECREATION

สนุกสนาน สันทนาการร่วมกัน พื้นที่ส่วนนี้จัดสรรกิจกรรมให้กับผู้อยู่อาศัยได้อย่างลงตัว เริ่มจาก

Co-Playing Space ตั้งอยู่ในพื้นที่มุมของอาคาร สร้างบรรยากาศให้ห้องเด็กเป็นโลกของของแมลงตัวน้อย (Bug’s Life) แบ่งพื้นที่ ออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ ส่วนพัฒนาสมอง ส่วนเล่น และส่วนที่ผู้ปกครองสามารถนั่งรอได้ วัสดุโดยรวม พื้นเป็น rubber floor ผนังกรุหนังเทียมกันกระแทก และ โดมเห็ด Fiberglass สีสัดสดใส สำหรับวัยรุ่นวัยทำงานรักสุขภาพก็สนุกกับการออกกำลังกายได้ที่ชั้น 32 Twinkle Sky Pool สระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้าบรรยากาศสุดอลังการดาวล้านดวง ด้านในเป็น Starry Gym เป็นพื้นที่อยู่ติดริมสระว่ายน้ำ เปิดกว้างรับ วิวและลมยอดตึก ออกแบบแสงสว่าง ให้เป็นแสง Black light การเลือกใช้วัสดุสะท้อนแสง และ วัสดุเรืองแสงเวลากลางคืน (Glow on the dark) ฝังลงใน ส่วนพื้น Rubber floor โทนสีเทา และเทาเข้ม ให้กำหนดพื้นที่สำหรับกิจกรรมตามประเภทของการออกกำลังกาย แบ่งออกเป็น 3 โซน คือ 1. Multipurpose พื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจ ไม่ว่าจะเล่น Yoga หรือ Reax Light ก็ได้ พร้อมกระจก Smart Mirror 2. Cross Fit พื้นที่ใช้วัสดุเรืองแสงฝังลงในพื้น เพื่อทำให้คุณสามารถกระโดด Cross Fit ไปยังโซนต่าง ๆได้ พร้อมลู่วิ่ง และ 3. Weight Training พื้นที่สำหรับผู้ที่ชอบออกกำลังกายแบบเน้นกล้าม พร้อมอุปกรณ์ครบครัน

Kids room

Gym

Pool

Tree house

CO-WORKING SPACE

พื้นที่ทำงานร่วมกัน แน่นอนว่าใจกลาง New CBD ห้าแยกลาดพร้าว การทำงานเป็นเรื่องที่สำคัญและเพื่อให้การทำงานนั้นสบายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัย โครงการได้จัดพื้นที่Co-Working Space ที่มีทั้ง Meeting Room & Workshop, Photo Studio และ Working Area ที่ออกแบบพิเศษให้เกิดความอยากรู้อยากเห็น ดูลึกลับเหมือนถ้ำหน้าผา การจัดเฟอร์นิเจอร์ส่วนทำงาน คำนึงถึงการนั่งทำงานหลากหลายรูปแบบ เช่น บาร์ริมหน้าต่าง โต๊ะแบบ Brainstorm Pod ทำงานส่วนตัว โต๊ะขนาดเล็กสำหรับคุยงาน 1-2 คน และ โต๊ะทำงานแบบ Co-Working จริงจัง ที่ สามารถจัดเป็น workshop กลุ่มย่อยได้ รวมไปถึงห้องประชุมขนาด 8-10 คน ตอบทุกความต้องการและจินตนาการของการทำงาน

Master Plan

โครงการ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว มีเนื้อที่โครงการประมาณ 2 ไร่ ถัดจากโครงการ Abstracts Phahonyothin Park ในพื้นที่เดียวกันนี้จะเป็นที่ตั้งของคอนโดรวม 3 โครงการ โดยมีพื้นที่ใช้ร่วมกันคือสวนเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 8 ไร่ และอาคารจอดรถสูง 16 ชั้น ตั้งโครงการเป็นอาคารสูง 32 ชั้น 1 อาคาร มีห้องชุดจำนวน 881 ยูนิต (เพื่อพักอาศัย 880 ยูนิต และเพื่อการพาณิชย์ 1 ยูนิต)

อาคารจอดรถของ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK เท่าที่ทราบมาตอนนี้คือจะได้จอดที่ชั้น 1, 3, 6, 9, 12, 15 ครับ แต่ในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องรอฟังข่าวกันเองครับ เมื่อคิดเป็นอัตราส่วนที่จอดรถแล้วได้ 58% (ไม่รวมซ้อนคัน) สำหรับการเดินทางไปมาระหว่างอาคารพักอาศัยกับอาคารจอดรถนั้นมีรถกอล์ฟให้บริการครับ นอกจากนี้ก็มีทางเดินในร่ม (cover walkway) อำนวยความสะดวกให้ด้วย

 

ค่าส่วนกลางอยู่ที่ 55 บาทต่อตารางเมตร โดยแบ่ง 5 บาทให้กับพื้นที่ที่เป็นเจ้าของร่วมกันทั้งระหว่าง 3 โครงการ (co-common area) เพื่อใช้ดูแลสวน 8 ไร่และอาคารจอดรถครับ ในส่วนของ co-common area นี้จะดูแลบริหารโดย Plus Property (ในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลง)

 

Floor Plan

ชั้น 1 เป็น Facility และสวน ด้านล่างมีร้านค้า 1 ร้านแต่ยังไม่รู้ว่าคือร้านอะไร

ชั้น 2 เริ่มเป็นโซนพักอาศัย

ชั้น 3 , 12 ,14, 15, 17, 18 และ 20 ห้องแบบ 2 Bedroom จะอยู่ตามมุมต่างๆ ส่วนนอกนั้นก็เป็น 1 Bedroom แบบทรงลึกยาวๆ ครับ

ชั้น 13, 16, 19 และ 21

ชั้น 22 มีส่วนของ Facility

ชั้น 23

ชั้น 24

ชั้น 25

ชั้น 28

ชั้น 26 และ 30

ชั้น 27 และ 31

ชั้น 32 เป็น rooftop facility

Unit Plan

ห้อง 1 Bedroom 1A, 1AM เป็นห้องทรงลึก มีระเบียง

ห้อง 1 Bedroom 1A-1, 1AM-1 เป็นห้องที่เปลี่ยนระเบียงเป็นพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง

1 Bedroom 1A-2 ห้องครัวอยู่ด้านหน้าประตู ส่วน 1B ห้องครัวจะย้ายไปอยู่ริมหน้าต่าง

1 Bedroom 1BM ห้องน้ำโซนสุขภัณฑ์กับโซนอาบน้ำจะแยกออกจากกัน  ส่วนห้องแบบ 1C, 1C-1, 1CM-1, 1C-2, 1CM-2 จะมีครัวแยกและห้องน้ำจะมีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติ

1D, 1D-1, 1DM-1 มีจุดเด่นคือมีพื้นที่ห้องนั่งเล่นกว้างกว่า มีระเบียง ห้องนอนติดหน้าต่าง และประตูห้องน้ำอยู่ในห้องนอน

2A, 2A-1,2A-2 คือ 2 Bedroom 2 Bathroom

2B คือ 2 Bedroom ที่มีระเบียงใหญ่มากๆ

ส่วน 2C, 2CM เป็น Duplex

โมเดล THE LINE PHAHONYOTHIN PARK

 

ฝั่งทิศเหนือ

ทิศใต้

ติดกับคอนโดมิเนียมโครงการเก่าด้านข้าง

อนาคตจะมีโครงการใหม่ขึ้นมาอีก

ทางเข้าโครงการ

สวน

สวนส่วนกลางที่ใช้ร่วมกันทั้ง 3 โครงการ

จุด Drop off

ถนนทางเข้าโครงการ

Facility ด้านบนสุด

มีสวนลอยฟ้า

สวนที่ชั้น 1

ภาพรวมของโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงและอาคารจอดรถ

โครงการที่จะสร้างติดกันในอนาคต

Sky shot

ทิศเหนือ เป็นทิศที่ถูกบล็อกวิวมากที่สุด มองเห็นอาคารสำนักงาน

วิวทิศใต้เป็นวิวโล่งครับ แต่อนาคตอาจจะมองเห็นหมู่ตึกของคอนโด Life ซึ่งจะไม่โดนบังกันตรงๆ ครับ ดังนั้นจึงเป็นวิวที่น่าสนใจมาก

วิวตะวันออก อนาคตจะเป็นอาคารของโครงการที่ 3 มีเฉพาะห้องมุมที่ได้วิวแบบนี้

วิวทิศตะวันตก มีเฉพาะห้องมุมที่ได้วิวแบบนี้ ก็จะมองเห็นอาคาร Abstracts

Review ห้องตัวอย่าง THE LINE PHAHONYOTHIN PARK

 

1 Bedroom 32.50-32.75 ตร.ม. ทรงลึก

ประตูหน้าห้องเป็น Digital doorlock

เปิดประตูเข้ามาในห้องเจอกับโซนครัวก่อน มีชุดครัวครบเซ็ท บานตู้ต่างๆ ทำจากกระจกกรุเส้นลวดสร้างความเป็นเอกลักษณ์น่าสนใจ ลิ้นชักเก็บของ ถังขยะในลิ้นชักที่ช่วยให้การแยกขยะง่ายขึ้น เครื่องดูดควันระบบดูดออกภายนอกอาคาร เตาไฟฟ้า ท๊อปครัวเป็นหินสังเคราะห์สีดำทำความสะอาดง่าย อ่างล้างจาน และผนังกันเลอะทำจากกระจก ตรงข้ามกับชุดครัวมีตู้เก็บของและรองเท้า เรียกได้ว่าหน้าบ้านนี้ครบถ้วนทุกบริการ เข้าบ้านมาปุ๊บเก็บของเก็บรองเท้า ล้างมือ แล้วเปิดตู้เย็นหาของกินก่อนได้เลย

หลังจากนั้นเดินเข้ามาโซนนั่งเล่น จะได้ความรู้สึกว่ามันค่อนข้างกว้างกว่าที่คาดไว้เพราะระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีนั้นค่อนข้างไกล สามารถวางทีวีขนาดใหญ่ได้ ติดแอร์แถมฟรีในห้องนั่งเล่น 1 ตัว ห้างนี้กว้างสามารถจัดให้มีมุมกินข้าว มุมนั่งเล่น วางโต๊ะกลางเอาไว้ได้ด้วย เป็นห้องนั่งเล่นที่อยู่ด้านในไม่ติดกับหน้าต่าง จึงทำให้ไม่ร้อนในช่วงกลางวัน เหมาะกับการพักผ่อนได้อย่างเย็นสบาย นอกจากนี้แบบห้อง 1 Bedroom รูปแบบนี้ก็ออกแบบให้ประตูห้องน้ำหันเข้ามาเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น สะดวกในการใช้งานห้องน้ำ

ประตูห้องน้ำหันออกมาทางห้องนั่งเล่น ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้าสู่ห้องน้ำได้ ห้องน้ำนี้เป็นห้องน้ำตามแบบมาตรฐานห้องน้ำทั่วๆ ไป มีการแบ่งโซนเปียกโซนแห้งออกจากกัน วัสดุต่างๆ ที่ใช้ก็สวยงามและเข้ากันได้ดีกับโทนสีต่างๆ ของห้อง มีอุปกรณ์ต่างๆ ครบถ้วน ทั้งโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างมือ และยังมีตู้ใต้อ่างล้างมือเพื่อเก็บสิ่งของด้วย ผนังด้านหลังโถสุขภัณฑ์ตกแต่งเพิ่มเติมพิเศษให้เป็นกระเบื้องสีเขียวเพื่อตอกย้ำความเป็น Green Concept Condominium ส่วนภายในห้องอาบน้ำก็มีฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย ประตูแบบบานสวิง มือจับประตูฉากกั้นอาบน้ำสามารถแขวนผ้าได้ด้วย ฝักบัวเป็นแบบปรับระดับขึ้นลงสูงต่ำได้ตามต้องการ มีชั้นวางของภายในห้องอาบน้ำ ก๊อกน้ำระบบน้ำร้อน ไม่ใช่แค่น้ำอุ่น พิเศษกว่าโครงการอื่นตรงที่รูปแบบการปูกระเบื้องห้องน้ำที่วางเป็น herringbone pattern ซึ่งเป็นเทคนิคการออกแบบที่ค่อนข้างลงทุนสูงและช่วยสร้างอารมณ์ให้เทียบเท่ากับคอนโดมิเนียมระดับ Luxury

ธรณีประตูห้องน้ำยกสูงขึ้นป้องกันความชื้นออกไปสู่พื้นลามิเนตฃ

ออกจากห้องน้ำ เดินผ่านห้องนั่งเล่น เข้ามาสู่ห้องนอน เป็นห้องนอนที่กว้างพอดีๆ วางเตียงได้สบายๆ และยังเพิ่มพื้นที่วางโซฟาหรือโต๊ะทำงานอีกตัวก็ได้ จุดเด่นของรูปแบบนี้คือเปลี่ยนพื้นที่ระเบียง semi-outdoor ให้กลายเป็นพื้นที่ indoor ที่สามารถใช้สอยได้จริง และขยับเปลี่ยนระเบียงให้กลายเป็น Yard เล็กๆ เพื่อสำหรับวาง CDU แอร์, วางเครื่องซักผ้าและแขวนตากผ้าในแนวสูง ทำให้เหมือนมีพื้นที่ใช้สอยในห้องเพิ่มขึ้น ริมหน้าต่างมีหน้าต่างกระจกและมีราวกันตกไว้ให้ด้วยเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ภายในห้องนอนแถมแอร์ 1 ตัว และแถมเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่มีรายละเอียดตามรูปภาพ Furniture Package ในภาคผนวกท้ายบทความนี้ครับ

สวิตช์ไฟที่สามารถควบคุมด้วยเสียงได้

2 Bedroom 2 Bathroom 58.50-60.50 ตร.ม.

ต่อไปคือห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องนี้จะอยู่ตามมุมของอาคารแต่ละมุม เป็นรูปแบบที่ค่อนข้างลงตัวมากทีเดียวสำหรับการอยู่อาศัยจริงๆ ในระยะยาวเพราะมีการแบ่งสัดส่วนของห้องต่างๆ ที่ลงตัวและใช้งานได้จริง เริ่มจากเปิดประตูห้องเข้ามาพบกับโซนครัวแยกก่อน เป็นการให้ความสำคัญและความสะดวกเวลาที่เราซื้อของกินของจากซูเปอร์มาร์เก็ตเข้าห้องมาก็สามารถวางเก็บได้เลยทันที นอกจากนี้ครัวก็มีประตูกระจกกั้นแยกออกจากโซนนั่งเล่นด้วย กลิ่นอาหารต่างๆ ก็ลดน้อยลง และในครัวยังมีเครื่องดูดควันระบบดูดออกภายนอกอาคารอีกด้วย ตอบโจทย์คนที่มีไลฟ์สไตล์ชอบทำอาหาร

หลังจากนั้นเดินเข้าโซนห้องนั่งเล่นก็ต้องบอกว่าความรู้สึกที่ได้รับคือความอบอุ่น Cozy ไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่เล็กเกินไป ลงตัวพอดี มีพื้นที่สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนดูทีวี และมีพื้นที่วางโต๊ะกินข้าวซึ่งแปลงการใช้สอยเป็นโต๊ะทำงาน อ่านหนังสือได้สารพัดประโยชน์ มีหน้าต่างแต่ไม่ใช่หน้าต่างเต็มความกว้างเพราะมีส่วนผนังมาช่วยบังแดด ทำให้ประสบการณ์ในการใช้งานจริงจะไม่ร้อนแต่ก็ไม่ใช่ว่าผนังจะบล๊อกแสงแดดจนหายไปหมดเพราะยังมีหน้าต่างให้แสงธรรมชาติเข้าได้ในระดับที่พอดีๆ สะท้อนคำว่า “ห้องนั่งเล่นแสนอบอุ่น” ได้อย่างดีครับ

ห้องรูปแบบนี้มีระเบียงด้านห้องนั่งเล่น การออกแบบแบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงของอาการน้ำฝนรั่วเข้าห้อง ซึ่งถือว่าช่วยให้เราหายห่วงไปหลายอย่าง และหน้าต่างรับแสงก็ถอยหลบเข้ามาด้านในทำให้เหมือนเรามีชายคาป้องกันความร้อนและฝนเอาไว้ โดยรวมแล้วห้องนั่งเล่นของ type นี้จำลองความเป็นบ้านจริงๆ เข้ามาได้อย่างลงตัว

บริเวณโถงห้องนั่งเล่นนอกจากเดินเข้าห้องครัวได้แล้วก็ยังสามารถเดินเข้าได้อีก 3 ห้องคือ ห้องนอนใหญ่ ห้องนอนเล็ก และห้องน้ำกลาง

ห้องนอนเล็กถึงแม้จะไม่ใหญ่แต่ฟังก์ชั่นต่างๆ ครบถ้วน มีหน้าต่างรับแสงและระบายอากาศ มีแอร์ มีประตูทางเข้าห้องน้ำกลาง

ห้องน้ำกลางมีจุดเด่นคือเป็นห้องน้ำเข้าได้ 2 ทาง มีกระจกเงาบานใหญ่ที่สามารถเปิดออกเก็บของเล็กๆ น้อยๆ ได้ ตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องสีเขียวสวยงามดูมีความเป็นธรรมชาติ พื้นห้องน้ำตกแต่งพิเศษแตกต่างจากโครงการอื่นทั่วไป อุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำมีครบถ้วน ระบบน้ำร้อน ฉากกั้นอาบน้ำแบ่งแยกโซนเปียก-แห้ง ถือว่าเป็นห้องน้ำที่ลงตัวมาก มีการดีไซน์ฟังก์ชั่นการใช้งานและความสวยงามออกมาได้อย่างดี ข้อสังเกตที่ควรดูคือการปูพื้นแบบ herringbone pattern บางจุดที่เป็นพื้นลาดเอียงอาจจะมีบางจุดที่ไม่เรียบเสมอกัน ดังนั้นก่อนตรวจรับห้องให้ทดสอบการไหลของน้ำให้ดีก่อนครับ

ห้องสุดท้ายที่จะพาไปรีวิวคือห้องนอนใหญ่ซึ่งก็มีห้องน้ำส่วนตัวภายในด้วยครับ ห้องน้ำส่วนตัวห้องนี้เป็นห้องที่กั้นระหว่างห้องนอนใหญ่กับห้องนอนเล็ก ทำให้เวลาที่คุณพ่อคุณแม่มีเวลาแห่งความเป็นส่วนตัวก็จะไม่รบกวนลูกๆ ที่อยู่ในห้องนอนเล็กครับ ห้องนอนใหญ่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เต็มพื้นที่เต็มประสิทธิภาพดีมาก ทีมออกแบบตัดสินใจนำส่วนของที่ดูรกๆ ส่วนของงานบริการ เช่น ตู้เสื้อผ้าเก็บของเยอะๆ ให้มาอยู่ตรงข้ามกับประตูห้องน้ำส่วนตัว เพื่อให้การใช้งานจริงเชื่อมต่ออย่างไร้รอยต่อ สมมุติอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาหยิบเสื้อผ้าแต่งตัวได้ทันทีไม่ต้องเดินอ้อมไปมา และยังเป็นการบริหาร space ที่คุ้มค่าดีด้วย ภายในห้องนอนก็มีหน้าต่างรับแสงที่ค่อนข้างกว้าง และหน้าต่างมีเฟรมแบ่งกระจก มีบานที่เปิดออกได้เพื่อระบายอากาศให้ลมพัดผ่านในวันที่ไม่อยากเปิดแอร์ หรือถ้าอยากเปิดแอร์ก็เปิดได้เลย ตำแหน่งของแอร์ดีมากเพราะลมแอร์ไม่พัดเข้าหาตัวเราโดยตรง ช่วยให้นอนสบาย ไม่หนาวเกินไป ขอชื่นชมทีมงานออกแบบภายในห้องครับที่คำนึงถึงการใช้งานจริงครับ

ส่วนภายในห้องน้ำส่วนตัวก็มีการออกแบบให้มีกระจกฝ้ารับแสงธรรมชาติ ห้องน้ำไม่มืด ถ้าเข้าห้องน้ำเวลากลางวันก็ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟในห้องให้เปลืองทรัพยากรไฟฟ้า ช่วยประหยัดพลังงานครับ อุปกรณ์ในห้องน้ำก็มีครบถ้วนเหมือนห้องน้ำแบบอื่นๆ แต่เพิ่มเติมขึ้นมาตรงที่ห้องอาบน้ำใช้ฝักบัวแบบ rain shower เพิ่มเข้ามาครับ

สรุปอีกครั้งกับข้อดีของการซื้อ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK

แม้ทำเลของ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK จะไม่อยู่ใกล้ชิดย่านอาคารสำนักงานบริเวณห้าแยกลาดพร้าวและแม้จะไม่ใกล้สวนจตุจักร แต่ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK ก็มีสวนส่วนตัวภายในโครงการที่ใหญ่ถึง 8 ไร่โดยที่ไม่ต้องแย่งใช้สวนกับคนอื่นๆ เลย นอกจากนี้อนาคตก็จะใกล้กับโครงการ Mixed Use บริเวณสถานีพหลโยธิน 24 และปัจจุบันก็เดินไปห้างต่างๆ ได้สบายทั้งเซ็นทรัลลาดพร้าว โลตัส และยูเนี่ยนมอลล์ ซึ่งโครงการที่มีสวน ใกล้ห้าง ใกล้รถไฟฟ้าลักษณะแบบนี้หาได้ยากมากในกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้อีกเหตุผลที่ควรซื้อเพราะ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK มีระยะเวลาการก่อสร้างที่ค่อนข้างนาน และจะสร้างเสร็จช่วงหลังจากรถไฟฟ้าเปิดให้บริการจริงแล้ว (ถ้าไม่เลื่อน) จึงเหมาะสมกับการถือรอไว้ขายต่อช่วงใกล้โอน ทางบริษัทก็ขายห้องแบบ Fully Furnished แต่งครบในราคาที่ไม่แพงอย่างที่คิดและเป็นราคาที่เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งโครงการอื่นๆ ก็ค่อนข้างตอบได้ว่า THE LINE PHAHONYOTHIN PARK น่าสนใจในด้านราคา ทำเล และความมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างของโครงการ

 

ภาคผนวก

ตัวอย่าง Furniture set ที่แถมให้ของห้องบางรูปแบบ (สามารถเช็คข้อมูลทุกแบบได้ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายโครงการครับ)

ถือว่าโครงการนี้แต่งห้องให้ครบถ้วนทุกความต้องการและครอบคลุมไลฟ์สไตล์ของเราได้อย่างดี เฟอร์นิเจอร์ให้เยอะและฟังก์ชั่นใช้งานที่มีประโยชน์กับผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง เหมาะกับคนอยู่อาศัยที่ไม่มีเวลาแต่งห้องเองและอยากได้ชุดเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์เนอร์มืออาชีพคัดสรรมาให้แล้ว นอกจากนี้ก็เหมาะกับกลุ่มคนที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่า เพราะหลังโอนแล้วก็มีความสามารถที่จะเปิดห้องให้เช่า เริ่มต้นหาเงินเข้าได้ทันทีไม่ต้องรอแต่งห้องใหม่หลายสัปดาห์

สำนักงานขายอยู่ที่ไหน

 

Sale Gallery ของ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK ตั้งอยู่ที่ปากซอยพหลโยธิน 29

ตำแหน่งในแผนที่ Google Maps https://goo.gl/maps/JPYVBKDEhVJ2

13.825541, 100.567041

ภาพ Sale Gallery

Scan ภาพ QR Code นี้เพื่อดาวน์โหลด e-brochure เพื่อความสะดวกสบาย

 

THE LINE PHAHONYOTHIN PARK ราคา?

ราคาในช่วงเดือน พ.ย. 2018 เฉลี่ยอยู่ที่ตารางเมตรละ 139,000 บาท

ราคาเริ่มต้นที่ 3.59 ล้านบาท (เพียง 115,000 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น) ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เอาชนะโครงการคู่แข่งรอบๆ ได้อย่างสูสีครับ

เงินจอง เงินทำสัญญา เงินดาวน์รวมกันประมาณ 12% ครับ ส่วนใครที่เข้าเงื่อนไขของธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ก็ต้องวางเงินดาวน์ตามอัตราส่วนที่ประกาศไว้ครับ

 

สนใจข้อมูลและซื้อ THE LINE PHAHONYOTHIN PARK

ลงทะเบียนข้อมูลได้ที่ https://www.sansiri.com/condominium/theline-phahonyothin-park

หรือโทรศัพท์ 1685



ต่อทอง ทองหล่อ

ต่อทอง ทองหล่อ

บรรณาธิการสื่อเกี่ยวกับการศึกษา และ Blogger ผู้มีผลงานการวิเคราะห์ด้านอสังหาฯ มามากกว่าร้อยบทความ ยังเป็นผู้สนใจลงทุนคอนโดมิเนียม ชอบใช้ชีวิตแบบ Digital Nomad รักการเดินเท้าและเลือกใช้ขนส่งมวลชนสำรวจความเปลี่ยนแปลงของทำเลสถานที่ผ่านมุมมองการเข้าใจมนุษย์ นอกจากนี้ยังเป็น Active Citizen ช่วยขับเคลื่อนพัฒนาเมืองผ่านงานเขียนและเครื่องมือสื่อสารที่เชื่อมรัฐกับประชาชน เป้าหมายระยะยาวต้องการเห็นคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยที่ดีขึ้นของทุกคนในสังคม ติดตามผลงานได้ที่ https://matttortong.weebly.com

เว็บไซต์


PropScore™ 4.2

SCORE:
0.0
From : 0 รีวิว


ยังไม่มีการให้คะแนนและ Comment โครงการนี้


ให้ทุกช่วงของการใช้ชีวิต เป็นความพิเศษสุดในแบบคุณที่ The Honor โยธินพัฒนา ไพรเวทพูลวิลล่า 3 ชั้น พร้อม Concierge Services

สำหรับโครงการ The Honor โยธินพัฒนา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวลักซ์ชัวรี่ 3 ชั้น ที่เน้นเจาะกลุ่มตลาด Young Successor หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จเร็ว มีกำลังซื้อสูง โดยทาง ASW ได้ออกแบบโครงการไ... อ่านต่อ

22 March, 2024



[1st Impression] LIFE พหลฯ-ลาดพร้าว พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของเฟิร์สคลาสไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ ใจกลางลาดพร้าวแล้ว!

ในมุมมองผม ย่านลาดพร้าวเป็นย่านที่ค่อนข้างมอบสมดุลการใช้ชีวิตให้กับคนในย่านนี้ได้ดีพอสม... อ่านต่อ
20 March, 2024

Monthly Roundup ก.พ. 67

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดแล้วยิ่งใหญ่ ‘เซ็นทรัล นครสวรรค์’ โครงการมิกซ์ยู... อ่านต่อ
19 March, 2024

23-24 มีค.นี้ เปิดตัวครั้งแรก GRAND OPENING! กับห้องเลย์เอาท์ใหม่ ใหญ่กำลังดีขนาด 70 ตรม. ที่ RHYTHM เอกมัย เอสเตท

ริมถนนใหญ่เอกมัย สุขุมวิท 63 มีคอนโด High Rise อยู่หลายโครงการครับ โดยในปีนี้อย่างน้อยก... อ่านต่อ
18 March, 2024

เปิดห้องตัวอย่าง The Standard Residences, Hua Hin โครงการ Branded Residence ติดหาดภายใต้แบรนด์ “The Standard” แห่งแรกในเอเชีย และ แห่งที่ 3 ของโลก

สำหรับโครงการนี้นับว่าเป็นการต่อยอดความนิยมมาจากแบรนด์โรงแรมอย่าง The Standard, Hua Hin... อ่านต่อ
18 March, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง