รีวิว Skyrise Avenue SKV.64 ตึกสวย ทำเลเยี่ยม สเปคดี ราคานี้ซื้อเลย

ปุณณวิถี เรียกได้ว่าเป็นย่านของ New Digital Business District เนื่องจากการมาของโครงการขนาดใหญ่อย่าง True Digital Park ทั้ง 2 เฟส มีทั้งห้าง ออฟฟิศ คอนโดมิเนียมอยู่ในโครงการเดียวกัน และยังรวมเอาบุคลากรด้าน Hi-Tech Industry จากทั่วทุกมุมโลกมาอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ยังมีอาคารสำนักงานใหม่ ๆ มากมาย นับว่าเป็นย่านที่มาแรงมากที่สุดบนถนนสุขุมวิทในช่วง 2 ปีให้หลังมานี้ แรงกว่าย่านอ่อนนุชที่มีพัฒนาการที่เป็นไปในเชิงของแหล่งไลฟ์สไตล์ขนาดย่อม และโครงการที่พักอาศัย ไม่ได้มีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่มาเติมเต็ม ส่งผลให้ในปัจจุบันย่านปุณณวิถีเริ่มมีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมทั้งแบบ High-Rise และ Low-Rise อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ริมถนนใหญ่สุขุมวิท หรือภายในซอยใกล้เคียงอย่างสุขุมวิท 101, 103, 64 และ 66 รวมถึงมีเส้นทางการเดินทางที่สามารถขึ้นทางด่วนเพื่อเข้าเมืองหรือออกต่างจังหวัดได้อย่างสะดวก ถือได้ว่าเป็นย่านใหม่ที่มีความหลากหลายของไลฟ์สไตล์อันสมบูรณ์แบบที่เหมาะกับการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง หรืออาจกล่าวได้ว่านี่คือ “Great neighborhood” ที่มีครบทุกอย่างสมบูรณ์แบบในอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าจะเป็นที่กิน เที่ยว ช้อปปิ้ง ก็สามารถหาได้ในย่านนี้ โดยไม่ต้องเดินทางเข้าไปในเมืองให้เสียเวลา และกลายเป็นย่านที่ถูกพัฒนาและเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ธุรกิจน้อย-ใหญ่ที่มีการขยับขยายกิจการเข้ามาเปิดในย่านนี้กันเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีเส้นทางของรถไฟฟ้าพาดผ่าน ทำให้การเดินทางสะดวกโดยไม่ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวก็ยังได้ จึงทำให้ย่านนี้ไม่ใช่แค่ทำเลที่อยู่อาศัย แต่กลายเป็นแหล่งงานโอกาสใหม่ ๆ ของธุรกิจเทคโนโลยีที่กำลังเป็นขาขึ้น เป็นที่รวมตัวของผู้คนศักยภาพสูงที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในปัจจุบัน

True Digital Park

ภาพจาก : https://www.facebook.com/TrueDigitalPark/photos/?ref=page_internal

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่กำลังจะเกิดขึ้นของย่านนี้ก็คือ อาคารสำนักงานใหม่ของเมืองไทยประกันชีวิต ที่มีความสูงถึง 168 เมตร อยู่ติดกับ BTS สถานีอุดมสุข ตรงซอยสุขุมวิท 66 ซึ่งจะมีการย้ายพนักงานของเมืองไทยประกันชีวิตที่อยู่ตรงถนนรัชดาภิเษกเข้ามาอยู่ที่อาคารสำนักงานใหม่ประมาณ 30%

ไม่ใช่แค่ดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ในเมืองไทยเท่านั้น ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของทำเลปุณณวิถี แต่ดีเวลลอปเปอร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง RISLAND (ประเทศไทย) ก็กำลังจะมีโปรเจกต์ใหญ่ในย่านนี้เช่นกัน ซึ่งจะเป็นโปรเจกต์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคนปุณณวิถีและผู้คนโดยรอบให้มีความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

โดย RISLAND เป็นดีเวลลอปเปอร์ต่างชาติที่มีสัญชาติฮ่องกง ที่ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ และการบริหารจัดการอาคาร และมีโครงการอสังหาริมทรัพย์อยู่ใน 5 ประเทศ รวม 14 โครงการ ในประเทศสหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ อินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และประเทศไทย รวมมูลค่าโครงการทั่วโลกร่วมแสนล้านบาท โดยในปัจจุบันได้เข้ามาพัฒนาโครงการอสังหาฯ ที่เมืองไทยแล้ว หลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็น โครงการ อาร์ติซาน รัชดา (Artisan Ratchada),โครงการ คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี (CLOUD Thonglor-Phetchaburi), คลาวด์ เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 23 (CLOUD RESIDENCES – SKV23), โครงการ เลค ซีรีน พระราม2 (Lake Serene Rama2) และโครงการ เดอะ ลิฟวิ่น เพชรเกษม (The LIVIN Phetkasem)

และโครงการใหม่ล่าสุดจากทาง RISLAND ที่เป็นแบบ Mixed Use ขนาดใหญ่ บนพื้นที่กว่า 22 ไร่ ในชื่อโครงการว่า สกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64 (Skyrise Avenue Skv.64) โครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64/2 อยู่ห่างจากปากซอยประมาณ 120 เมตร บริเวณหน้าปากซอยมีศูนย์จำหน่ายรถมาสด้าตั้งอยู่ และสามารถเดินไปที่สถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถีในระยะทางเพียง 450 เมตร เท่านั้น และยังเป็นคอนโดมิเนียม High-Rise ที่มีความสูงที่สุดในฝั่งสุขุมวิท 64 ที่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนแบบไม่ต้องกลับรถ สะดวกทั้งขาไปและขากลับอีกด้วย เพราะสามารถเข้าไปในซอยสุขุมวิท 62 เพื่อขึ้นทางด่วนได้

ปุณณวิถีเป็นทำเลเมืองส่วนต่อขยายมาจาก ทองหล่อ และอ่อนนุช จึงทำให้โครงการ Skyrise Avenue Skv.64 เหมือนจุดศูนย์กลางที่เชื่อมต่อทำเลที่พัฒนาแล้วอย่าง ทองหล่อ อ่อนนุช ไปยังทำเลที่เป็น Business Gateway ของฝั่งกรุงเทพฯตะวันออก คือ ทำเลบางนา ที่กำลังมี Magnet สำคัญในอนาคตคือศูนย์การค้าขนาดใหญ่ของทาง เดอะมอลล์กรุ๊ป ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ อย่าง Bangkok mall ที่จะทำการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2567

เนื่องจากโครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 64 บางคนอาจจะหาไม่เจอว่าต้องเลี้ยวที่ซอยอะไร แล้วต้องเข้าซอยไปลึกแค่ไหน โดยจุดสังเกตง่ายๆ ก็คือ โครงการจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ True Digital Park ก็สามารถมองเห็นโครงการ Skyrise Avenue SKV.64 ได้อย่างชัดเจน ในระยะทาง 450 เมตร

ในอนาคตทางโครงการฯ ได้ขออนุญาตสร้างบันไดลงมาจาก Skywalk ตรงบริเวณหน้าปากซอย 64/2 ใกล้ ๆ กับศูนย์จำหน่ายรถมาสด้า ที่จะเป็นบันไดขึ้น-ลงใกล้กับโครงการมากที่สุด เพื่อความสะดวกสบายของผู้อยู่อาศัยภายในโครงการฯ และผู้คนโดยรอบได้ใช้ประโยชน์อีกด้วย เพราะตอนนี้ต้องใช้บันไดขึ้น-ลง Skywalk ที่ห่างจากปากซอยสุขุมวิท 64/2 ไปประมาณ 120 เมตร และ Skyrise Avenue SKV.64 ยังเป็นคอนโด High Rise ที่มีความสูงที่สุดในฝั่งสุขุมวิท 64 ดังนั้นจะได้ความใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนได้ง่ายไม่ต้องกลับรถ สะดวกทั้งขาไปและขากลับอีกด้วย

ไม่เพียงเท่านั้นยังมีบางยูนิตที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งบางกระเจ้าได้อย่างชัดเจน

วิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่สามารถมองเห็นได้จากห้องพักภายในโครงการ จะเป็นวิวโค้งน้ำของฝั่งบางกระเจ้า ซึ่งจะเป็นในส่วนของสวนสีเขียวขนาดใหญ่และไม่ถูกบังวิวจากตึกสูงรอบข้าง

Detail โครงการ Skyrise Avenue SKV.64

Skyrise Avenue SKV.64 พัฒนาขึ้นโดย RISLAND (ประเทศไทย) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Hi-Rise ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 22 ไร่  มีทั้งหมดด้วยกัน 4 อาคาร (เฟส 1) อาคาร D สูง 48 ชั้น, อาคาร E สูง 48 ชั้น, อาคาร F สูง 46 ชั้น และอาคาร G สูง 49 ชั้น จำนวนยูนิตทั้งหมด 1,961 ยูนิต สามารถแบ่งรูปแบบห้อง ได้ดังนี้ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 28 – 35 ตารางเมตร,  2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 45 ตารางเมตร, 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 55 ตารางเมตร, 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 73 ตารางเมตร, 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 87 – 90 – 100 ตารางเมตร และ ห้อง Loft ขนาด 35-55 ตารางเมตร ที่อยู่บนชั้น 1-2 ของแต่ละอาคาร พร้อมที่จอดรถ 46% ไม่รวมจอดซ้อนคัน

ซึ่งโครงการนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชั้นนำของประเทศอย่าง คุณด้วง ดวงฤทธิ์ บุนนาค ที่เป็นสถาปนิกและนักออกแบบชื่อดังของเมืองไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Harmonic living arise” คือ สมดุลชีวิตใหม่ที่ตอบสนองให้การทำงานของคุณคล่องตัวขึ้น ไปพร้อมกับการใช้ชีวิตที่น่ารื่นรมย์ ในพื้นที่ธรรมชาติกว้างขวาง ภายในโครงการ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Skyline Tower ในมหานครนิวยอร์ค ภายในโครงการมีพื้นที่สีเขียวขนาด 9 ไร่ จึงทำให้โครงการ Skyrise Avenue SKV.64  ถือว่าเป็นโปรเจกต์ที่ใหญ่ที่สุดในย่านสุขุมวิท 64 เลยก็ว่าได้

ส่อง Model Skyrise Avenue SKV.64 พร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ถึง 9 ไร่

ในเฟส 1 ประกอบด้วย 4 อาคาร ซึ่งอยู่ด้านในสุดของที่ดินในโครงการ และบางยูนิตสามารถเทควิวแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งบางกระเจ้าได้ ทางโครงการได้มีการกำหนดการขายให้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โดย 2 อาคาร จากฝั่งซ้ายมือจะขายให้กับคนไทยทั้งหมด ส่วน 2 อาคารถัดมาจะแบ่งขายให้กับชาวต่างชาติในลำดับแรก

ซึ่งยูนิตภายในอาคารส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะอาคาร D และ F) นั้นหากเป็นชั้นสูง ๆ จะสามารถเทควิวของแม่น้ำเจ้าพระยา เห็นภาพวิวเมืองในโซนของสีลมและสาทร โดยด้านที่เห็นวิวแม่น้ำจะเป็นฝั่งของห้องนอนทั้งหมด เป็นวิวดีที่สุดของโครงการเลยก็ว่าได้

ห้อง Duplex จะอยู่ชั้น 1 ของทุกอาคาร ซึ่งเป็นห้องที่มีเพดานสูง 6 เมตร เท่ากับส่วนของ LOBBY ทางโครงการจึงมีการจัดวางให้อยู่ในชั้นเดียวกับ LOBBY นั่นเอง

จุดที่ลูกศรชี้ ในอนาคตจะเป็นส่วนของเฟสที่ 2 มีด้วยกัน 3 อาคาร

ทางเข้าโครงการ ที่เข้ามาทางซอยสุขุมวิท 64/2 โดยจะผ่านในส่วนของอาคารสำนักงานให้เช่าด้านหน้าก่อน จึงจะเข้าไปถึงอาคารที่พักอาศัยด้านใน

ช่องทางลงไปยังลานจอดรถ ที่ทางโครงการนำอาคารจอดรถให้ไปอยู่ในชั้นใต้ดิน มีด้วยกัน 2 ชั้น ทำให้คนจากตึกมองลงมาได้วิวที่สวย

จุดเดินขึ้น-ลง ไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดิน (เฟส 1) มี 3 จุด ซึ่งในอนาคตจะมีการทำเป็น Cover Walk Way เดินเข้าในอาคาร

ทางโครงการมีการออกแบบที่อยู่อาศัยที่เน้นไปในเรื่องของความ Private และความปลอดภัย คือ ห้องพักมีเพียง 11 ยูนิตต่อชั้น และชั้นสูง 3 ชั้นบนสุดจะมีเพียง 5 ยูนิตเท่านั้น และมีการนำเอาส่วนของ Facilities ทั้งหมด จัดไว้ตรง On Ground ในตึกจะมีแค่โซน Library ให้ได้มาอ่านหนังสือ หรือจะใช้รับแขกก็ได้ และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือเรื่อง Security ของผู้อยู่อาศัย จะมีการล็อคชั้นลิฟท์ที่สามารถแตะคีย์การ์ดไปได้แค่ชั้นที่ตนเองพักอาศัยเท่านั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยต่อลูกบ้านมากที่สุด

ภายในโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นสีเขียวกว่า 9 ไร่ เฟส 1 มีพื้นที่สีเขียวประมาณ 40% ซึ่งประกอบไปด้วยอาคารที่เป็น Facilities 3 อาคาร อยู่บริเวณด้านหน้าของอาคารที่พักอาศัย แบ่งได้เป็น อาคารแรกเป็นส่วนของ Co-working space, Podcast Station อาคารที่สองเป็น Fitness และอาคารที่สามเป็นส่วนของ Co – Kitchen Space, Family area, Sauna  room, Basketball Outdoor

Co-Working

Fitness

Co-Kitchen

โดย Co-Kitchen จะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ ซึ่งสระว่ายน้ำมีขนาด 500 ตารางเมตร (กว้าง 10 เมตร ยาว 50 เมตร) เทียบเท่าสระโอลิมปิก

Sales Gallery

โครงการ Skyrise Avenue SKV.64 ได้จับมือเป็น Partner กับร้าน Casa lapin ได้เปิดสาขาใหม่ในโครงการ เพื่อสร้างบรรยากาศ Refreshment ให้กับผู้เยี่ยมชมโครงการ

โดยร้าน CASA LAPIN ที่อยู่บริเวณด้านหน้าของ Sales Gallery เมื่อโครงการแล้วเสร็จ ร้านจะถูกย้ายเข้าไปอยู่ในส่วนของ Office Building ที่อยู่ด้านหน้าของอาคารที่พักอาคาร

Master Plan + Floor Plan Skyrise Avenue SKV.64

บริเวณโครงการมีพื้นที่สีเขียวมากถึง 40 % ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวและสวนสุขภาพ สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้พักอาศัย รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันที่ทางโครงการมอบให้ ส่วนพื้นที่ด้านข้างในอนาคตจะกลายเป็นเฟส 2 ซึ่งจะมีด้วยกัน 3 อาคาร

ชั้น 1 จะเป็นในส่วนของ Lobby และห้องพักที่เป็น Type Duplex มีเพียงอาคารละ 3 ยูนิตเท่านั้น และเพดานสูง 6 เมตร เท่ากับ Lobby ทางโครงการจึงมีการจัดวางไว้ให้อยู่ในชั้นนี้

ชั้นบนของ Duplex จะอยู่ในส่วนนี้

ชั้นพักอาศัยจะมีจำนวนห้องพักต่อชั้นสูงสุดเพียง 11 ยูนิต และ ชั้นสูง 3 ชั้นบนสุดจะมีเพียง 5 ยูนิตต่อชั้น เป็น Lay out ห้องขนาดใหญ่แบบ 3 ห้องนอน

ห้องตัวอย่าง มาพร้อมกับฟังก์ชั่นห้องที่ตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์มากที่สุด

Unit Plan

ห้องแบบ 1 Bedroom ภายในโครงการเริ่มต้นที่ 28 – 35 ตารางเมตร มีการกั้นห้องเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน และมีการจัดพื้นที่ได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าเป็นขนาดเริ่มต้นที่ใหญ่มากถ้าเทียบกับหลาย ๆ โครงการ ที่มีห้อง Type นี้ขนาดเริ่มต้นเพียง 24 – 26 ตารางเมตรเท่านั้น

ส่วนห้องแบบ 2 Bedroom มีให้เลือก 2 ฟังก์ชั่น คือ แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และมีจุดเด่นในส่วนของห้องนอนคือ ผนังเป็นกระจกโค้งแบบเต็มความสูง สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้เต็ม ๆ

ห้อง 3 Bedroom มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 80 – 90 ตารางเมตร ฟังก์ชั่น 2 แบบ คือ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ หากใครที่ต้องการห้องที่สามารถมองวิวด้านนอกได้แบบไม่มีอะไรกั้น ก็เลือกห้องที่แบบไทป์ F, H และ I ได้ จะเป็นกระจกโค้งในส่วนของห้องนอนและห้องนั่งเล่น ได้รับแสงธรรมชาติจากด้านนอก และไม่ทำให้ห้องมืด ได้มุมมองที่เปิดโล่งรับทัศนียภาพมากกว่า

Type Duplex มีขนาด 35 – 55 ตารางเมตร และฟังก์ชั่นห้อง 2 แบบ ให้เลือกได้ตามความชอบ คือ 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดยมี Upper เป็นห้อง 2 ชั้น ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างมาก ห้อง Type นี้จะอยู่ในส่วนของชั้น 1 ของทุกอาคาร

ห้องตัวอย่าง

แบบ 1 Bedroom ขนาด 28 ตารางเมตร

เปิดเข้ามาในห้องก็จะเจอกับห้องนั่งเล่นเป็นอันดับแรก ภายในห้องเพดานสูง 2.65 เมตร บริเวณพื้นปูด้วยลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร โครงการขายแบบ Fully Fitted ให้ครัว แอร์ และเฟอร์ฯ Built-in พวกตู้เก็บของและตู้เสื้อผ้า แล้วแต่ Type ห้อง

ทางโครงการให้เป็น Digital Door Lock รุ่นนี้หรือเทียบเท่า

มีมุมใช้วางโต๊ะทีวีได้ หรือจะใช้เป็นทีวีติดผนังก็จะทำให้โต๊ะมีพื้นที่วางของเพิ่มขึ้น

โซฟาวางขนาด 2 – 4 ที่นั่ง ได้แบบไม่อึดอัด พร้อมโต๊ะด้านหน้าโซฟา ก็ยังเหลือพื้นที่ให้เดินเยอะ

ใช้ประตูบานเลื่อนแบบ 2 พับ กั้นส่วนของห้องนอน

ห้องนอนกว้าง สังเกตได้จากส่วนปลายเตียงยังมีพื้นที่เหลือให้เดินได้อย่างสบาย พร้อมหน้าต่างที่ติดกระจกเป็นเต็มความสูง ทำให้ได้รับธรรมชาติแบบเต็มๆ

ข้างหัวเตียงสามารถนำโต๊ะเล็กๆ มาวางได้

ตู้เสื้อผ้าสูงชิดผนัง ตั้งมุมเดียวกับห้องตัวอย่าง

ตำแหน่งแอร์ฯ จะอยู่ด้านผนังปลายเตียง พร้อมปลั๊กไฟสำหรับติดทีวีแบบติดผนัง หากใช้เป็นโต๊ะตั้งทีวี จะทำให้ห้องดูแคบและไม่มีพื้นที่เดิน

ช่องระหว่างทีวีและห้องนอน  เป็นส่วนของห้องน้ำและห้องครัว

พื้นที่ส่วนนี้ สามารถตกแต่งแบบห้องตัวอย่างเพื่อให้มีชั้นสำหรับเก็บของได้

ครัว เป็นแบบครัวปิด ช่วยให้เวลาทำอาหารไม่มีกลิ่นฟุ้งกระจายเข้ามาในห้อง

เคาน์เตอร์ครัวที่โครงการให้ จะเป็นลักษณะแบบนี้ แต่เป็นสีเทาแทนสีขาว

ช่องด้านบน เปิดออกมาได้แบบนี้

อ่างล้างจาน 1 ช่อง พร้อมเตาไฟฟ้า 2 หัว

อุปกรณ์ในส่วนของห้องครัว ใช้ยี่ห้อ Teka ทั้งหมด

ระเบียงอยู่ติดกับห้องครัว ใช้ประตูบานเลื่อน มีสเต็ประหว่างประตู ต้องระวังการสะดุด

แขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ไว้ด้านบนแบบนี้

ห้องน้ำอยู่ตรงข้ามกับห้องครัว จะใช้ผนังลายหินอ่อนแบบห้องตัวอย่าง ได้กระจกบานใหญ่แบบนี้แต่ไม่ได้มีซ่อนไฟที่หลังกระจกให้

แยกส่วนแห้งและส่วนเปียก

สุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ยี่ห้อ Kohler ทั้งหมด

ช่องระหว่างชักโครกไม่แคบเกินไป

ส่วนอาบน้ำมีประตูปิด และให้ Rian Shower

แบบ 1 Bedroom ขนาด 35 ตารางเมตร

เปิดเข้าห้องก็จะเจอกับชั้นรองเท้าที่อยู่ตรงกลางห้อง และชั้นวางของอยู่ซ้ายมือ

ทางโครงการไม่ได้ให้ชั้นวางนี้ แต่สามารถนำมาวางเหมือนห้องตัวอย่างได้

ชั้นวางรองเท้ามีลักษณะแบบนี้ แต่ใช้เป็นวัสดุสีเทาแทน

วางรองเท้าได้เยอะ ถูกใจสำหรับคุณผู้หญิงนักช้อป และคุณผู้ชายสายสนีคเกอร์

ส่วนครัวที่อยู่ด้านหน้าห้อง เป็นครัวแบบเปิดไม่เหมือนห้องแรก เพดานห้องสูง 2.6 เมตร

ขนาดครัวเท่ากับห้องแรก มีเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว อ่างล้างมือ และมีช่องใส่เครื่องซักผ้าอยู่ด้านล่าง ช่องไมโครเวฟย้ายไปอยู่ในตู้ด้านบน

โต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง สามารถเพิ่มขนาดโต๊ะให้เป็น 4 ที่นั่งได้

ถัดจากครัวเป็นห้องนั่งเล่น ปูพื้นด้วยลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร

โดยจะใช้เป็นโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่งได้ และโต๊ะหน้าโซฟาควรใช้ขนาดเท่ากับห้องตัวอย่าง จะได้มีพื้นที่ให้เดินได้สะดวก

ทีวีอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโซฟา

ส่วนของห้องนอน

โครงการติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ให้ตรงนี้

ตู้เสื้อผ้าติดกับประตู

ห้องน้ำมี 2 ประตู สามารถเข้าได้ทั้งฝั่งห้องนั่งเล่นและห้องนอน แขกสามารถเปิดเข้าห้องน้ำได้จากฝั่งห้องนั่งเล่น โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนของเจ้าของห้อง เพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้าของห้องนั่นเอง

ปูพื้นห้องน้ำด้วยหินอ่อน

สุขภัณฑ์ใช้ยี่ห้อ Kohler ทั้งหมด

ก๊อกน้ำปรับเป็นน้ำร้อน – น้ำเย็นได้

กั้นส่วนเปียกด้วยกระจก พร้อม Rain Shower

แบบ 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 45 ตารางเมตร

ส่วนครัวจะอยู่ด้านหน้าห้อง สีของห้องและสีเฟอร์นิเจอร์จะเป็นสีที่ทางโครงการใช้จริงทั้งหมด

ซึ่งเป็นครัวแบบมาตรฐาน ได้ทุกห้อง

ชั้นวางข้างตู้เย็น ใช้เก็บรองเท้าหรืออุปกรณ์ทำอาหารได้

ห้องนี้ใช้วัสดุและสีตามจริงแบบที่ทางโครงการให้ทั้งหมด

ห้องน้ำอยู่ด้านหลังครัว

สุขภัณฑ์ Kohler

ในห้องอาบน้ำ Type นี้มีที่นั่งอาบน้ำมาให้

Rain Shower

ถัดมาเป็นห้องนั่งเล่น ผนังติดกระจกรอบด้านแบบเต็มบาน ได้รับแสงธรรมชาติเต็มๆ

วางโต๊ะทานอาหารไว้ได้ตรงมุมนี้ เต็มที่ประมาณ 3 ที่นั่ง

มุมวางโต๊ะทีวี

ห้องนอนใหญ่อยู่ด้านหลังของโต๊ะวางทีวี

หน้าต่างเป็นกระจกแบบเต็มความสูง บริเวณปลายเตียงควรใช้เป็นทีวีติดผนัง เนื่องจากมีพื้นที่น้อยไม่พอสำหรับวางโต๊ะ

สวิตช์ไฟภายในห้องใช้แบบนี้

ห้องนอน 2 อยู่ติดกับโต๊ะทานอาหาร มีหน้าต่างกระจกแบบเต็มความสูงเช่นเดียวกัน

แบบ 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 55 ตารางเมตร เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ

ครัวอยู่ด้านหน้าเหมือนกับห้องก่อนหน้านี้

ส่วนครัวขนาดเท่ากับห้องอื่น

เปิดออกสามารถใส่ของสำหรับทำอาหารได้เยอะ

เครื่องดูดควัน

เตาไฟฟ้า 2 หัว และอ่างล้างจาน 1 ช่อง ยี่ห้อ Teka

โต๊ะทานอาหารอยู่ระหว่างส่วนครัวกับห้องนั่งเล่น

ห้องนั่งเล่น

ระเบียงอยู่ด้านนอกติดกับห้องนั่งเล่น ซึ่งระเบียงมีความยาวกว่าห้องอื่น

ห้องนี้ติดแอร์ทั้งหมด 3 ตัว แขวนคอมเพลสเซอร์ไว้ด้านบนแบบนี้

บริเวณห้องนั่งเล่นกว้าง

ทางเดินเข้าไปยังห้องน้ำและห้องนอน

ห้องน้ำด้านนอก แขกสามารถใช้ห้องน้ำนี้ได้

มีปลั๊กไว้ให้ในห้องน้ำพร้อมฝาปิด

ใช้ตู้อาบน้ำกั้นส่วนแห้งและเปียก

ห้องนอน 2

หน้าต่างติดกระจกแบบเต็มความสูง เปิดหน้าต่างได้แบบนี้

ตู้เสื้อผ้าอยู่ติดกับฝั่งห้องน้ำ

ปลายเตียงมีพื้นที่กว้าง

Master Bedroom

จุดเด่นของห้องนี้คือ หน้าต่างในห้องนี้เป็นกระจกแปดเหลี่ยม แบบเต็มบาน

ได้วิวด้านนอกเต็มๆ บนอาคารจริงสามารถเทควิวฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้

ห้องน้ำใน Master Bedroom มีอ่างอาบน้ำ มีหน้าต่างแบบกระจกสามารถแช่น้ำไปพร้อมชมวิวด้านนอกไปพร้อมๆ กันได้

Rain Shower แบบเดียวกับห้องอื่น

สุขภัณฑ์ยี่ห้อ Kohler ทั้งหมด

สรุปจุดเด่น โครงการ Skyrise Avenue SKV.64

Skyrise Avenue SKV.64 เป็น Mixed Use โครงการแรกของ Risland ในประเทศไทย และอยู่ตรงข้ามกับ New Digital District อย่าง True Digital Park อีกด้วย จึงนับว่าเป็นโครงการคอนโด High Rise ที่ได้รับอานิสงค์จาก True Digital Park ไปเต็มๆ ราวกับตั้งอยู่ในโครงการเดียวกัน ที่นี่ถือได้ว่าเป็นอาคารที่มีความสูงมากที่สุดในย่านปุณณวิถีฝั่งสุขุมวิท 64 และยังรวมเอาสำนักงาน ห้องพักอาศัย และพื้นที่ Retail มารวมไว้ในโครงการ บนพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 22 ไร่ และสวนสีเขียวที่มีมากถึง 9 ไร่ ให้ผู้อยู่อาศัยได้รับอากาศบริสุทธิ์เต็มๆ พร้อมทั้งส่วนของ Facilities ที่แยกออกมาจากอาคารที่พักอาศัยเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านอย่างแท้จริง ซึ่งมีการแยก Facilities เป็น 3 อาคาร พร้อมฟังก์ชันที่เข้ากับเทรนด์ในยุคนี้ อย่าง Wellness Living และในโครงการมีห้องให้เลือกหลายแบบ พร้อมห้อง Duplex มีเพดานสูงถึง 6 เมตร รวมทั้ง 4 อาคาร เพียง 12 ยูนิต ส่วนยูนิตต่อชั้นเพียง 11 ยูนิตเท่านั้น และมีราคาเฉลี่ยที่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับคอนโด Hi-Rise ในย่านเดียวกัน ราคาเฉลี่ยที่ 110,000 บาทต่อตารางเมตร ถูกกว่าคอนโด High Rise อื่นๆที่อยู่ริมถนนใหญ่ในย่านเดียวกันถึง 20% โดยที่สเปคมาตรฐานภายในห้องก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าโครงการใด และยังเป็นคอนโดที่อยู่ในย่านที่มีแนวโน้มในการพัฒนาโครงการอสังหาฯ มากขึ้น อนาคตราคาอาจมีการปรับสูงขึ้นมากกว่านี้แน่นอน

โครงการคอนโดมิเนียมแบบ High-Rise ที่อยู่บริเวณโดยรอบของ Skyrise Avenue SKV.64 และอยู่ติดกับถนนเส้นหลัก ใกล้สถานี BTS ส่วนใหญ่มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 150,000 บาทต่อตารางเมตร ที่มีขนาดห้องเริ่มต้นที่ 25 – 28 ตารางเมตร ถือได้ว่า Skyrise Avenue SKV.64 มีความคุ้มค่าในเรื่องของห้องพักที่มีขนาดเริ่มต้น 28 ตารางเมตร และสามารถเทควิวแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งบางกระเจ้าได้แบบไม่โดนตึกสูงบังวิว พร้อมทั้งเป็นโครงการแบบ Mixed Use ที่รวมเอาสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดมาไว้ในโครงการอีกด้วย ซึ่งหากไม่นับรวมเอาโครงการ Whizdom ซึ่งอยู่ในพื้นที่ True Digital Park ที่มีราคาต่อตารางเมตรสูงสุดที่ 176,000 สำหรับอาคาร Whizdom Inspire โครงการ Skyrise Avenue SKV.64 ก็คือโครงการคอนโด High Rise ที่ตั้งอยู่ใกล้ True Digital Park มากที่สุดเพียงแค่เดินข้ามถนนเท่านั้น

ด้วยข้อเท็จจริงและเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา ประกอบกับการออกแบบสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นทันสมัย เป็นเอกลักษณ์โดย DBALP จึงทำให้ที่นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่ง Iconic Landmark สำคัญของย่านปุณณวิถี ดั่งเช่นทุกโครงการของ RISLAND ที่กระจายตัวอยู่ในย่านสำคัญต่างๆทั่วโลก เพียงแต่ว่า Skyrise Avenue SKV.64 นั้นเป็น Residential Landmark ที่มีราคาน่าซื้อ น่าจับจองเป็นเจ้าของมากที่สุดแล้วในย่านนี้ ณ ปัจจุบัน ที่ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม.ของคอนโดใหม่ในกรุงเทพฯนั้นมีราคามากกว่าตารางเมตรละแสนห้าหมื่นบาทขึ้นไปแล้ว

วันที่ 1 ส.ค. นี้ พบกับงาน Pre-sale โปรโมชั่นสุดพิเศษ และ Lucky draw ราคาห้องพิเศษ พร้อม Gift voucher สูงสุด 100,000 บาท ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษในวัน Presale ได้ที่ :  https://bit.ly/2NuXHEu

พร้อมชมห้องตัวอย่างแล้ววันนี้ !

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : Line@: @Skyrise_Skv64

FB : Skyrise Avenue SKV64

Tel: 02-026-6888 กด 7

พิกัดเยี่ยมชมโครงการ : https://goo.gl/maps/ooFDBBr82CNec6M37