THE ESSE ASOKE

  

ดิ เอส อโศก


THE ESSE ASOKE คือแบรนด์ใหม่ที่มาจากภาษาละตินซึ่งคล้องกับชื่อบริษัท และมีความหมายว่า ความมีคุณค่า และมีเอกลักษณ์ โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา Singha Estate ใช้แบรนด์ THE ESSE เป็นอาวุธหลักในการรุกตลาดคอนโดในกลุ่ม Luxury ที่อยู่ในย่าน Mid Sukhumvit หลายโครงการ ก่อนที่ทางบริษัทฯจะเริ่มรุกไปสู่โครงการบ้านเดี่ยว โครงการ Mixed Use และโรงแรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นแบรนด์คอนโดโครงการแรกที่เปิดตัวแล้วยังเป็นคอนโดที่สูงที่สุดในทำเลอโศกด้วยความสูงถึง 236.75 เมตร โดยมีจำนวนชั้นถึง 55 ชั้น นอกจากนี้ภายในห้องพักอาศัยของ THE ESSE ASOKE ยังมี Floor to ceiling สูงถึง 3 เมตร และมีเอกลักษณ์หลายอย่างที่เหนือกว่า Luxury Condo ทั่วไปที่อยู่ในย่านเดียวกัน เพื่อให้สมกับพันธกิจในการสร้างทุกโครงการให้เป็น Best in class ของตลาด Residential condo…วันนี้เราจะมาดูไปพร้อมกันว่า THE ESSE ASOKE จะก้าวผ่านบทพิสูจน์ และจะสร้างความประทับใจ ตลอดจนความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ไปสู่กลุ่มลูกค้าในตลาด Luxury คอนโด ก่อนที่จะทยอยสร้างโครงการ Super Luxury

เกริก บุณยโยธิน เมื่อ 4 December, 2018 เวลา 19.58 pm

Prop score™: 4.5

คะแนนรีวิว: 0.0

0 รีวิว


ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา



    ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ

THE ESSE ASOKE

บริษัทผู้สร้าง

Singha Estate Plc.

สถานที่

ถนนสุขุมวิท 21

สถานีรถไฟ BTS

BTS อโศก Distance 700 m.

สถานีรถไฟใต้ดิน

MRT สุขุมวิท Distance 500 m./MRT เพชรบุรี Distance 550 m.

Airport Rail Link

ARL มักกะสัน Distance 800 m.,

สถานี BRT

-

พื้นที่

2-2-74.4 ไร่

ชั้น

55 ชั้น

ยูนิต

419 ยูนิต

ที่จอดรถ

100%

ลิฟท์

ลิฟต์โดยสาร 5 ตัว

สิ่งอำนวยความสดวก

The ESSE Court, Grand lobby, Mail box room, Central storage for golf bag and suitcase, Laundry room, Driver waiting room, Sculpture court, Sky panoramic pool, Kids pool, lap pool, Jacuzzi, Pool terrace, Steam room & plunge pool, Sky gym, Golf simulation, The ESSE residences lounge, Reading club, Business center and board room, Skyscraper deck


    ประเภทยูนิต

ประเภท

Luxury Condo/คอนโด High Rise/CONDO

studio

-

1 bedroom

37.00 - 53.00 Sq.m.

2 bedroom

75.50 - 84.00 Sq.m.

3 bedroom

-

Duplex

-

Penthouse

104.50 - 195.50 Sq.m.

ประเภทอื่นๆ

-

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน

3 เมตร

ราคาเริ่มต้น / ตรม.

250,000 บาท/ตร.ม.

ราคาเริ่มต้น / ยูนิต

9.59 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง

80 บาท/ตร.ม./เดือ

Sinking Fund fee

800 บาท/ตร.ม.

สร้างเสร็จ

2018

เว็บไซต์

http://www.singhaestate.co.th/condominium/theesseasoke/th/

1221


เพื่อนบ้าน Street View


พิสูจน์ความสมบูรณ์แบบระดับ Best in Class ของ THE ESSE ASOKE คอนโด Luxury สร้างเสร็จโครงการแรกของ Singha Estate

 

หากยังจำกันได้ถึงโครงการคอนโดที่สร้างความฮือฮาในย่านอโศก เมื่อปลายปี 2015 กับการเริ่มต้นพัฒนาสายงานธุรกิจอสังหาฯ เป็นครั้งแรก ของบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)  (Singha Estate) ภายใต้กลุ่มบริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ซึ่งสั่งสมชื่อเสียงและประสบการณ์การทำธุรกิจจากการเป็นผู้ผลิตเบียร์รายแรก และรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จนแตกไลน์ออกมาเป็นกลุ่มธุรกิจแนวไลฟ์สไตล์และ Consumer Product หลายอย่าง Singha Estate เลือกที่จะปักธงในธุรกิจอสังหาฯเพื่อการอยู่อาศัย โดยที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องเป็นผู้นำในกลุ่มตลาด Luxury ให้ได้ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งความหวังในการที่จะพิชิตยอดเขาสูงแห่งนี้ ขึ้นอยู่กับคอนโดโครงการแรกของพวกเขาที่มีชื่อว่า THE ESSE ASOKE (ดิ เอส อโศก)

 

THE ESSE ASOKE  คือแบรนด์ใหม่ที่มาจากภาษาละตินซึ่งคล้องกับชื่อบริษัท และมีความหมายว่า ความมีคุณค่า และมีเอกลักษณ์ โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา Singha Estate ใช้แบรนด์ THE ESSE เป็นอาวุธหลักในการรุกตลาดคอนโดในกลุ่ม Luxury ที่อยู่ในย่าน Mid Sukhumvit หลายโครงการ ก่อนที่ทางบริษัทฯจะเริ่มรุกไปสู่โครงการบ้านเดี่ยว โครงการ Mixed Use และโรงแรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นแบรนด์คอนโดโครงการแรกที่เปิดตัวแล้วยังเป็นคอนโดที่สูงที่สุดในทำเลอโศกด้วยความสูงถึง 236.75 เมตร โดยมีจำนวนชั้นถึง 55 ชั้น นอกจากนี้ภายในห้องพักอาศัยของ THE ESSE ASOKE ยังมี Floor to ceiling สูงถึง 3 เมตร และมีเอกลักษณ์หลายอย่างที่เหนือกว่า Luxury Condo ทั่วไปที่อยู่ในย่านเดียวกัน เพื่อให้สมกับพันธกิจในการสร้างทุกโครงการให้เป็น Best in class ของตลาด Residential condo…วันนี้เราจะมาดูไปพร้อมกันว่า THE ESSE ASOKE จะก้าวผ่านบทพิสูจน์ และจะสร้างความประทับใจ ตลอดจนความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ไปสู่กลุ่มลูกค้าในตลาด Luxury คอนโด ก่อนที่จะทยอยสร้างโครงการ Super Luxury คอนโดโครงการอื่นต่อๆไปได้หรือไม่

การเป็นโครงการ The Best in class ย่อมต้องรับประกันด้วยทำเลที่เป็น The best location ของกรุงเทพมหานคร อย่างย่านอโศก ย่าน CBD ที่มีไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย และเป็นที่รู้จักของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เป็นย่านที่ถือว่าเพียบพร้อม สะดวก และน่าสนใจกว่าย่าน CBD อื่นๆ ในกรุงเทพฯ เพราะอโศก รายล้อมด้วยอาคารออฟฟิศขนาดกลางและใหญ่ ห้างสรรพสินค้า ร้านค้ามีชื่อเสียง ถูกล้อมรอบด้วยพื้นที่สำคัญๆอย่าง นานา-เพลินจิต พระราม9 พร้อมพงษ์-ทองหล่อ รัชดาภิเษก-พระราม4 รวมทั้งมีระบบขนส่งมวลชนที่พร้อมใช้งานกับรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย รวมทั้ง ARL และยังขับรถไปทางด่วนพระราม 9 ได้ง่าย จนหลายๆคนบอกว่าอโศกคือย่านที่รถติดตลอดเวลาทั้ง 7 วัน นั่นก็เพราะความเพียบพร้อมในทุกความต้องการในการใช้ชีวิต มารวมตัวกันอยู่ที่ย่านแห่งนี้นั่นเอง ซึ่งช่วงที่ตั้งของโครงการ THE ESSE ASOKE เป็นพื้นที่ทำเลใจกลางอโศก ที่สามารถเดินทางไปได้หลายทิศทาง หลายทางเลือก และยังสามารถลัดเลาะเข้าโครงการทางซอยสุขุมวิท 19 ได้อีกด้วย

วันนี้ THE ESSE ASOKE ก่อสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ สวยงาม หรูหรา โดดเด่นตั้งแต่ความสูงของตัวอาคารกว่า 55 ชั้นหรือสูงเกือบ 240 เมตร สูงที่สุดในย่านอโศก ที่ดูเรียบแต่มีดีเทล สไตล์ Contemporary Luxury ผ่านการทำลวดลายอาคารด้วยโลหะสีแชมเปญ เพื่อการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น และโดดเด่นอยู่เสมอแม้เวลาจะผ่านไป

นอกจากตัวอาคารจะโดดเด่นแล้ว ยังโดดเด่นด้วยพื้นที่ open space

หรือ THE ESSE court ขนาดใหญ่จากระยะ set back กว่า 38 เมตร หรือมากกว่า 1,000 ตารางเมตร ด้านหน้าโครงการ ที่เป็นทั้งพื้นที่ต้อนรับและพื้นที่ส่วนกลาง ที่ขับเน้นให้ตัวอาคารดูโดดเด่นและน่าสนใจ และยังสร้างความสงบ กันเสียง กันความพลุกพล่านก่อนที่จะถึงตัวอาคาร

และเชื่อมยาวเป็นทางเดินเข้าสู่พื้นที่โถงล็อบบี้

ที่ตกแต่งหรูหราด้วยการออกแบบให้มีความสูงโปร่งกว่า 7 เมตร

ภายในตกแต่งด้วยหินธรรมชาติ และประติมากรรมที่จัดวางอย่างโดดเด่น เป็นเหมือนงานอาร์ทที่จัดวางในพิพิธภัณฑ์หรู

พร้อมพื้นที่ใช้งานมุมต้อนรับแขก หรือนั่งพักผ่อนที่หลากหลายโซน และยังเปิดโล่งเชื่อมกับพื้นที่สีเขียวด้านนอก

เรียกว่า เรียบ สงบ ตัดขาดความวุ่นวายภายนอกของย่านอโศก เหมาะกับการก้าวเข้าสู่พื้นที่แห่งการพักผ่อนที่แท้จริง

พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย อย่าง Locker room by dropbox24 ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้พักอาศัยในการฝากส่งสินค้า ซื้อสินค้าออนไลน์ ส่งซักรีด จ่ายบิล หรือฝากของตลอด 24 ชม.

นอกจากนี้ยังมีห้อง Mail room ถึง 2 ห้อง เพราะต้องการให้การใช้งานไม่แออัด และโปร่งโล่ง เพื่อคุณภาพของการพักอาศัย

เมื่อเข้าสู่ชั้นที่พักอาศัย ลิฟท์เป็นระบบล็อกชั้น

และแปลนอาคารก็ออกแบบอย่างน่าสนใจ กับ Single Loaded Corridor ทำให้แต่ละชั้นมียูนิตน้อย มีเพียง 12 ยูนิต

 

อ่านรายละเอียดของแปลนอาคาร และแปลนห้องทั้งหมดของโครงการได้ที่นี่ มาดูกันถึงห้อง THE ESSE ASOKE(ดิ เอส อโศก)

ทำให้สามารถออกแบบให้ CDU อยู่บนพื้นที่ส่วนกลาง นอกจากจะดูแล ซ่อมแซมได้ง่ายแล้ว ยังทำให้ภายในห้องมีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น และไม่เสียพื้นที่บริเวณระเบียง ทำให้คนพักอาศัยได้เทควิวอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะทางฝั่งทิศตะวันตก ที่โล่งตั้งแต่ชั้นเตี้ยจนถึงชั้นสูง เชื่อมวิวสีเขียวฝั่งโรงเรียนวัฒนาได้อย่างเต็มที่

แถมที่ทางเดินยังมีช่องระบายน้ำ และ fire alarm ไว้รองรับกรณีเหตุฉุกเฉินอีกด้วย

แต่น่าเสียดายที่ส่วนใหญ่ห้องทิศนี้ขายไปเกือบหมดแล้ว แต่ห้องที่วันนี้จะพาไปชม เป็นห้องจริงที่ชั้น 15 ถึงไม่ได้วิวสวนผืนใหญ่ แต่ก็ได้วิวสวนด้านหน้าโครงการที่เชื่อมจากชั้น 10 สู่ THE ESSE Court ด้านหน้าโครงการ

 

ทำให้ผู้พักอาศัยได้เห็นพื้นที่สีเขียวทอดยาวเต็มพื้นที่ และเป็นระยะที่ไม่กระชั้นชิดกับพื้นที่ถนนมากจนเกินไป ทำให้ห้องที่อยู่ติดถนน ก็มีวิวสวน และเงียบสงบได้เช่นกัน

 

ห้องแรกที่พาไปชม คือ ห้อง 1 Bedroom 44 Sq.m.

ทุกห้องโครงการขายแบบ fully fitted

โครงการให้ประตูบานใหญ่ สูงกว่า 2.4 m พร้อมระบบ digital door lock ของ Yale

ภายในห้องแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ครัวและ living area ที่ปีกซ้ายติดทางเข้า

และห้องนอนที่ด้านขวาติดทางเข้า

ที่พื้นที่ติดประตูทางเข้า โครงการให้ชุดครัว built-in L Shape

ที่ top ครัว เป็น composite marble สีขาว

หน้าบานฝาตู้และลิ้นชักเป็นลามิเนตลายไม้สีน้ำตาลเข้ม

โครงการให้อ่างล้างจานของ MEX และเตาไฟฟ้า SIEMENS  แบบฝังเรียบไปกับเคาท์เตอร์

ด้านล่างเจาะช่องฝัง Microwave

และติดกันเป็นตู้เย็นแบบฝัง built-in ของ SIEMENS

เชื่อมกับตู้วางรองเท้าที่ผนังติดประตูทางเข้า

ผนังฝั่งตรงข้าม ด้านหลังประตูทางเข้า เป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า พร้อมหน้าบานปิดเพื่อความเรียบร้อย

ถัดจากครัวเป็นพื้นที่ living area ติดหน้าต่างกระจกบานใหญ่ และประตูทางออกระเบียง ที่สูงกว่า 3 m

มาพร้อมเว้นร่องรางม่าน และม่านทึบแสง พร้อมใช้งาน

พื้นที่ติดหน้าต่างบานใหญ่ เหมาะสำหรับเป็นมุมนั่งดูทีวี เชื่อมกับวิวด้านนอก

ที่ระเบียงโครงการให้ราวกันตกเป็นกระจก พร้อมมือจับ

เชื่อมมุมมองจากภายในสู่ภายนอกแบบไร้สิ่งกีดขวาง

ทุกห้องโครงการให้แอร์ VRF ฝังฝ้าแบบประหยัดพลังงาน พร้อมระบบหมุนเวียนอากาศภายในห้อง

ด้านขวาของห้องเป็นทางเข้าห้องนอน

ภายในห้องนอนแบ่งเป็นพื้นที่ห้องน้ำที่ด้านขวาของทางเข้า

ห้องน้ำเป็น sexy bathroom ซึ่งลูกค้าสามารถติดตั้งม่านเพิ่มเองได้หากต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ในห้องน้ำ แบ่งพื้นที่ส่วนแห้ง ตั้งโถสุขภัณฑ์ KOHLER ไว้ติดประตูทางเข้า

ติดกันเป็นพื้นที่ส่วนเปียกกั้นด้วย shower glass โครงการให้ rain shower ติดเพดานและ hand shower ติดผนังของ GROHE

ที่ผนังอีกด้านเป็นเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า KOHLER แบบลอยตัว

เชื่อมยาวถึงอ่างอาบน้ำ marino ที่กระจกเข้ามุม

ที่อ่างอาบน้ำแยกฝักบัวและระบบน้ำ พร้อมที่วางอุปกรณ์อาบน้ำติดผนัง

ตรงข้ามทางเข้าห้องน้ำเป็น walk-in closet ประตูบานเลื่อนแบบแยกราว ชั้น และลิ้นชักสำหรับใช้งาน

ส่วนพื้นที่ด้านซ้ายของทางเข้า ติดกระจกบานใหญ่ พร้อมหน้าต่างบานผลักขนาดใหญ่สูงเต็มความสูง เป็นพื้นที่สำหรับวางเตียงนอน และที่ติดตั้งทีวีที่มุมผนัง

ห้องนี้เหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คน และเหมาะสำหรับคนที่ชอบพื้นที่ใช้งานครบทุก function ในสัดส่วนเท่าๆกัน

 

อีกห้องเป็นห้อง 2 Bedroom 74 Sq.m.

เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่มีหน้ากว้างสุดๆ

ภายในห้องแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วนคือ ครัวและ living area ติดประตู เป็นพื้นที่กลาง

ที่แบ่งห้องนอนทั้งสองห้องไว้ที่ปีกซ้ายและขวา

พื้นที่ครัว อยู่ติดประตู โครงการให้ชุดครัว built-in L Shape พร้อม island

ที่ top ครัว เป็น composite marble สีขาว

หน้าบานฝาตู้และลิ้นชักเป็นลามิเนตลายไม้สีน้ำตาลเข้ม

โครงการให้อ่างล้างจานของ MEX 2 อ่างและเตาไฟฟ้า SIEMENS  แบบฝัง Built-in เรียบไปกับเคาท์เตอร์

ด้านล่างเจาะช่องฝัง Microwave

และติดกันเป็นตู้เย็นแบบฝัง built-in ของ SIEMENS ที่ให้มาถึง 2 ตู้…ตรงนี้ถือว่าดีมาก เพราะคอนโด Luxury ส่วนใหญ่มักจะให้มาแค่ตู้เดียวสำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอน ซึ่งดูแล้วยังไงก็ไม่น่าจะพอใช้งานจริงครับ

เชื่อมกับตู้วางรองเท้าที่ผนังติดประตูทางเข้า

ตรงกลางเป็น island ที่มาพร้อมลิ้นชัก สำหรับวางอุปกรณ์ทำครัว

ด้านหลังประตูทางเข้า เป็นห้องน้ำ และพื้นที่วางเครื่องซักผ้า พร้อมหน้าบานปิด

ถัดจากครัวเข้าไปด้านใน เป็นประตูบานเลื่อนออกระเบียง

ที่ระเบียงมีพื้นที่พร้อมใช้งาน มีราวกันตกกระจกพร้อมราวจับ เปิดเชื่อมมุมมองจากภายในสู่ภายนอก

ติดกันเป็นพื้นที่เข้ามุมติดกระจกเข้ามุมต่างบานใหญ่ เป็นมุมตั้งชุดโซฟา นั่งดูทีวี ติดวิวริมหน้าต่าง

ด้านขวา เป็นห้องนอนเล็ก

ภายในห้องนอนเล็กมีห้องน้ำด้านขวา เป็น double access ที่เข้าออกได้จากห้องนอนและห้องนั่งเล่นอีกทางหนึ่ง

ในห้องน้ำ มีพื้นที่ส่วนแห้ง เป็นเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่เต็มผนัง เชื่อมสู่โถสุขภัณฑ์

ส่วนพื้นที่ส่วนเปียกอยู่ด้านในกั้นด้วย shower glass โครงการให้ rain shower ติดเพดานและ hand shower ติดผนัง

ด้านหน้าติดทางเข้าเป็นพื้นที่สำหรับตั้งตู้เสื้อผ้า มุมแต่งตัว

ด้านในสุด ติดหน้าต่างบานผลักและกระจกบานใหญ่ เป็นพื้นที่สำหรับวางเตียง และมุมวางทีวีที่ปลายเตียง

ปีกซ้ายเป็นห้องนอนใหญ่

ภายในห้องนอนแบ่งเป็นพื้นที่ห้องน้ำที่ด้านซ้ายของทางเข้า

ห้องน้ำเป็น sexy bathroom

ในห้องน้ำ แบ่งพื้นที่ส่วนแห้ง เป็นเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า KOHLER แบบลอยตัว แยก his and her พร้อมกระจกบานใหญ่ เต็มผนัง

ปลายสุดตั้งโถสุขภัณฑ์ KOHLER

ติดกันเป็นพื้นที่ส่วนเปียกกั้นด้วย shower glass โครงการให้ rain shower ติดเพดานและ hand shower ติดผนังของ GROHE

เชื่อมยาวถึงอ่างอาบน้ำที่กระจกเข้ามุม

ที่อ่างอาบน้ำแยกฝักบัวและระบบน้ำ พร้อมที่วางอุปกรณ์อาบน้ำติดผนัง

ด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำเป็น walk-in closet ประตูบานเลื่อนแบบแยกราว ชั้น และลิ้นชักสำหรับใช้งาน

ส่วนพื้นที่ด้านขวาของทางเข้าห้องนอน ติดกระจกบานใหญ่ พร้อมหน้าต่างบานผลักขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่สำหรับวางเตียงนอน มาพร้อมไฟที่ผนัง เมื่อตั้งเตียงแล้วจะสามารถใช้เป็นไฟหัวนอนได้

ห้องนี้เหมาะสำหรับครอบครัว สามารถอยู่ได้ 2-4 คน และน่าจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบพื้นที่living area ขนาดใหญ่ มีทุกส่วนของห้องติดอากาศ

 

นอกจากภายในห้องจะ luxury หรูหราด้วยวัสดุและการออกแบบแล้ว ยังให้ผู้พักอาศัยได้รู้สึกเหนือระดับกับ ความ best in class ที่หรูหราของพื้นที่ส่วนกลางซึ่งออกแบบให้กระจายตัวอยู่ตามชั้นต่างๆ ภายใต้การออกแบบตกแต่งแบบโรงแรม 5 ดาว ที่นอกจากที่ชั้น lobby แล้ว ยังเริ่มตั้งแต่ชั้น 10

กับ Sculpture court พื้นที่สวยสีเขียวชั้นที่พักอาศัย ที่โอบล้อมด้วยตัวอาคาร L shape

ที่ออกแบบให้มี Sculpture ตั้งเด่น รายล้อมด้วยพื้นที่สวนสีเขียว แทรกด้วยพื้นที่นั่งพักผ่อน

อีกทั้งยังออกแบบให้โทนสีของพื้นที่ Hard scape ภายในสวนเชื่อมกับสีภายในตัวอาคาร ทำให้มุมมองเชื่อมต่อถึงกันจากภายในสู่ภายนอกผ่านกระจกบานใหญ่ เรียกว่าเป็นการออกแบบที่ลงลึกถึงดีเทลเล็กๆน้อยเลยทีเดียว

อีกทั้งยังออกแบบให้โทนสีของพื้นที่ Hard scape ภายในสวนเชื่อมกับสีภายในตัวอาคาร ทำให้มุมมองเชื่อมต่อถึงกันจากภายในสู่ภายนอกผ่านกระจกบานใหญ่ เรียกว่าเป็นการออกแบบที่ลงลึกถึงดีเทลเล็กๆน้อยเลยทีเดียว

ถัดจากชั้น 10 ยังมีพื้นที่ส่วนกลางหลักอีกที่ชั้น 33 กับพื้นที่ active zone ที่มีทั้ง pool terrace และ sky gym และ golf simulation ที่วิวสวยกับการใช้ความโดดเด่นของอาคารที่สูงที่สุดบนย่านอโศกมาเป็นลูกเล่น ทำให้การใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง เหมือนเราได้ยืนอยู่บนจุดที่สูงที่สุด เห็นเมือง และยอดตึกโดยรอบที่โอบล้อม

เริ่มจากพื้นที่สระว่ายน้ำ infinity edge pool กับ panoramic pool 

วิวด้านถนนอโศก เชื่อมยาวไปสู่ด้านพระราม 9 พร้อมสระเด็ก lap pool , Jacuzzi พร้อม pool terrace พื้นที่นั่ง out door กลางน้ำ

และมี zone ที่นั่งกึ่ง out door ที่ทอดยาวด้วย terrace ไม้ พร้อมมุมนั่งพักผ่อน รับลม ชมวิวริมสระน้ำ

พร้อม Plunge pool และ steam room แยกชายหญิง ภายในห้องน้ำที่ชั้นนี้

ฝั่งตรงข้ามของทางเข้าสระว่ายน้ำคือ Sky Gym ที่โอบล้อมด้วยวิวยอดตึกใจกลางเมือง เสมือนภาพวาดที่เปลี่ยนบรรยากาศในทุก ๆ วัน

ให้คุณได้ออกกำลังกาย และผ่อนคลาย ในแบบ exclusive หนึ่งเดียวใจกลางย่านอโศก

นอกจากนี้ยังมีห้อง Golf Simulation เป็น private facility ที่ลูกบ้านสามารถจองและเช่ารายชั่วโมงเพื่อใช้งานได้

พื้นที่ส่วนกลางอีกส่วนเน้นเป็นโซน passive กับพื้นที่ที่ชั้น 43 ที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือพื้นที่ Reading club ,Business center, Sky Garden และ The ESSE Residences Lounge

โซน The ESSE Residences Lounge เป็นพื้นที่พักผ่อนท่ามกลางวิวเมือง panorama

ที่มีชุดโซฟาไว้บริการถึง 6 โซน แยกส่วน

ทั้งชุดโต๊ะโซฟาลอยตัว

เคาท์เตอร์บาร์สำหรับจัดเลี้ยงแบบ exclusive

และพื้นที่โซฟาตัว U ลด step ที่มีวิวเป็น background ให้ได้นั่งชมวิว ใช้งาน อย่างเหนือระดับเสมือนนั่งอยู่บน lounge ของโรงแรมดังใจกลางมหานคร เรียกว่าเป็นความพิเศษเฉพาะผู้พักอาศัยเท่านั้น

ติดกันมีพื้นที่ ห้องประชุม Business center ทั้งห้องกลางและห้องเล็ก ให้ได้เลือกจับจอง ใช้งาน ทั้งประชุม นำเสนองาน ที่มีอุปกรณ์ทั้งโต๊ะประชุม รวมทั้งโทรทัศน์ไว้รองรับ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการใช้งาน ต้องสอบถามกับทางนิติฯอีกครั้ง)

อีกโซนมีห้องประชุมใหญ่ ที่มีพื้นที่ติดสวน sky garden สามารถรองรับการใช้งานได้สูงสุด 16 คน

ตรงข้ามห้องประชุมใหญ่ เป็น Reading club

ที่ออกแบบให้มีมุม private ไว้ใช้งานแบบส่วนตัว หลากหลายมุม

นอกจากนี้ยัง upgrade ความเหนือระดับในการพักผ่อนกับ Skyscraper deck

เช่นเดียวกับจุดเด่นของการชมวิว รับลมบนพื้นที่อาคารสูงในเมืองใหญ่ๆทั่วโลก

เสมือนได้นั่งอยู่บนร้านอาหารหรู บนยอดอาคารสูง ราคาแพง แต่ที่นี่มีให้คุณได้เลือกใช้งานได้ทุกวัน หลากหลายมุม

และยังมี Sky Garden

THE ESSE ASOKE เมื่อนิยามของคำว่า Best in Class ไม่ใช่แค่ความเพ้อฝัน

 

ลองหลับตานึกภาพบริษัทพัฒนาอสังหาฯที่มีอายุเพียงแค่ 4 ปี ก่อตั้งในปี 2558 แต่กลับกำลังจะไปถึงเป้าหมายรายได้ที่ 20,000 ล้านบาท ภายในปี 2562 คุณคิดว่าในประเทศไทยมีบริษัทไหนที่พอจะมีศักยภาพก้าวกระโดดขนาดนี้ได้บ้าง? ท่ามกลางยุคที่ตลาดอสังหาของกรุงเทพฯถูกครอบงำโดยกลุ่มบริษัทผู้นำขนาดใหญ่เพียงไม่กี่บริษัท อีกทั้งยังมีเงินทุนจำนวนมหาศาลจากต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาพัฒนาโครงการประเภท Mixed Use จนถึง Luxury Residential มากมายไม่เว้นแต่ละเดือน จนบริษัทพัฒนาอสังหาฯรายย่อยของไทยหลายๆรายแทบจะไม่สามารถแทรกตัวขึ้นมายืนบนสังเวียนนี้ได้ ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับเทรนด์ตลาดและจุดแข็งของตัวเอง แต่สิงห์ เอสเตท (Singha Estate) กลับเดินหน้ารุกตลาด Luxury แบบ Aggressive อย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ โดยที่มี Backup ในด้านการเงิน และทรัพยกรชั้นดีจากกลุ่มบริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด จนทำให้ Singha Estate ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในกลุ่มตลาด Luxury Condo & Residential Project ที่มีราคาขายมากกว่า 10 ล้านบาท มากกว่าบรรดาบริษัทผู้นำที่คุ้นหูอื่นๆมากมาย…ทุกครั้งที่ Singha Estate ประกาศที่จะพัฒนาโครงการอะไรก็ตามขึ้นมา โครงการนั้นจะต้องมีความเป็น Best in Class เป็นที่สุดทั้งในแง่ของมาตรฐานการก่อสร้าง ดีไซน์ ทำเล ตลอดจนในแง่ของคุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับ ด้วยวิสัยทัศน์ที่สื่อถึงความทะเยอทะยานในการเป็นที่หนึ่งเช่นนี้ จึงทำให้หลายๆโครงการของ Singha Estate เป็นที่ Talk of the Town จนได้รับความนิยม และยอมรับทั้งในหมู่ผู้ซื้อชาวไทย และชาวต่างชาติอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ THE ESSE ASOKE โครงการ Luxury คอนโดแห่งแรกของ Singha Estate ที่พกพาจุดเด่นในเรื่องของวิวที่สวยงามด้วยความสูงของอาคารที่สูงที่สุดบนถนนสุขุมวิท เช่นเดียวกับการออกแบบและดีไซน์ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับ Luxury Condo ที่มีอยู่ในย่านอโศก จนลูกค้าหลายๆคนที่ซื้อโครงการไป ล้วนแต่พูดเป็นเสียงเดียวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจซื้อว่าที่นี่ให้สเปคที่หรูหราและคุ้มค่ากว่าคอนโดอื่นใดที่มีราคาขายพอๆกัน หรือจะเป็นโครงการ SINGHA COMPLEX และ THE ESSE at SINGHA COMPLEX ที่ปัจจุบันนี้ได้สร้างคุณูปการมากมายให้กับหลายๆคอนโดในช่วงอโศก-เพชรบุรี-พระราม 9 เช่นเดียวกับการสร้าง Premium Traffic จำนวนมากมายให้เกิดขึ้นในย่านนี้ จนส่งผลให้ราคาขายคอนโดเริ่มที่พุ่งสูงขึ้นทัดเทียมกับฝั่ง Mid Sukhumvit แล้ว และล่าสุดกับ SANTIBURI THE RESIDENCES โครงการบ้านเดี่ยวที่มีราคาสูงที่สุดในประเทศไทย ที่ถึงแม้ว่าคุณจะมีเงินมากแค่ไหนก็ไม่ได้หมายความว่าจะครอบครองได้เสมอไป แต่ต้องมีปรัชญาการใช้ชีวิตที่เข้ากันได้ลงตัวกับอีก 25 ครอบครัวเช่นกัน

 

ปฎิเสธไม่ได้ว่าในการที่จะสร้างรายได้ให้ทะลุหลักหลายหมื่นล้านได้ในระยะเวลาอันสั้น เช่นเดียวกับการก้าวขึ้นเป็นที่หนึ่งในใจของผู้บริโภคในตลาด Luxury ล้วนแต่ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลัก 2 ประการ ที่เป็นจุดแข็งของ Singha Estate นั่นก็คือ 1. การดำเนินธุรกิจในแบบไล่ซื้อกิจการชั้นดีที่สามารถสร้าง Recurring Income ได้ทันทีและต่อเนื่องในระยะยาว ภายใต้กลยุทธ์ Smart M&A ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายๆบริษัทผู้นำไม่กล้าทำตาม แต่ด้วยความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทแม่ ได้เอื้อให้สามารถรองรับโอกาสทางการลงทุนได้อย่างรวดเร็ว โดยแผนลงทุนในระยะ 5 ปีจากนี้ ถึงปี 2556 จะอยู่ภายใต้กรอบการลงทุนทั้งหมด 85,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการในทุกกลุ่มธุรกิจตั้งแต่ธุรกิจที่อยู่อาศัย ธุรกิจบริการ ฮอสพิทอลลิตี้ระดับโลก และธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า รวมถึงการลงทุนธุรกิจใหม่ๆ ที่จะสามารถสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับบริษัท และ 2. คือการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยโครงการแรกอย่าง THE ESSE ASOKE ให้เนี๊ยบที่สุด จนผู้ซื้อเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างโครงการของ Singha Estate และโครงการของแบรนด์อื่นๆ

 

องค์ประกอบข้อแรกดูจะเป็น Business as usual สำหรับ Singha Estate ไปแล้ว เพราะว่าได้คิดไกลไปถึงการเป็น Global Holding Company ที่วางแผนระดมทุนระยะยาว ผ่านการตั้งกองทุนทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) สำหรับหลายๆโครงการที่มีอยู่แล้วในอนาคต…ส่วนข้อที่สองในเรื่องของคุณภาพและความประณีตในการพัฒนาโครงการ ว่าจะเหนือกว่าคู่แข่งในเซกเมนท์เดียวกันหรือไม่อย่างไร ลำพังแค่ผมเองอธิบายก็คงจะไม่ดีเท่าให้คุณผู้อ่านได้เข้าไปสัมผัสได้ด้วยตัวเองจะดีกว่า

แต่ถ้าจะให้ว่ากันตามข้อเท็จจริง และประสบการณ์ร่วมที่ผมมีต่อการเข้าไปเยี่ยมชมโครงการ THE ESSE ASOKE เป็นกลุ่มแรกๆก็ต้องบอกว่า ผมได้รับ First Impression มากพอสมควรครับ ถึงแม้ว่าโครงการจะยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ 100% แต่ส่วนตัวแล้วต้องบอกว่า งานเนียนละเอียดยิบกว่าโครงการ Luxury Condo หลายโครงการในย่าน Mid Sukhumvit ที่เคลมตัวเองว่าสร้างเสร็จพร้อมอยู่ 100% ครับ

 

ถ้านิยามของการอยู่อาศัยแบบ Luxury ของคุณคือความเงียบสงบ บนพื้นที่ส่วนกลางอันกว้างใหญ่ วิวสวย และการได้อยู่ในห้องพักอาศัยที่มีเพดานห้องสูงๆ ใช้งานทุกอณูภายในห้องได้อย่างเต็มฟังก์ชั่น โถงทางเดินเป็นแบบ Single Loaded Corridor ที่ THE ESSE ASOKE ก็น่าจะมีองค์ประกอบของความเป็น Luxury Condo ครบถ้วนแบบไม่ขาดตกบกพร่อง หลายๆคนบอกว่าที่ตั้งของโครงการดูที่จะอยู่เกินระยะการเดินจากรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก หรือ MRT สถานีเพชรบุรี ไปหน่อย แต่ในฐานะที่ผมเองก็เป็นผู้ใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้มาหลายปี และก็มักจะเดินตัดจากสถานี BTS อโศก ไปยังแยกอโศก-เพชร ฝั่ง ARL มักกะสันอยู่เสมอๆ ต้องบอกว่าทำเลนี้ล่ะที่กุมความได้เปรียบของย่านอโศกมากที่สุด และก็ไม่ได้รู้สึกว่าเดินไกลอย่างที่คิดเลย เพราะอาคารสำนักงานชั้นนำส่วนใหญ่ ร้านค้า ร้านอาหารดังๆ และสถาบันการศึกษาชั้นนำในย่านอโศกล้วนแต่อยู่ในช่วงกลางสุขุมวิท 21 ทั้งนั้น อีกทั้งถ้าคุณเป็นคนที่เดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลัก การเข้าถึง THE ESSE ASOKE ก็สามารถทำได้จากซอยสุขุมวิท 15-19 เช่นเดียวกับฝั่งถนนเพชรบุรี (แต่ต้องไปกลับรถ) โดยที่ไม่ต้องตรงดิ่งฝ่ารถติดตั้งแต่แยกอโศก-สุขุมวิท จนเลี้ยวเข้าสุขุมวิท 21 ให้วุ่นวาย

 

First Impression ของโครงการที่ถือว่าเป็นแต้มต่อหลักของที่นี่ก็น่าจะเป็นพื้นที่ THE ESSE Court สวนสีเขียวขนาดใหญ่กว่า 1,000 ตรม.ที่นอกจากจะทำหน้าทื่เป็น Buffer Zone ช่วยลดเสียงและมลภาวะจากภายนอกโครงการแล้วยังช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวได้อย่างเหลือเชื่อ และเมื่อก้าวเข้ามาในล้อบบี้ที่สูงถึง 7.5 เมตรก็จะพบว่าที่นี่มีความภูมิฐาน และหรูหราแบบ Timeless นิ่งเรียบ มากกว่าโครงการคอนโดอื่นๆที่มีล้อบบี้เตี้ย ขนาดเล็ก แต่กลับอัดแน่นไปด้วย Prop จัดเต็มหลายอย่างให้ดูฟุ้งๆ แต่ดูอึดอัดในสายตาใครหลายๆคน (คือล้อบบี้ที่นี่ใหญ่มากครับ นึกภาพเหมือนกับล้อบบี้อาคารสำนักงานทันสมัย หรือโรงแรมขนาดใหญ่ ที่มีดีเทลองค์ประกอบครบ ทั้งพื้นที่นั่ง พื้นที่ Reception และงาน Sculpture ที่ดูแปลกตาเรียบง่ายแต่แฝงไว้ซึ่งรสนิยม โดยที่ยังมีพื้นที่เปิดโล่งอีกเหลือเฟือ)

 

การกระจายพื้นที่ส่วนกลางแยกไปถึง 4 โซนบนชั้น G, 10, 33 และ 43 ก็เหมือนกับเป็นการเพิ่ม Value ให้กับห้องพักหลายๆยูนิตในตำแหน่งที่แตกต่างกันไป ชนิดที่ว่าไม่ว่าจะอยู่มุมไหนก็ล้วนแต่ได้วิว และ Value จะส่วนกลางที่เป็น Signature ทั้งจากห้องโซนเตี้ยทิศตะวันออกที่เทควิว THE ESSE Court หรือทิศตะวันตกที่ได้รับวิวสวนสวยกว่า 55 ไร่ของวัฒนาวิทยาลัย  หรือชั้นกลางๆที่ได้เทควิว Sculpture Court ที่ชั้น 10 หรือชั้นสูงๆที่ได้เทควิวของสระว่ายน้ำขนาด 28 x 12 เมตรบนชั้น 33 เช่นเดียวกับบรรดาห้อง Penthouse Floor ที่นอกจากจะได้วิวโล่งรอบทิศแล้ว ยังได้มอง Skyscraper Deck สวยๆบนชั้น 43 จากมุมสูงในห้องตัวเอง ยิ่งหากใครได้มีโอกาสไปใช้งานห้องประชุมหลักใน Business Center ที่ชั้น 43 แล้ว (เสียค่าใช้จ่ายเป็นรายครั้ง) ก็ต้องบอกว่าที่นี่วิวสวยกว่าคอนโดที่อยู่ติดสถานี BTS อโศกอีกครับ

THE ESSE ASOKE เคยเปิดตัวในราคาขายเมื่อสามปีที่แล้ว ที่มีห้องเริ่มต้นราคาต่ำกว่าตรม.ละสองแสนบาทด้วยเช่นกัน โดยตอนนี้โครงการขายได้มากกว่า 80% แล้ว และก็แน่นอนว่าห้องรีเซลของโครงการก็ขายดีมากเช่นกัน นับตั้งแต่เปิดให้เข้าชมโครงการได้ในช่วงกลางเดือนพย.ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าราคาจะปรับตัวขึ้นสูงราวๆตรม.ละสองแสนกลางๆ แต่ก็ยังดูคุ้มค่า สมราคามากกว่าคอนโดอื่นๆในย่านใกล้เคียงที่ขายกันในราคาเฉียดตรม.ละสามแสนบาท…คุ้มค่าซะจนหลายๆคนที่ซื้อรอบแรกในราคาไม่เกินตรม.ละสองแสนต้องรู้สึกเสียดายจนอยากได้ห้องเดิมกลับคืนมาครับ

ยิ่งโครงการ Singha Complex สร้างแล้วเสร็จ ในขณะที่ THE ESSE at Singha Complex ก็กำลังโตวันโตคืน ในราคาขายที่มากกว่า 50% ก็ยิ่งเป็น Trigger สำคัญให้ใครหลายๆคนที่อยากมีบ้านใกล้ Singha Complex เริ่มมอง THE ESSE ASOKE เป็น First Priority ครับ

 

THE ESSE ASOKE นับว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญของ Singha Estate ในการที่จะสร้างความจดจำให้กับผู้บริโภคในตลาด Luxury Condo ได้รับรู้ถึงความตั้งใจในการพัฒนาโครงการคอนโดที่มีความประณีต เพียบพร้อมด้วยความเป็น Luxury in Detail ที่น่าจะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ที่ได้ครอบครองทุกคนได้เป็นอย่างดีครับ สำหรับผมบอกเลยว่าที่นี่ดีสุดบนถนนสุขุมวิท 21 ณ ชั่วโมงนี้ครับ

โครงการจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ 100% ในช่วงกลางปี 2019 ครับ แต่ลูกค้าจะได้ข้อเสนอพิเศษสูงสุดมูลค่า 1.6 ล้านบาท*เมื่อซื้อและโอนภายในปีนี้ สำหรับผู้ที่อยากเข้ามาเยี่ยมชมโครงการสามารถติดต่อ และหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร 1221 หรือ http://www.singhaestate.co.th/condominium/theesseasoke



เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์


PropScore™ 4.5

SCORE:
0.0
From : 0 รีวิว


ยังไม่มีการให้คะแนนและ Comment โครงการนี้


ข้อเท็จจริง และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ระหว่างอสังหาฯรูปแบบ Freehold และ Leasehold

ในปีนี้เราจะมีโอกาสได้เห็นโครงการ Leasehold ที่กำลังจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่หลายที่ครับ และก็ในหลายระดับราคาด้วย ไม่ว่าจะเป็น ONE Bangkok Residence (Tentative Name), AMAN Nai Lert Bangkok, Thirty Thre... อ่านต่อ

17 April, 2024



คัดสรรให้! งบ 7 ลบ. ก็หาซื้อคอนโดหรูพร้อมอยู่ในย่านพร้อมพงษ์ – ทองหล่อ – เอกมัย ได้

หลังจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมท... อ่านต่อ
12 April, 2024

เคาะแล้ว! แพคเกจกระตุ้นตลาดอสังหาฯ โดยกระทรวงการคลัง

สืบเนื่องมาจากข้อมูลของกระทรวงการคลังที่รายงานครม.ไปว่าในช่วงไตรมาสสี่ของปีที่ผ่านมา ภา... อ่านต่อ
10 April, 2024

มาร่วมออกแบบโครงการให้โลกจำเป็นตำนาน ด้วยสูตรลับที่ตกผลึกมาจากประสบการณ์หลากหลายมุมมอง กับหลักสูตรสำหรับคนฝันใหญ่ “Iconic Xperience 2”

ในการพัฒนาโครงการอะไรก็แล้วแต่ แน่นอนว่าเป้าหมายหลักของผู้พัฒนาโครงการก็น่าจะเป็นในเรื่... อ่านต่อ
1 April, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง